“อะ โอ้ย!”
ในขณะที่เท้าแตะลงบนพื้นก็ทำเอาร่างบางแทบล้มด้วยความเจ็บแปลบจนต้องนิ่วหน้า แต่ก็ยังเก็บอาการไว้ได้ทัน ทำเป็นเข้มแข็งกบเกลื่อนความรู้สึกภายในที่อ่อนแอ
“สงสัยข้อเท้าจะพลิก”
ร่างใหญ่ย่อลง พลางใช้มือจับข้อเท้าเล็กขยับเบาๆ ก่อนจะนำลงวางไว้ที่เดิม แล้วเปลี่ยนมาเป็นอุ้มช้อนร่างของสาวน้อยขึ้นอีกครั้ง
“อ๊ะ! ลินินเดินเองได้”
ด้วยความตกใจและไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอต้องรีบยกแขนขึ้นคล้องกับลำคอแกร่งเอาไว้เพราะกลัวตกอย่างหลบเลี่ยงไม่ได้ แต่แล้วก็ต้องก้มหน้าลง เมื่อพบใบหน้าของเธอและเขาห้างกันไม่ถึงคืบ แต่ภาคิไนยกลับทำหน้านิ่ง เขาคงไม่รู้ว่าเธอนั้นแอบหวั่นไหวเพียงใด
“ถ้าลินินยังทำตัวดื้อกับอาแบบนี้อีก อาจะไม่สนใจลินินจริงๆแล้วนะ”
ภาคิไนยด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นในขณะที่วางร่างเล็กลงบนที่นอนนุ่มภายในห้องรับรองแขกที่เธอเองก็มักจะพักอยู่เป็นประจำ
“ไม่นะคะ ลินินขอโทษ”
สุดท้ายแล้วก็เป็นเธอที่ต้องเป็นฝ่ายยอมให้กับคุณอาหนุ่มเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
“แล้วคราวหน้าคราวหลังก็อย่าพรวดพราดเข้ามาในห้องคนอื่นโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ทำแบบนี้มันเสียมารยาทมากนะรู้ไหม ถ้าลินินเป็นเด็กดีต้องเชื่อฟังอา”
ร่างใหญ่นั่งลงบนเตียงข้างกายสาวน้อยที่ยังคงนั่งร้องไห้น้ำตาซึม ต่อให้ลินินโตเป็นสาวแล้วแต่เธอก็ยังขี้แย และเอาแต่ใจเหมือนในวัยเด็กไม่มีผิดเพี้ยน
“ก็ได้ค่ะ ลินินจะเป็นเด็กดีของอาธาม”
ถึงแม้จะเจ็บปวดหัวใจเพียงใด แต่เธอก็จำใจต้องยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะโผเข้ากอดคุณอาหนุ่ม แนบใบหน้าซุกซบหาความอบอุ่นจากกายใหญ่ ขอเพียงแค่ยังมีอาธามอยู่ในชีวิตเธอก็พอใจแล้ว
“งั้นเดี๋ยวอาไปหยิบกล่องพยาบาลมาทำแผลให้นะ”
เขาใช้ฝ่ามือแตะผลักท่อนแขนเล็กเพียงเบาๆ เพื่อให้สาวน้อยขยับกายออกห่าง ร่างกายที่ท่อนบนเปลือยเปล่าสัมผัสเข้ากับหน้าอกนุ่มหยุ่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ คงจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้ลินินก็โตเป็นสาวมากแล้ว และเขาเองก็ไม่ใช่อาแท้ๆของเธอด้วย
“ค่ะ อาธาม”
ลินินตอบเสียงเบา ปล่อยให้ร่างใหญ่เดินจากไป ทั้งที่อยากอิงซบกับไหล่หนาไปจนสิ้นสุดค่ำคืน อาจจะดูแก่แดดไปหน่อย หากจะสารภาพตรงๆว่าอยากได้อาธามมาเป็นสามี
เรือนกายของคุณอาหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแรง โดยเฉพาะซิกแพคที่เป็นลอนคลื่นช่างน่าละเลงฝ่ามือเข้าลูบไล้สัมผัสลงตามผิวสีแทนหนั่นแน่น ไม่อยากจะคิดต่อไปเลยว่าภายใต้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนั้นจะมีอะไรซุกซ่อนตัวอยู่
ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่เสียใจและโมโหจนไม่ได้สนใจว่าตัวเองได้เห็นเจ้ามังกรลำยักษ์ของเขา แต่แสนเสียดายที่มันดันไปอยู่ในปากของผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะเป็นอุ้งปากของเธอ คิดแล้วก็แอบนั่งหน้าแดงอยู่คนเดียว
ความคิดของสาวน้อยต้องสะดุดลงเมื่อภาคิไนยเดินกลับเข้ามามนห้องอีกครั้งพร้อมกล่องสีขาวในมือ คนที่คิดไม่ซื่อพลันหลบสายตาคมที่มองมา ขยับเรียวขาทั้งสองข้างเสียดสีกันเพื่อคลายความรู้สึก
“อาจจะเจ็บหน่อยนะ อาจะค่อยๆทำก็แล้วกัน”
คนพูดดูเหมือนจะไม่คิดอะไร ยกวางเท้าเล็กไว้บนหน้าขา ขยับมือขวดข้อเท้าเบาๆ
เสียงทุ้มที่ได้ยินทำเอาคนฟังอดจินตนาการไม่ได้ ว่าเขาพูดปลอบโยนในขณะที่กำลังจะสอดใส่ ในหนังอีโรติกพระเอกมักจะพูดแบบนี้กับนางเอกที่เพิ่งจะเสียตัวเป็นครั้งแรก ปากบางเม้มเข้าหากันจนสนิท ใช้ฟันกัดริมฝีปากล่างในบางครั้ง ที่มือหนาสัมผัสนวดคลึงวนเวียนไปมา ความรู้สึกปวดหน่วงทรมานที่ลามลงสู่ใจกลางความเป็นสาวทำให้ลินินเผลอลากฝ่ามือลงสัมผัสตรงกลางระหว่างขาของตัวเอง พร้อมกับแยกเรียวขาออกจนกว้าง
“เจ็บไหม” ส่วนภาคิไนยก็เอาแต่ก้มหน้าทำหน้าที่ของตัวเอง
“ลินินปวดฉี่จังเลยค่ะ” สาวน้อยออดอ้อนเสียงหวาน กดคลึงนิ้วลงกลางกลีบดอกไม้ที่เปียกชุ่ม
“ลินิน” เหมือนมีก้อนเหนียวๆมาจุดอยู่ที่ลำคอ