คุณมัมผู้แข็งแกร่ง

2745 Words
3 ปีผ่านไป คอนโดวิจัย วิจัยได้ย้ายออกมาอยู่ที่คอนโดกับลูกสามคนตามลำพัง เพราะเธอรู้สึกลำบากใจไม่กล้าสู้แด๊ดและมัมมากๆเลย ถึงแม้พวกแด๊ดๆและมัมๆจะเอ็นดูหลานทั้งสองเหมือนกันกับหลานๆคนอื่นก็ตาม เธอรู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่วิจัยก็ไม่ได้ออกมาอย่างใจดำ เธอกลับไปเยี่ยมแด๊ดเคและมัมเม็งเสาร์อาทิตย์ เถื่อนและมาคัสจะมาเยี่ยมทุกวันเพื่อมาอาบน้ำให้หลานชายสลับกันไปมาตลอดเวลา เพราะพี่ชายทั้งสองคนเป็นห่วงเธอและหลานๆ แต่ก็เข้าใกล้หลานๆทั้งสองได้เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น หลานชายก็ย่นถึงมัมแล้ว " พาหลานมาเยี่ยมมัมกับแด๊ดบ้างลูก" เสียงมัมเม็งเล็ดลอดผ่านโทรศัพท์มา วิจัยนั่งมองงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่งๆ " ค่ะมัม วันเสาร์กับวันอาทิตย์นะคะวิจะพาหลานไปเยี่ยมค่ะ" วิจัยบอกแบบนี้ทุกครั้ง และเธอก็ไปเยี่ยมสุดสัปดาห์นอนค้างที่บ้านแค่สองคืนเท่านั้น แต่ลูกๆทั้งสองคนของเธอนั้นไม่ยอมห่างข้างกายเธอเลย ถึงแม้คุณตาคุณยายจะมีของมาเล่นก็ตาม หนูน้อยทั้งสองก็ไม่สนใจ " วิกลับมาอยู่ย้านเราได้ไหมลูก" มัมเม็งถามลูกสาวเหมือนทุกครั้ง วิจัยชะงักมือเล็กน้อย พลางกัดริมฝีปากแน่นๆ สมองกำลังคิดหาคำตอบเหมือนอย่างเคย " ค่ะ ขอเวลาวิหน่อยนะคะมัม" วิจัยตอบมัมเม็งออกไปอย่างสงสาร แต่เธอก็ไม่เคยทำตามคำพูดเลย มัมเม็งทำหน้าเศร้า " มัมอยากอยู่กับหลาน วิอย่าใจร้ายกับมัมได้ไหมลูก" มัมเม็งใช้ไม่ตาย เพราะท่านอยากพูดคุยอยากเล่นกับหลาน " ค่ะ เสาร์อาทิตย์นะคะมัม" วิจัยบอกมัมเม็ง พลางกดวางสายทันที เธอพลางคิดเรื่องทีผ่านมา ตลอดระยะเวลาที่วิจัยท้อง แด๊ดเค มัมเม็ง เถื่อน ซีแล็บให้กำลังเธอและดูแลวิจัยเป็นอย่างดี แต่เธอพยายามยืนด้วยตัวเองให้ได้ตลอดมา ทุกคนเป็นกำลังใจให้เธอไม่เคยต่อว่าหรือตำหนิ แต่วิจัยก็พยายามออกห่างความหวังดีของพวกท่านเพราะเธอละอายใจแก่ใจ แด๊ดเคพยายามสั่งลูกน้องสืบหาตัวคนทำเธอท้องอยู่ ' มึงใช่ไหมทำน้องกูท้อง' เถื่อนเดินตรงเข้ามาหามนัสพร้อมกำคอเสื้อแน่นๆ มาคัสกำมีดเล็กแน่นๆ ' ไม่ใช่ค่ะพี่เถื่อน พี่นัสไม่รู้เรื่องนี้นะคะ' วิจัยบอกพี่ชายก่อนจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันมากไปกว่านี้ เดี๋ยวมนัสเป็นปุ๋ยหรืออาหารของสัตว์เลี้ยง มนัสทำหน้าเศร้าแต่เขายินดีรับเด็กในท้องของวิจัย เขาพร้อมแต่งงานและดูแลเธอเอง ' มันเป็นใครวิบอกพี่มาสิ' เถื่อนถา น้องสาสด้วยความแค้นใจคนทำ เขาอยากฆ่าอยากเห็นมันดิ้นทุรนทุรายตรงหน้าของเขา ' วิเมา วิจำไม่ได้ค่ะ' วิจัยบอกพี่ชาย แด๊ดเคและมัมเม็งได้แต่ยืนอึ้งๆเพราะลูกสาวปากแข็งมากจริงๆ แต่เรื่องของวิจัยท้องนั้นไม่มีใครรู้เรื่องมากไปกว่าคนในครอบครัวและแด๊ดอัส มัมฟาง แด๊ดแกร มัมกลาส แด๊ดเว มัมมัส ลูกๆอีกด้วย ทุกๆคนถามวิจัยแต่เธอไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่า ' ยัยวิ ' เถื่อนเรียกชื่อน้องสาว เพราะไม่คิดว่าวิจัยจะปล่อยตัวขนาดนี้มาก่อน ทุกคนเลิกถามเรื่องของพ่อของเด็กทันที เพราะไม่อยากให้วิจัยเสียใจและไม่สบายใจ แต่ความสัมพันธ์ของเธอระหว่างเก็ตส์เนอร์ก็ยังเหมือนเดิม เขาโทรมาเล่าเรื่องราวของเขาให้วิจัยฟังทุกวัน ทั้งสองคนพูดคุยกันทำวันผ่านกล้อง ถึงแม้ว่าเธอจะท้องโตมากๆแล้วก็ตามแต่เก็ตส์เนอร์ไม่เคยรู้เรื่องการตั้งท้องของเธอเลยเพราะวิจัยนั้นนั่งคุยกับเขาที่โต๊ะทำงานทุกครั้ง เธอทำตัวปกติตลอดมา ' วิอ้วนขึ้นเหรอ หน้าเต็มเชียว ' คำถามของเก็ตส์เนอร์ในช่วงที่วิจัยเริ่มท้องแก่มากๆ วิจัยยิ้มหวาน ' อืม พอดีทานเยอะนะ ' เธอตอบกลับไปแบบซิวๆ เพราะตอนนี้คนอยู่ในท้องทั้งสองคนต้องสุขภาพแข็งแรงที่สุด วิจัยไม่เคยคิดเรื่องที่ผ่านมาเลย มนัสมากหาเธอบ่อยๆ ทุกคนในบ้านต่างมองว่าเขาคือพ่อเด็ก แต่เด็กกับหน้าไม่เหมือนมนัสเลย 'เนอร์คิดถึงวิจังเลย ' คำพูดของเก็ตส์เนอร์ที่ชอบพูดบ่อยๆ แต่คำหมายของเขาคือ ' คิดถึงเพื่อน' วิจัยฟังแล้วก็ใจสั่น แต่มันแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เธอยกมือขึ้นมาลูบท้องเพื่ทักทายลูกทั้งสองคนท้อง พลางมองหน้าเก็ตส์เนอร์และยิ้มหวานให้เหมือนอย่างเคย ' วิคิดถึงเราบ้างไหม' เก็ตส์เนอร์ถามกลับ วิจัยกำมือเข้าหากันแน่นๆแต่รอยยิ้มยังไม่ลบเลือน ' อืม' วิจัยตอบสั้นๆแค่นั้นในลำคอ ทั้งสองคนสบตากันนิ่งๆผ่านกล้อง แววตาของเก็ตส์เนอร์มองเธอเปลี่ยนไปเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ แต่แววของวิจัยมันว่างเปล่า ' ถ้าวิไม่มีแฟนเรามาลองคบกันดูไหม' คำถามของเก็ตส์เนอร์ที่ทำให้วิจัยอึ้ง แต่วิจัยก็ยิ้มอย่างเดียว ในใจเศร้า ' ไม่อ่ะ เป็นเพื่อนดันดีแล้ว ' วิจัยตอบกลับหน้าตานิ่งๆเฉยๆ พลางหรี่ตาลองมองหน้าท้องนูนใหญ่ ' หึหึ เราเลิกกันกับเวลล์อล้วนะวิ' เก็ตส์เนอร์บอกเรื่องของตัวเอง วิจัยหรี่ตาขึ้นมาสบตากับเขาอีกครั้ง ' เหรอ ' เธอตอบสั้นๆแค่นั้น เพราะในตอนนี้เธอไม่สนใจว่าใครจะเป็นยังไง เธอสนใจแค่ลูกของเธอเท่านั้น ทั้งสองคนก็ชวนกันคุยเรื่องอื่นๆไปตามปกติ โดยวิจัยจะไม่ขยับลุกเดินไปไหนเลย เก็ตส์เนอร์ไม่ได้กลับมาที่เมืองไทยตลอดระยะเวลาสามปี เพราะงานของเขายุ่งมากๆส่วนแด๊ดแกรและมัมกลาสก็ไปๆมาๆที่เมืองไทยบ้าง แต่ท่านไม่ได้ยอกเก็ตส์เนอร์เรื่องของวิจัย เพราะท่านคิดว่าลูกชายน่าจะรู้ว่าวิจัยท้องแล้ว เพราะลูกชายของท่านสนิทกับวิจัยมากกว่าใครเพื่อน " มัมครับง่วง" เสียงพูดของหนูน้อยวาร์เนอร์เดินมาหยุดอยู่ที่ห้อวทำงานของมัมวิ วิจัยที่คิดอะไรเพลินๆอยู่สะดุ้งเล็กน้อย เธอมอวหน้าลูกชายและยิ้มหวานให้ด้วยความเอ็นดู เพราะวาร์เนอร์นั้นหน้าตาเหมือนเก็ตส์เนอร์มากๆ ทุกคนเห็นแล้วก็ถามและสงสัย แต่เธอตอบไปว่า ' คงเป็นเพราะวิคุยกับเนอร์ทุกวัน เลยทำให้หน้าตาของเด็กๆเหมือนเนอร์ละมั่งค่ะ' วิจัยตอบคำถามทุกคนๆก็เงียบแต่ก็ไม่ถามต่อ เพราะอาจจะเป็นไปได้ วิจัยดันตัวลุกขึ้นและเดินมาหาลูกชาย " แล้วน้องเลย์ไปไหนครับ" เธอถามลูกชายด้วยความสงสัย พลางนั่งลงย่องๆตรงหน้าของลูกชาย มือของเธอลูบที่หัวของ.ลูกชายเบาๆ " เล์อยู่นี้ค่ะมัม คริๆๆ" เสียงของวาร์เลย์ดังมาจากทางประตูทางเข้าห้องทำงานของวิจัย พลางเดินเข้ามากอดมัมวิ ทั้งสองพี่น้องกอดมัมของละข้าง วิจัยค่อยๆอุ้มลูกทั้งสองคนขึ้นยืนช้าๆ " งั้นเราไปนอนกัน " วิจัยบอกลูกๆทั้งสองคน เธออุ้มลูกทั้งสองด้วยมือทั้งสองข้าง ฟอด!! หนูน้อยทั้งสองคนหอมแก้มมัมวิแรงๆ " คริๆๆๆๆครับมัม/ ค่ะมัม" หนูน้อยทั้งสองคนตอบพร้อมๆกัน วิจัยอุ้มลูกเดินไปที่ห้องนอนทันที เธออุ้มลูกๆทั้งสองคนแบบนี้ประจำ หนูน้อยทั้งสองคนติดมัมวิมากๆ ทั้งสองคนไม่ยอมไปนอนกับใครนอกจากมัมวิคนเดียว วิจัยค่อยๆวางลูกชายลงบนเตียงนอน หนูน้อยวาร์เนอร์ยืนบนเตียงกว้าง มือยังกอดคอมัมวิหลวมๆ วิจัยค่อยๆวางวาร์เลย์ลงบนเตียงช้าๆเช่นกัน ฟอด!ๆ หนูน้อยทั้งสองหอมแก้มของมัมวิอีกครั้ง " รักมัมที่สุดค่ะ/ ครับ" ทั้งสองคนบอกมัมวิ วิจัยได้ยินแล้วก็ยิ้มกว้างๆเพราะคำๆนี้คือเธอได้ยินทุกวัน ทุกครั้ง เช้า สาย บ่าย เย็น เธออิ่มเอมใจทุกครั้ง เพราะนี้คือความสุขของเธอ ทั้งสามคนนอนบนเตียงกว้าง โดยวิจัยนอนตรงกลางพร้อมกับเธอเริ่มอ่านหนังสือนิทานให้หนูน้อยทั้งสองฟังแบบนี้ทุกวัน " มัมครับทำไมถึงมีแด๊ด มัม และลูกๆครับในนิทานด้วยครับ" หนูน้อยวาร์เนอร์ถามด้วยความสงสัย วิจัยก้มลงไปมองหน้าลูกชาย " ครอบครัวต้องประกอบด้วย แด๊ด มัม และลูกๆก็ถูกแล้วครับ" วิจัยอธิบายให้ลูกชายฟัง " แต่ทำไมครอบครัวของเราขาดแด๊ดล่ะคะมัม" หนูน้อยวาร์เลย์ถามมัมวิด้วยความสงสัย วิจัยยิ้มกว้างๆในใจก็เจ็บจี๊ด " ลูกๆก็มีครับ ก็แด๊ดเถื่อน แด๊ดมาร์ ไงค่ะน้องเลย์" วิจัยตอบลูกสาวเสียงหวาน " แต่ทำไมถึงมีสองคนละคะมัม" หนูน้อยวาร์เลย์ถามต่อด้วยความสงสัย วิจัยยิ้มเอ็นดู พลางก้มลงไปหอมแก้มลูกสาว " เพราะลูกๆของมัมซนมากๆเลยมีแด๊ดสองคนไงค่ะ" วิจัยตอบลูกสาวให้เข้าใจ " จริงด้วย" หนูน้อยวาร์เนอร์ตอบทันที " คริๆๆๆๆๆๆๆๆ" ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังลั่น " รักมัมกับน้องเลย์ที่สุดครับ ฝันดีครับมัม น้องเลย์" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกมัมวิและน้องสาว เขารู้สึกว่าคำว่า' แด๊ด 'นั้นเขาไม่ต้องการเรียก เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามัมไม่สบายใจกับคำถามของน้องสาว " รักมัมกับพี่เนอร์นะคะ ฝันดีค่ะมัม พี่เนอร์" หนูน้อยวาร์เลย์บอกทั้งสองคนเช่นกัน วิจัยยิ้มกว้างพร้อมก้มลงไปจูบหน้าผากของลูกๆ หนูน้อยทั้งสองคนนอนกอดมัมวิคนละข้าง วิจัยกระชับอ้อมกอดของเธอแน่นๆ " ฝันดีครับลูกรักของมัม" วิจัยบอกกับลูกๆของเธอทั้งสองคน ทั้งสามแม่ลูกนอนกอดกันบนเตียงกว้าง ภาพนี้คือภาพที่วิจัยมีมาตลอดระยะเวลาสามปี โดยลูกๆทั้งสองไ่เคยห่างกายเลย ขนาดคุณยายและคุณตาอยากนอนกอดหลานๆยังต้องอด เพราะลูกๆของเธอไม่ยอมห่างกาย วิจัยไปมหาวิทยาลัยก็เข็นรถเข็นไปที่มหาวิทยาลัย มนัสมาช่วยถือของบ้าง ถ้าเขาว่างจากทำงานเสร็จ เช้าวันต่อมา " มัมครับ" เสียงเล็กสดใสที่ยืนสวมใส่ชุดนอนลายไอ้แบทแมน มือป้อมๆยกขึ้นมาขยี้ตาของตัวเอง ส่วนน้องสาวอุ้มตุ๊กตาหมียืนงัวเงียเหมือนพี่ชาย ทั้งสองพี่น้องมองมัมวิที่กำลังงัวเงียทำอาหารเช้าและข้าวเหมือนทุกวัน " ครับ" วิจัยหันมามองลูกๆทั้งสอง