“อืม~” คุณไทม์ถอนจูบออกช้า ๆ แล้วปลายนิ้วของเขาก็เกลี่ยลงมาที่ปากของฉันเบา ๆ
“...” ฉันจะทำยังไงดีทำไมถูกจูบได้ง่าย ๆ แล้วก็ถี่แบบนี้
แค่คุยกันได้ไม่กี่วันยังโดนจูบจนปากแทบช้ำถ้าคุยกันนานกว่านี้ฉันไม่โดนคุณไทม์ลากขึ้นเตียงเลยเหรอ
“จำไว้คนอย่างฉันไม่เคยลากใครไปข่มขืน ถ้าไม่เต็มใจทั้งสองฝ่ายก็ไม่ทำ ฉันไม่ดับอนาคตตัวเองหรอก”
ฉันจำคำพูดของเขาได้แล้วก็ไม่ได้กลัวด้วยว่าเขาจะลากไปข่มขืนแต่กลัวตัวเองนี่ล่ะจะเต็มใจให้เขาเอง -///-
“เมื่อกี้สำหรับเธอเรียกจูบรึเปล่า” จะเสียงแผ่วทำไมคะ -///-
“...”
“ว่าไง ถ้าไม่ตอบจะทำอีกรอบนะ”
“มะ ไม่เอาแล้วค่ะ พอแล้วอย่าแกล้งบัว” ฉันรีบดันอกเขาทันทีเพราะเขาทำท่าอย่างกับจะขยับมาจูบอย่างครั้ง
“ถ้างั้นก็ตอบมาก่อน”
“คือ...”
“ตอบครับใบบัว” เขากดดันฉันให้ตอบออกมาซึ่งคำตอบมันน่าอายมากเลยนะ เขารู้แต่ก็ยังแกล้งไม่เลิก
“อย่าอย่าแกล้งบัว”
“ไม่ได้แกล้ง”
“...”
“ตอบไหม ไม่ตอบทีกรอบนะเผื่อยังคิดคำตอบไม่ได้”
“มะ ไม่ต้องค่ะ ตอบแล้วค่ะ” ฉันรีบเอนหลังหนีมือก็ดันอกเขาที่โน้มตัวมาหา
“ตอบว่า?”
“...ใช่ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ ไม่กล้าสบตาเขาแม้แต่นิดเดียวทำได้แค่มองมือของตัวเองที่ดันอกเขาไว้
“ฮึ ๆ ๆ พี่ก็ว่างั้น”
“...คะ?” คราวนี้ฉันกล้ามองหน้าเขาแล้วล่ะ จะไม่มองได้ยังไงก็ฉันกำลังทั้งตกใจทั้งงงกับคำพูดของเขา
“มีอะไร?” ยังจะทำหน้าสงสัยอีก เขาก็น่าจะรู้ว่าฉันกำลังเป็นอะไร
“...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ” ช่างมันเถอะเขาแค่พูดผิดไปมั้ง
“แล้วอยากกินอะไร”
“คะ? เอ่อ...อะไรก็ได้ค่ะ” เห็นชวนไปกินข้าวก็นึกว่าเลือกร้านไว้แล้ว แต่ถ้าถามฉันฉันก็ไม่รู้หรอก ไม่สันทัดเรื่องอาหารเท่าไหร่วัน ๆ มีแต่ทำงานแล้วก็กินข้าวกองถ่ายไม่กินข้าวกองถ่ายก็กลับมากินข้าวที่คอนโดเพราะเหนื่อยกับงานอยากเซฟเงินด้วยนาน ๆ พี่จี้จะว่างถึงได้ชวนกันไปหาอะไรอร่อย ๆ กินข้างนอก
“อะไรก็ได้แล้วมันอะไรล่ะ เราไม่เลือกพี่ก็ไม่รู้ว่าอยากกินอะไร”
“...” พี่อีกแล้ว คราวนี้ไม่เรียกชื่อฉันด้วย เขา...เขาแทนตัวแบบนี้ฉันอาจจะละลายได้นะคะ
“เป็นอะไรทำไมเอาแต่เงียบ” เขารู้ว่าฉันเป็นอะไรไม่งั้นตอนที่ถามเขาไม่ยิ้มขำหรอก
“คุณไทม์...” อึดอัด อยากพูดออกไปว่าเป็นเพราะเขาแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
“มันดูแปลกเหรอที่แทนตัวเองว่าพี่ พี่ว่าแทนตัวว่าฉันเวลาคุยกับเรามันดูแปลกกว่าอีกนะ โคตรอึดอัด” ท่าทางดูสบาย ๆ ที่พูดออกมายิ่งทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก
ก็เคยรู้สึกแปลก ๆ เกร็งแล้วก็ดูห่างไกลอยู่หลายครั้งเวลาเขาแทนตัวว่าฉัน แต่ก็ได้ยินจนชินพอเขาแทนตัวด้วยคำธรรมดาแต่มันไม่ธรรมดาสำหรับความรู้สึกฉันก็เลยทำตัวไม่ถูก
“ก็...ก็ไม่แปลกมั้งคะบัวแค่ไม่ชิน” สตินะใบบัว แกต้องแฮฟสติเข้าไว้
“เดี๋ยวก็ชิน แล้วเราอยากกินอะไร”
“บัวไม่รู้จริง ๆ ค่ะ” เขาชวนเปลี่ยนเรื่องเลยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจคลายตัวได้นิดหน่อย แต่แค่นี้ก็รู้สึกหายใจสะดวกกว่าเดิมแล้ว
“ไม่รู้ได้ไง ทำงานมาทั้งวันยังไงก็ต้องรู้สึกหิวอะไรบ้าง หิวอะไรพูดมา บอกแค่เมนูก็ได้เดี๋ยวพี่หาร้านเอง”
“...” คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าหิวอะไรเพราะเขาทำให้หายหิวไปนานแล้ว
“ว่าไงครับ”
“บัวคิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะ อีกอย่างก็ไม่มั่นใจว่าออกไปข้างนอกจะมีคนจำคุณไทม์ได้ไหม”
“ฮึ ๆ ๆ ใครจะมาจำได้พี่ไม่ใช่ดารา ส่วนเราก็เพิ่งเข้าวงการยังมีคนรู้จักไม่เยอะหรอกยังไงก็ไปได้”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ พี่ให้เวลาห้านาทีบอกมาว่าอยากกินอะไรถ้าไม่บอกพี่จะขึ้นห้องเราแล้วสั่งอาหารตามสั่งขึ้นไปกินข้างบนแทน”
“ไม่ได้นะคะ” ไม่ใช่ห้องฉันแต่มันเป็นห้องของพี่จี้จะให้เขาขึ้นไปได้ยังไงล่ะ”
“ถ้าไม่ได้ก็บอกมาว่าอยากกินอะไร”
“บัว...บัวคิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะ” ฉันพูดจริง ๆ นะ เขาทำให้ตื่นเต้นจนหายหิวไปนานแล้ว หายหิวตั้งแต่รอเขาบนห้องด้วยซ้ำ
“คิดไม่ออกเลย?” เขาจ้องหน้า จ้องแบบจ้องเขม็งเลยตอนที่ถามฉันก็ได้แค่ส่ายหน้าเพื่อยืนยันว่าคิดไม่ออกจริง ๆ
“คิดไม่ออกจริง ๆ ค่ะ”
“โอเคถ้าคิดไม่ออกพี่คิดแทนเลยนะ”
“ค่ะ” แบบนี้ล่ะค่ะดีเลยเพราะถ้าให้ฉันคิดบางทีเมนูที่ฉันอยากกินเขาอาจจะเกินไม่อยากกินหรือไม่ก็กินไม่ลงเลยก็ได้
“ถ้างั้น...กินพี่ดีไหม~”
“คะ? มะ ไม่เอาหรอกค่ะ คุณไทม์อย่าเล่นสิคะเลือกมาเลยเดี๋ยวรถติดนะ”
“ฮึ ๆ ๆ เล่นอะไรพี่ไม่ได้เล่น พี่จะให้เรากินพี่จริง ๆ”
“...บ้า!” ตอนคุยกันทุกวันเขาไม่มีท่าทีแสดงความหื่นหรือแกล้งเรื่องอะไรแบบนี้เลยนะแต่พอเจอกันเขาดันเป็นแบบนี้ได้ยังไง -///-
“ฮึ ๆ ๆ ล้อเล่น ไป ไปกินอะไรอร่อย ๆ กันดีกว่าพี่คิดออกแล้วว่าจะพาใบบัวไปกินอะไร”
“อะไรคะ”
“...ความลับค่ะ”
“...” บ้าจัง ไม่เคยชอบผู้ชายพูดคะขาเลยแต่พอเขาพูดฉันดันชอบมาก ชอบจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกหลุมรักไปแล้ว
...ฉันใกล้จะตกหลุมรักเขาเข้าแล้วจริง ๆ
-สองเดือนต่อมา-
(คิดถึง)
“...”
(ได้ยินรึเปล่า)
“...ได้ยินค่ะ”
(แล้วคิดถึงพี่ไหม)
“...”
(ว่าไง)
“...เดี๋ยวคงได้เจอกันมั้งคะ”
(ฮึ ๆ ๆ อะไรครับพี่ถามว่าคิดถึงพี่รึเปล่า คิดถึงพี่เหมือนที่พี่คิดถึงใบบัวไหมคะ)
“คุณไทม์กินข้าวรึยังคะ” ใครจะไปตอบได้ล่ะก็รู้ดีว่าถ้าเป็นเขาฉันจะขี้อายมากแค่ไหน
(อย่าเปลี่ยนเรื่อง)
“ก็...ก็เหมือนกันมั้งคะ”
(เหมือนกันมั้งคะ?)
“ก็เหมือนกันนั่นล่ะค่ะ” ชอบจี้ให้ตอบอะไรที่อายตลอดเลย ดีนะที่มีคิวถ่ายละครเยอะมากเลยไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ ฉันเลยไม่โดนเขาแกล้งเวลาอยู่ด้วยกันแต่ก็คิดถึงมากเหมือนกันนะ
(เหมือนกันนั่นล่ะค่ะคืออะไรล่ะคะ)
“ก็คิด...ก็คิดถึงไงคะ” ฟู่ว! เป็นคำพูดง่าย ๆ ที่ไม่ง่ายเลยนะ
(ฮึ ๆ ๆ ก็แค่นั้น คิดถึงกันก็บอกว่าคิดถึงไม่เห็นจะยากเลยครับใบบัว) ใครบอกไม่ยาก สำหรับคนอื่นอาจไม่ยากแต่มันยากมากสำหรับฉันเลยนะการพูดสิ่งที่ตรงกับใจให้เขาฟังยากกว่าเข้าฉากเลิฟซีนต่อหน้าคนในกองถ่ายประมาณร้อยเท่าซะอีก
“บัวไม่ใช่คุณไทม์นี่คะ”
(ก็จริงเพราะพี่หล่อส่วนเรา...สวย)
“...” ผู้ชายหล่อมากชมว่าสวยต้องทำยังไงดีคะ >///<
(ไม่ได้เจอกันสามอาทิตย์แล้ว คิดถึงนะใบบัว)
“ค่ะ” รู้แล้วค่ะไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ว่าคิดถึงเพิ่งท่องบทไปเดี๋ยวลืมบทหมดพอดี
เราไม่ได้เจอกันสามอาทิตย์อย่างที่เขาพูดนั่นล่ะแต่ถ้าจะให้ถูกต้องสามอาทิตย์กับอีกสามวันต่างหาก
(พรุ่งนี้ต้องไปถ่ายละครต่างจังหวัดใช่ไหม)
“ค่ะ” แล้วก็จะต่อไปอีกหนึ่งเดือนเพราะยกกองไปถ่ายที่โลเคชั่นต่างจังหวัดทั้งเดือนเลย
...เศร้า
(ไปหนึ่งเดือนใช่ไหม)
“ค่ะ”
(อีกเป็นเดือนเลยกว่าจะได้เจอกัน)
“ค่ะ” รวม ๆ แล้วก็เกือบสองเดือนเลยสินะที่เราจะไม่ได้เจอกัน
(คิดถึงแย่เลย จะคิดถึงพี่รึเปล่า)
“...” คิดถึงสิใครจะไม่คิดถึงกันล่ะ
(อ่าส์~ อีกตั้งหนึ่งเดือนนานเกินไปรึเปล่า)
“เดือนเดียวเองค่ะ” ฉันพูดเหมือนไม่คิดอะไรแต่ความจริงแล้วก็เซ็ง ๆ เหมือนกัน อยากเจอเขาทุกวันแต่ไม่มีเวลาว่างตรงกันเลย สามอาทิตย์สหรับคนกำลังตกหลุมรักมันนานอย่างกับสามชาติ
(วันเดียวก็นานแล้ว)
“ฮ่า ๆ ๆ แล้วจะทำยังไงล่ะคะไม่ว่างกันทั้งคู่”
(เราไม่ว่างคนเดียวต่างหาก ส่วนพี่ว่าง)
“ว่างคนเดียวก็เท่ากับไม่สะดวกเจอกันนะคะ”
(สะดวกสิถ้าพี่ตามไป)
“คะ?” ตามไปในความหมายของเขาคืออะไร อย่าบอกนะว่าจะตามไปที่กองที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่หรอกมั้ง
(เดี๋ยวไปหา)
“คะ? ล้อเล่นใช่ไหมคะ”
(ใครจะไปล้อเล่นคิดถึงขนาดนี้)
“...”
(รอพี่นะ...พี่มีอะไรจะเอาไปฝาก)