“สายแล้ว สายแล้ว”
หญิงสาวในชุดนักศึกษา สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวลวดลายดอกไม้สีชมพูที่ซื้อจากตลาดนัด วิ่งเข้าไปในตึกอาคารของคณะมนุษยศาสตร์เพราะนี่ก็เลยเวลาไปห้านาที ไม่รู้ว่าจะถูกเช็กชื่อขาดไปแล้วหรือยัง
พระพายชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง ดีที่อาจารย์ยังไม่เข้าสอนจึงแทรกตัวเข้าไปนั่งตรงที่ว่าง ซึ่งเพื่อนสนิทของเธอเป็นคนจองเอาไว้ให้
“เมื่อคืนเลิกงานดึกเหรอ” เสียงของมะนาวเอ่ยถาม
“อื้ม ดีนะที่ยังมาทัน”
“แกน่ะหักโหมร่างกายเกินไป ระวังจะป่วยเอาล่ะ”
“จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ชีวิตฉันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนี่นา”
แววตาของเพื่อนมองมายังพระพายอย่างเห็นอกเห็นใจ มะนาวก็เป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนมาเรียนที่นี่เช่นเดียวกัน ทว่าในด้านการเงินนั้นดีกว่าเธอหน่อย มะนาวจะหารายได้เสริมแค่ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ไม่ได้ลำบากตรากตรำจนแทบไม่มีเวลาได้พักเหมือนอย่างเธอ
เพราะแบบนี้ทั้งสองคนถึงได้สนิทกันมาก เพราะเพื่อนร่วมสาขาส่วนใหญ่เป็นลูกของคนมีเงิน พ่อแม่เป็นข้าราชการ นักธุรกิจ หรือไม่ก็นักการเมือง คนเหล่านั้นมีวิถีชีวิตต่างกันกับพวกเธออย่างเห็นได้ชัด พอไม่มีเวลาไปเที่ยวตามคำชักชวน เพื่อนเห่านั้นจึงมีท่าทีไม่ค่อยสนิทด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องเรียน หรือทำงานกลุ่มตามที่อาจารย์มอบหมาย ทุกคนยังคงให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ชักเสียดายที่ไม่ตอบรับข้อเสนอของมาคัส ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะได้โฉนดที่ดินของพ่อแม่คืน โดยที่ไม่ต้องทำงานสายตัวแทบขาด ก็ไม่มีวันที่จะชดใช้หนี้สินที่แม่เลี้ยงก่อเอาไว้ได้หมด
คาบบ่ายนี้อาจารย์ได้ปล่อยก่อนเวลา พระพายจึงเร่งทำงานที่ได้รับมอบหมาย เสร็จแล้วก็นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมาก
เธอได้รับความเอ็นดูจากเจ้าของร้านให้มาช่วยเป็นลูกมือแลกกับค่าจ้างชั่วโมงละห้าสิบบาท ส่วนงานที่บาร์ตอนนี้ได้โทรไปลาออกแล้ว
บริเวณหน้าร้านมีรถตู้คันหนึ่งขับมาจอด ชายร่างสูงใหญ่สามคนปรี่เข้ามาด้วยท่าทางหัวเสีย ใช้เท้าเตะเก้าอี้กระจัดกระจายคล้ายกับตั้งใจมาหาเรื่อง สร้างความตื่นตระหนกให้กับลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ
“ใครไม่เกี่ยวออกไปให้หมด วันนี้กูจะจับนังนี่ไปให้เสี่ยสมบูรณ์”
แค่ได้ยินชื่อเสี่ยสมบูรณ์ก็ไม่มีใครกล้าหือ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของหญิงสาวหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อถูกชี้หน้าด้วยอาวุธปืน ก่อนจะถูกชายฉกรรจ์สองคนเข้ามาล็อกแขนทั้งสองข้าง แล้วพาตัวออกไปนอกร้านโดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยได้
พระพายได้แต่เอ่ยขอโทษเจ้าของร้านในใจที่อุตส่าห์รับเข้าทำงาน แต่นี่ก็เพิ่งจะมาวันแรก และยังทำได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ไอ้เสี่ยบ้ากามก็ส่งลูกน้องมาตามตัวเธอถึงที่นี่
“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ไป”
เธอพยายามดิ้นขัดขืนอย่างทุลักทุเล แต่ก็ถูกน้ำเสียงตวาดกลับมา
“ครั้งนี้เธอหนีไปไหนไม่รอดแน่ เข้าไป”
ร่างเล็กถูกผลักเข้าไปในรถตู้ ตามมาด้วยลูกน้องของเสี่ยที่เหลือ ขึ้นมานั่งประกบไม่ให้เธอคิดหนี
พระพายตกอยู่ในอาการหวาดผวาจนมือไม้สั่น ดวงตาร้อนผ่าวมีหยาดน้ำสีใสร่วงลงบนโหนกแก้ม ไม่กล้าปริปากร้องขอความเห็นใจ เพราะพูดไปคนพวกนี้ก็ไม่ฟัง มีแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บตัวเสียเปล่า
รถตู้เคลื่อนไปตามท้องถนน จุดมุ่งหมายคือโรงแรมแห่งหนึ่งที่เปิดให้บริการอยู่ริมถนนสายรอง ไอ้เสี่ยตัณหากลับคงคิดแผนการมาเป็นอย่างดี จับตัวเธอมาปู้ยี่ปู้ยำแล้วคิดจะรั้งเอาไว้ข้างกายในฐานะเมียน้อย อย่างที่เคยทำกับผู้หญิงเหล่านั้น
ประตูรถตู้เลื่อนเปิดอย่างช้า ๆ เมื่อไปถึงหน้าห้องที่เสี่ยสมบูรณ์จองเอาไว้ ชายคนที่นั่งเบาะข้าง ๆ เธอและอยู่ใกล้กับประตู ได้จับข้อมือของพระพายกระชากลงจากรถ
หญิงสาวอาศัยจังหวะลูกน้องของเสี่ยที่เหลือยังไม่ได้ก้าวลงมายืนบนพื้น เนื่องจากนั่งตรงเบาะหลัง ยกเท้าเตะเข้าไปตรงเป้ากางเกงของคนที่จับตัวเธอไว้เต็มแรง ข้อมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระ สับขาวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
“อึก รีบตามมันไปสิวะ ซี้ด… แม่งเอ้ย จะ เจ็บฉิบหาย” เสียงลูกพี่ออกคำสั่งกับลูกน้องที่เพิ่งลงจากรถอีกสองคน
สายตาของพระพายมองแต่ประตู แม้จะได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังก็ไม่คิดจะหันกลับไปมอง ด้านหน้าเป็นถนนเส้นรองรอบตัวเมือง จึงมีรถแล่นผ่านอยู่ตลอด ทันใดนั้นรถหรูคันหนึ่งก็เหยียบเบรกจนคนในรถแทบหัวทิ่ม เหลืออีกนิดก็จะพุ่งชนร่างของเธอเข้าอย่างจัง
มาคัสนั่งอยู่ตรงโซนผู้โดยสารด้านหลังคนขับ เห็นเลือนลางว่าเมื่อครู่มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาตัดหน้ารถจนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ และในขณะเดียวกันก็มีชายอีกสองคนวิ่งพรวดออกมาจับตัวคนที่ล้มลงบนพื้นถนนลุกขึ้นยืนโดยไม่เต็มใจ
“โอ๊ย… ปล่อยฉันนะ”
“ฤทธิ์เยอะนักนะนังตัวดี”
เพียะ !
ลูกน้องของเสี่ยคนหนึ่งยกฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าข้างซ้ายของพระพาย ทำให้มีเลือดซึมตรงมุมปาก เจ็บระบมเป็นรอยแดงเถือก
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้นประตูรถหรูก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขาม ซึ่งทำให้คนพวกนั้นชะงักไปเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้จักเขาน้อยไป
“จะไปไหนก็ไป อย่ามาเสือกเรื่องชาวบ้าน”
“ถ้ากูจะเสือก แล้วมึงจะทำไม”
มาคัสเอ่ยเสียงกร้าว เดินเข้าไปคว้าข้อมือของหญิงสาวออกแรงกระชากให้มาหลบอยู่ด้านหลัง จังหวะเดียวกันก็ถีบเข้าไปตรงหน้าอกคนที่จับตัวเธอไว้อย่างเต็มแรง จนมันหงายหลังลงไปนอนกองกับพื้น ส่วนอีกคนก็ถูกอลันเข้าไปจัดการ
“เข้าไปหลบในรถ”
พระพายมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งตรงเบาะหลัง ดวงตาสั่นระริกทอดมองไปยังภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า
มาคัสและอลันกำลังต่อสู้กับอีกฝั่ง ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะแตะต้องสองคนนี้ไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ ไม่นานลูกน้องของเสี่ยก็คนนอนแน่นิ่งหมดสติไป
ส่วนคนที่โดนเธอเตะผ่าหมากเจ็บจุกจนขยับตัวไม่ได้ พออาการเริ่มดีก็รีบตามมาสมทบ แต่ก็ถูกรองเท้าหนังขัดเงาราคาแพงของมาเฟียหนุ่มฟาดเข้าไปที่หน้าเต็ม ๆ จนล้มลงในครั้งเดียว
มาคัสกระชากคอเสื้อของลูกน้องเสี่ยตัณหากลับ อีกฝ่ายก็ถลึงดวงตาเอ่ยน้ำเสียงไม่เกรงกลัว
“มึงเป็นใครวะ กล้ามาลองดีกับเสี่ยสมบูรณ์ ระวังจะไม่ตายดี”
“หึ กูชื่อมาคัส ฝากไปบอกเสี่ยของมึงด้วยว่ารอเจอกูได้เลย”
ผัวะ !
มาเฟียหนุ่มกระแทกหมัดเข้าไปที่ใบหน้าของลูกน้องเสี่ยสมบูรณ์อีกครั้ง อีกฝ่ายก็สลบไปโดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก