“คะ คุณไทม์คะ บัวว่าเรา... / ชู่ว์~ อย่าเอาเปรียบกันสิใบบัว เราเสร็จแล้วจะไม่ให้พี่เสร็จบ้างรึไงคะ~”
สวบ~
“อ๊ะ! อื้อ~”
-เวลาต่อมา-
ก๊อก ๆ ๆ
“อืม~” ฉันรู้สึกตัวเพราะมีเสียงเคาะประตูแล้วก็ยิ่งรู้สึกตัวชัดขึ้นเพราะได้ยินเสียงครางแผ่วเบาจากคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ
...คุณไทม์
“...” ฉัน...ไม่เหมือนเดิมแล้ว
-///-
ตอนนี้ฉันไม่ใช่ใบบัวคนที่ยังบริสุทธิ์คนเดิมแล้วจริงเหรอ ที่สำคัญฉันกับเขา เราสองคนมีอะไรกันแล้วจริง ๆ เหรอคะ
...เหมือนฝันไปเลย
ก๊อก ๆ ๆ
“อ๊ะ! ซี๊ด~” เสียงเคาะประตูที่ดังติดต่อกันสามครั้งแบบหนักหน่วงทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝัน ไหนจะการที่ขยับตัวแล้วเจ็บร้าวไปทั่วทั้งร่างกายยิ่งตอกย้ำว่ามันไม่ใช่ความฝัน
...เราสองคนมีอะไรกันแล้วคือเรื่องจริง
ก๊อก ๆ ๆ
ฉันไม่มีเวลานอนเขินนานหรอกนะคะเพราะเสียงเคาะประตูยังดังไม่หยุด พอเริ่มมีสติมากขึ้นความเขินก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยความกังวล คงมีทีมงานหรือใครสักคนมาเคาะเรียกฉัน ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วและที่สำคัญฉันไม่รู้ว่าจะให้คุณไทม์ออกไปจากห้องนี้ยังไงดีคนอื่นจะได้ไม่เห็น
แย่แล้วค่ะไม่น่าปล่อยให้เขาทำอะไรจนเพลียแล้วหลับคาอกเขาเลย น่าจะฝืนตัวเอาไว้แล้วบอกให้เขากลับไปนอนที่ห้องเขาซะ จะทำยังไงดีนะคุณไทม์ไม่ต้องแอบอยู่ในห้องนี้ทั้งวันเลยเหรอ
ก๊อก ๆ ๆ
กีอก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังถี่ขึ้นทำให้ฉันต้องรีบลงจากเตียงให้เร็วที่สุด
“อืม~ ไปไหน~” เขาสะลึมสะลึมถามแต่มือไม่สัมพันธ์กับอาการสะลึมสะลือเลยสักนิดเพราะเขาจับลงมาที่หน้าอกฉันแล้วบีบเฟ้นเป็นจังหวะหนักหน่วงเลย
“ยะ อย่าค่ะคุณไทม์ มีคนมาเคาะประตู” เสียวก็เสียวกังวลก็กังวลแต่อีกคนก็นอนไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“อืม~ ทีมงานเหรอ~”
ฟอด~
เขาถามพร้อมกับซุกหน้าลงที่ต้นคอจากนั้นก็หอมแรง ๆ ทำฉันสยิวไปทั้งตัว
“อื้อ~ บัวบอกว่าอย่าไงคะ ไปหลบก่อนบัวจะแต่งตัวแล้วไปเปิดประตู” อายนะที่ตื่นมาในสภาพนี้ มีอะไรกันครั้งแรกก็ต้องอายมากเป็นธรรมดาแต่เพราะสถานการณ์สุ่มเสี่ยงในตอนนี้ทำให้ฉันต้องข่มความอายไว้แล้วดันเขาออกจากนั้นก็ฝืนความเจ็บปวดลุกขึ้นเดินโป๊ไปที่ตู้เสื้อผ้า
ขวับ!
