chapter 7 นี่มันปากของพี่ พี่อยากพูดอะไรพี่ก็พูด

2047 Words
Episode 7 ปากของพี่ พี่อยากจะพูดอะไร พี่ก็พูด ใครจะคิด ว่าสามสิงห์ที่ได้รับสมญานามว่าเสือร้ายแห่งเชียงรายจะมีท่าทีล่อกแล่กได้ขนาดนี้ ถ้าไม่เห็นกับตา ทิวากรคงไม่เชื่อ ‘หรือกูเมาจนตาฝาด’ “พี่มึงเป็นเชี่ยไรกัน! รีบบุกเดี๋ยวแม่งก็ตายห่าหมด” เสียงทุ้มต่ำตวาดดุชายตรงหน้า ความหงุดหงิดปรากฏชัดบนใบหน้าหล่อ เมื่อนอกจากอีกฝ่ายจะไม่ปฏิบัติตามแล้ว สามหนุ่มสามมุมยังนั่งสงบเสงี่ยมจนผิดวิสัยยิ่งเสียงฝีเท้าดังไกล้เข้ามาเรื่อยๆสามสิงห์ทายาทฟาร์มองุ่น ยิ่งเหงื่อแตกซกไปทั่วทั้งกรอบหน้า “ไม่เห็นมีใครบอก ว่าหมวยเล็กจะกลับ!” คิณพัฒน์ สบถรอดไรฟันเครื่องหน้ากร้านแดดเบนมองน้องชายทั้งสองกึ่งดุ “วันนี้วันศุกร์เฮีย” เหนือสมุทร ตอกกลับด้วยเนื้อเสียงเรียบนิ่งสองขาตึงแน่นยกไขว่ห้าง แม้ภายนอกจะไม่ยินดียินร้าย หากแต่สองมือก็ซึมชื้นไปด้วยเหงื่อไม่ต่างกัน ทิวากรขมวดคิ้วมุ่นดวงตาคมมองจ้องฝั่งตรงข้าม ไม่เข้าใจท่าทางแปลกประหลาดนั่นเลยสักนิด จนกระทั่ง เสียงฝีเท้าแผ่วเบาหยุดลงด้านหลัง พร้อมกับกลิ่นหอมหวานที่คุ้นเคยลอยมากระทบจมูก กลิ่นนี่?... “นับถาม ทำไมไม่มีใครตอบคะ” เสียงหวานนุ่ม ฟังดูเด็ดขาด แต่ก็ยังมีความขี้อ้อนอยู่ในที และแน่นอนมันคุ้นหูทิวากร คุ้นมาก.....คุ้นเหมือนกลิ่น ดวงตากลมโตกวาดมองเหล่าชายเปลือยอกทีละคนช้าๆ ก่อนจะทิ้งสายตาลงบนกองอุปกรณ์ตรงหน้าก่อนที่หัวทุยจะสะบัดส่ายเบาๆ ‘คงไม่แคล้วจะดวลเกมส์เหมือนเดิมอีกตามเคย’ เพียงแต่จากเคยมีแค่สามคน กลับเพิ่มจำนวนขึ้นมาหนึ่ง นับดาวหยุดมองที่แผ่นหลังกว้างอุดมไปด้วยมัดกล้ามอย่างตั้งใจเขาดูขาวมาก กึ่งกลางหลังนั่นยังมีรอยสักรูปมังกรตัวโต เกี่ยวกระหวัด พันรอบเอว ที่ดูจากด้านหลัง ส่วนหัว คงทาบอยู่กลางอก ไหนจะอักขระภาษาอังกฤษ ที่ต้นคอนั่นอีก ‘ดูเกเรจัง ทั้งเกเร ทั้งดูคุ้นตาแปลกๆ’ “โถ่คนดี เฮียกำลังรอหมวยมาทำกับข้าวเลย หิ้วท้องรอตั้งแต่บ่าย ที่เล่นเกมส์นี่ ก็เล่นรอนะ หมวยก็รู้ บ้านนี้ นอกจากม๊า ก็ไม่มีใครทำอร่อยเท่าหมวยเเล้ว ใช่ไหมเฮีย” เป็นเมฆินทร์ ที่เอ่ยออกมาลื่นไหลไร้ความกระดากปากไม่เพียงเท่านั้น ยังกระทุ้งข้อศอกใส่เหนือสมุทรคนที่ดูหน้าเชื่อถือที่สุด ให้ช่วยสมทบอีกแรง “อืม” “เฮียรอหมวย หิวจนใส้กิ่ว” เหนือสมุทรเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก “ไม่ต้องมาพูดเลย เดี๋ยวนี้เฮียเหนือก็เป็นไปกับเขาแล้ว ติดนิสัยเสีย” ใบหน้านวลยกค้อนวงใหญ่ ก่อนจะระบายยิ้มจนสองแก้มบุ๋ม “เดี๋ยวนับจะไปทำอะไรง่ายๆให้ อย่าหวังว่าเรื่องนี้จะจบ นับจะฟ้องๆ ฟ้องให้หมด” เสียงหวานเอ่ยกระเง้ากระงอดอย่างน่ารัก และใช่..สามสิงห์รู้ได้ทันทีว่าหลังจากนี้เงินในกระเป๋าคงพร่องอีกเป็นแน่ เหนือสมุทร กับคิณพัฒน์ ที่เป็นผู้บริหารยังไม่เท่าไร งานหยาบสุดคงเป็นเมฆินทร์ “โถ่ ค่าเหล้าเฮียยังไม่พอเบามือกับเฮียหน่อยเถอะหมวย นะ” “นี่มึงเลย ไอ้ ‘สิงห์’ เพราะมึงเลย พากูซวยไปด้วยไอ้สัสเอาบัตรมึงมายังไงมึงต้องช่วยกูออกหารกูเลย!” เมฆินทร์โบ้ยไปทางเพื่อนสนิททำให้ดวงตาทั้งสามคู่ หันมองไปในทิศทางเดียวกัน และใช่ มันรวมถึงนับดาวด้วย “พูดมาก” “เอาไป” แบล็คการ์ดสีดำขลับถูกควักออกมาจากกางเกงยีนส์สีซีด มือหนายื่นไปด้านหลัง ไม่มองคนที่ตั้งใจส่งให้สักนิด เป็นนับดาวเสียอีกที่เริ่มหัวอุ่น ร่างอ้อนแอ้นก้าวเดินออกมาเผชิญหน้ากับเจ้าของรอยสักรูปมังกรโดยตรง และทันทีที่เท้าเรียวหยุดตรงหน้าเขา ใบหน้าหวานก็พลันขาวซีดราวกลับไร้สีเลือด มือบางกระชับสายกระเป๋าแน่น สองขาขาวไร้เรี่ยวแรงคล้ายจะเป็นลมเสียให้ได้ “เป็นอะไรหมวย!” คิณพัฒน์เอ่ยถาม เมื่อเห็นท่าทางที่แปลกไปของน้องสาว และใช่ คนที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมส์ ก็ช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าเช่นกัน “ฮึ” กลีบปากเชิดรั้นเผยอขึ้น ก่อนจะส่งลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้ม หางคิ้วราวคมกระบี่เลิกขึ้นสูงด้วยท่าทางยียวนแกมแปลกใจ “มองอะไรขนาดนั้น” “มองจนแข้ง...ขา..อ่อนเลย?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยในโมโนโทนปกติ เพียงแค่คนฟังอย่างนับดาว กลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น สองมือเล็กเริ่มชื้นไปด้วยเหงื่อซ้ำยังสั่นระริกจนนับดาวต้องรวบสองมือมาประสานกันแน่น “หมวย นี่ไอ้สิงห์เพื่อนพี่ ไหว้สิ” เมฆินทร์รีบแนะนำ ใจจริงอยากให้เพื่อนรักกับน้องสาวเจอกันนานแล้วแต่ยังไม่มีจังหว่ะ มีเพียงเหนือสมุทร ที่จับปฏิกิริยาบางอย่างออก จึงเฝ้าดูอยู่เงียบๆ “ไหว้..อยากไหว้ตรงไหน ตรงนี้ หรือตรงนี้” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยราบเรียบ แผ่นหลังที่เคยงองุ้มอยู่เมื่อครู่เหยียดตรงก่อนจะเอนพิงพนักโซฟา อวดแผ่นอกแน่นตึง แล้วยังมี ตุ่มไตสีชมพูเข้มนั่นอีก “อึก!” ลำคอระหงกลืนน้ำลายด้วยความยากรำบาก ดวงตากลมโตไล่สายตามองแต่ละจุด ที่ทิวากรตั้งใจสื่อความหมายด้วยใบหน้าเห่อร้อน ทั้งอก ทั้งตัก ใครเขาไหว้แบบนั้นกัน! นอกจาก...ผัวเมีย ‘บ้าจริง!’ ริมฝีปากอวบอิ่มถูกเจ้าของมันขบเม้มเป็นเส้นตรงเครื่องหน้างามกุ้มงุดหลีกหนีสายตาที่มองมาอย่างร้ายกาจ “อะไรเข้าสิงห์เพื่อนมึง คำพูดคำจาน่าขนลุกชิบหาย” คิณพัฒน์ สกิดถามเมฆินทร์ ขณะที่เมฆินทร์ ยกมือลูบคางมองฉากตรงหน้าอย่างหมายมาด “อะไรสิงมันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ...อยากให้สิงนานๆ” “นับขอตัวไปหาข้าวให้เฮียกินก่อน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่สิงห์” ใบหน้าหวานสบัดพรืด หันหลังเดินสับฝีเท้าออกไปชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่น ท่วงท่าที่เจ้าหล่อนทำอยู่ในสายตาของทิวากรทุกอริยบท ใครจะคิด ว่าเป็นเธอจริงๆ เจ้าของรูปโปรไฟล์โดนัทสีชมพูเคลือบนมนั่น และพอมาคิดดูดีๆ ทั้งกลิ่น ทั้งสำผัส มันเข้ากับรูปโปรไฟล์ที่เจ้าตัวเลือกใช้เหลือเกิน ทั้งนุ่ม เนียน หอม แล้วยังหวาน หวานไปหมด “มองน้องกูอะไรขนาดนั้นครับ” คิณพัฒน์ถามเสียงยียวน “ก็แค่มอง” “เดี๋ยวกูไปห้องน้ำก่อน” ไม่รอให้เจ้าของบ้านอนุญาต ร่างสูงเหยียดกายลุก เดินตรงเข้าไปในตำแหน่งเดียวกันกับร่างบางที่พึ่งผลุบเข้าไป และแน่นอน การกระทำทุกอย่าง ไม่พ้นสายตาเฉียบคมของเหนือสมุทร ดวงตากลมโตค่อยๆเบิกโพลงช้าๆก้อนเนื้อในอกเต้นรัวไม่เป็นระส่ำภาพคืนก่อนฉายซ้ำในหัวเป็นช็อตๆ จนถึงฉากเมื่อครู่ “ตายๆ นับตายแล้วจริงๆ!” นับดาวแข้งขาอ่อนจนต้องรีบค้ำยันฝ่ามือขาวลงเคาว์เตอร์ครัวสีอ่อน เธอพยายามเก็บอาการจนจึงที่สุดและมันเกือบสำเร็จ ถ้าคนที่เธอกำลังหนี ไม่โผล่เข้ามาเสียก่อน ร่างกำยำของนายตำรวจหนุ่มย่างสามขุมเข้ามาช้าๆ กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นจมูกเจือจางไปด้วย กลิ่นมิ้นท์อ่อนๆ ใบหน้าคร้ามคมหลุบลงมองคนตัวเล็กที่สั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ตรงหน้า หางคิ้วหนาเลิกสูงด้วยท่าทางยียวน...ไร้ความปราณี ใครจะคิด...ว่าคนที่พึ่งใช้ค่ำคืนร่วมกันมาหมาดๆ รุ่งขึ้นอีกวันดันกลายมาเป็นน้องสาวเพื่อนสนิท... มือหนาแตะลงหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะลากปลายนิ้วไปที่ขอบกระโปรงนักศึกษาตัวจิ๋ว และใช่...คนที่สั่นเทาอยู่แล้ว ยิ่งออกอาการคูณสอง “เป็นอะไร....ตัวสั่นเชียว”เสียงทุ้มต่ำแตกพร่า เขาเอ่ยมันออกมาทั้งที่ใบหน้าของเราห่างกันเพียงคืบ ร่างสูงใหญ่คร่อมกักร่างบอบบางใว้ในอ้อมแขนก่อนจะโน้มใบหน้าลงชิดซอกคอขาว “แล้วแบบนี้ต้องเรียกไอ้หมอกว่าพี่เขยไหม?” มือหนาลูบต่ำลงเรื่อยๆ ท่ามกลางลมหายใจที่หอบกระชั้น เขาจงใจชัดๆ จงใจจะปั่นประสาทเธอ! “มะ...ไม่นะคะ ห้ามพูดนะ” นับดาวรีบตะครุบปิดปากอีกฝ่าย ดวงตากลมโตล่อกแล่กใบหน้างามหันมองซ้ายทีขวาทีเมื่อไม่เห็นว่ามีบุคคลที่สาม คนตัวเล็กจึงช้อนสายตามองคนที่ปิดปากใว้ด้วยท่าทางประหม่า เพราะข้างบนปิดได้....แต่ข้างล่าง เขากำลังล้วงไปถึงไหนต่อไหน... ทิวากร มองอีกฝ่ายแววตาระยับ คนตรงหน้า ที่คะเนด้วยตาปล่าว สูงไม่หน้าจะเกินร้อยหกสิบเซนติเมตร แต่เจ้าตัวหาญกล้าโดดขึ้นมาปิดปากเขาที่สูงถึงร้อยเก้าสิบ เฮอะๆ...อยากจะขำให้ปอดโยก แต่...มือนี่มันนุ่มจังวะ... ทั้งนิ่ม....ทั้งหอม ไวกว่าความคิด ปลายลิ้นร้อน ตวัดแลบเลียไปที่อุ้งมือขาวเบาๆ รับกันกลับปลายนิ้วที่สำผัสได้ถึงความเฉอะแฉะ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มือคู่น้อยรีบสะบัดออกแต่ก็ยังไม่วาย หันไปจิกตาใส่คนโตกว่าอีกรอบ “พี่เลียมือเรา!” “แล้วยัง...อะ..อื้อ” ก้านนิ้วหนาถูกสอดเข้าไปดังพรวด! เป็นจังหว่ะเดียวกลับลำแขนแกร่งที่ช้อนอุ้มคนเด็กกว่าขึ้นวางบนโต๊ะ เรียวขาขาวถูกแยกออกจนกว้างมากพอ ให้เขาได้สำผัสเธออย่างที่ตั้งใจ “ยะหยุดนะ......หะ...ห้ามทำ” นับดาวเอ่ยเสียงสั่น “ก็ลองดู..ว่าจะห้ามได้แค่ไหน” สิ้นประโยคริมฝีปากอุ่นร้อน บดจูบกลีบปากอวบอิ่มจนไรฟันกระทบกันดึงกึก ในจังหว่ะเดียวกันกลับก้านนิ้วอุ่นที่เริ่มชักเข้าออกสวบๆ ปากจิ้มจิ้มเผยอ้าด้วยความซ่านเสียวให้จังหว่ะลิ้นร้อนได้ฉกฉวยเข้าไปช่วงชิมความหอมหวานที่แสนพอใจ ทิวากรดูดดุนปลายลิ้นน้อยขณะที่มือหนายังทำหน้าที่ปรนเปรอช่วงล่างไม่มีขาดตก นับดาวหดเกร็งไปทั้งร่าง เมื่อนิ้วร้ายที่แทงเข้าออกถูกเพิ่มจำนวนเป็นสอง ซ้ำยังเร่งจังหวะถี่ยิบไม่ถึงสิบวินาที จนร่องรูนุ่มตอดกระตุกบ้วนน้ำหวานออกมาไหล่บ่าเต็มสองง่ามนิ้ว “อื้อ!” “แฮ่กๆ!” ร่างบอบบางหอบสะท้านรีบช่วงชิงอากาศเข้าปอดทันทีที่ได้รับการปลดปล่อย ทรวงอกงามกระพื่มไหว เรือนกายขาวผ่องอาบชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทั้งล่วงล่าง แฉะ...ไปหมด ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนปรือขึ้นมองเสี้ยวหน้าเรียบเฉยด้วยสายตาตัดพ้อ เรียวขาขาวค่อยๆหุบเข้าหากัน ก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยอย่างเร็วที่สุด “บทเรียนแรก ของคนชอบออกคำสั่ง จำใว้ว่าพี่ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรา นี่มันปากของพี่ พี่อยากพูดอะไร พี่ก็พูด” “อยากทำอะไร...พี่ก็ทำ” “พี่..?” นับดาวทวนย้ำศัพท์นามใหม่ที่หลุดออกจากปากเขาเบาๆ “ไม่งั้น?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามกลับ นับดาวที่เห็นอย่างนั้นจึงพนักหน้ารับอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง “กะ..ก็ใช่..” ทั้งคำว่าพี่..และ นั่นมันปากเขา “ไม่สิ พี่คะ ห้ามบอกเฮียได้ไหม.. พี่อยากได้อะไร บอกเรามาเลย เราให้ได้ทุกอย่าง เงิน ใช่ พี่ เรามีเงินนะ พี่อยากได้เท่าไร ว่ามาเลย” นับดาวพยายามวิเคราะห์ อีกฝ่ายแม้จะร้อนใจอยู่มากก็ตาม ใช่! เฮียเมฆินทร์ ก็เป็นตำรวจ เงินเดือนเท่าหยิบมือ และดูจากการแต่งตัวแล้วพี่สิงห์ ก็คงมีไม่มากนัก “หืม” “พี่ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน” นับดาวชะงัก รู้สึกเดจาวู คล้ายกับเวรกรรมจะตามทัน ‘ก็เมื่อเช้า เป็นเธอเอง ที่พึ่งใช้คำนี้กับเขา’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD