EP 6 - ใครมันจะไปหึงแฟนเก่า

2025 Words
EP 6 - ใครมันจะไปหึงแฟนเก่า เย็นวันศุกร์ “แก ๆ ไปปะ ๆ ไปผับกับฉันหน่อย” ฉันพูดเสียงตื่นเต้นใส่น้ำขิงกับเอิงเอย เพื่อนสนิททั้งสองคนของฉัน ที่ตอนนี้กำลังยืนเลือกน้ำตบอยู่ในห้าง “ห้ะ? ผับ? นี่มันปีสามนะมุก จะสอบปลายภาคอีกไม่กี่อาทิตย์ไม่ใช่เหรอ?” น้ำขิงค้านทันที “ก็ยิ่งต้องไปปะวะ! เครียดขนาดนี้อะนะ ขอสักคืนได้ไหมล่ะแม่!” น้ำขิงเลิกคิ้วมองฉันอย่างงง ๆ แต่ก็พยักหน้าในที่สุด “เออไปก็ไป” “ยัยเอิงละ ไปด้วยกันนะๆ ไปกันสามคนเลย ไปปล่อยแก่” “อายุ 20 แก่?” น้ำขิงกับเอิงเอยมองหน้าฉันแบบงงๆ “เออ ปล่อยแก่แหละ” ไม่แก่ได้ไงก่อน โลกที่ฉันอยู่อายุจะ 28 แล้วเถอะ โชคดีที่มันเป็นเพื่อนประเภทพูดน้อย ไม่ถามอะไรซักไซ้มากกว่านั้น “เค ตามนั้น แต่งตัวให้สุดเลยนะ ฉันจะเอาเซ็ตลิป 3 เฉดใหม่มาด้วย” “ฉันขอแดงเบอร์ 02 เดือดแบบไม่ยั้ง” ฉันยิ้ม ก่อนจะหมุนตัวกลับห้องทันที คืนนี้ฉันต้องเป๊ะทุกมุม เหมือนบังเอิญสุด ๆ แบบที่เขาไม่มีทางรู้ว่า…ฉันจงใจ @BLUE SHADE BAR ไฟสลัวในผับสีฟ้าอมม่วงกระทบผิวฉันเป็นเงาเรื่อ ๆ เสียงเพลงเบสแน่น ๆ กระแทกจังหวะหัวใจอย่างกับดีเจ EDM จากงานโคเชลล่า ฉันผลักประตูกระจกเข้ามาพร้อมกับน้ำขิงและเอิงเอยเพื่อนสองคนที่ฉุดลากมาในภารกิจตีเนียนคืนนี้ “ว่าแต่คืนนี้ ฉันโอเคไหมวะพวกแก” ฉันหันไปถามสองนางอีกครั้งเพื่อเมคชัวร์ “สวยจ้า สวยสุด” “ฮ๊อป~ จริงปะเนี่ย” “ห๊ะ?…อะไรนะ หอบอะไร” “ก็ฮ๊อปที่แกชมว่าฉันสวยไง แล้วดูดิผับวัยรุ่นปี 60 มีแต่คนหล่อ ๆ ใกล้ฉัน” สองคนหันมามองหน้าฉันโดยไม่ได้นัดหมาย “อะไรฮ๊อป อะไรคนหล่อใกล้ฉัน เห็นแต่โน้นอยู่ไกลเป็นเมตร” น้ำขิงท้วงทันที “เออน่า พวกแกอย่าเข้าใจเลยมันเดี๋ยวจะยาว แต่แหม~ ดูพวกแกสองคนตอนแรกบ่นไม่อยากจะมา แต่พอมาถึงแต่งตัวพร้อมเสริฟ์มาก” “พวกฉันสองคนอะนะ แต่งตัวเหมือนพนักงานเสิร์ฟ?” เอิงเอยเลิกคิ้วแล้วหันมาถาม “แกพูดเหมือนแอปส่งอาหารอะมุก…” “โอ้ย อย่าสนใจคนแก่อย่างฉัน พวกแกไม่ทันเทรนด์หรอก” ฉันจะบ้าตายกับนางทั้งสอง ก่อนจะยักคิ้วให้ ทำเหมือนไม่มีอะไร แล้วเดินนำเข้าไปทันที คืนนี้จัดเต็มจ้า เสื้อรัดรูปคอปาดสีดำแขนยาวแหวกหลังโชว์ผิวเนียน ๆ พอประมาณ แมตช์กับกระโปรงหนังทรงเอสั้นเหนือเข่า ส้นสูงหัวแหลมสีขาวไข่มุก ตัดกับสีผิวได้พอดี ลิปแดงเบอร์ 02 ที่ขอจากน้ำขิงมาเมื่อคืนก็ช่วยให้ฉันดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ดาเมจเต็มสิบ ฉันกวาดสายตามองรอบผับแล้วก็เห็นพวกเขา คิระ นั่งโต๊ะโซน VIP มุมเดิม เขายังดูดีและดูฮอตมากไม่มีเปลี่ยน ผมสีน้ำตาลเข้มถูกเซ็ตให้ดูยุ่งนิด ๆ เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนขึ้นถึงข้อศอก กางเกงยีนส์สีเข้มเข้ารูป ใบหน้าคมเข้มที่ต่อให้กาลเวลาผ่านไปแค่ไหน ก็ยังคงตรึงสายตาไม่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือแววตานิ่งเฉย และท่าทีเงียบขรึมที่แตกต่างจากภาพจำของเขาเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง เขานั่งพิงพนัก โอบไหล่เบา ๆ พิงข้างโซฟา ท่าทางนิ่งสนิทแบบที่ไม่ต้องทำอะไรก็ทำให้คนมองอยากรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ คิระยังหล่อเหมือนเดิม...เหมือนทุกอย่างในอดีต แต่อีกสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลย คือเขาไม่ได้มาที่นี่คนเดียว โต๊ะของเขามีเพื่อนอีกสองคนนั่งด้วย ฟินิกซ์ ผมสีเทาควันบุหรี่ ใส่แจ็กเก็ตหนัง กับต่างหูเงินสองข้าง หน้าคมจัดเหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์มาเฟีย ฟาโรห์ ผิวเข้มหน่อย ใส่เสื้อเชิ้ตเปิดกระดุมโชว์ซิกแพ็คเบา ๆ ยิ้มเจ้าชู้ตลอดเวลา มือถือแก้ววิสกี้ไม่ปล่อยเลย ฉันเดินตรงไปที่โต๊ะนั้นทันที ตีเนียนแบบไม่มีการอ้อม “ขอโทษนะคะ โต๊ะเต็มหมดเลย ขอพวกเรา แจมด้วยได้ไหมคะ?” ฉันส่งยิ้มให้ฟาโรห์ ซึ่งแน่นอน…เขาเป็นสายเพลย์บอยจัด “ได้สิครับ คนสวยมาเคาะโต๊ะเองขนาดนี้ ใครจะกล้าปฏิเสธ” เขาขยับให้ พร้อมดีดนิ้วเรียกเด็กเสิร์ฟให้เอาเก้าอี้มาเพิ่ม ฉันนั่งลงข้างคิระพอดี ทำแบบไม่ได้ตั้งใจ...แต่จริง ๆ ก็เจตนานั่งใกล้เขานั่นแหละ เห็นเขาปรายตามองฉันนิดเดียว ก่อนจะหันกลับไปสนใจน้ำแข็งในแก้วตัวเองเหมือนฉันเป็นแค่อากาศต่อ เฮอะ เมินเก่งมากค่ะพ่อ แต่ขอโทษชาตินี้ฉันไม่มาตามง้อเขาเพื่อจีบ แต่มาตามเพื่อขอเกรดจากอาจารย์เท่านั้นย่ะ พอพวกเรานั่งกันสักพัก สองหนุ่มอย่างฟาโรห์กับฟินิกซ์ ก็เริ่มเข้าคู่กันดีกับน้ำขิงและเอิงเอยอย่างสนิทสนม ก็แหงล่ะ ในอนาคตพวกนางก็ดันเป็นแฟนกันจริง ๆ “เอ้า ชน ๆ!” แล้วพวกเราก็ชวนกันคุยไปเรื่อย แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ยังไม่มีโอกาสตีเนียนสัมภาษณ์คิระเลยสักนิด ดึกเข้า เสียงดนตรีอึกทึกยังคงกระแทกเข้ากับโสตประสาท ผับที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนสาดสีสันวูบวาบไปตามจังหวะไฟ เสียงหัวเราะ เสียงแก้วกระทบกัน และเสียงเพลงดังระเบิดสร้างบรรยากาศเร่าร้อนราวกับโลกทั้งใบกำลังหมุนอยู่ใต้แสงไฟตลอดเวลา โต๊ะที่พวกเรานั่งล้อมเต็มไปด้วยเครื่องดื่ม แก้วหลากสีเรียงราย บางแก้วพร่องไปกว่าครึ่ง บางแก้วเพิ่งถูกเติมใหม่ เสียงพูดคุยเฮฮาของกลุ่มเพื่อนในกลุ่มดังกระทบหู แต่กลับไม่มีใครดึงความสนใจของฉันได้เท่ากับใครบางคนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะอย่างคิระ เขานั่งอยู่ที่เดิม ทว่าแทบไม่แตะต้องเหล้า และไม่มีวี่แววของการลุกออกไปสูบบุหรี่แม้แต่มวนเดียว แปลก? ครั้งหนึ่ง...เขาเคยเป็นคนที่ดื่มหนักพอ ๆ กับที่ชอบสูบบุหรี่จัด ใช้ชีวิตเสเพลจนฉันต้องคอยห้ามอยู่เสมอ แต่คืนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น “คิระ วันนี้มึงดูแปลก ๆ นะ เป็นเหี้ยอะไรวะเหมือนไม่ใช่มึง” คงไม่ใช่แต่ฉันสินะที่คิด เพราะอยู่่ ๆ เพื่อนของเขาที่ชื่อฟาโรห์ก็เอ่ยขึ้น “เออว่ะ เมื่อก่อนมึงซัดคนเดียวเกือบหมดขวด วันนี้มึงแทบไม่แตะ เออ แล้วก็บุหรี่ด้วยไม่เห็นมึงออกไปสูบเลย” ฟินิกซ์เอ่ยสมทบด้วยอีกคน คิระเงยหน้าขึ้น สบตาพวกเพื่อนของเขาเพียงชั่วครู่ก่อนจะตอบเสียงเรียบ “แฟนกูไม่ชอบ” คำพูดสั้น ๆ แต่กลับทำให้ฉันชะงักอีกรอบ แล้วฉันก็เผลอแค่นหัวเราะออกไปไม่รู้ตัว “เฮอะ...” “เออ ตามนั้นแหละ แฟนกูไม่ชอบให้ดื่มเหล้า บุหรี่ก็ไม่ชอบให้กูสูบ” เขาย้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงปกติ แต่มันฟังแล้วไม่ปกติเลยสำหรับฉัน “โห เห็นเงียบ ๆ มึงไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ไอ้คิระ ไม่เห็นบอกพวกกูเลย“ “กูว่ามึงอำ” ฟาโรห์ส่ายหน้าไม่เชื่อ “บอกว่ามีก็มีดิ ไม่ใช่แค่แฟนแต่เป็นเมียกูเลยด้วย” “โห ขิงว่ะ อย่ามาอำ” จุก… อยู่ ๆ ใบหน้าของฉันก็ชาวาบขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ความรู้สึกบางอย่างแล่นวูบขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล รู้แต่ตอนนี้ หน้าร้อน หูร้อน รวมไปถึงหัวด้วยที่มันร้อน ร้อนจนต้องคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวอึกใหญ่ ปล่อยให้รสขมปร่าของของเหลวสีทองไหลลงคอ ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะดังกึก! แล้วรินใหม่ ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด ไหนที่เขาเคยบอกว่าฉันเป็นแฟนคนแรกของเขาไง? งั้นที่เคยพูดมาคือเรื่องโกหกฉันใช่ไหม? ฉันพยายามไม่แสดงสีหน้า แต่แววตาคงหลุดความรู้สึกบางอย่างไปแล้วแน่ ๆ “ดื่มมาก ระวังเมา?” คิระพูดขึ้นเบา ๆ แต่ไม่ได้หันมามอง ว่าแต่เขาพูดกับฉันเหรอ หรือยังไง? ฉันมองไปรอบๆ เห็นฟาโรห์คุยอยู่กับเอิงเอย ส่วนฟินิกซ์คุยอยู่กับน้ำขิง และไม่มีใครยกแก้วดื่มนอกจากฉัน งั้น~ก็คงหมายถึงฉันสินะ “ไม่ต้องยุ่ง” ฉันตอบกลับเขาเบา ๆ ทว่าในขณะที่ฉันกำลังพยายามกลืนความรู้สึกบางอย่างลงไปพร้อมกับแอลกอฮอล์ สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นภาพหนึ่งที่ทำให้ต้องหยุดนิ่งไปอีกครั้ง เมื่อมีผู้หญิงสวยเอ็กซ์นมตูมมากคนหนึ่ง เดินตรงมาหาเขา เธอสูง หุ่นนางแบบ ผิวขาวจัด ผมยาวดำตรงระด้านหลัง ใส่เดรสสีแดงสดเข้ารูป ขาเรียวยาวเหมือนหลุดมาจากโฆษณาน้ำหอม ริมฝีปากสีเชอร์รี่อ่อน ๆ ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคิระ “ขอโทษนะคะ ฉันชื่อมินนี่ ขอคอนแท็กต์ได้ไหมคะ?” ฉันนิ่วหน้า สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แล่นวูบขึ้นมาในอก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่ฉันไม่อยากจะยอมรับว่ามันคืออะไร คิระเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวคนนั้น ดวงตาคมกริบของเขานิ่งสนิท ไม่ได้แสดงออกว่าตื่นเต้นหรือสนใจเป็นพิเศษ ทว่าเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธในทันที ส่วนฉันได้แต่กัดริมฝีปากแน่น ไม่รู้ตัวเองว่าควรจะสนใจเรื่องนี้ไหม? ในเมื่อตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจะให้เบอร์ใคร หรือจะคุยกับใครก็เรื่องของเขา แต่ทำไมกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลก็ไม่รู้ “เอาว่ะ มีสาวมาขอเบอร์ไอ้คิระ” เสียงฟาโรห์เอ่ยแซวขึ้น “โห ไม่ขอเบอร์ผมด้วยเหรอครับ” ตามด้วยฟินิกซ์สมทบเข้าอีกคน ส่วนฉันได้แต่เหล่มองคนข้าง ๆ อย่างไม่ค่อยชอบใจ พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกอย่างกับซดน้ำเปล่าอีกอึกใหญ่ แล้ววางกระแทกลงที่โต๊ะดัง กึก! ไม่อยากยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองกำลังหึง ใช่! จะไปหึงทำไม ในเมื่อตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย “ได้ไหมคะ ขอเบอร์หน่อย” “ไม่ได้! เขามีแฟนแล้ว และคงให้เบอร์ใครเรี่ยราดไม่ได้หรอก” ไม่ใช่เสียงคิระ แต่เป็นเสียงของฉันเอง ฉันเงยหน้ามองทุกคนที่กำลังอึ้ง! แต่อย่าว่าแต่ทุกคนในโต๊ะตอนนี้ที่กำลังอึ้งอยู่ ฉันเองก็อึ้งเหมือนกันที่ปากมันลั่นพูดออกไปหน้าตาเฉย แล้วฉันก็ได้ยินเสียงคิระหัวเราะในลำคอออกมาดัง เฮอะ “อือ ให้ไม่ได้ครับแฟนหวงมาก” “งั้นคนนี้คงเป็นแฟนสินะคะ“ คิระปลายตามองมาทางฉัน ส่วนฉันก็ใจเต้นอะไรก็ไม่รู้ “ไม่ใช่ แฟนฉันสวยกว่านี้” ระ แรง แรงมาก ฉันตวัดมองหน้าเขาพร้อมกับกัดฟันกรอด ไม่ได้โมโหที่หมอนี่บอกว่าตัวเองมีแฟนแล้ว แต่โมโหที่เขาบอกว่าแฟนของเขาดันสวยกว่า ไอ้บ้าคิระ!! อึก อึก อึก ฉันยกแก้วเหล้าในมือขึ้นอีกครั้ง ชนกับตัวเองในหัว แล้วกระดกรวดเดียวหมดแก้ว รสขมไหลผ่านร้อนผ่าวทั่วลำคอ แต่ไม่เท่าความรู้สึกในใจตอนนี้ที่กำลังร้อนรุ่ม แม่ง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD