(รอพี่นะ...พี่มีอะไรจะเอาไปฝาก)
มาถ่ายละครต่างจังหวัดสองอาทิตย์แล้ว แล้วก็รอมาสองอาทิตย์แล้วด้วยไม่เห็นจะมาหาสักทีเลย
เหอะ!
ปล่อยให้รอแล้วก็ไม่พูดอะไรเลย ส่งข้อความหาโทรหาทุกวันแต่ไม่เคยพูดถึงเรื่องที่จะมาหาอีกเลยนะคะ
ตอนนั้นอารมณ์พาไปรึเปล่านะ อารมณ์อยากแกล้งให้อีกคนคิดถึงแล้วก็รอคอยเขามาก ๆ
ฮึ!
ไม่มาก็ไม่ต้องมาเดี๋ยวคอยดูจะเล่นตัวบ้าง คิดว่าจะแคร์มากเหรอ? ไม่เลยไม่ได้แคร์อะไรขนาดนั้นสักนิด!
ฉันคิดไปก็เผลอยักไหล่ข้างหนึ่งไปด้วยอย่างกับว่าเขาอยู่ตรงหน้าแล้วก็อยากแสดงออกให้เขารู้ว่าฉันไม่แคร์จากนั้นก็พาตัวเองเดินเข้าห้องน้ำจะได้อาบน้ำสวดมนต์แล้วก็นอนพักผ่อนสักที
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ตึง ๆ ๆ
หมับ!
...พี่จี้
“...”
ก็ไม่ได้หวังให้เป็นเขาโทรมานะคะเพราะเขาโทรมาแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนถึงจะโทรมาแค่ห้านาทีแล้วก็เป็นการโทรครั้งที่สองของวันทั้งที่ปกติโทรไม่ต่ำกว่าห้ารอบก็ตามเถอะแต่ที่รีบวิ่งมาเพราะจะรีบมารับสายแล้วจะได้ไปอาบน้ำมาสวดมนต์แล้วนอนพักผ่อนเร็ว ๆ ไง
ติ๊ด!
“ค่ะพี่จี้”
(เป็นไงบ้างจ้ะคุณใบบัว~)
“พี่จี้ก็ เรียกซะ ดีค่ะ วันนี้ซีนยากแต่ทำได้ค่ะ”
(ไม่โดนด่าใช่ไหม)
“ไม่ค่ะ ผู้กำกับชมว่าเล่นดีมาก คนอื่นก็ชมค่ะ” ฉันเล่าให้พี่จี้ฟัง คิดถึงเหตุการณ์วันนี้อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเลยเพราะเป็นฉากที่ต้องเล่นกับดารารุ่นใหญ่หลายท่าน เป็นซีนอารมณ์ที่ฉันต้องระเบิดอารมณ์หนัก ๆ อยู่คนเดียว ตอนอ่านบทครั้งแรกทั้งฉันแล้วก็พี่จี้เครียดมากกับซีนนี้เพราะถ้าเล่นดีก็เกิดแน่นอนแต่ถ้าเล่นไม่ถึงก็ต้องไปเสี่ยงดวงเอาว่าจะรุ่งหรือจะร่วง
(เก่งมาก~ แต่ฉันก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าหล่อนทำได้)
“ลูกสาวที่แม่จี้ขายควายส่งไปเรียนการแสดงซะขนาดนี้จะทำไม่ได้ได้ยังไงล่ะคะ”
(ย่ะ! ทำให้ดีแล้วก็น่ารักแบบนี้ตลอดนะใบบัว มีแต่คนชมแกให้เจ้ฟังถ้าวันหน้าดังขึ้นมาก็อย่าลืมความน่ารักของตัวเองวันนี้)
“ค่ะ บัวไม่ลืมตัวหรอกค่ะคุณแม่สบายใจได้”
(ย่ะ เออแล้วฉันก็ขอโทษหล่อนด้วยนะที่ฉันไม่ได้ไปดูแลเลย)
“ไม่เป็นไรพี่จี้ พี่จี้มีเด็กในสังกัดต้องดูตั้งหลายคน ทางนี้บัวว่าบัวเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วค่ะ บัวมาถ่ายงานคนเดียวได้ไม่ต้องห่วงนะคะ”
(เออ ๆ ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจถ้างั้นพักผ่อนเถอะฉันไม่กวนแล้ว)
“ค่า~ ฝันดีนะคะคุณแม่~”
ติ๊ด!
ฉันวางสายจากที่จี้แล้วก็เดินไปอาบน้ำต่อ เที่ยงคืนแล้วไม่มีใครโทรมาแล้วล่ะรีบเข้านอนดีกว่า
“ฮ้าว~” ฉันสวดมนต์ล้มตัวลงนอนแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาเพราะจะตั้งนาฬิกาปลุกแต่ดันเห็นแจ้งเตือนข้อความที่หน้าจอ
คุณไทม์ส่งข้อความมาเหรอ? จริงสิตั้งแต่อาบน้ำเสร็จยังไม่ได้หยิบโทรศัพท์เลยสงสัยส่งมาตอนอาบน้ำมั้ง
Time : คิดถึง
“เหอะ!”
ติ๊ด!
ฉันแค่นเสียงแล้วก็เบะปากใส่หน้าจอ หมั่นไส้ คิดถึงแต่ไม่มาถึงอย่างที่เคยบอกสักที เหลือเวลาอีกแค่สองอาทิตย์ก็จะกลับกรุงเทพแล้วสงสัยคงไม่ได้เจอกันสองเดือนอย่างที่คิดไว้จริง ๆ
ช่างเถอะ ไม่มาก็ไม่มา ก็แค่คนที่กำลังคุยกันไม่ได้เป็นอะไรกันมากกว่านี้สักหน่อย
Baibua : ค่ะ บัวจะเข้านอนแล้วนะคะ
Time : จะนอนแล้วเหรอ?
Baibua : ค่ะ
Time : โอเคพี่ไม่กวนแล้ว
Baibua : ค่ะ
“...” ฉันมองหน้าจอจนเวลาผ่านมาประมาณห้านาทีได้มั้ง
ไม่ส่งไม่ตอบอะไรกลับมาเลยเหรอ? เออช่างเถอะ แค่คนคุยท่องไว้ใบบัว ถูกใจก็ไปต่อไม่อินเมื่อไหร่ก็เซย์กูดบาย แต่ขอให้เซย์เถอะนะอย่าหายไปเฉย ๆ แบบงง ๆ ก็พอเพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงติดอยู่กับคำถามในใจว่าฉันทำพลาดตรงไหนเขาถึงไม่อยากคุยกันต่อ
แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ทั้งหายไปเฉย ๆ หรือเอ่ยคำลาหรอกนะ ฉันรู้สึกไปแล้วก็อยากพัฒนาให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นและถ้าเป็นไปได้ถ้าไม่หวังสูงเกินไปก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรู้สึกดีมากไปนาน ๆ
#BAIBUA END
#TIME TALK
“นั่งยิ้มอะไรของมึงวะไอ้ไทม์”
“อยากรู้ทำไมวะ ปกติไม่เห็นเสือกเรื่องของกู”
“กูจะไม่เสือกถ้ามึงไม่ทำหน้าตาชั่ว ๆ แบบนี้”
“ฮึ ๆ ๆ ไอ้คนดี”
...olo
ไอ้กายเพื่อนรักของผมชูนิ้วกลางให้ตอนผมชมมันว่าเป็นคนดี แต่มันก็ดีจริง ๆ นั่นล่ะ เป็นคนดีคนหนึ่งไม่งั้นคนดี ๆ อย่างผมไม่คบมันเป็นเพื่อนรักหรอก ฮึ ๆ ๆ
“แล้วตกลงพรุ่งนี้มึงว่างไหม”
“ไม่ว่ะกูมีธุระต้องไป”
“อืม” มันพยักหน้ารับส่วนผมก็ยกเหล้าขึ้นมาจิบแล้วพิมพ์ข้อความคุยธุระไปด้วย
พรุ่งนี้ผมมีธุระต้องทำแล้วผมก็ต้องทำมันให้สมบูรณ์เพอร์เฟ็คที่สุด ไม่ว่ายังไงก็ต้องสมบูรณ์เพอร์เฟ็คที่สุดเพราะผม...รอมานานมากแล้ว
-วันต่อมา-
“เอาล่ะเด็ก ๆ จ๋า~” เสียงป้าแป๊ดผู้จัดละครเรื่องนี้ดังขึ้นตอนช่วงค่ำที่อาหารของกองยังมาไม่ถึงแล้วพวกเราหลายคนก็เริ่มหิวกันมากแล้ว
วันนี้ถ่ายครบทุกซีนตั้งแต่หนึ่งทุ่มแต่ตอนนี้จะสองทุ่มแล้วอาหารยังไม่มาเลย ถ่ายละครมาทั้งวันเหนื่อยกันมาก ยิ่งเหนื่อยมากก็ยิ่งหิวมากแต่วันนี้อาหารกองถ่ายแสนอร่อยที่ปกติมาก่อนเวลาเสมอดันมาช้าอย่างไม่รู้สาเหตุ
“วันนี้อาหารมาช้าหน่อยป้าขอโทษนะจ้ะ แต่ที่อาหารมาช้าเป็นเพราะว่าวันนี้มีคนใจดีสั่งอาหารชุดใหญ่มาเลี้ยงกองของเราจ้ะ” เสียงป้าแป๊ดคุยกับทุกคนในกองดังมากแล้วทุกคนก็ตั้งใจฟังฉันก็เหมือนกันแล้วก็ได้ใจความว่าวันนี้มีอาหารมาเลี้ยงกองถ่ายเป็นพิเศษ พิเศษแบบพิเศษใส่ไข่เพราะพรุ่งนี้พักกองหนึ่งวันวันนี้เลยจัดอาหารชุดใหญ่กับเครื่องดื่มมาให้ทุกคนในกองดื่มกินกันได้อย่างเต็มที่เป็นปาร์ตี้ย่อม ๆ ทำให้คนในกองโดยเฉพาะทีมงานเฮโลกันใหญ่
“เอาล่ะ ๆ อาหารพร้อมแล้วแต่ว่าก่อนที่จะไปกินข้าวป้าขอขอบคุณสปอนเซอร์ที่ใจดีม๊ากมากแล้วก็หล่อม๊าก~ มาก~ ของพวกเราก่อน ขอบคุณคุณไทม์ค่า~” เสียงป้าแป๊ดดังมากพอพูดชื่อสปอนเซอร์จบก็ชูมือสองข้างไปด้านหนึ่งแล้วคนที่ป้าแป๊ดขอบคุณก็เดินยิ้มออกมา
...คุณไทม์?
ก็ไหนเมื่อตอนเย็นส่งข้อความมาบอกว่าเย็นนี้จะไปกินข้าวกับคุณลดาแม่ของเขาไงแล้วโผล่มาที่นี่ได้ยังไง?
“สวัสดีครับ ทานให้เต็มที่เลยนะครับ” เขาพูดแค่นี้ ยิ้มแล้วก็ก้มหัวให้ทุกคนที่ขอบคุณเขากันยกใหญ่โดยที่เขาแอบมองมาที่ฉันพอให้เราได้สบตากันแล้วฉันก็เห็นรอยยิ้มมุมปากของเขาชัดเจน
หลอกกันเหรอ? จะมาเซอร์ไพรส์กันก็ไม่บอกเลยนะคุณไทม์!
-///-
แต่ถ้าบอกเขาจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ยังไง
“อ่าส์~ ไร้สาระว่ะ จะเอาอาหารมาเลี้ยงกองไม่รู้จักเอามาเร็ว ๆ ปล่อยให้คนทำงานเขารอกันทำไม”
“คะ?” เสียงที่ฟังดูไม่พอใจเท่าไหร่ดังมาจากด้านซ้ายของตัวฉันพอหันไปก็เห็นพี่แท็คมายืนข้าง ๆ แล้วมองไปด้านหน้าตรงที่คุณไทม์ยืนคุยกับป้าแป๊ดแล้วก็ผู้กำกับ
“หิวไหม? ไปกินข้าวกันดีกว่า วันนี้ถ่ายละครหนักกันทุกคนเหนื่อยน่าดูจะได้รีบไปพักผ่อน”
“...ค่ะ” ฉันปฏิเสธไม่ได้เพราะที่ยืนตรงนี้ก็มีแค่สามสี่คนเลยต้องเดินไปกินข้าวพร้อมพี่แท็คระหว่างเดินฉันก็รู้สึกได้ถึงสายตาอำมหิตจากใครบางคน
ติ๊ง!
Time : ต่อหน้าต่อตา
เดินมานั่งโต๊ะกินข้าวได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีฉันก็ได้ข้อความจากเขา
Baibua : ไม่มีอะไรค่ะ
Time : ก็ลองมีสิ
Baibua : จะมาก็ไม่บอก
ฉันตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องไปเลย อยากหันไปมองว่าเขากำลังมีสีหน้ายังไงแต่อย่าดีกว่าเดี๋ยวมีคนสังเกตเห็นอาการของฉัน
Time : พี่ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ แต่เราทำพี่อารมณ์ไม่ดี
Baibua : บัวไม่ได้เดินจับมือใครมากินข้าวนะคะ
Time : แค่มันมายืนข้าง ๆ พี่ก็ไม่ชอบ
Baibua : บัวไม่ได้ไปยืนข้างใครก่อนซะหน่อย
ฉันพยายามไม่เจาะจงพี่แท็คแค่คนเดียวพยายามพูดให้มันกว้าง ๆ เข้าไว้เพราะรู้สึกเกรงใจพี่แท็คมากที่โดนว่าถึงพี่เขาจะไม่รู้ก็ตาม
Time : เราโดนทำโทษแน่ใบบัว
Baibua : คะ?
ทำโทษอะไรก็เพิ่งพิมพ์อธิบายไปว่าฉันไม่ได้ไปยืนข้างใครก่อนซะหน่อยส่วนใครจะมายืนข้างฉันอันนั้นมันเป็นเรื่องที่ฉันห้ามไม่ได้
Time : กินข้าว
Baibua : ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย
Time : กินข้าว
เขาส่งคำเดิมมาสองรอบฉันก็เลยไม่ตอบอะไรกลับไปอีกนอกจากเดินไปตักอาหารด้วยความเซ็ง
เขาสั่งอาหารมาแบบบุฟเฟ่ต์เยอะมากมีเครื่องดื่มไม่อั้นไม่รู้ว่าเขามาจัดอาหารกันไว้ตอนไหนแต่มันเยอะอย่างกับปาร์ตี้แล้วก็เยอะอย่างกับจะเอามาทำให้คนทั้งงานเมาเลยล่ะ
“อาหารเป็นไงบ้างครับ ผมไม่รู้ว่าอร่อยไหมแต่เพื่อนแนะนำมาว่ามาที่นี่ต้องร้านนี้” ฉันกำลังกินข้าวเงียบ ๆ ฟังนักแสดงคนอื่นคุยกันบ้างก็มีเสียงของเขาดังขึ้น
“อ้าวคุณไทม์ อาหารอร่อยมากค่ะพี่กินไปเยอะเลย คุณไทม์นั่งด้วยกันสิคะเชิญค่ะ ๆ” ฉันหันไปมองเขาที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือฉันนิดหน่อยส่วนพี่ ๆ นักแสดงก็ทักทายเขา พี่นีน่าก็รีบเชิญให้เขานั่งที่เก้าอี้ว่างที่ยังไม่มีใครนั่งแถมยังเหลือแค่ตัวเดียวที่อยู่ข้างพี่นีน่าซึ่งมันอยู่ฝั่งตรงข้ามฉันพอดี
“ขอบคุณครับ” เขาพูดแล้วก็คงเดินไปนั่งล่ะมั้ง
ครืด~
ขวับ~
ฉันคิดว่าเขาจะไปนั่งตรงเก้าอี้ว่างตัวนั้นซะอีกแต่เขาดันขยับเก้าอี้ตัวข้างฉันที่เป็นของพี่แท็คแล้วนั่งลงหน้าตาเฉย
ก็ใช่ที่เก้าอี้ข้างฉันมันว่างแต่มันมีจานข้าววางอยู่นะคะซึ่งก็หมายความว่าไม่ว่างแต่เขากลับนั่งหน้าตาเฉย
นี่อย่าบอกนะว่าเขาจงใจเดินมาตอนที่พี่แท็คลุกไปเข้าห้องน้ำพอดี ร้ายที่สุดเลย
“เอ่อ...” พี่นีน่าก็ดูเก้อ ๆ ที่เขานั่งเก้าอี้พี่แท็คแต่จะบอกให้เขาเปลี่ยนก็คงไม่กล้าพี่อีกคนเลยยิ้มพยายามทำสถานการณ์ให้ดีขึ้นแล้วหยิบจานของพี่แท็คยื่นให้พี่นีน่า
“เดี๋ยวพี่ไปหยิบจานมาให้คุณไทม์นะคะ”
“ขอบคุณครับพี่จิน แล้วการถ่ายทำเป็นยังไงกันบ้างครับ ป้าแป๊ดวีนใส่เยอะรึเปล่า” เขาพยักหน้าขอบคุณแล้วก็ชวนทุกคนคุยแบบเป็นกันเองมากโดยที่เขาไม่ได้หันมามองฉันที่นั่งเกร็งเลย
“อ้าวแท็ค มา ๆ มานั่งนี่มา” เสียงพี่คนหนึ่งดังขึ้นระหว่างที่คุณไทม์กำลังคุยกับทุกคนการสนทนาเลยหยุดลงแล้วทุกคนก็หันไปมองพี่แท็คที่เดินกลับมาแล้วก็กำลังมองคุณไทม์อยู่สายตาพี่แท็คทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลย
“...ครับ” พี่แท็คเดินไปนั่งด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่สายตาก็เอาแต่มองมาที่คุณไทม์บรรยากาศบนโต๊ะเริ่มเปลี่ยนไป ฉันไม่ได้คิดไปเองนะเพราะคนอื่นก็ดูเงียบ ๆ ไปเหมือนกัน
“อาหารอร่อยไหม”
“คะ?” อะไรอยู่ ๆ ก็หันมาคุยกับฉันทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มองกันเลยด้วยซ้ำ ความเกร็งกำลังบังเกิดเพราะบรรยากาศในโต๊ะเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้ทุกคนก็น่าจะกำลังสนใจการคุยกันระหว่างฉันกับคุณไทม์แน่ ๆ
“อาหารอร่อยรึเปล่า”
“...อร่อยค่ะ” ใจเย็น ๆ ใบบัว ทำให้เหมือนคุยกับคนรู้จักทั่วไปก็พอ
“ถ้าอร่อยก็กินเยอะ ๆ พี่ไม่ค่อยเห็นกินอะไรเลย”
“...ค่ะ” ฉันเกร็งยิ่งกว่าตอนที่ถ่ายละครฉากแรกในชีวิตซะอีก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าทุกคนบนโต๊ะกำลังมองมาที่เราสองคน
“ทุกคนด้วยนะครับ ทานกันให้เยอะ ๆ เสร็จแล้วจะได้ปาร์ตี้กันต่อ”
“ปาร์ตี้? ปาร์ตี้อะไรเหรอคะคุณไทม์” พี่นีน่าเป็นคนถามขึ้นฉันก็อยากรู้เหมือนกัน
“ปาร์ตี้ฉลองพักกองพรุ่งนี้ไงครับ อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวนักดนตรีก็มา” เขาตอบด้วยรอยยิ้มแต่แค่นี้ก็ทำให้ทุกคนแฮปปี้กันแล้วล่ะจะเว้นก็แค่พี่แท็คที่นั่งหน้าตึงอยู่ฝั่งตรงข้าม
-เวลาต่อมา-
“ทุกคนดูเมากันหมดเลยนะคะ~” มีนักดนตรีมาอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ผ่านมาชั่วโมงกว่า ๆ ทุกคนในกองถ่ายก็เริ่มไม่เหมือนเดิมไม่เว้นแม้แต่พี่แท็คที่โดนพี่นีน่าคะยั้นคะยอให้ดื่มจนเมา มีแค่ฉันนี่ล่ะที่เหมือนเดิมเพราะยังนั่งอยู่ที่เดิม อ้อ! คุณไทม์ก็เหมือนกันเขายังนั่งอยู่เก้าอี้ตัวเดิมข้างฉันนี่ล่ะ
“ฮึ ๆ ๆ ก็ใช่”
“ดีนะบัวไม่เมา~” ฉันไม่เมาหรอก ไม่เมาจริง ๆ ก็แค่โลกหมุนนิด ๆ กับเสียงเปลี่ยนหน่อย ๆ
“จริงเหรอ?”
“จริงสิคะ~ ฮ้าว~ บัวว่าบัวไปนอนดีกว่า~” ฉันรู้ลิมิตของตัวเองดี ตอนนี้เริ่มกรึ่ม ๆ แล้วเพราะฉะนั้นฉันควรไปนอนก่อนที่ความสนุกจะทำให้เมาจริง ๆ
“ง่วงแล้ว?”
“ค่ะ”
“พี่ไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ~ เดี๋ยวมีคนเห็น”
“กลัวเหรอ?”
“กลัวสิคะ”
“ฮึ ๆ ๆ โอเค ถ้างั้นเดินกลับดี ๆ พี่จะไปเข้าห้องน้ำแล้วกัน”
“ค่ะ~” ฉันพยักหน้าตกลงแล้วก็ลุกขึ้น แอบเซนิดหน่อยแต่ไม่เมาหรอก ฉันไม่เมาจริง ๆ แค่เกือบเมาก็แค่นั้น แหะ ๆ
ห้องพักอยู่ไม่ไกลฉันเดินไปคนเดียวได้เพราะถ้าไปส่งอาจจะมีคนเอาไปนินทาได้ ฉันค่อย ๆ เดิน ประคองสติตัวเองเอาไว้จนสุดท้ายก็ถึงห้องพักอย่างปลอดภัย
“ฮ้าว~” ง่วงแล้วล่ะเข้าห้องอาบน้ำนอนเลยดีกว่า
“ใบบัว”
“อุ้ย! คุณไทม์! ตกใจหมดเลยค่ะ!” ฉันอุทานด้วยความตกใจ ดีนะที่หันไปแล้วเป็นเขาแต่ฉันก็พยายามพูดให้เบาที่สุด ไม่รู้ว่ามีใครอยู่แถมนี้ไหม
“ฮึ ๆ ๆ ขวัญอ่อน?”
“ไม่ขวัญอ่อนก็ตกใจได้ค่ะมาแบบนี้ มาทำไมคะ” จากตอนแรกกรึ่ม ๆ ฉันก็เกือบจะสร่างไปเลย
“มาส่ง”
“มาส่ง?”
“ใครจะปล่อยให้เดินกลับคนเดียว พี่แอบเดินตามมาส่งห่าง ๆ” สีหน้ากับน้ำเสียงอ่อนโยนจนฉันแทบละลายเลยรู้ไหม
“ขอบคุณนะคะ” มีอีกคนคอยห่วงใยมันดีเนอะ รู้สึกชีวิตมีพลังขึ้นเยอะเลย
“ครับ”
“ถ้างั้นบัวเข้าไปพักผ่อนแล้วนะคะ” อยู่กันสองต่อสองดึกดื่นแบบนี้แถมยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วยฉันแอบคิดถึงจูบของเราเลย ไม่ได้จูบกันนานแล้วเนอะ -///-
“อื้ม”
“...ค่ะ” ยังมีอะไรอยากคุยด้วยหลายอย่างแต่มันก็ดึกแล้วสุดท้ายเลยต้องจำใจแยกย้ายกันไปพักผ่อนสินะ
ฉันยิ้มแล้วก็หันหลังเพื่อเปิดประตูห้องพักแต่ตอนที่กำลังบิดลูกบิดประตูก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นจากด้านหลัง
หมับ~
“ขะ คุณไทม์...” เขากอดฉันจากด้านหลังแล้วก็เอาคางมาเกยไหล่จนรู้สึกสยิวที่ต้นคอ
“คิดถึง~”
“เอ่อ...”
“พี่คิดถึงเรามากนะใบบัว” เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู ลมหายใจปะทะทั้งใบหู ต้นคอแล้วก็แก้มจนรู้สึกร้อนผะผ่าวไปหมด
“...บัวรู้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาหา” ฉันสั่นสะท้านกับสัมผัสของเขา ไหนจะกรึ่ม ๆ นิดหน่อยด้วยเลยรู้สึกวูบไหวแปลก ๆ
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นคุยกันก่อนได้ไหม พี่คิดถึง อย่าเพิ่งนอนนั่งคุยกับพี่ก่อนได้รึเปล่า”
“มันไม่สะดวกน่ะสิคะเดี๋ยวมีคนเห็น” ฉันก็อยากคุยกับเขาแต่เราจะคุยกันยังไงในเมื่อตอนนี้มันดึกแล้ว
กริ๊ก!
“คุยในนี้ไงไม่มีใครเห็นหรอก~”