EP 3 - หนีไม่พ้น
@ภายในห้องเรียนของคณะนิเทศศาสตร์
ฉันนั่งฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะเรียนในคลาสวิชา “ข่าวและสารสนเทศ” มือข้างหนึ่งหมุนปากกาเล่นไปเรื่อย ส่วนอีกข้างกดไลน์ดูสติกเกอร์ Brown & Cony ซ้ำ ๆ จนคนข้าง ๆ เริ่มเอียงคอมอง
“มุก แกฟังปะวะ อาจารย์บอกว่าให้จับสลากเลือกคนสัมภาษณ์แล้วนะ”
ฉันสะดุ้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือกล่องกระดาษลังสีน้ำตาลถูกส่งไล่ต่อกันมา หน้ากล่องเขียนคำว่า
‘โปรเจกต์สัมภาษณ์นักศึกษาดัง ภาควิชาสื่อสารมวลชน’
อะไรอะ ชาติก่อนไม่เห็นมีแบบนี้?
อยู่ดี ๆ ก็จะให้สัมภาษณ์คนดังของมหา’ ลัย ใครวะคิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา
ฉันทำหน้าเหวอ งงนิด ๆ พร้อมกับมองหน้าเพื่อนทั้งสองคน
“อ้าว เหรอวะ แล้วเลือกกันเองได้ปะ”
“ไม่ได้ย่ะ รายวิชานี้คือเน้นความเท่าเทียมแบบสุด ๆ อาจารย์สุ่มชื่อจากกลุ่มคนดังในมหา’ ลัยทั้งหมดที่ได้รับการโหวตจากคณะเลยนะ”
ฉันทำหน้ายู่ทันที จำได้ว่าในอดีตฉันเกือบตกวิชานี้ เพราะอาจารย์ประจำภาคคณะวิชาเคี่ยวมาก
ขนาดว่าชาติก่อนแค่ให้เขียนข่าวแนะนำตัว ยังลากสังขารแทบไม่รอด แล้วตอนนี้คืออะไร?
ให้สัมภาษณ์คนดัง? ถ่ายคลิป? ตัดต่อ? ยกระดับยิ่งกว่าเรียลลิตี้โชว์เข้าไปอีก ฟังดูเหมือนงานง่ายแต่จริง ๆ คือฝันร้ายชัด ๆ เพราะมันคืองานโคตรยากบอกเลย
แต่! เดี๋ยวก่อน!
อยู่ ๆ ฉันก็ชะงัก ดวงตาวิบวับเป็นประกายเมื่อคิดอะไรดี ๆ ออกมา
ในเมื่อตอนนี้ฉันกำลังย้อนอดีต
ฉันก็ควรจะเริ่มแก้ไขอดีตด้วยการเอา A+ วิชานี้มาให้ได้ไม่ใช่เหรอ?
ถึงจะเป็นงานยาก แต่ฉันเคยทำมันมาก่อน แล้วทำไมฉันจะทำมันอีกไม่ได้
“โอ้ย จับสักทีเถอะยัยมุก! จะทำสมาธิถึงชาติหน้าหรือไง”
เสียงน้ำขิงดึงภวังค์ฉันให้กลับมา
“เออ เออ จับแล้ว ใจเย็นดิ๊”
ฉันถอนหายใจเฮือกแบบแม่ชีปลงสังขาร ก่อนจะพนมมือท่วมหัวแล้วเริ่มล้วงมือลงไปในกล่อง
ม้วนกระดาษนับสิบหล่นกลิ้งอยู่ข้างใน เลยเลือกมาหนึ่งม้วนแบบไม่คิดอะไร
แต่…พอเปิดอ่านเท่านั้นแหละ…
เวรเอ๊ยยยย…!
‘คิระ - คุณาวัฒน์ อัครโชติสกุล วศ. ปี 3’
ฉันเงยหน้ามองหน้าเพื่อน เหมือนอยากจะถามว่า
“ใครมันเอาชื่อหมอนี่ใส่ในกล่องด้วยวะ”
แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา เสียงอาจารย์ประจำภาควิชาจากหน้าห้องก็ดันตะโกนขึ้นมาก่อน
“ไหน มุกณรินทร์ ได้ชื่อใคร คณะอะไร ขานออกมาให้อาจารย์ฟังสิ”
ปากกาพร้อมจด พลางจ้องหน้าเขม็ง
“เออ…คือ…ได้ ได้ชื่อ คิระ คุณาวัฒน์ อัครโชติสกุล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 3 ค่ะ”
และใช่ค่ะ ในปี 2560 คือช่วงที่คิระดังแบบสับ
เขาคว้าแชมป์โปรเจกต์หุ่นยนต์จากเวทีระดับประเทศมาหมาด ๆ แถมยังเคยมีคนบอกว่าเขาอาจจะไปอินเทิร์นที่ญี่ปุ่นกับทุนรัฐบาลอีก แม่งโคตรเทพสุด ๆ อะ
แต่ฉันไม่ได้อยากยุ่งกับเขาอีกแล้วไง
“ห้ามนักศึกษา มีการลักไก่หรือเปลี่ยนโพยกันนะ อาจารย์จดเอาไว้หมดแล้ว”
เหมือนอาจารย์จะดูสีหน้าเซ็งจัดของฉันออก เลยเล่นพูดดักทางเอาไว้ก่อน
ว่าแต่…
ทำไมต้องเป็นเขาด้วยอะ
ในกล่องนั่นมีกี่ชื่อก็ไม่รู้ แต่ชื่อที่ฉันดันจับได้กลับเป็นคนที่ฉัน “เคยรัก” และ “เคยเกลียด” มากที่สุดในชีวิต
“เป็นไรแก?”
เอิงเอิยหันมาถาม ส่วนฉันได้แต่หันไปมองเพื่อนสาวแล้วยิ้มแหย สีหน้าเหมือนตอนที่รู้ว่าผลสอบออกมาแล้วเธอได้ F ประมาณนั้น
“ฉันจับใครได้ไม่จับ ดันจับได้หมอนั่น “
“ฮั่นแน่! หมอนั่นแล้วไง นั่น คิระคนดังเลยนะ แต่แกอะพูดแปลก ๆ เหมือนรู้จักเขามาก่อนยังงั้นแหละ” น้ำขิงมองหน้าฉันตาเป็นประกายวิบวับ ในขณะที่เอิงเอยยกมือเท้าคางและจ้องหน้าอมยิ้ม
“หรือแกมีซัมติงกับคิระ?”
“บ้า ไม่มีซัมตง ซัมติง อะไรทั้งนั้น ไม่รู้จัก และไม่คิดจะรู้จักด้วยค่ะ” ฉันรีบปฏิเสธเสียงสูงทันที
“แล้วไหงทำสีหน้ายังงั้นล่ะ”
“เปล๊า~ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย~ “
ปากบอกไม่มีอะไร แต่ในใจเหมือนระเบิดลูกเล็ก ๆ ปะทุอยู่ตลอดเวลา
จากนั้นฉันก็นั่งเงียบ จมอยู่กับความคิดอยู่เป็นนาน นานจนกระทั่งเลิกคลาส
แล้วอาจารย์ก็ดันประกาศซ้ำอีกรอบว่า ให้พวกเราเริ่มติดต่อนัดสัมภาษณ์ตามรายชื่อที่ได้ภายในสัปดาห์นี้ ใครส่งงานเร็วสุด ยิ่งได้คะแนนพิเศษ
เฮอะ…ส่วนฉันละอยากจะร้องออกมาเป็นเพลง Tunder ของลิซ่าในอัลบั้มใหม่สุด ๆ
นี่มันอะไรกันครับเนี่ย!
สวรรค์ให้ฉันย้อนเวลากลับมาในปี 2560 เพื่อให้ได้มีโอกาสแก้ไขอนาคตไม่ใช่เหรอ
ฉันอุตส่าห์ตั้งใจว่า ครั้่งนี้จะไม่เจอหน้าคนอย่างเขาอีก แต่ไหงกลับต้องเป็นฝ่ายไปไล่ล่าขอสัมภาษณ์หมอนั่นอีกเนี่ยนะ!
เหมือนตัวเองกำลังโดนฟาดด้วยโชคชะตาหนัก ๆ แล้วลากชีวิตใหม่ของฉันไปโยนทิ้งไว้หน้าคณะวิศวะอย่างไงอย่างงั้นเลย