ตอนที่ 2

1155 Words
น้อยคนนักที่จะได้เจออุบัติรักอย่างที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้เดินชนกันที่หน้าห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง… แล้วจากนั้นดลญาร์ก็ได้กลายเป็นเจ้าสาวของเทพบุตรสุดหล่ออย่างเคนนี่ ‘เมื่อไรนะ… จะถึงทีของเราบ้าง’ ดาริกาพึมพำอยู่ในใจ นึกถามกามเทพว่าทำไมเนื้อคู่ของหล่อนยังไม่ปรากฏตัวสักที อีกหนึ่งปีต่อมา ณ ไร่องุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ “ยัยดาว… ปิดเทอมแล้วใช่ไหม” ‘ดลญาร์’ กรอกเสียงไปหาน้องสาวที่อยู่ปลายสาย เพราะอยากให้ ‘ดาริกา’ มาพักอยู่ด้วยกันที่ไร่องุ่นของหล่อนกับเคนนี่ผู้เป็นสามี ในระหว่างปิดเทอม ตอนนี้ดาริกาอาศัยอยู่กับนายวุฒิและนางพรรณีที่กรุงเทพฯ “อยากไปมากค่ะพี่ญาร์… แต่ช่วงนี้ดาวจะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยฯ ค่ะ… ” ดาริกากล่าว หล่อนมักจะเรียกชื่อพี่สาวสั้นๆ ว่า ‘ญาร์’ เช่นเดียวกับดลญาร์ที่เรียกชื่อของดาริกาว่า ‘ดาว’ จนติดปาก “ก็เอาหนังสือมาอ่านที่ไร่สิจ๊ะ… ไม่เห็นจะยาก ที่นี่เงียบสงบมาก บรรยากาศดี๊ดี… เหมาะมากกับการมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ” ดลญาร์อยากเจอน้องสาว แม้ว่าดาริกาจะเป็นเพียงน้องสาวต่างสายเลือด แต่ดลญาร์ก็รักและห่วงใยดาริกาไม่ต่างจากน้องสาวในไส้ “หูย… ดาวอยากไปมากค่ะ งั้นจะลองขอคุณพ่อดูนะคะ… ถ้าคุณพ่ออนุญาตดาวอยากจะไปอยู่กับพี่ญาร์สักอาทิตย์นึง” น้องสาวรีบตอบกลับมายังต้นสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ รู้ว่าที่ไร่องุ่นในเชียงใหม่บรรยากาศดีจริงๆ ก็เพราะเคยไปร่วมงานแต่งดลญาร์มาแล้วเมื่อปีก่อน “แล้วแอดมิชชั่นที่จะถึงนี้… ดาวเลือกคณะอะไรจ๊ะ” “มนุษย์อิ๊งค่ะพี่ญาร์” ดาริกาหมายถึงคณะมนุษยศาสตร์ภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของภาคเหนือ เพราะว่าตอนนี้หล่อนเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลายมาหมาดๆ เดือนหน้าที่จะถึงนี้หล่อนจะต้องสอบแอดมิชชั่น “ดีเลยจ้ะ… ถ้าดาวมาเดี๋ยวพี่เคนน์สามีพี่จะช่วยติวภาษาอังกฤษให้… พี่เคนน์เก่งภาษามากจ้ะ” ดลญาร์กล่าว ‘เคน’ ที่ถูกเอ่ยถึงก็คือ ‘เคนนี่’ หนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทย-อเมริกันวัยสามสิบแปดปี สามีของหล่อนที่แต่งงานกันได้ปีกว่า เมื่อก่อนเคนนี่เคยเป็นครูอยู่อเมริกา ก่อนจะลาออกเพราะความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจย้ายภูมิลำเนามาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองไทย จากนั้นเคนนี่ก็ได้เจอกับดลญาร์แล้วแต่งงานกัน ผันตัวจากชีวิตครูมาเป็นชาวไร่จนทุกวันนี้ เคนนี่มีทั้งไร่องุ่นและกาแฟบนเนื้อที่หลายร้อยไร่ในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากเคนนี่จะเป็นเจ้าของไร่องุ่นและไร่กาแฟ เขายังมีรีสอร์ตอยู่ในอำเภอแม่แจ่มของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย มรดกที่ได้รับมาจากบิดาชาวอเมริกัน ทำให้ฐานะของเคนนี่จัดว่าร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองเหนือ “ฝากขอบคุณพี่เคนน์ล่วงหน้านะคะพี่ญาร์” ดาริกากล่าว วาบหนึ่งในความคิด… หล่อนอดนึกถึงใบหน้าหล่อเข้มของพี่เขยคนนั้นขึ้นมาไม่ได้ นึกทีไรก็ใจระทวย ผู้ชายอะไรช่างหล่อเหลามีเสน่ห์เหลือเกิน พูดคุยกันต่อมาอีกสองสามคำ ดาริกาก็ตัดสายสนทนา รีบเข้าไปขออนุญาตบิดากับมารดาที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ในห้องรับแขก “คุณลุงคะ… คุณแม่คะ… ดาวขออนุญาตไปเที่ยวหาพี่ญาร์ที่เชียงใหม่ได้ไหมคะ… คุณลุงจะอนุญาตไหมคะ” ดาริกาทำเสียงอ้อน รู้ว่าควรประจบใคร รีบเข้าไปนั่งใกล้นายวุฒิผู้เป็นบิดา เขาเอื้อมมือมาลูบศีรษะของหล่อนด้วยความรักใคร่ “ได้สิ… ว่าแต่หนูจะไปกี่วัน” นายวุฒิมองหน้าคนตัวเล็ก แม้ว่าดาริกาเป็นเพียงลูกติดมากับนางพรรณีซึ่งเป็นเมียใหม่ แต่นายวุฒิก็ให้ความรักกับดาริกาไม่ต่างจากลูกในไส้คนหนึ่ง “อาทิตย์นึงค่ะคุณลุง” หญิงสาวตอบ นางพรรณีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเข้าก็รีบแทรก “ไปอยู่โน่นก็อย่าทำตัวดื้อให้พี่ญาร์ปวดหัวนะจ๊ะยัยดาว” “ค่ะคุณแม่… ” ดาริกาดีใจจนออกนอกหน้า “เดี๋ยวลุงจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้… ฝากความคิดถึงไปให้ยัยญาร์ด้วยนะ บอกว่าอีกสองเดือนพ่อจะไปเยี่ยมลูกเขย” “ค่ะ… ขอบคุณค่ะคุณลุง” ดาริการีบยกมือไหว้ หัวใจลิงโลดขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวที่ไร่องุ่นของพี่สาว ที่เชียงใหม่อากาศดีมาก ดาริกายังจำได้เพราะว่าเคยไปมาแล้วเมื่อตอนงานแต่งดลญาร์ ในเวลาต่อมา ตอนค่ำของคืนก่อนหน้าที่ดาริกาจะเดินทางไปเชียงใหม่ หลังจากเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางลายคิตตี้แคทสีชมพูใบใหญ่จนครบ ทว่าขณะที่กำลังจะรูดซิปปิดกระเป๋าอยู่แล้วเชียว จู่ๆ ก็พลันฉุกคิดขึ้นได้ว่านางพรรณีผู้เป็นมารดาบอกว่ามีเมคอัฟกันแดดจากอเมริกายี่ห้อหนึ่งใช้ดีมาก หล่อนเพิ่งซื้อมาสองหลอด เผื่อให้ดาริกาไปใช้ที่เชียงใหม่หนึ่งหลอด แม้ว่าที่นั่นอากาศจะดีมาก หากก็แดดแรงจนต้องห่วงผิวพรรณตามประสาผู้หญิง ‘คุณแม่คงหลับแล้ว’ ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาแขวนข้างฝาผนัง ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆ ไม่แน่ใจว่ามารดาหลับแล้วหรือยัง ตอนแรกดาริกากลัวว่าจะไปรบกวนเวลานอนของผู้ใหญ่ แต่อีกใจก็กลัวว่าตอนเช้าจะลืม จึงตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ก้าวตรงไปยังห้องนอนของมารดา ทว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง ‘ดึกป่านนี้แล้ว… แม่กับคุณลุงไปไหน?’ ดาริกาสงสัย รถก็ยังจอดอยู่ในโรงจอดรถนี่นา ครั้นเมื่อชะโงกมองออกไปยังสระว่ายน้ำที่หลังบ้าน ก็เห็นริ้วคลื่นสีครามในสระน้ำ กำลังกระเพื่อมพลิ้วเป็นลอนตามแรงแหวกว่าย แสดงว่ามีคนกำลังเล่นน้ำ ซึ่งก็จริงอย่างที่คิด ลุงวุฒิกับแม่ของหล่อนกำลังว่ายน้ำ คลอเคลียกันอยู่ในสระราวกับหนุ่มสาว ดาริกานอนรออยู่ในห้องนานสองนาน แต่คนในสระว่ายน้ำก็ไม่กลับขึ้นมาเสียที ทำให้หล่อนต้องลงมาดูที่สระ และได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เห็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD