ตอนที่.5 อินทัช

2225 Words
เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค2 ตอนที่. 5 อินทัช โดย: srikarin2489 หลังจากพูดคุยกับคุณย่าของณิชมนได้สักครู่ มีแขกใหม่เข้ามาเพื่อมาอวยพรวันเกิดคุณย่าของณิชมน อินทิราจึงขอตัวแล้วเข้าไปไหว้ทักทายคุณปรานีกับลดาที่นั่งอยู่ในห้องโถงรับแขกด้วย ทั้งสองต่างยิ้มแย้มตอบรับเป็นกันเองเหมือนเดิม “เราไม่เจอกันนานแล้วนะหมออิน หมออินดูเปลี่ยนไปเยอะเลย” “คุณย่าสบายดีหรือครับ” “ย่าสบายดี หมออินไม่ไปเที่ยวบ้านย่าเลย” “อินจะไปกับใครล่ะครับคุณย่า หลานคุณย่าจำอินไม่ได้แล้ว” “บ้านของย่า ยังยินดีต้อนรับหมออินเสมอนะ ว่างๆผ่านไปทางปากช่อง แวะบ้านย่าได้ ไปคนเดียวย่าก็ยินดีต้อนรับ” น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความเมตตาไม่เปลี่ยน “คุณย่าไม่รังเกียจอินหรือครับ ที่อินเป็นแบบนี้” อินทิราถามเสียงขรึมขึ้น “ทำไมย่าต้องรังเกียจ” “บางคนพอรู้ว่าอินเป็นทรานส์แมน เขามองด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนกับว่าเห็นตัวประหลาด” “ฟังย่านะลูก หมออินไม่ต้องสนใจว่าใครจะคิดยังไง แคร์ความรู้สึกของตัวเองกับคนในครอบครัวก็พอ ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ส่วนคนอื่นจะคิดรู้สึกยังไง มันเป็นปัญหาของเขาไม่ใช่ของเรา มันคือชีวิตของเรา ทำไมต้องใส่ใจกับความคิดคนอื่น” น้ำเสียงของผู้อาวุโสนุ่มนวลอบอุ่น แม้แต่สายตาที่มองมามีแต่ความเมตตาเช่นเดิม ทำให้อินทิรายิ้มออกมาได้ “ไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะคิดยังไงนะลูก” ไม่เพียงพูดคุณปรานียังเอื้อมมือตบไหล่เบาให้กำลังใจ “ให้หมออินมีความสุขกับชีวิตที่ตัวเองเลือก หมออินโชคดีมากเลยนะ ที่ครอบครัวเข้าใจยอมรับ จงภูมิใจในสิ่งนี้ดีกว่าลูก” “ครับคุณย่า” “คุณย่าท่านบ่นถึงหมออินบ่อยๆ” คุณปรานียิ้มรับคำพูดของอดีตสะใภ้ “ที่คุณย่ามางานวันนี้ นอกจากมาอวยพรวันเกิดพี่สาวท่าน ท่านรู้จากแนนว่าหมออินจะมางานวันนี้ด้วย ท่านอยากเจอหมออิน” “ขอบพระคุณคุณย่ามากครับ ที่ยังเมตตาอิน อินซาบซึ้งใจมากเลยครับ” พูดพร้อมยกมือไหว้ “ถ้าหมออินมีเวลา ไปเที่ยวบ้านย่าที่ปากช่องอีกนะ” “ครับ” นั่งพูดคุยกันได้สักพัก เห็นปาลิดาเดินกลับมานั่งลงข้างคุณย่าของตัวเอง นั่งแล้วไม่พูดอะไรแต่กวาดสายตามองราวจะสำรวจทั่วร่างอินทิรา พร้อมรอยยิ้มแปลกๆที่คนถูกมองรู้สึกได้ จนเริ่มรู้สึกไม่พอใจ “มองสำรวจแบบนี้ ข้องใจอะไรหรือคุณฟาง” ปาลิดามองสบตาคนถาม ยังยิ้มเจือแววแปลกๆ “เสียมารยาทรู้มั้ย ที่มองสำรวจคนอื่นแบบนี้” “ตอนคุณเป็นผู้หญิง ฉันจำได้ว่าคุณเป็นคนสวยมากเลยนะ คิดยังไงถึงผ่าตัดแปลงเพศ ประหลาดดีนะ เป็นผู้หญิงดีๆไม่ชอบ” “ฟาง...ทำไมเสียมารยาทกับหมออินแบบนั้น” ลดาทำเสียงตำหนิลูกสาว เมื่อเห็นคนถูกมองสำรวจทำหน้านิ่งก็จริง แต่แววตาเริ่มขวางขุ่นมัวไม่พอใจ ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน “มันจริงนี่คะแม่ ถึงจะผ่าตัดแปลงเพศแล้ว แต่ไม่ใช่ผู้ชายแท้ของปลอมก็คือของปลอม” “ฟาง” ลดาทำเสียงเข้มแววตาตำหนิลูกสาว แต่ลูกสาวยักไหล่ไม่แคร์ หรือเกรงใจคนที่มองมาด้วยแววตาขุ่นเคือง “ช่างเถ่อะครับคุณน้า อินไม่ถือสาคนเสียความทรงจำหรอก อินจะถือตามคำพูดของคุณย่า คุณฟางคิดยังไงมันเป็นปัญหาของเขา ไม่ใช่ปัญหาของอิน เป็นคนรุ่นใหม่แท้ๆ แต่ความคิดไม่ล้ำทันสมัยเหมือนคุณย่าของคุณเลย คุณย่าถึงจะสูงวัยแต่ใจกว้างความคิดทันสมัย ยอมรับในความต่างให้เกียรติคนอื่น ไม่เหมือนใครบางคนใจแคบ” หน้ายิ้มของปาลิดาเปลี่ยนเป็นบึ้งทันที ขึงตาดุไม่พอใจให้เมื่อถูกอีกฝ่ายปรายตามาว่า “ไม่น่าเชื่อนะครับคุณน้า ว่าเขาจะปากร้ายขึ้นเยอะ เสียดาย” “เสียดายอะไร” คนถูกว่าร้องถามหน้าบึ้งเสียงแข็ง แต่อีกฝ่ายกลับยักไหล่ไม่ตอบ มีแต่รอยยิ้มชวนให้โมโห “ฟาง...อย่าเสียมารยาทกับหมออินสิลูก” คุณปรานีปรามหลานสาว “ไม่ยักรู้ ว่าคุณเป็นคนโปรดของแม่กับคุณย่า พวกท่านถึงได้ช่วยกันปกป้องคุณแบบนี้” “ผมเป็นคนดีไง คุณย่ากับคุณน้าถึงได้เมตตาผม” ปาลิดาได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันหน้าบึ้งเมื่อถูกอีกฝ่ายยิ้มยั่ว “อินขอเป็นหลานคุณย่าอีกคนนะครับ” “ได้สิลูก” ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากัน หน้ายังบึ้งไม่พอใจเมื่อเห็นอินทิราทำเสียงประจบคุณย่าของเธอ แล้วหันมายิ้มยั่วให้อีก “คุณย่ายังใจดีกับอินเหมือนเดิม” เห็นอีกฝ่ายหน้าบึ้งตาขวางไม่พอใจ อินทิรายิ่งแกล้งยั่ว ลดามองดูทั้งสองแล้วได้แต่ส่ายหน้า หนักใจที่เห็นคนเคยรักกันกลายมาเป็นคู่กัดกันแบบนี้ โชคชะตาอะไรถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับทั้งสอง รักกันอยู่ดีๆกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ปาลิดาจะจำได้แล้วจะมีโอกาสนั้นหรือเปล่า “ฟางออกไปข้างนอกกัน มีเกมสนุกๆให้เล่น เชิญพี่อินด้วยนะคะ” ณิชมนเข้ามาเรียกขัดจังหวะการพูดคุย “พี่ออกไปเล่นด้วย อาจจะทำให้บางคนเขาไม่สนุกนะ” พูดพร้อมปรายตามอง ไปทางคนที่กำลังขยับลุกขึ้นยืน “ท่าทางเขาอยากหยุมหัวพี่แล้ว” “ใครจะทำแบบนั้นกับพี่อินได้คะ พี่เนตรบอกให้แนนมาชวนพี่อินไปเล่นด้วย พี่เนตรกับคนอื่นๆกำลังเตรียมสถานที่อยู่” ณิชมนเข้ามาคล้องแขนสนิทสนม โดยไม่เห็นว่าเพื่อนปรายตามองหมอร่างสูง ด้วยแววตาหมั่นไส้ที่เห็นยิ้มทำหน้าระรื่นสดใส “ขอตัวพี่อินกับฟางนะคะคุณย่า” คุณปรานียิ้มพยักหน้า อินทิราที่มีณิชมนคล้องแขนเดินไปด้วยกัน โดยมีปาลิดาเดินตามหลัง แต่ไม่วายหันกลับมายิ้มยั่วให้คนเดินตามหลัง ทำให้ฝ่ายถูกยั่วขึงตาดุแยกเขี้ยวใส่ ปาลิดายิ่งโมโหขึ้นอีกเมื่ออีกฝ่ายหลิ่วตาให้ “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะคุณแม่ ว่าเขาสองคนจะกลายเป็นแบบนี้” ลดามองตามร่างทั้งสามแล้วบ่นกับแม่อดีตสามี “ไม่รู้เมื่อไหร่ ฟางจะจำหมออินได้” บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกหลังใหญ่ มีโต๊ะตัวหนึ่งถูกนำมาจัดวาง บรรดาญาติวัยสาวหลายคนมายืนห้อมล้อมโต๊ะโดยมีณัชชา คอยสั่งการเพราะอายุเป็นพี่สุด ส่วนญาติผู้ชายสมัครใจที่จะนั่งดื่มสังสรรค์กันแยกอยู่ต่างหาก “แขกคนพิเศษออกมาแล้ว” ณัชชาหันมาพูดกับอินทิรา หน้าตาคล้ายกับน้องสาวส่วนสูงไล่เลี่ยกัน แต่ณัชชาจะดูมีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่กว่าและดูเจ้ากี้เจ้าการออกคำสั่งกับน้องๆ “จะเล่นเกมอะไรหรือเนตร” อินทิรามองดูบล็อกไม้ ที่อยู่ในกล่องจัดวางอยู่บนโต๊ะอย่างสนใจ “เกมไม้จังก้า อินจำได้มั้ย เราเคยแข่งกันตอนม.ต้น บุษเขามือเบาทีมเนตรเลยแพ้ วันนี้จะมาขอแก้มือกับอิน” “โห...อินมือหนัก มือไม่เบาเหมือนบุษเขาหรอก” “อินก็เก่งอย่าถ่อมตัว” ณิชมนกับปาลิดาเข้าไปช่วยคนอื่นตั้งบล็อกไม้ ปล่อยให้อินทิรากับณัชชายืนคุยกันรอ “เราเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาลจนจบม.3 บุษเขาเหมาเป็นหัวหน้าห้องทุกปี จนขึ้นม.ปลายเนตรแยกไปเรียนห้องใหม่ ถึงได้เป็นหัวหน้าห้อง ลงสมัครประธานสภานักเรียนแข่งกับบุษ ก็แพ้บุษราบคาบเลย” “ยังติดใจแค้นบุษเขาอยู่เหรอ” ถามเจือยิ้มขำ “ตอนนั้นโกรธนิดหน่อย แต่พอมาคิดตอนนี้ขำตัวเอง เนตรจะสู้บุษเขาได้ยังไง ในเมื่อเขามีอินเป็นหัวคะแนนให้ แค่อินไปหาเสียงขอคะแนนจากน้องๆ บุษเลยชนะถล่มทลายเลย” อินทิราได้แต่หัวเราะเบา เมื่อเพื่อนพูดถึงอดีตตอนเรียนมัธยมด้วยท่าทางสนุกมากกว่าจะโกรธ “เพื่อนทำโพลล์หยั่งคะแนนนิยมให้ ตอนแรกคะแนนนิยมสูสีอยู่นะ แต่พออินออกหาเสียงช่วยบุษเท่านั้นแหละ คะแนนนิยมของบุษพุ่งปรี๊ดเลย แนน มาสารภาพกับเนตรทีหลัง ว่าเขากับเพื่อนทั้งห้องลงคะแนนให้บุษ เพราะอินมาขอคะแนนให้บุษ ใครจะไปสู้ได้ มีดาวโรงเรียนช่วยหาเสียงให้ ไม่ว่าห้องไหนอินเข้าไปหาเสียง แค่ยิ้มก็อ่อนระทวยเทคะแนนให้หมด แม้แต่แนนเป็นน้องแท้ๆยังไม่เลือกเนตรเลย” อินทิราได้แต่หัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้น “พอได้เป็นประธานนักเรียน บุษตั้งไอ้ตุลนมกล่องเป็นรองประธาน คอยเป็นองค์รักษ์พิทักษ์ประธาน บุษเขาเป็นประธานนักเรียนก็เหมาะแล้ว เขาเก่งมีความเป็นผู้นำสูง เวลาพูดโน้มน้าวใจคนทุกคนต้องฟังเขา เนตรยอมรับว่าเรื่องนี้เนตรสู้บุษเขาไม่ได้” อินทิราพยักหน้าเห็นด้วย “อินจำได้มั้ย ตอนม.5เพื่อนในห้องเรามีเรื่องกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง หวิดจะยกพวกตบกันด้วยซ้ำ เนตรกับบุษในฐานะหัวหน้าห้องเลยนัดคุยเคลียร์ใจกัน คุยกันเข้าใจแล้ว พาเพื่อนที่มีเรื่องกันไปเคลียร์ในห้องน้ำ เนตรคิดว่าวันนั้นที่เคลียร์กันได้ และไม่เคยมีเรื่องกันอีกเลย ต้องยกเครดิตให้บุษเขา เขาเก่งในการพูดให้คนฟังคล้อยตาม ทุกอย่างเลยจบลงด้วยดี” “รู้สึกวันนั้นอินไม่ได้ไปด้วย ตุลมาเล่าให้ฟังทีหลัง วันนั้นถ้าเคลียร์กันไม่ได้ตบกันคงเละคาห้องน้ำ บุษไปกับตุลแค่สองคนแต่เนตรมากับเพื่อนหลายคน ตุลบอกว่าถ้าตบกันจริงๆ ตุลจะกันพวกเนตรไว้เองแล้วให้บุษหนีออกมาก่อน” “จากเขม่นกันระหว่างห้อง กลายเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มใหญ่ ชอบยกโขยงไปกินของอร่อยๆด้วยกัน ยิ่งตอนพากันไปเชียร์อินแข่งบาส แข่งกับโรงเรียนอื่นเชียร์สนุกมาก กรี๊ดคอแทบแตกเสียงหายหมด” เล่ากลั้วหัวเราะแววตาแจ่มใส เมื่อนึกถึงเรื่องราวในวัยเรียน “เพื่อนเราสวยและหล่อเท่สุด จนสาวต่างโรงเรียนปันใจมาเชียร์ ความสุขสนุกสดใสแบบนั้นหาไม่ได้อีกแล้ว” “ใช่ ความสุขตอนเด็กหาง่าย แค่ไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆ เรียนเล่นด้วยกันแค่นี้ก็มีความสุขมาก ความทุกข์เป็นยังไงไม่รู้จัก ผิดกับตอนนี้ แค่ทำให้ตัวเองสบายใจยังยาก” อินทิราพึมพำแล้วถอนใจเบา เหม่อมองดูปาลิดาที่กำลังพูดคุยสนุกสนานอยู่กับญาติๆวัยไล่เลี่ยกันช่วยกันตั้งบล็อกไม้จังก้า “เอาน่าเพื่อน...”ณัชชาเข้ามาตบไหล่เพื่อนเหมือนจะปลอบ “เกมยังไม่จบ โอกาสพลิกผันเป็นไปได้ทั้งนั้น เนตรยินดีที่จะได้อินเป็นน้องเขยนะ จะน้องเขยโดยตรงหรือน้องเขยลูกพี่ลูกน้องได้ทั้งนั้น แนนเขาชอบอินจริงจังมาก ตั้งแต่ม.1จนเดี๋ยวนี้ ตอนเรียนมัธยมใครๆก็ชอบอินหลงเสน่ห์อินทั้งนั้น” “ไม่จริง เนตรไงไม่เคยหลงเสน่ห์อินเลย” “เคยแอบชอบ แต่ถอนใจทัน” “อ้าวเหรอ” อุทานยิ้มๆ “บุษเขาหวงอินมาก ไม่อยากปะทะกับบุษเลยรีบถอนใจ” “คืนดีกับบุษหรือยัง ตอนอยู่ประถมกับม.ต้น เนตรกับบุษเป็นเพื่อนคู่หูกันนะ” “เราไม่เคยมีเรื่องกันจริงจังนะ แค่ปะทะกันบ้างนิดหน่อย” “อินว่าเนตรกับบุษเป็นมวยถูกคู่นะ ส่วนสูงไล่เลี่ยกัน ต่างตรงบุษเขาจะนิ่งกว่า แต่เนตรออกสไตล์โวยวายเสียงดังไว้ก่อน” ณัชชาหัวเราะยอมรับกับสิ่งที่เพื่อนวิจารณ์ ”เนตรกับบุษเราโทรคุยกันประจำ ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันคุยทางโทรศัพท์เอา เวลามีปัญหาเรื่องสุขภาพ เนตรจะปรึกษาบุษเขาเสมอ” “เรานัดเพื่อนตอนเรียนมัธยม มาทานข้าวกันสักวันดีมั้ย อินไม่ได้เจอเพื่อนๆนานแล้ว” “เป็นความคิดที่ดีมาก เนตรจะเป็นคนนัดเพื่อนๆเอง พอพวกเขารู้ว่าอินกับตุลเป็นทรานส์แมน พวกเขาอยากเห็นว่าจะหล่อแค่ไหน” ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องสมัยเรียนมัธยมบางครั้งหัวเราะกันสนุก จนคนอื่นตั้งบล็อกคอนโดไม้เสร็จ “เสร็จแล้วพี่เนตร” ณิชมนหันมาร้องบอกพี่สาว ณัชชากับอินทิราเลยเดินไปยังโต๊ะที่บล็อกไม้ถูกจัดวางสูงเป็นคอนโดพร้อมสำหรับการเล่นเกม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD