เพล้ง !
เสียงกระเบื้องเคลือบตกลงกระทบกับพื้นแตกกระจายไปทั่วทั้งพื้นห้องน้ำหวานสีแดงสดสาดกระเซ็นถูกปลายกระโปรงของหยางซูฉิน ไม่เพียงเท่านั้นนางยังยกมือขึ้นตบไปที่ใบหน้าของตนเองแรงๆ ไปหนึ่งครั้ง ลู่เหยียนซินมองนางด้วยความตื่นตะลึง
'จะหาเรื่องใส่ร้ายข้าทั้งทีถึงกลับต้องลงทุนทำร้ายตนเองถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ’
"พระชายาหม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจโปรดระงับโทสะด้วยเพคะ"
หยางซูฉินทรุดตัวนั่งลงกับพื้นห้องนางมองมาที่ลู่เหยียนซินด้วยแววตาที่ชิงชัง เรียวปากของนางเหยียดยิ้มออกมาพลางบีบน้ำตาให้ไหลอาบลงมาดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
เสียงร้องไห้คร่ำครวญของนางสร้างความรำคาญให้แก่ลู่เหยียนซินผู้เป็นเจ้าของห้องนี้เป็นอย่างมาก นางจ้องมองการกระทำของหยางซูฉินด้วยแววตาแข็งกร้าวจนหยางซูฉินเองยังรู้สึกขนลุกขนชันไปทั่วทั้งร่างกาย
หากเป็นแต่ก่อนลู่เหยียนซินคงจะอาระวาดหนักไปแล้วแต่วันนี้นางกลับนิ่งเงียบนั่งมองหยางซูฉินแสดงละครด้วยสีหน้านิ่งเฉย ลู่เหยียนซินกรอกตาแล้วมองไปที่หยางซูฉินผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามกิริยามารยาทเรียบร้อยอ่อนหวาน นางเผยตัวตนที่เลวทรามให้ลู่เหยียนซินเห็นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่กลับไม่มีผู้ใดมองเห็นกิริยานั้นเสียที
ปัง!
ประตูห้องนอนของนางถูกถีบออกด้วยฝ่าเท้าของบุรุษชุดคลุมสีเขียวหยกใบหน้าหล่อเหลาอันไร้ที่ติแต่กลับมีแววตาแข็งกร้าวดุจเหยี่ยวที่มองมายังลู่เหยียนซินก่อนสลับมองไปที่หยางซูฉิน
เมื่อเห็นสภาพนางที่นั่งจมปุกอยู่บนพื้นห้องและเห็นเสี้ยวใบหน้าของนางนั้นมีรอยแดงจากฝ่ามือปรากฎขึ้น ความโกรธเกรี้ยวก็เริ่มฉายชัดในแววตาของอ๋องฉิน
เขาย่างกรายเข้ามาหาลู่เหยียนซินออกแรงดึงแขนนางให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนและยกมือขึ้นตบเข้าไปที่ใบหน้าของนางฉาดหนึ่งจนนางล้มลงไปกับพื้น ตบนางแรงมากจนกระทั่งใบหน้าสะบัดไปด้านข้างเลยทีเดียว
เขาย่อตัวลงใช้สองนิ้วออกแรงบีบที่ลำคอของนางคล้ายมีเจตนาจะบีบให้กระดูกแหลกคามืออย่างไรอย่างนั้น ดวงตาเกรี้ยวกราดเหมือนพายุอันบ้าคลั่งกัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้นว่า
"เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ"
มุมปากของลู่เหยียนซินมีเลือดไหลออกมาแล้ว นางรู้สึกเจ็บมากแต่ก็ยังฝืนยิ้มขึ้นอย่างยากลำบากพร้อมจ้องหน้าเขา
"ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่าได้แตะต้องหยางซูฉินอีกไม่เช่นนั้นข้าจะหักมือเจ้าทิ้งเสีย"
"ท่านอ๋องโปรดอย่าทำร้ายพระชายาเลยเพคะเป็นหม่อมฉันที่ไม่ดีเอง พระชายาไม่ชอบที่หม่อมฉันเข้ามาที่จวนของท่าน แต่ว่าข้า…ข้าเพียงแค่ทนคิดถึงท่านอ๋องไม่ไหว ฮือๆ"
ลู่เหยียนซินรู้สึกสะอิดสะเอียนกับคำพูดของนางอยู่ไม่น้อยในช่วงเวลาที่เขาหันไปมองหยางซูฉินเพียงครู่เดียวนั้นลู่เหยียนซินก็รีบดึงเอาปิ่นปักผมออกมาแล้วปักไปที่ต้นขาของอ๋องฉินอย่างแรงจนเขาต้องยอมปล่อยมือออกจากใบหน้าของนาง ทำให้ลู่เหยียนซินหลุดพ้นจากพันธนาการนั้นชั่วคราว
"ท่านอ๋อง! เจ็บมากหรือไม่เพคะ" หยางซูฉินเองก็แลดูจะตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงรีบลุดเข้ามาดูแผลของอ๋องฉินด้วยความรวดเร็ว
ลู่เหยียนซินกระเถิบตัวถอยห่างจากคนทั้งคู่นางถุยเลือดลงบนพื้นห้องพลางจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่รังเกียจอย่างไม่คิดจะปกปิดเลยแม้แต่น้อย
ลี่ถิงสาวใช้ประจำตัวของลู่เหยียนซินที่เพิ่งกลับจากโรงครัวก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรีบกุลีกุจอไปประคองลู่เหยียนซินขึ้นทันที
อ๋องฉินมองเห็นแววตาว่างเปล่าที่คละคลุ้งไปด้วยความกรุ่นโกรธไม่มีแววตาของความรักหลงเหลืออยู่เลยแม้เพียงนิด เขานึกแปลกใจมากทีเดียวเพราะเมื่อก่อนลู่เหยียนซินจะพยายามเข้าหาเขาทุกครั้งที่มีโอกาสทั้งยังแสดงแววตาอันหวานซึ้งว่ารักใคร่เขามากเพียงใดแต่ครั้งนี้กลับแตกต่างออกไป
‘เกิดอะไรขึ้นกับกับนาง’
"ข้าไม่ได้ทำ"
"หากไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครกัน!"
"ข้าเจ็บหนักถึงเพียงนี้จะเอาแรงที่ไหนไปตบตีคนรักของท่านกัน"
นางเอ่ยปากบอกพลางเหยียดยิ้มให้เขารอยยิ้มที่เขาเห็นมีแต่ความเยือกเย็นและแววตาที่แข็งกร้าว
"เป็นนางที่เข้ามาแล้วหาเรื่องข้าเอง"
"หม่อมฉันเห็นกลับตาว่าพระชายาตบคุณหนูจนล้มลงกับพื้นเพคะท่านอ๋อง"
"หุบปาก! บ่าวรับใช้เช่นเจ้ากล้าโป้ปดต่อหน้าท่านอ๋องเช่นนั้นหรือ" ลู่เหยียนซินตะคอกใส่สาวใช้ของหยางซูฉินเสียงดังส่งผลให้หญิงสาวทั้งสองสะดุ้งตกใจไปไม่น้อย
"คุณหนูหยางผิวหน้าของเจ้าคงบอบบางมากสินะช่างไม่เหมือนความใจกล้าที่เจ้ามีเลยสักเพียงนิด ท่านอ๋องผู้ปราดเปรื่องหากท่านจะสืบสาวราวเรื่องจริงๆ ท่านย่อมรู้ว่าใครพูดจริงพูดปดกันแน่"
อ๋องฉินได้ยินดังนั้นก็ไปมองหยางซูฉินเขามองเห็นความผิดปกติบางอย่าง หรืออาจจะเป็นเพราะความเกลียดชังที่มีต่อลู่เหยียนซินจึงทำให้เขาเลอะเลือนมองเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ถี่ถ้วนกันแน่
"ท่านอ๋องหม่อมฉันเจ็บเพคะ"
"ข้าเป็นชายาของท่านอยู่ในจวนของท่าน หากสืบสวนแล้วสรุปว่าข้านั้นผิดจริงท่านสามารถลงโทษข้าได้ทุกเมื่อ" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหน่ายเต็มทน
"แต่ตอนนี้พวกท่านรบกวนเวลาพักผ่อนของข้าแล้วเชิญพวกท่านออกไปเสียทีเถอะข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกท่าน หากพวกท่านอยู่นานมากกว่านี้มันพานทำให้ข้าอารมณ์เสียแล้วอาจจะทำเรื่องผิดๆขึ้นมาจริงๆ ก็ได้"
นางพูดด้วยความเร็วน้ำเสียงนิ่งสายตาที่จับจ้องมายังหยางซูฉินนั้นแข็งกร้าวแลดูเยือกเย็นจนนางเองก็ยังรู้สึกขนลุกขนชันไม่หาย
อ๋องฉินมองลู่เหยียนซินนิ่งเขามองเห็นความหยาบกระด้างของวาจาและสายตาที่นางแสดงออกมา ความรักใคร่ที่นางเคยมีให้เขาดูเหมือนจะจางหายไปจนหมดสิ้นสร้างความประหลาดใจให้กับเขาอยู่ไม่น้อย
‘แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ’
"ท่านอ๋องพวกเราออไปจากที่นี่กันเถอะเพคะ"
“อืม” เขาหันไปตอบนางด้วยแววตาที่อ่อนโยนก่อนจะหันกลับมามองลู่เหยียนซินอีกครั้ง
"เจ้าอย่าได้คิดจะสร้างเรื่องอีก ครั้งนี้ข้าจะกักบริเวณเจ้าเพิ่มแต่หากเจ้ายังไม่สำนึกคิดจะก่อเรื่องขึ้นมาอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้าก็แล้วกัน"
พูดจบก็ประคองหยางซูฉินออกไปจากเรือนแห่งนี้ด้วยความรวดเร็ว
"ท่านควรดูแลคนของท่านให้ดีอย่าให้นางมารบกวนข้าก็พอ!"
อ๋องฉินหันมองนางขวับด้วยใบหน้าบึ้งตึงเขาเห็นนางส่งยิ้มที่มุมปากพลางโบกมือให้ ชั่วขณะหนึ่งเขาเองก็ยังนึกสงสัยว่านางคือลู่เหยียนซินชายาที่เขาแต่งเข้ามาหรือไม่ เพราะดูเหมือนนางจะไม่หลงเหลือแววตาของสตรีที่คลั่งรักชายหนุ่มเลยสักเพียงนิด มีเพียงความว่างเปล่า ใช่แล้วเขาสัมผัสได้ว่าแววตาของนางนั้นว่างเปล่ามาก!
หยางซูฉินเองก็หันมาไปนางด้วยแววตาเกลียดชัง ‘สักวันเถอะข้าจะต้องเป็นพระชายาเอกของจวนแห่งนี้และจะเขี่ยเจ้าออกจากจวนแห่งนี้ให้จงได้!’
ทั้งคู่รีบเดินออกไปจากบริเวณเรือนซินหยางหลังจากนั้นความเงียบสงบก็เข้ามาแทนที่ทำให้ลู่เหยียนซินเริ่มรู้สึกหายใจหายคอสะดวกขึ้น
"ไปได้เสียทีทำตัวน่ารังเกียจเสียจริงตาอ๋องบ้านั่นก็ช่างขี้เก๊กโง่เง่าเหมือนตัวอะไรสักอย่าง รู้เช่นนี้ข้าน่าจะตบเรียกสติสักทีสองทีท่าจะดีไม่น้อยเลย”
“!”
ลู่เหยียนซินหันหลังตั้งใจจะกลับไปนอนพักเอาแรงอีกสักหน่อยแต่เมื่อมองไปเห็นสีหน้าของลี่ถิงสาวใช้ของนางก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เจ้าเป็นอะไรเหตุใดต้องทำหน้าเช่นนั้นด้วย”
“พระชายาเมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไรนะเพคะ”
“โอ๊ยช่างเถอะถือว่าไม่ได้ยินแล้วกัน เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าทีเตรียมน้ำให้ข้าด้วยข้าอยากแช่น้ำแล้วเหนื่อยเหลือเกิน"
"เพคะพระชายา"
ลู่เหยียนซินค่อยๆ ถอดอาภรณ์ออกทีละชิ้นจนร่างกายเปลือยเปล่าเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยั่วยวนสายตาแต่ความเจ็บแสบที่แผ่นหลังทำให้นางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
‘ในตอนที่นางถูกโบยจะเจ็บมากแค่ไหนกันนะทนไปได้อย่างไรกัน’
นางค่อยๆ ก้าวเท้าลงไปในถังน้ำเมื่อผิวกายสัมผัสกับความอุ่นก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแสบบนแผ่นหลังที่หลงเหลืออยู่
"พระชายาเมื่อครู่ท่านไม่ควรทำร้ายท่านอ๋องเลยนะเพคะ"
"พวกนั้นหาเรื่องข้าก่อนนะเจ้าจะให้ข้าอดทนปล่อยให้พวกเขารังแกได้อย่างไรกัน”
"หม่อมฉันก็เพียงแต่กลัวว่าท่านอ๋องจะลงโทษพระชายาอีกตั้งแต่ท่านแต่งเข้ามาในจวนแห่งนี้ก็ไม่เคยเห็นท่านกล้าต่อปากต่อคำกับท่านอ๋องเลยสักครั้ง แต่วันนี้ท่านกลับกล้าต่อปากต่อคำทั้งยังทำร้ายท่านอ๋องด้วยคิดว่าพวกเราคงไม่พ้นที่จะต้องอดอาหารกันอีกแน่นอนเลยเพคะ"
"อดอาหารงั้นหรือ"
"ใช่แล้วเพคะครั้งก่อนที่ท่านสั่งให้คนไปทำร้ายคุณหนูหยางผู้นั้น ท่านอ๋องโกรธมากสั่งโบยท่านห้าสิบไม้และสั่งห้ามไม่ให้ส่งอาหารมาที่เรือนตั้งสามวันเลยนะเพคะ"
"สามวันเลยหรือ!"
ลู่เหยียนซินได้ยินดังนั้นก็คิดหนักทันทีสั่งกักบริเวณนางยังพอทนได้แต่จะให้นางอดอาหารนั้นไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! นางต้องทำอะไรสักอย่าง
"พระชายาถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วหม่อมฉันจะทายาที่หลังและเปลี่ยนผ้าปิดแผลให้นะเพคะ"
"อืม"
‘ให้อดอาหารตั้งสามวันนี่มันเท่ากับฆ่ากันชัดๆ เรื่องกินสำหรับข้าเรื่องใหญ่เลยนะไม่ได้ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง!’