“อะไรนะ?”
“...ฉันท้องค่ะ”
“ท้อง...เธอท้องเหรอใบบัว”
“...ค่ะ”
“ลูกใคร?”
“...” เชื่อไหมว่าฉันไม่แปลกใจที่ต้องได้ยินคำพูดนี้สักนิด
“ตาไทม์! ทำไมแกถามผู้หญิงได้ทุเรศแบบนี้!”
คนที่มันเห็นแก่ตัวตั้งแต่แรก ได้ยินเขาพูดจาเอาตัวรอดอยู่คนเดียวก็หลายครั้งหลายคำไม่แปลกที่เขาจะถามว่าลูกใคร ถ้าไม่เกรงใจคุณลดาฉันคงตอกกลับชัด ๆ ตั้งแต่ได้ยินวินาทีแรกว่า...ลูกมึง
“ทำไมจะถามไม่ได้ล่ะแม่ในเมื่อผมอยากรู้ ผมนอนกับผู้หญิงคนนี้แค่ครั้งเดียวมันไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้นผมก็ต้องถามสิครับเผื่อไม่ใช่ลูกผม”
“ตาไทม์!”
“แม่อย่าเพิ่งตะคอกครับ ผมไม่เคยไม่ระวังตัวเองครับแม่ ผมนอนกับดาราในช่องแม่ตั้งหลายคนแม่ก็รู้ไม่เห็นมีใครคิดจะจับผมด้วยการเดินมาบอกว่าท้องเลยสักคน”
...สารเลว!
“แกคิดว่าแม่ไม่รู้เหรอว่าแกไปทำอะไรไว้ แม่รู้ทุกอย่างนะตาไทม์ว่าแกไปหลอกเขา”
“เธอบอกแม่ฉันเหรอใบบัว?” เขาหันมาถามแต่ฉันไม่ได้ตอบอะไร เงียบดีกว่าเพราะสิ่งที่แม่เขาพูดเมื่อกี้ฉันก็เพิ่งได้ยินเหมือนกัน
“เขาไม่ได้บอกฉันหรอกแต่ฉันรู้ทุกอย่าง แกคิดว่าการที่แม่ไม่พูดแล้วแม่จะปิดหูปิดตาตัวเองเหรอตาไทม์?”
“...ไม่ใช่ลูกผม” เขาเงียบไปพักหนึ่งมองหน้าแม่ตัวเองแล้วตอบออกมาด้วยเสียงที่หนักแน่นมาก
ฮึ! ไม่ใช่ลูกผม ถึงจะเว้นระยะการตอบกลับแม่ตัวเองไปบ้างแต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ชัดเจนมากว่าเขาตอบด้วยความมั่นใจ
ไม่ใช่ลูกเขางั้นเหรอ? นี่เขาคิดว่าเวลาผ่านไปแค่สองเดือนกว่า ๆ ฉันที่เพิ่งเสียตัวครั้งแรกจะไปนอนกับคนอื่นต่อจนปล่อยให้ตัวเองท้องเลยรึไง
เขาคิดว่าคนอื่นจะนอนกับคนที่ไม่ได้รักได้ง่ายเหมือนเขาเหรอคะ? ทุเรศสิ้นดี
“ใช่หรือไม่ใช่ตอนคลอดก็รู้เองค่ะ” ฉันไม่แคร์คำพูดของเขามากมายหรอก โกรธที่เขาดูถูกแต่ไม่แคร์ว่าเขาจะคิดยังไงสิ่งที่ฉันแคร์คือตัวฉันต้องรอด อนาคตฉันพังส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบ
“อยากได้เท่าไหร่”
“ตาไทม์” เขาถามฉันด้วยคำถามเย็นชาดูถูกกันทำให้แม่เขาต้องเรียกชื่อเขาด้วยเสียงที่แข็ง น่าจะต้องการปรามลูกชายไม่ให้พูดจาทุเรศไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายกับผู้หญิง
“จะเอาเท่าไหร่จะจ่ายให้ แต่ต้องเซ็นต์สัญญานะว่าได้แล้วจะจบ”
“ไม่เอาค่ะ...ยังไม่เอาตอนนี้” ฉนเอาแน่แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เขาเอาเศษเงินของเขามาฟาดหัวแล้วตัวเองก็ไปสนุกสนานต่อหรอก
“ถ้างั้นก็กลับไป ถ้ามั่นใจว่าลูกฉันหลังคลอดค่อยตรวจดีเอ็นเอแล้วถึงตอนนั้นค่อยมาคุยกันว่าจะเอาเท่าไหร่”
“ตาไทม์! ทำไมแกพูดจาได้ไม่เป็นลูกผู้ชายแบบนี้!”
“แม่เลิกตะคอกใส่ผมสักทีครับ แม่ยังไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เลย ผมไม่ได้จะบอกว่าเขาไม่ดีแต่ผมก็ไม่อยากให้แม่ปักใจเชื่อคนที่แม่เพิ่งรู้จักว่าเขาท้องกับผม”
...อดทนไว้คนเก่งอย่าเพิ่งงอแง อย่าเพิ่งทำให้มีอาการแพ้ท้องเลยนะไม่อยากถูกมองว่าเรียกร้องความสนใจต่อหน้าคนคนนี้
“ฉันเลี้ยงแกให้เป็นผู้ชายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แม่ไม่ได้สอนหรอกครับแต่ผมเจอผู้หญิงประเภทไม่สมหวังกับผมแล้วพยายามทำทุกอย่างให้ชนะผมมาเยอะแล้ว แต่เคสนี้หนักหน่อยเล่นเรื่องท้องเลย...ท้องจริงรึเปล่าก็ไม่รู้”
“หยุดพูดจาดูถูกผู้หญิงสักทีตาไทม์! ถ้าแกเห็นว่าฉันที่ยืนตรงนี้เป็นแม่แกก็ช่วยเลิกดูถูกเพศแม่ของแกซะ!”
“ฉันท้องจริงรึเปล่ามันตรวจได้ค่ะ จะตรวจตอนนี้เลยก็ได้”
“ถ้างั้นก็ตกลงตามนั้น คลอดเมื่อไหร่ค่อยตรวจดีเอ็นเอ ถ้าใช่ค่อยมาคุยกัน”
“ไม่มีทางค่ะ ฉันไม่มีทางยอมลำบากตอนอุ้มท้องคนเดียวแล้วปล่อยให้คุณสบายแน่”
“อะไรนะ?” พอฉันเสียงแข็งใส่เขาก็มีสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม
“คุณจะไม่แน่ใจไม่เป็นไรแต่ฉันแน่ใจว่าเด็กในท้องฉันเป็นลูกคุณ ระหว่างนี้ถ้าฉันต้องลำบากคนเดียว...คุณพัง”
หมับ!
“เธอพูดว่าอะไรนะ! / ตาไทม์!” แค่ฉันพูดจบเขาก็มาถึงตัวฉันแล้ว เขาตรงเข้ามากระชากข้อมือแล้วบีบมันเต็มแรงจนฉันเจ็บร้าวไปทั้งข้อมือ
“ฉันบอกไปแล้วค่ะ” เจ็บแต่ไม่เจ็บเท่าที่เคยโดนเขาทำร้ายหรอก แค่นี้ไม่ตายฉันถึงไม่แสดงอาการอะไรออกมา
“เธอกล้ามากนะใบบัวที่ทำแบบนี้!”
“ฉันกล้าได้มากกว่านี้อีกค่ะถ้าคุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยนอกจากเอาเงินฟาดหัว”
“ฮึ! อยากได้ฉันเป็นผัวมากใช่ไหม? ได้! แล้วเธอจะรู้ว่านรกมันมีจริง!” เสียงแข็งกระด้างพูดจบเขาก็เดินไปด้วยความโกรธแม่ของเขาสั่งให้หยุดก็ไม่ยอมหยุดจนไปถึงรถเขาก็สตาร์ทแล้วเหยียบรถออกไปจนเสียงดังสนั่น
บรื๊น!!!
“ตาไทม์!” ทั้งที่เขาขับไปจนถึงประตูหน้าบ้านแล้วแต่คุณลดาก็ยังตะโกนเรียกลูกชายตัวเองเสียงดังลั่น ฟังก็รู้ว่าคุณลดาโมโหมากแค่ไหน
“...บัวขอโทษคุณลดาด้วยนะคะ” ฉันไม่ได้มีเจตนาจะมาทำให้แม่ของเขาไม่สบายใจ ที่ผ่านมาถึงไม่เคยคุยกันแต่ฉันก็เคารพคุณลดามาก ๆ ในฐานะผู้บริหารสงสุดของช่อง
พอฉันขอโทษคุณลดาก็หันกลับมามองฉัน
“ฉันต่างหากต้องขอโทษหนู”
“คุณลดา...ไม่ได้สงสัยเหมือนที่คุณไทม์สงสัยบ้างเหรอคะ” ตั้งแต่เดินเข้ามาบอกว่ามาเพราะอะไรไม่มีคำถามว่าใช่ลูกของลูกชายคุณลดารึเปล่าหลุดออกมาจากปากคุณลดาเลย
ไม่มีคำถามไม่มีแม้แต่สายตาเคลือบแคลงเลยสักนิดทั้งที่ความจริงก็มีสิทธิ์สงสัยและถาม มีสิทธิ์จะไม่เชื่อว่าเป็นหลานของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“ฉันไม่เคยเอาหูไปนาเอาตาไปไร่” เสียงที่ตะโกนเรียกลูกชายด้วยความโมโหหายไปเหลือแค่เสียงที่มีแต่ความเห็นใจทำให้ฉันต้องยกมือไหว้ขอโทษผู้ใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง
“บัวก็มีส่วนผิดที่...ไม่ป้องกัน บัวขอโทษนะคะที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ แต่บัวไม่ต้องการอะไรค่ะแค่ดูแลบัวระหว่างที่คลอดกับหลังคลอดแค่นิดหน่อยเพราะบัวมืดแปดด้านจริง ๆ บัวไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนต่อ”
ฉันรู้ว่าต้องป้องกันแต่ตอนนั้นฉันถ่ายละครอยู่ต่างจังหวัด รถส่วนตัวก็ไม่มี กองถ่ายก็อยู่ในรีสอร์ทใหญ่ไม่มีร้านขายยาจะขอให้คนในกองถ่ายพาไปร้านขายยาก็เคยแล้วแต่คนในกองถ่ายเขาเดินตามตลอดเลยแกล้งไปซื้อยาอย่างอื่นแล้วแกล้งทำเป็นว่าซื้อยาไม่ครบจะรีบลงจากรถไปซื้อคนเดียวแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเป็นนักแสดงหลักของเรื่องมีทีมงานเอ็นดูเยอะด้วยเลยถูกตามแจด้วยความเต็มใจฉันถึงซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินไม่ได้ไง
“หลานฉัน ฉันไม่ทิ้งหรอกหนู”
“...ฮึก!” ฉันเตรียมใจเอาไว้ว่าอาจจะต้องมาสู้รบปรบมือกับแม่ของเขาด้วยซ้ำแต่ที่ไหนได้กลับไม่ใช่เลย ฉันได้รับความเมตตาที่ฉันไม่คิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ
“ฉันจะรับผิดชอบ ลูกชายของฉันก็เหมือนกัน ตาไทม์ต้องรับผิดชอบหนูกับลูก”
“ขอบคุณนะคะคุณลดา” ฉันยกมือไหว้ขอบคุณคุณลดาอีกครั้ง ขอบคุณจริง ๆ ที่เชื่อว่าเด็กบ้านนอกคนนี้ไม่ได้โกหกเพื่อหวังรวยทางลัดเหมือนที่ลูกชายของท่านคิด
“หนูรักตาไทม์รึเปล่า” คุณลดาถามออกมาฉันที่กำลังปาดน้ำตาก็เอามือออกจากแก้มทันที
“ไม่ค่ะ บัวไม่ได้รักเขา” ฉันไม่รู้สึกลังเลเลยที่จะตอบคำนี้ให้แม่เขารับรู้ จะไปรักผู้ชายที่หาส่วนดีของนิสัยไม่เจอเลยได้ยังไง ยิ่งคำพูดของเขาในวันนี้ยิ่งทำให้รักไม่ลง เสียดายความรู้สึกที่เคยให้มากด้วยซ้ำ
“แล้วที่ผ่านมาล่ะจ้ะ”
“เคยรู้สึกดีจนเกือบรักค่ะ แต่บัวหูตาสว่างก่อนเลยไม่รู้สึกแล้ว บัวมูฟออนแล้วค่ะคุณลดาจนบัวรู้ว่าตัวเองท้อง”
“ฉันชอบหนูนะ ฉันมองตาเดียวก็รู้ว่าหนูไม่ได้โกหก”
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ดูแลตัวเองให้ดีก็พอเพราะหนูยังต้องถ่ายละครหนักอยู่” น้ำเสียง รอยยิ้มแล้วก็สายตาที่มีความเมตตาทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการเกินครึ่งทางเพราะแม่ของเขาเชื่อใจ เป้าหมายที่จะทำให้คนเห็นแก่ตัวและชอบทำลายศักดิ์ศรีของคนอื่นต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองอยู่ตรงหน้าแล้ว
“แล้วระหว่างนี้บัวจะ... / หนูจะเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้และตาไทม์จะดูแลหนูในฐานะสามีจ้ะ” ฉันยังพูดไม่จบคุณลดาก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างกับรู้ทันว่าฉันจะถามอะไร แต่คำพูดกับน้ำเสียงจริงจังไม่มีวี่แววว่าจะลังเลสักนิดทำให้ฉันหวั่นใจ
“มะ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะคุณลดา บัวแค่อยากให้เขาช่วยดูแลระหว่างที่บัวท้องบ้างก็แค่นั้นค่ะ” ฉันอยากให้เขามาดูแลฉันในฐานะพ่อของลูกมากกว่า ก็อยากทำให้สองคนนั้นเจ็บอย่างที่ฉันเจ็บนั่นล่ะแต่ไม่ขอใช้คำว่าสามีได้ไหมฉันใช้ไม่ลง
“ไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้หลานฉันเกิดท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของลูกกับแม่ของลูกหรอกนะ”
“แต่บัวไม่ได้รักคุณไทม์นะคะ คุณไทม์ก็ไม่ได้รักบัว เราอยู่ในสถานะพ่อกับแม่ของลูกดีกว่าค่ะ”
“รายนั้นมันไม่เคยรักใครอยู่แล้วล่ะหนู เพราะฉะนั้นมันต้องหัดที่จะรักคนที่เป็นแม่ของลูกมันไม่ใช่เที่ยวมั่วไปวัน ๆ แบบนี้”
“เรารักกันไม่ได้หรอกค่ะคุณลดา แค่ระหว่างนี้ให้คุณไทม์ช่วยดูแลบัวบ้างก็พอนะคะ บัวต้องการแค่นี้จริง ๆ ค่ะ” ฉันขอร้องคุณลดาอีกครั้ง ฉันแค่อยากเอาคืนเขากับแฟนของเขา ฉันไม่ได้อยากเข้ามาอยู่ที่นี่และให้เขามาดูแลฉันในฐานะสามีนะคะสาบานให้ตายเลยก็ได้
“ฉันรู้” คุณลดาพูดออกมาสั้น ๆ ใบหน้าสวยสง่ามีรอยยิ้มทำให้ฉันโล่งใจ
“แต่ฉันต้องการแบบนี้จ้ะ ถ้าหนูไม่ตกลงตามข้อเสนอของฉันฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด หลังจากนี้หนูก็ต้องไปจัดการเรียกร้องเอาความรับผิดชอบจากตาไทม์เองแล้วกันฉันไม่ขอรับรู้ด้วยนะจ้ะ”