“โรสเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม”
เหมราชรีบสำรวจร่างบาง โรสรินร้องไห้จนตัวโยน นิพนธ์เห็นหล่อนหวาดกลัวก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรค่ะ” โรสรินประคับประคองน้ำเสียงไม่ให้สั่น แต่มันช่างทำยากเหลือเกิน ร่างบางแทบไร้เรี่ยวแรงจะทรงตัว ใบหน้าหล่อร้ายมาพร้อมน้ำเสียงดุดันยังคงเด่นชัดอยู่ในห้วงสำนึก สัมผัสป่าเถื่อนที่เขาจงใจบดขยี้ลงบนกลีบปากนุ่มยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น
น่ารังเกียจ! น่ารังเกียจเหลือเกิน
“เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียว คอยดูนะ ถ้าพี่เจอมันที่ไหนล่ะก็ พี่จะอัดมันให้น่วมเลย” เหมราชกำหมัดแน่น
“ปากดีเข้าไป จะไปอัดเขานี่ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าเขาเป็นใครมาจากไหน” นิพนธ์ทนไม่ไหวขอพูดสักที
“มันจะเป็นใคร ก็แค่ไอ้พวกคนรวยที่ชอบรังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้” ยิ่งพูดยิ่งก็แค้น ถ้าเขาไม่ตัดสินใจพังประตูเข้ามาป่านนี้คนตัวเล็กจะมีสภาพยังไง เพียงแค่คิดหัวใจของเขาก็ร้าวราน
“โรส ให้พี่ไปส่งที่บ้านนะครับ”
เหมราชอาสา โรสรินชั่งใจชั่วครู่ก่อนพยักหน้า นาทีนี้มีเขาอยู่ข้างกายมันก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
“ผมถามจริงเถอะพี่ พี่ไม่รู้เหรอว่าไอ้บ้านั่นมันหื่นขึ้นสมอง ทำไมถึงกล้าปล่อยให้โรสนั่งอยู่กับมันสองต่อสอง ปกติพี่ไม่เคยทิ้งโรสไว้กับแขกคนไหนนี่”
เหมราชไม่อาจทนเก็บประเด็นคับข้องใจข้อนี้กลับไปบ้านได้
“ฉัน…” นิพนธ์พูดไม่ออก จะให้บอกอย่างไร ให้บอกว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะความเกรงใจ ความจงรักภักดีที่มีต่อเจ้านายเก่าน่ะหรือ เหตุผลแบบนั้นมันเข้าข่ายเห็นแก่ตัวชัดๆ
“อย่าไปคาดคั้นบอสเลยพี่เหม โรสผิดเองที่ไม่ทันระวังตัว”
โรสรินไม่อยากให้เหมราชเอาความผิดไปลงที่นิพนธ์แต่เพียงผู้เดียว เธอรู้ว่าการเปิดสถานบันเทิงแบบนี้ย่อมต้องเอาอกเอาใจลูกค้าเป็นของธรรมดา ยิ่งเป็นลูกค้าระดับวีไอพีด้วยแล้วยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ
“ฉันขอโทษนะโรส ต่อไปฉันจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” นิพนธ์มองหน้าหญิงสาว แน่วแน่กับตัวเองแล้วว่าต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะขอทำหน้าที่เป็นเจ้านายที่ดี จะพยายามกันแดเนียลไม่ให้มีโอกาสได้เข้าใกล้โรสรินง่ายๆ แบบวันนี้อีกแล้ว
“ขอบคุณบอสมากนะคะ แต่โรสคงไม่กลับมาทำงานที่นี่อีกแล้ว” โสรินเอ่ยเสียงแผ่ว
“ทำไมล่ะโรส ถ้าโรสกลัวไอ้บ้านั่นมารังควานไม่ต้องกลัวเลยนะ ตราบใดที่พี่ยังอยู่ที่นี่ พี่จะไม่ยอมให้มันมาทำอะไรโรสเด็ดขาด!”
เหมราชออกโรงป้องหล่อนสุดชีวิต โรสรินส่งยิ้มบางเบา
“ขอบคุณพี่เหมมากนะคะ แต่โรสตัดสินใจดีแล้ว ความจริงโรสคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วล่ะค่ะ การที่โรสทำงานตอนกลางคืนแบบนี้ มันทำให้พ่อไม่สบายใจ ท่านเป็นห่วงโรสเวลากลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ” โรสรินนึกถึงแววตาอมทุกข์ของบิดาพลันรู้สึกผิด จริงอยู่ที่เธอทำงานเพื่อหาเงินไปรักษาท่าน แต่โรคที่ท่านเป็นนอกเหนือจากการรักษาตามขั้นตอนของแพทย์แล้ว สิ่งเดียวที่จะทำให้พ่ออยู่กับเธอไปนานๆ ก็คือกำลังใจ อะไรที่ทำให้ท่านสบายใจ ไม่เครียดไม่กังวล เธอพร้อมทำทั้งนั้น
“แต่ถ้าไม่ทำที่นี่แล้วจะไปทำที่ไหน”
นิพนธ์ถามอย่างเป็นห่วง
“ก็คงต้องหางานพิเศษทำหลายๆ ที่ เพราะค่ารักษาพยาบาลของพ่อมากขึ้นทุกๆ วัน”
“โรส” เหมราชหน้าเศร้า รู้สึกใจหายที่ต่อไปนี้จะไม่ได้เห็นใบหน้าหวานของเธออีกเวลามาร้าน ถึงแม้เขาจะรู้จักบ้านของเธอ แต่การเจอกันทุกวันเวลามาทำงานมันย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ
“ไว้พี่จะไปเยี่ยมหาโรสบ่อยๆ นะ” เหมราชปรับอารมณ์กลับมายิ้มแย้มอีกครั้ง โรสรินพยักหน้า
นิพนธ์ผ่อนปรนลมหายใจ เจ้าของร้านหยิบมือถือยี่ห้อดังขึ้นมากดไปมา สักพักสัญญาณเตือนบางอย่างก็แจ้งไปยังมือถือของโรสริน หญิงสาวแตะนิ้วมือบนจอกว้างพลันตาโต
“บอส”
“เงินเดือนของโรส” นิพนธ์พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“แต่ว่าบอสเพิ่งจ่ายเงินเดือนให้โรสไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเองนะคะ แล้วทำไม…”
“เอาเป็นว่าฉันให้ไว้ทำทุน เธอเป็นเด็กดี กตัญญูต่อพ่อแม่ อะไรที่พอช่วยได้ฉันก็อยากช่วย อย่าคิดมากเลยนะ”
นิพนธ์รู้นิสัยโรสรินดี ต่อให้ลำบากจนเลือดตาแทบกระเด็น สาวน้อยคนนี้ก็ไม่เคยคิดแบมือขอเงินจากใครฟรีๆ ทุกบาททุกสตางค์หล่อนแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายทั้งสิ้น
“ขอบคุณบอสมากนะคะ บุญคุณครั้งนี้โรสจะไม่มีวันลืมเลย” โรสรินยกมือไหว้คนตรงหน้า รู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายมอบให้เสมอมา
“โชคดีนะโรสริน”
นิพนธ์อวยพรหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“ให้ตายเถอะแดเนียล มึงยอมให้ไอ้บ้านั่นต่อยมึงฝ่ายเดียวได้ยังไงวะ” เฟอเดอริก เยาะหยันเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยรุ่นๆ หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อังกฤษเช่นเดียวกับแดเนียลส่ายหน้า หลังได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“ตอนนั้นกูมึนๆ” คนพูดไหวไหล่ ดูเหมือนไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับการที่ตัวเองต้องเจ็บตัว
“ไอ้เวรนั่นป็นแฟนของผู้หญิงคนนั้นเหรอ” เฟอเดอริกถามต่อ ซึ่งคำถามของเขาดันไปกระแทกใจคนฟังให้ปวดจี๊ด
“ไม่มีทาง!” แดเนียลกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะเสียงดัง มือหนากำแน่น “ไอ้หมอนั่นไม่ใช่แฟนเธอ”