“คุณไทม์บัวบอกให้ลุกขึ้นแล้วไปซ่อนไงคะ” ฉันยังใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยหรอกแต่สัมผัสได้ถึงสายตาหื่น ๆ เลยหันไปมองแล้วก็เห็นเขานอนพิงหัวเตียงด้วยท่าทางสบายใจมองมาที่ฉันด้วยสายตาอย่างกับจะพุ่งมาจับฉันขึงลงเตียงอีกครั้ง
“เพลีย~ ไปซ่อนไม่ไหวหรอก”
“คุณไทม์! เร็ว ๆ เลยค่ะไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูรึไง” ตลอดเวลาที่คุยกันเสียงเคาะประตูก็ยังดังไม่หยุด แล้วก็ดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ใครมาเคาะก็ไม่รู้ฉันยิ่งกลัวจะเป็นพี่จี้มาเซอร์ไพรส์ฉันอีกคนอยู่ด้วย
“ได้ยินแต่พี่บอกแล้วไงว่าพี่เพลีย~”
“คุณไทม์บัวไม่เล่นนะคะ” ฉันเริ่มซีเรียสขึ้นมา เวลาเล่นคือเล่นฉันไม่ว่าแต่ถ้าเป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานก็ช่วยเห็นใจฉันหน่อย
“ฮึ ๆ ๆ โอเคครับไม่เห็นต้องดุกันเลย” เขายังตอบกลับมาด้วยความอารมณ์ดีจากนั้นก็สะบัดผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นหน้าตาเฉยมีแต่ฉันนี่แหละที่ต้องรีบหันหน้ากลับมาจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรตรงกลางร่างกายเขาที่มันใหญ่เกินไปนาน ๆ
มันใหญ่มาก ฉันเพิ่งได้เห็นเต็มสองตาเมื่อกี้ มันใหญ่จนใจเต้นแล้วก็ไม่คิดว่ามันจะเข้ามาในตัวฉันแถมยังขยับเข้าออกทั้งถี่รัวแล้วก็รุนแรงได้เลย
นี่ฉัน...รับอะไรที่ใหญ่ขนาดนั้นเข้ามาในตัวได้ยังไง -///-
“ฮึ ๆ ๆ พี่ไม่ว่าหรอกถ้าจะอายแต่เดี๋ยวอีกสักพักก็ได้มองจนชิน”
“บ้า!” ฉันไม่ได้หันไปว่าหรอกนะ แค่ว่าเขาแล้วรีบหาเสื้อผ้ามาใส่ด้วยมือที่ลนลานเพราะเห็นอะไร ๆ ของเขาก็แค่นั้นเอง
ฉันใส่เสื้อผ้าเรียบร้อบคุณไทม์ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเลยรีบเดินไปเปิดประตูเพราะปล่อยให้คนข้างนอกทั้งเคาะทั้งรอนานเกินไปแล้ว
ก๊อก ๆ ๆ
“ค่ะ ๆ มาแล้วค่ะ”
กริ๊ก!
แอด~
“มีอะไรเหรอ...คะ”
“อีร่าน”
เพี้ยะ!
คนที่ยืนอยู่หน้าห้องคนที่เคาะประตูนานสองนานแต่ไม่ยอมพูดอะไรเลยตอนที่เคาะประตูเอ่ยปากพูดออกมาแค่คำเดียวหลังจากที่ฉันถาม พูดออกมาด้วยเสียงที่ไม่ดังสักนิดแต่หนักแน่นแล้วมือที่หนักกว่าคำพูดก็ปะทะมาที่แก้มของฉันจนเกิดเสียงดัง
“ว้าย!”
“...” ฉันโดนตบจนหน้าหันแต่มันไม่น่าตกใจเท่าเสียงอุทานด้วยความตกใจจากคนข้างนอกที่ไม่ได้มีแค่เสียงเดียว
“ฉันเคยเตือนแกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามายุ่งกับคนของฉัน!”
เพี้ยะ!
“ว้าย! พอแล้วน้องย่า” ฉันโดนตบอีกครั้งแล้วเสียงพี่นีน่าก็ดังขึ้น ฉันไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ยังสับสนแล้วก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันและมันเกิดขึ้นได้ยังไง
“ย่าจะพอได้ยังไงพี่นีน่าในเมื่ออีดอกนี่มันมายุ่งกับคนของย่า!”
“พี่ว่าใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่ายังไม่มีหลักฐานว่าคุณไทม์อยู่ห้องนี้นะปิย่า”
...คุณไทม์ ปิย่า
ถึงก่อนหน้านี้จะมึนงงแต่ฉันไม่ได้โง่จนไม่รู้ว่าที่โดนตบมันเพราะอะไร สรุปว่า...ปิย่ากับเขาเป็นแฟนกันคือเรื่องจริงใช่ไหม?
ก็ต้องใช่สิใบบัวถ้าแค่เป็นไม้กันหมาหลอกตาแฟนเก่าแล้วผู้หญิงคนนี้จะบุกมาตบแกที่กองถ่ายเพื่ออะไร
หมับ!
“โอ๊ย!” ฉันโดนจิกผมกระชากหัวเต็มแรงจนมีเสียงร้องเพราะตกใจจากคนอื่นดังขึ้นอีกครั้ง
“ไทม์อยู่ไหน!” ฉันมองปิย่าที่ตะคอกใส่แล้วก็น้ำตาคลอด้วยความเจ็บ
...เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งหัวใจ
“ฉันถามว่าแฟนฉันอยู่ที่ไหน!”
“ปะ ปล่อยบัวเถอะนะคะ”
“ฉันปล่อยแน่ถ้าแกตอบฉันว่าแฟนฉันอยู่ที่ไหน!” ยิ่งพูดปิย่าก็ยิ่งกระชากหัวฉันแรงขึ้น
“ฮึก!” ฉันไม่รู้จะตอบว่าเขาอยู่ในห้องน้ำได้ยังไง ฉันอายทุกคน ทีมงานที่ออกมาดูมีตั้งหลายสิบคนแล้วอีกไม่นานก็ต้องรู้กันหมดทุกคนแน่
ฉันไม่ได้คิดจะแย่งของ ๆ ใคร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้ารู้ว่าตัวเองถูกหลอกฉันจะไม่ยุ่งไม่แม้แต่อ่านข้อความของเขาด้วยซ้ำ
...คุณไทม์ทำแบบนี้กับฉันลงได้ยังไง
“ตอบ! ไม่ตอบใช่ไหม! ได้! เดี๋ยวฉันค้นห้องแกเองแล้วฉันจะประจานให้แกไม่ได้เกิดในวงการอีกเลย!”
ผลัก!
“โอ๊ย!” ฉันโดนปิย่าผลักจนตัวกระแทกขอบประตูแล้วปิย่าก็เดินเข้าไปในห้อง ใจฉันตกลงไปกองที่พื้นเพราะอีกไม่กี่นาทีปิย่ากับทุกคนก็ต้องเห็นว่าคุณไทม์อยู่ในห้องฉัน
“เกิดอะไรขึ้น!”
“...ป้าแป๊ด~” เสียงป้าแป๊ดผู้จัดละครดังขึ้นทำให้บริเวณนี้เงียบลง ปิย่าเองก็ชะงักไปเหมือนกัน
“ทำอะไรปิย่า”
“...สวัสดีค่ะป้าแป๊ด”
“จ้ะ แล้วนี่ทำอะไร?” ป้าแป๊ดถามปิย่าแล้วกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ฉันว่าอนาคตในวงการของฉันคงดับแล้วล่ะ คงไม่มีโอกาสได้ทำงานในวงการนี้แล้ว ดับตั้งแต่เริ่มเพราะความโง่กับความใจง่ายของตัวเองแท้ ๆ โทษใครไม่ได้หรอกขนาดพี่จี้เตือนตั้งแต่วันแรกที่เห็นเขาแล้วก็ย้ำมาตลอดฉันยังไม่ฟังเลย
“ย่ามาตามหาไทม์ค่ะ”
“คุณไทม์?”
“ค่ะ”
“มาตามหาที่ห้องของใบบัวนี่นะ?” ฉันแทบจะร้องไห้แล้ว ระหว่างฉันกับปิย่าทุกคนต้องอยู่ฝั่งปิย่าแน่นอนเพราะฉันรู้แล้วว่าปิย่าคือตัวจริงของเขา ไม่มีใครมองเห็นในมุมของฉันว่าเป็นผู้ถูกกระทำหรอก ไม่มีใครมองให้ลึกหรอกว่าฉันก็คือคนที่ถูกหลอกให้รักเหมือนกัน
“ก็ไทม์อยู่ห้องอีนี่ย่าก็ต้องมาตามหาสิคะ”
“รู้ได้ไง?”
“มีคนบอกย่ามา”
“ใครจ้ะ” ป้าแป๊ดยิ้มถามอาการของป้าแป๊ดดูเหมือนไม่ค่อยโอเคกับปิย่าเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองรึเปล่านะ
“ย่าบอกไม่ได้หรอกค่ะ แต่ย่ารู้ว่าไทม์มาที่นี่เพราะมีคนมันยั่ว” ปิย่าจงใจพูดคำสุดท้ายหนัก ๆ พร้อมกับมองมาที่ฉันที่ยืนเครียดและไม่กล้าสบตาใคร
“ถ้าบอกไม่ได้ว่าใครบอกก็แสดงว่าข่าวไม่มีมูลสิปิย่า ออกมาจากห้องใบบัวดีกว่าไหม”
“ออกแน่ค่ะแต่ต้องตอนที่ย่าได้ตัวแฟนย่าแล้ว” ปิย่าเสียงแข็งใส่ป้าแป๊ดนิดหน่อยแล้วเดินเข้าไปในห้องฉันต่อ
“ปิย่า! ทำอะไรเกรงใจป้าบ้าง!” ฉันสะดุ้งกับเสียงของป้าแป๊ดที่อยู่ ๆ ก็ขึ้นเสียงใส่ปิย่า เสียงป้าแป๊ดน่ากลัวแบบที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนแล้วก็ทำให้ปิย่าหยุดเดินเข้าไปข้างในต่อทันที
“ย่าแค่จะเข้าไปเอาตัวแฟนย่าออกมาค่ะป้าแป๊ด”
“คุณไทม์จะมาอยู่ห้องใบบัวได้ยังไงเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน?”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่แอบแซบกันไง ป้าแป๊ดก็รู้ว่าวงการนี้มันทำแบบนี้กันเยอะจะตาย”
“...” แอบแซบเหรอ? ก็จริง ถึงไม่ได้มีปิย่าแต่ฉันกับเขาก็สมควรใช้คำนี้เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนอกจากคนที่โทรคุยและส่งข้อความหากันทุกวันก็แค่นั้น
ว่าแต่เขาทำอะไรอยู่นะ ได้ยินทั้งหมดแล้วสินะว่าตัวจริงของเขาที่เขาหลอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันมายืนอาละวาดอยู่ตรงนี้
ได้ยินแล้วรู้สึกอะไรบ้างรึเปล่า อยากจะออกมารับผิดชอบอะไรบ้างรึเปล่า? แต่ก็คงไม่หรอกถ้าคิดจะรับผิดชอบอะไรบ้างเขาคงออกมาตั้งนานแล้วไม่เอาแต่มุดหัวอยู่ในห้องน้ำแน่นอน
“มีหลักฐานอะไรที่บอกว่าใบบัวแอบแซบกับคุณไทม์?” ฉันไม่อยากให้ป้าแป๊ดปกป้องเลยเพราะถ้าปิย่าเดินเข้าไปอีกแค่นิดเดียวเธอก็เจอกับคนของเธอแล้ว ฉันไม่อยากให้ป้าแป๊ดเสียความรู้สึกที่ปกป้องผิดคน แต่ฉันพูดอะไรไม่ได้ ฉันไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยได้แต่ยืนอยู่ตรงนี้แล้วรอคำพิพากษาจากทุกคนตอนที่คุณไทม์เดินออกมาจากห้องฉัน
“เข้าไปเดี๋ยวก็เห็นหลักฐานเองค่ะป้า”
“แล้วถ้าไม่มีล่ะ?” ฉันรู้สึกแย่มากขึ้นที่ป้าแป๊ดปกป้องจนต้องรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพความจริงกับป้าแป๊ดและทุกคน
“ป้าแป๊ดคะคือ... / ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นใบบัวป้าจะจัดการเอง”
“แต่...ค่ะ” ฉันอยากพูดแต่สายตาดุที่ป้าแป๊ดมองมาทำให้ฉันต้องหยุดไปโดยปริยาย
“ออกมาจากห้องใบบัว ป้าไม่รู้ว่าเธอไปได้ยินใครเป่าหูมานะปิย่าแต่ก่อนมาอาละวาดที่นี่ได้เดินไปดูรึยังว่าคุณไทม์อยู่ห้องตัวเองรึเปล่า แต่ความจริงป้าต้องถามว่าที่ตรงมาห้องนี้เธอรู้รียังว่าห้องพักของคุณไทม์คือห้องไหน”
“จะต้องรู้ทำไมคะในเมื่อไทม์อยู่ห้องนี้” ปิย่าเชิดหน้าเถียงป้าแป๊ด
“แล้วเธอไปดูที่ห้องคุณไทม์รึยังปิย่า?”
“...” อาจจะเป็นเพราะเสียงของป้าแป๊ดที่ดุมากก็ได้เลยทำให้ปิย่าเริ่มลดอาการก้าวร้าวลง
“ออกมาจากห้องใบบัว ป้าขอสั่งในฐานะที่ป้าเป็นผู้จัดละครเรื่องนี้และไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่เด็ดขาด!”
“ป้าแป๊ดคะ!”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน แค่ที่มาอาละวาดตบตีคนอื่นทั้งที่ตัวเองไม่มีหลักฐานมันก็เกินงามมากเกินไปแล้วนะปิย่า” เสียงที่เชือดออกมานิ่ม ๆ ทำให้ปิย่าแสดงอาการไม่พอใจมากขึ้นแต่ก็คงทำอะไรมากไม่ได้สุดท้ายเลยต้องเดินออกมา
“...ฝากไว้ก่อน ฉันจะจับอีร่านอย่างแกมาประจานให้ได้” ก่อนเดินผ่านฉันไปปิย่าก็หันมาพูดกับฉันด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังเลยสักนิดก่อนที่ปิย่าจะเดินออกไปโดยที่ไม่แม้แต่จะลาหรือพูดอะไรกับป้าแป๊ดแม้แต่คำเดียว
“ไปพักผ่อน ไปนอนแล้วไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก อย่าให้ป้าได้ยินว่าเม้าท์เรื่องนี้เด็ดขาด” ป้าแป๊ดหันไปบอกทีมงานทุกคนแล้วแค่เวลาไม่กี่สิบวินาทีตรงนี้ก็ไม่เหลือใครนอกจากป้าแป๊ดกับฉันที่ยังยืนสั่นนิดหน่อยพร้อมกับอาการงงที่เหตุการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นอีกแบบ
ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่ป้าแป๊ดปกป้องถึงขนาดนี้ ฉันรับรู้ถึงความเอ็นดูที่ป้าแป๊ดมีให้เลยละอายใจไม่อยากโกหก ฉันว่าฉันสารภาพความจริงกับป้าแป๊ดดีกว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
“ป้าแป๊ดคะ คือ... / พอ ๆ ไม่ต้องพูดอะไร” ป้าแป๊ดพูดแทรกพร้อมกับปัดมือเพื่อห้ามไม่ให้ฉันพูดแต่ฉันไม่สบายใจเลยสักนิด ไม่อยากให้ป้าแป๊ดรู้สึกทีหลังว่าปกป้องผิดคน
“แต่... / ไม่ต้องพูดแล้วฟังป้านะใบบัว ป้าเอ็นดูหนูมาก เรื่องวันนี้ให้มันผ่านไปแล้วเริ่มใหม่ซะ ป้าไม่อยากให้หนูดับอนาคตตัวเอง...อย่าเล่นกับไฟอย่างคุณไทม์อีกเด็ดขาด”