-สองเดือนต่อมา-
“ฮึก! ฮื่อ ๆ ๆ ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้ทำไม! ฮื่อ ๆ ๆ” ฉันร้องแล้วก็ตะโกนออกมามือที่กำผ้าปูที่นอนเอาไว้ก็ทั้งดึงและทึ้งมันจนผ้าปูที่เคยเรียบตึงพังเละไปหมด
“ฮื่อ ๆ ๆ ทำไม! ทำไม!” ฉันตะโกนจนหน้าดำหน้าแดงแล้วก็ร้องออกมาจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดอยู่แล้ว แต่มันไม่พอหรอก แค่นี้มันยังไม่พอ!
“ฉันจะล้างแค้นพวกแกสองคน! ฉันจะฆ่าพวกแก! ฉันจะทำให้แกสองคนเจ็บปวดเหมือนที่ฉันเจ็บ! กรี๊ด!!!”
“ฮื่อ ๆ ๆ กรี๊ด!!! กรี๊ด!!! กรี๊ด!!!”
“คัท~”
“ฮึก!”
“เก่งมาก~” ฉันลุกขึ้นทั้งที่ยังสะอื้นอยู่แต่ไม่ได้เบะปากร้องไห้แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังยิ้มทั้งน้ำตาแล้วยกมือไหว้ผู้กำกับ พี่ ๆ นักแสดง แล้วก็ทีมงานที่ยืนดูซีนนี้ของฉัน
“เก่งมากคนสวยของพี่นีน่า~” พี่นีน่ากับป้าแป๊ดเดินมากอดฉันพร้อมกับทิชชูที่หยิบมาให้ฉันเช็ดน้ำมูกน้ำตา
“ขอบคุณนะคะ ฮึก!”
“เหนื่อยไหมลูก ไปพักก่อนไหม” ป้าแป๊ดถามขึ้นฉันก็ไม่รอที่จะพยักหน้ารับเพราะฉันเหนื่อยมากจริง ๆ
“ค่ะป้าแป๊ด”
“ดีเลยค่ะนีน่าก็ว่าน้องดูเหนื่อย ๆ”
“สงสัยคั้นอารมณ์มากไปหน่อยมั้งคะบัวเลยเพลียเลย” ฉันออกความคิดเห็นบ้าง ดีนะที่ซีนนี้เป็นซีนสุดท้ายสำหรับวันนี้ของฉันเลยได้พักผ่อนเลย
“ก็จริง ช่วงนี้ยิ่งเร่งถ่ายกันด้วย ไปลูกไป ไปพักผ่อนเถอะป้าให้คนเตรียมรถไปส่งหนูแล้ว”
“ค่ะป้าแป๊ด บัวกลับก่อนนะคะพี่นีน่า” ฉันยกมือไหว้ลาทุกคนในกองถ่ายแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของเตรียมกลับ ช่วงนี้เร่งถ่ายละครกันหนักมากเพราะช่องจะให้ออนแอร์เดือนหน้าเลยจากตอนแรกที่คิวออกอากาศตั้งปลายปีเลยทำงานกันหนักหน่อย พี่จี้ก็ไม่ค่อยว่างด้วยวิ่งดูแลงานให้เด็กในสังกัดจนหัวหมุนแต่โชคดีที่ป้าแป๊ดเอ็นดูเลยให้รถของกองถ่ายรับส่งฉันตลอด
“โอ๊ะ!”
หมับ!
“ไหวรึเปล่า”
“...ไหวค่ะพี่แท็ค”
“เป็นอะไรอยู่ ๆ ก็จะล้ม”
“บัวเวียนหัวน่ะค่ะ ช่วงนี้ถ่ายละครหนักพักผ่อนน้อย”
“อื้ม พี่เข้าใจพี่ก็เคยเป็น ดูแลตัวเองหน่อยนะใบบัว”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะไม่ได้พี่แท็คบัวล้มลงไปกองที่พื้นแน่เลย” ฉันพูดติดตลกแล้วก็พยายามพยุงตัวเองให้ยืนตรง
“ฮึ ๆ ๆ เสียดายไม่ได้เห็นเด็กแถวนี้ล้มก้นจ้ำเบ้า”
“ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะถ้ารีบมาช่วยเอง” ฉันย่นจมูกใส่พี่แท็คนิดหน่อย
“ฮ่า ๆ ๆ แล้วไหวรึเปล่า จะทำอะไรเดี๋ยวพี่ช่วย”
“ไหวค่ะแค่มาเก็บของเดี๋ยวจะกลับแล้วค่ะ”
“อ้อ ถ้างั้นพี่ช่วยเก็บนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะของบัวมีแค่ตรงนี้บัวเก็บเองได้” ฉันชี้ให้พี่แท็คดูของที่มีแค่นิดเดียวอย่างที่พูดแล้วเดินไปเก็บของทันที
“แล้วจะกลับเลยเหรอ”
“ค่ะ”
“กลับยังไง รอพี่ก่อนไหมพี่ถ่ายอีกแค่ซีนเดียวเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ขอบคุณค่ะพี่แท็คแต่บัวกลับรถกองถ่ายได้ค่ะ”
“แต่พี่อยากไปส่งนะใบบัว” พี่แท็คมองฉันแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ขอบคุณค่ะแต่บัวไม่รบกวนดีกว่าพี่แท็คก็ถ่ายละครเหนื่อยเหมือนกัน เก็บของเสร็จแล้วค่ะบัวขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันยิ้มให้พี่แท็คแล้วเดินออกมา รู้นะไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง เมื่อก่อนฉันก็ยังไม่รู้หรอกแต่ช่วงหลังพี่แท็คเริ่มแสดงออกชัดเจนว่าสนใจฉัน พี่แท็คน่ารักนะคะ นิสัยดีการได้ร่วมงานกันทำให้ฉันสัมผัสได้ว่าเขาเป็นพี่ที่ดีคนหนึ่งแต่ถ้าจะให้มากกว่านั้นคงไม่ อย่าเพิ่งให้ฉันเปิดใจให้ใครเลยบอกตรง ๆ ว่ายังเข็ดขยาดอยู่
ไม่ว่าจะใครจะหล่อแค่ไหนดีแค่ไหนฉันก็ยังไม่ขอเปิดใจทั้งนั้น ขออยู่คนเดียวก่อนบอกตรง ๆ ว่ากลัวเจ็บเพราะเคยเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว
เจ็บจนไม่อยากรู้สึกดีกับใครในตอนนี้ หรือแม้แต่ในอนาคตก็ยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าเปิดใจรักใครอีกรึเปล่า
#BAIBUA END
#TIME TALK
“ไงวะเฮีย สบายดีใช่ไหม” เสียงไอ้คนที่หน้าตาคล้ายผมแต่หล่อน้อยกว่าผมดังขึ้นตอนที่มันเดินเข้ามาในห้องนอนของผมได้โคตรไร้มารยาท แต่ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าเป็นใครเพราะคนที่หามารยาทไม่เจอกับผมแบบนี้มีแค่มันคนเดียวในบ้าน
“อืม กลับบ้านได้แล้วเหรอมึง”
“แม่ด่าไม่กลับได้ไง”
“ฮึ ๆ ๆ สมควร ถ้ากูเป็นแม่กูจะระงับบัตรทุกใบของมึงด้วยซ้ำ” ผมหัวเราะในลำคอเพราะอยากเยาะเย้ยไอ้ไทน์น้องชายของผมที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องจนผ่านมาเป็นเดือน น้องชายหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่ทำห่าอะไร เรียนไม่ได้เรื่องได้เรื่องอยู่เรื่องเดียวคือผลานเงินเปย์ผู้หญิง
“แม่ไม่ใจร้ายกับผมหรอกน่า แล้วเฮียเป็นไงบ้างวะช่วงนี้”
“เรื่อย ๆ”
“เรื่อย ๆ คือ?”
“ก็เรื่อย ๆ ไงมึงจะให้กูตอบแบบไหน”
“สาว ๆ ล่ะเป็นไงบ้าง”
“ไม่มี”
“ฮะ?”
“ตามนั้น” ผมตอบสั้น ๆ อีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าแค่คำว่าไม่มีของผมมันจะทำให้ไอ้ไทน์อึ้งเหมือนแม่ไม่รักอะไรขนาดนั้น
“ไม่จริง อย่างเฮียนี่นะจะไม่มีสาว ๆ”
“ปิย่าตามจิกกูอย่างกับอีกามึงจะให้กูเอาเวลาที่ไหนไปมีผู้หญิง” พูดเรื่องนี้แล้วเซ็งฉิบหาย เวรกรรมอะไรของผมก็ไม่รู้
“ฮึ ๆ ๆ งานยากเลยสิเฮียคนนี้”
“อืม”
“แล้วจะคบถึงเมื่อไหร่ล่ะเฮีย”
“เรื่อย ๆ” ผมตอบเพราะมันก็ต้องเป็นแบบนั้นจริง ๆ เรื่อย ๆ ไม่มีกำหนด
“เฮีย” ไอ้ไทน์เรียกผมอีกครั้งแถมครั้งนี้ยังทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นใส่ แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่ามันจะถามอะไร
“อะไร”
“เด็ดไหม”
“เด็ด” ปิย่าเอาแต่ใจจนน่ารำคาญไปบ้างแต่เรื่องบนเตียงของเธอเด็ดไปแพ้ฝีมือการแสดงเลย ความจริงจะบอบกว่าเด็ดกว่าทุกความสามารถของเธอก็ไม่ผิดด้วยซ้ำ
“อู้ว~ ไม่น่าล่ะเฮียของผมไม่ยอมจบสักที”
“ฮึ!”
“แล้วคนนั้นล่ะเฮีย”
“คนไหนวะ” ผมถามแล้วปลายตามองมันนิดหน่อยเพราะผมไม่รู้จริง ๆ ว่าคนนั้นของมันคือคนไหนในเมื่อมีหลายคน
“ก็คนที่ปาดงานปิย่าไปไง”
“...ใบบัว?” ผมหยุดคิดนิดหน่อยแล้วเอ่ยชื่อของเธอออกมา ไม่ได้เจอกันนานแล้วไม่รู้ทำอะไรอยู่ถ่ายละครอยู่มั้ง
“เยส~”
“ก็ดี” ใส ๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จะพิเศษก็คือซิงแต่เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญสำหรับคนที่ไม่คิดจะจริงจังกับใครนอกจากมีความสุขกับเซ็กส์อย่างผม ถ้ายังไม่ถูกเธอจับได้ว่าผมโกหกคงต้องสอนกันอีกยาวเพราะใบบัวทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ขนาดจูบยังจูบไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ
“ก็ดีคือ?”
“ก็ดีไงวะถามทำห่าอะไรนักหนา”
“ก็ดีของเฮียมันแสดงว่าไม่ดีนี่หว่า ตกลงยังไงเฮีย”
“ไม่เก่ง ทำอะไรไม่เป็น”
“อ่าส์~ หน้าตาโคตรเซ็กซี่ไม่เก่งได้ไงวะ” ไอ้ไทน์ทำหน้าเสียดายออกมา
“ช่างเขาเถอะ แล้วนี่มึงยังไงจะกลับมานอนบ้านกี่วัน”
“สามวันก็ใจจะขาดแล้วเฮีย”
“ฮึ ๆ ๆ นอนบ้านบ้างไอ้ห่า อย่าเอาแต่ไปเที่ยวจนเมาแล้วโดนผู้หญิงหิ้วปีกไปนอนระวังจะไปทำผู้หญิงท้องเข้าสักวัน”
“ไม่มีทาง เตือนตัวเองเถอะเฮีย ระวังสาว ๆ อยากจับจนปล่อยตัวเองให้ท้อง”
“ฮึ ๆ ๆ ไม่มีทางเหมือนกันว่ะไอ้น้องรัก”
คนอย่างผมไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนมาจับด้วยวิธีโง่ ๆ แบบนั้นหรอก สวยให้ตายยังไงถ้าผมไม่อยากได้เป็นเมียยังไงผมก็ไม่ยอม
#TIME END
#BAIBUA TALK
กริ๊ก!
“ถึงแล้วค่ะพี่จี้ ค่า ไม่ต้องห่วงค่ะ”
(เออ ถึงแล้วก็อาบน้ำพักผ่อน บทท่องเท่าที่ท่องไหวไม่ต้องฝืนเข้าใจไหม)
“ค่ะ บัวรู้ค่ะ บัวจะไม่...”
ฟุบ!
(ไม่อะไรของหล่อนยะ...บัว บัวใบ ฮัลโหล~ ฮัลโหลใบบัว~ ใบบัวได้ยินเจ้ไหมลูกสาว ใบบัว...อีบัว!)
-เวลาต่อมา-
“อือ~” ฉันมึนหัวค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ แล้วก็ต้องหยีตาเพราะมีแสงไฟส่อง
กลิ่นคุ้น ๆ ไม่ใช่กลิ่นที่ดมทุกวันแต่เป็นกลิ่นคุ้นจมูกเหมือน...โรงพยาบาล
“อื้อ~” ไม่สบายตัวเลยมึนหัวปั่นป่วนในท้องไปหมด ฉันค่อย ๆ ลืมตาอีกครั้งแล้วก็มั่นใจว่ากลิ่นที่ได้กับห้องที่ลืมตามามันคือที่เดียวกัน ฉันอยู่โรงพยาบาล
ฉันมาโรงพยาบาลได้ยังไง? จำอะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะเหมือนกับว่าภาพสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบลงฉันเพิ่งถึงห้อง เพิ่งปิดประตูเสร็จแล้วก็กำลังคุยโทรศัพท์กับพี่จี้แต่คุยได้ไม่กี่คำฉันก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
ฉันหันไปด้านข้างทำให้เห็นพี่จี้ที่นั่งอยู่ข้างเตียง แสดงว่าพี่จี้เป็นคนพาฉันมาที่โรงพยาบาลสินะ แต่สีหน้าพี่จี้ดูไม่ดีเลย
“พี่จี้~”
“...อือ”
“พี่จี้พาบัวมาเหรอคะ” ฉันถามเบา ๆ คอแห้งแต่ไม่รู้สึกอยากดื่มน้ำเลยสักนิด
“อือ” พี่จี้เป็นอะไรทำไมเอาแต่ตอบฉันสั้น ๆ แบบนี้ แถมยังเอาแต่มองฉันด้วยสายตา...ผิดหวัง
“พี่จี้เป็นอะไรคะ” ทำไมสายตาที่พี่จี้มองมาถึงทำให้ฉันรู้สึกใจไม่ดีเลย เกิดอะไรขึ้นกับฉันรึเปล่า
“...”
“พี่จี้” ฉันถามแต่พี่จี้กลับเงียบแล้วก็เอาแต่มองฉันด้วยสายตาเหมือนเดิม ไม่สิไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่เพราะนอกจากจะดูผิดหวังพี่จี้ก็เริ่มมีน้ำตาคลอออกมา และแน่นอนว่าอาการของพี่จี้ทำให้ฉันหวั่นใจมากกว่าเดิม
“พี่จี้...บัวเป็นอะไร” ฉันใจคอไม่ดีเลย พอถามพี่จี้ก็ยังเอาแต่เงียบแล้วมองฉันทำให้ฉันยิ่งมั่นใจว่าอาการที่พี่จี้เป็นมันเกี่ยวกับฉันร้อยเปอร์เซ็นต์
“พี่จี้คะบัวเป็นอะไร”
“มึง...ท้อง”