“ช่วยด้วยใจหรือช่วยเพื่อหวังผลประโยชน์กันแน่!”
“ฉลาดว่ะ” แดเนียลเราะชอบใจ เสน่ห์ของโรสรินทำให้เขาหลงใหลมากขึ้นทุกวัน
“ก็ดีนะ คุยง่ายดี” เอียงคอนิดๆ พลางใช้สายตาไล่มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ฉันพร้อมให้เงินเธอไปปลดบ้านออกจากธนาคารได้เลยตอนนี้ เพียงแค่เธอยอมเป็นของฉัน”
“ทุเรศ!” โรสรินโกรธจัด ผู้ชายสารเลว กล้าดีอย่างไรมาดูถูกคุณค่าความเป็นคนของเธอ
“ในสมองคุณคงมีแต่เรื่องพรรณนี้สินะ ถึงได้คิดอะไรดีๆ กับคนอื่นเขาไม่เป็น”
แดเนียลดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม สายตามาดร้ายคาดโทษร่างบางที่บังอาจด่าทอด้วยถ้อยคำแสบสัน
“ฟังนะคุณแดเนียล ต่อให้ฉันไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว ฉันก็ไม่มีวันยอมเป็นของคุณ!”
พูดจบร่างบางก็รีบวิ่งหนีไป นัยน์ตาคมดุทอดมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ตนปรารถนา ยิ่งเธอต่อต้านเขาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากได้เธอมากเท่านั้น
“ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะมีปัญญาไปหาเงินเป็นล้านๆ ได้จากที่ไหน”
หนุ่มใหญ่แสยะยิ้มมุมปาก
หลังจากคิดทบทวนกับตัวเองมาหลายวัน มาวันนี้โรสรินมั่นใจแล้วว่าจะใช้ช่องทางนี้ในการหาเงินไปจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคาร เพื่อยื้อเวลาขอประนอมหนี้ไม่ให้เขายึดบ้านที่เป็นดั่งชีวิตและลมหายใจของพ่อแม่
“น้องโรสขา เซ็ตพร้อมแล้วจ้า ไปๆ เดี๋ยวตากล้องจะคอยนาน”
จีจี้ อดีตรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยที่เธอรู้จัก จีจี้ทำงานให้กับนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่ง ถือเป็นความโชคดีของเธอที่ทางนิตยสารต้นสังกัดของจีจี้กำลังเปิดรับนางแบบหน้าใหม่มาขึ้นปกช่วงเปิดหัวศักราช จีจี้กับโรสรินบังเอิญเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าเมื่อสองวันก่อน มีโอกาสได้พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกัน จีจี้เลยได้รับรู้ปัญหาของสาวรุ่นน้อง เธอจึงเอ่ยปากชวนให้โรสรินมาทำงานด้วย บอกว่าได้เงินดี ถ่ายแบบครั้งเดียวได้เลยห้าหมื่น โรสรินได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจ เหมือนทางรอดกำลังส่องประกายวาววับ หญิงสาวรีบตกปากรับคำโดยไม่ถามรายละเอียดของงาน เข้าใจว่าถ่ายแบบเฟชั่นทั่วๆ ไป
จนกระทั่ง…
“หนูไม่มั่นใจเลยค่ะพี่ ชุดนี้มัน”
เสียงหวานคล้ายจะร้องไห้ เธอมองตัวเองผ่านกระจกเงาบานใส ทูพีชสีชมพูหวานลายลูกไม้ดูเซ็กซี่เหลือเกินเมื่อได้อยู่บนเรือนร่างแสนเย้ายวนของเธอ
“ไม่มั่นใจอะไรกันคะคุณน้อง บอกเลยนะคะว่าชุดนี้ที่คุณน้องใส่มันสวยและเลิศมากที่สุดแล้วค่า”
จีจี้ไม่ได้อวยเกินจริง โรสรินในชุดทูพีชแบรนด์ดังสวยหวานปนความเซ็กซี่จนเธอยังเผลอมองจ้องอย่างตื่นตะลึง
ขนาดเธอเป็นสาวข้ามเพศยังมองตาค้างขนาดนี้ รับรองว่าถ้าหนุ่มๆ ได้เห็นมีหวังหัวใจวายตายแน่นอน
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่แล้วค่ะคุณน้อง ไปค่ะ ทีมงานรอน้องอยู่นะคะ อย่าทำให้พวกเขาเสียเวลา ริจะทำงานตรงนี้เราต้องรู้จักหน้าที่มาเป็นอันดับหนึ่งนะคะ” สาวสองจีบปากจีบคอสอนไปในตัว
วราลีหยิบกระเป๋าสตางค์เปิดดูรูปพ่อกับแม่เพื่อเรียกพลังบวก รอยยิ้มของท่านทั้งสองเปรียบดั่งยาวิเศษที่ช่วยกระตุ้นให้เธอกล้าที่จะทำเรื่องที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะกระทำ
“โรสพร้อมแล้วค่ะ”
โรสรินพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น
“พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ พี่อยากแนะนำนางแบบใหม่ให้ทุกคนได้รู้จักจะแย่แล้ว”
จีจี้เดินโอบเอวเล็กคอดของโรสรินออกมาจากห้องรับรอง ทุกสายตาของทีมงานต่างอึ้งไปตามๆ กัน เหมือนตกอยู่ในภวังค์ยามเห็นสาวน้อยแรกแย้มอยู่ในชุดทูพีชสีหวานสดใส
“พระเจ้า! แกไปแคสเด็กที่ไหนมาวะ สวยครบเครื่องฉิบหาย” ตากล้องที่สนิทกับจีจี้กระซิบถาม สาวสองได้ทีจึงเชิดหน้าตอบ
“รุ่นน้องที่มหาลัยหนูเอง”
“มีรุ่นน้องเด็ดขนาดนี้ก็น่าจะพามาถ่ายแบบกับเราตั้งแต่แรก ฉันว่านะ นิตยสารของเราเล่มนี้จะต้องปัง ขายหมดเกลี้ยงแผงแน่นอน” โชคมองเรือนร่างอรชรแล้วหื่นกระหาย ทรวงอกกลมกลึงบดเบียดอยู่ภายใต้บราเซียตัวจิ๋ว มันช่างล้นทะลักเกินตัวสาวเจ้าเสียจริง
“ทำหน้าเซ็กซี่ๆ หน่อยครับ” โชคในฐานะตากล้องออกคำสั่ง แววตาที่มองผ่านเลนส์กล้องนั้นเต็มไปด้วยความต้องการ โรสรินส่งสายตามองไปยังจีจี้ อีกฝ่ายโพสท่าให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งแต่ละท่าก็ยากเกินความสามารถของเธอ
“น้องโรสครับ ทำไมยืนนิ่งล่ะครับ”
“คือ…โรส คือ…”
เรียวปากอิ่มเริ่มซีดเผือด เห็นสายตาหงุดหงิดจากทีมงานก็ชักกลัว นี่เธอเป็นตัวถ่วงพวกเขาหรือเปล่านะ
“จีจี้ หล่อนไปดูเด็กหล่อนสิยะ ยืนนิ่งเป็นสากกะเบือเชียว”
เพื่อนซี้ผู้ทำหน้าที่เป็นช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายสะกิดไหล่ จีจี้ถอนหายใจระอาก่อนเดินไปที่หน้าเซ็ต
“พี่จีจี้คะ โรสโพสท่าแบบที่พี่สอนไม่เป็น”
“อะไรกันคะคุณน้อง ก็แค่โพสแบบนี้ แบบนี้ เห็นไหมคะ ง่ายจะตาย” ว่าแล้วก็สาธิตให้ดู เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ดีจากเหล่าเพื่อนสาว
“มันดูน่าเกลียด”
คนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กระอักกระอ่วนใจ
“น่าเกลียดตรงไหนคะคุณน้อง ถ่ายแบบนะคะไม่ได้มานั่งวิปัสสนาจะได้นุ่งห่มมิดชิดถึงคอหอย” จีจี้เริ่มหงุดหงิด พานมองว่าโรสรินเรื่องมากโดยใช่เหตุ เสียเวลากองถ่ายต้องมาหยุดชะงักเพื่อรอหล่อนคนเดียว มันใช่เรื่องไหมเนี่ย