พลางยิ้มเอ็นดู เธอผ่อนไฟที่เตาลงให้อ่อนๆ และเดินมาหาลูกๆทั้งสอง มือหนึ่งหยิบผ้าผืนยาวใหญ่ที่แขวนใกล้มา เสร็จแล้วเธอเอาหนูน้อยวาร์เลย์ขี่หลังของเธอ ผ้าผืนใหญ่พันร่างของลูกสาวเอาไว้ ด้านหน้าคือลูกชายผ้าผืนใหญ่ พันทั้งสามร่างเอาไว้แน่นๆ วิจัยดันตัวลุกขึ้นยืน และเดินไปทำอาหารเช้าและมื้อเที่ยงต่อ ลูกๆทั้งสองคนก็หลับในอ้อมกอดของเธอแบบนี้ทุกเช้า มหาวิทยาลัยเอกชนที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด มหาวิทยาลัยที่วิจัยดูแลอยู่ได้มีนักศึกษาประมาณ 1500 คน ทุกคนถือว่าเก่งทั้งนั้น ยิ่งนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยยิ่งเก่งมากๆ " ผอ..ครับผมช่วยครับ" เสียงนักศึกษาดังมาจากทางด้านหลัง วิจัยและลูกๆหันไปมอง หนุ่มนักศึกษาใน มหาวิทยาลัยยิ้มให้ทั้ง ผอ. และลูกๆ ผอ. อย่างเคารพ ทุกคนไม่ได้ถามหรือสนใจเรื่องของ ผอ. เลย ว่าทำไมถึงท้อง พ่อเด็กไปไหน เพราะปัจจุบันนี้ทุกคนเท่าเทียมกัน " พวกผมช่วยครับ ผอ. " นักศึกษาเดินเข้ามาช่วยวิจัยถือข้าวของเครื่องใช้ เอกสาร อาหาร แต่ไม่ใช่เด็กๆ เพราะหนูน้อยทั้งสองไม่มีใครได้เข้าใกล้เลย " ขอบคุณทุกคนมากนะ" วิจัยกล่าวคำขอบคุณแบบเกรงใจ นักศึกษาช่วยกันถือของให้และเดินนำหน้า ผอ. วิจัยไป วิจัยอุ้มเด็กๆขึ้นมาทั้งสองข้างและเดินตามนักศึกษาไปที่ห้องทำงานของเธอ และมันเป็นแบบนี้ทุกวัน หนูน้อยทั้งสองจะไม่ยอมเดินเพราะเหตุผลที่ ' ไม่อยากห่างมัม ' วิจัยเลยต้องอุ้มเด็กตลอดเวลา ร่างกายที่เหมือนผ่ายผอมแต่ที่จริงแล้ววิจัยแข็งแรงมากๆ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างทึ่งกับการอุ้มลูกๆของเธอ " ขอบคุณพวกนายอีกครั้งนะที่ช่วยถือของ " วิจัยกล่าวขอบคุณนักศึกษาอีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกเกรงใจมากๆ นักศึกษาช่วยเธอทุกคนและทุกวัน บางวันมนัสมารอที่มหาวิทยาลัยแต่เช้าช่วยเธอถือข้าวของขึ้นห้อง " พวกผมยินดีช่วยครับ ผอ. " นักศึกษาหนึ่งในสี่พูดขึ้น เพราะพวกเขาเป็นผู้ชายใจจริงอยากช่วยอุ้มลูกของ ผอ. ด้วยแหละ แต่เพราะเด็กๆไม่ยอมเลยได้แค่ช่วยถือของเท่านั้น วิจัยยิ้มพลางค่อยๆวางลูกชายลงบนโซฟาคนแรก และคนที่สองคือลูกสาว ฟอด! หนูน้อยทั้งสองคนหอมแก้มมัมวิเพื่อขอบคุณ วิจัยมองหน้าลูกๆแล้วยิ้มกว้างๆ เธอมีความสุขแบบนี้ทุกวัน แบบสามคนแม่ลูกที่ไม่ต้องค่อยให้แด๊ดๆและมัมๆเป็นห่วงเธอ และเธอไม่เป็นภาระของทุกคน นักศึกษามองภาพนั้นแล้วก็ยิ้ม " พวกผมขอตัวก่อนนะครับ" นักศึกษาอีกคนพูดขึ้น วิจัยหันมามองหน้าหนุ่มๆแล้วยิ้มให้ นักศึกษาเดินออกไปจากห้องของเธอทันที " หิวๆ" หนูน้อยทั้งสองคนพูดพร้อมๆกัน พลางยื่นมือมาหามัมวิ ทั้งสองคนอยากดื่มนมแต่ต้องนั่งหรือนอนหนุนตักมัมวิเท่านั้น วิจัยเดินตรงมาพร้อมกับแม็คบุ๊กและขวดนมสองขวด เธอนั่งลงตรงกลางหนูน้อยทั้งสองยื่นมือไปรับขวดนมและนอนหนุนตักมัมวิคนละข้าง วิจัยทำงานที่หน้าจอแม็คบุ๊กมืออีกข้างลูบๆหัวลูกๆสลับกันไปมาอย่างไม่ลืม ครืดๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของวิจัยสั่น เธอยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับ " สวัสดีค่ะคุณโรส" วิจัยกล่าวคำทักทายรีโรส ' สวัสดีค่ะคุณวิ ตอนบ่ายจะเข้ามาหรือบ่ายคะคุณวิ' กรอกเสียงถามกลับมาด้วยความสงสัย เพราะวิจัยคือลูกค้าวีไอพีของที่นี่สปาของเธอ อาทิตย์สามครั้งที่วิจัยจะเข้าไปนวดตามร่างกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด และความเมื่อยล้าตามร่างกายของเธอ วิจัยหรี่ตามองลูกทั้งสองคนพลางยิ้ม " ค่ะ บ่ายโมงนะคะ คนเดิม" วิจัยตอบเสียงหวาน หนูน้องทั้งสองคนที่ดูดนมอยู่ได้แหงนคอมองหน้ามัมวิแล้วยิ้ม วิจัยลูบหน้าของลูกๆทั้งสองคน " คริๆๆๆๆๆ" หนูน้อยทั้งสองคนหัวเราะคิกคัก ' ค่ะโรสจะรอนะคะ' รีโรสกรอกเสียงกลับมา วิจัยกดสายวางทันทีพลางวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะและยื่นมือไปหยิบเอา ' สนูส' มาเหน็บที่เหงือก " เนอร์ไปด้วย" หนูน้อยวาร์เนอร์บอกกับมัมวิ " น้องเลย์ด้วย" หนูน้อยวาร์เลย์บอกกับมัมวิเหมือนพี่ชาย " จ้า แต่.." วิจัยจับตอบรับ พลางจะพูดขึ้นมาอีกประโยค " เราสองคนจะเป็นเด็กดีครับ/ค่ะ มัม " หนูน้อยทั้งสองคนบอกมัมวิน้ำเสียงจริงจังเหมือนทุกครั้ง เพราะมัมวิเข้าไปในห้องสองชั่วโมงเท่านั้น แล้วมัมวิออกมาก็ยิ้มแก้มปริ แถมมีแรงอุ้มหนูน้อยทั้งสองคนเหมือนเดิม " จ้า สุดที่รักของมัม" วิจัยบอกกับลูกๆที่เธอรักสุดหัวใจ หนู้อยยิ้มแต่ปากยังดูดขวดนมไม่ปล่อยเลย วิจัยลูบผมของลูกๆทั้งสองคน ?? วิคือคุณมัมที่แกร่งม๊ากกก ??
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD