ตามหาเบาะแส

1149 Words
            คุณอัสดาออกไปทำงานแล้วมีฉันอยู่บ้านคนเดียว โดยมีแม่บ้านอยู่ด้วย 2-3 คน ฉันมองไปรอบๆบ้านก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมบ้านใหญ่โตขนาดนี้ถึงมีแค่เขากับยัยมินอยู่กัน 2 คน “คุณมินคะ อีก 1 เดือนคุณท่านกับคุณญาก็จะกลับมากรุงเทพฯแล้วนะคะ..?” ฉันหันไปมองแม่บ้านที่เดินเอาของว่างมาวางลงที่โต๊ะหน้าโทรทัศน์ให้ฉัน “คุณท่าน..? คุณญา..?” “ค่ะ..” ฉันทำหน้าสงสัยว่าที่แม่บ้านพูดถึงเป็นใคร หรือว่าคุณท่านที่เธอพูดถึงจะเป็นแม่ของคุณอัสดา แล้วคนที่ชื่อคุณญานี่เป็นใครล่ะ “แล้วเขา 2 คนไปไหนหรอ..?” “คุณท่านพาคุณญาไปหาหมอค่ะ..” “หมอ..หมออะไร..?” “ก็หมอที่รักษาอาการทางประสาทไงคะ..คุณญานะเธอป่วยจนต้องทานยาระงับประสาท ก่อนที่คุณมินจะไปหาแม่ที่ต่างจังหวัด เธอก็คลุ่มคลั่งอาละวาดจนบ้านแตก แถมยังทำร้ายคุณมินจนเจ็บตัว ดวงนี่สงสารคุณมินสุดๆ แต่ดีนะคะที่คุณพีรพลมาช่วยคุณไว้..” “พีรพลหรอ..?” ฉันทวนชื่อของคนที่ชื่อพีรพลก็คิดทบทวนถึงหน้าตาของคนที่ดวงพูด จะใช่คนที่อยู่ในโทรศัพท์ของยัยมินหรือเปล่านะ ฉันเหมือนจะเห็นรูปหนึ่งเป็นรูปที่มินถ่ายคู่กับผู้ชายที่ไม่ใช่คุณอัสดา “คุณญานะเธอหมั้นกับคุณพีรพลนานแล้ว คุณพีรพลก็ดีแสนดีรักคุณญามาก แต่คุณญานะซิคะขี้เหวี่ยงขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง มีก็แต่คุณอัสดากับคุณท่านที่คุณญายอมฟังยิ่งถ้าเป็นคุณมินนะคะ..” “ฉันทำไมหรอ..?” “นังดวง..” ฉันสะดุ้งตกใจที่มีเสียงของคนที่มีอายุหน่อยตะโกนเรียกชื่อดวงจนเสียงดัง “จ๋า...ป้า” “มานั่งอู้อะไรตรงนี้...ทำไมไม่ไปทำงานของตัวเอง..?” “ฉันก็ยกขนมมาให้คุณมินนี่ไงละป้า นี่ก็กำลังจะไปแล้วจ๋ะ..” “ก็ไปสักทีซิ มานินทาคนอื่นเขาอยู่ได้..” ฉันหันไปมองป้าแม่บ้านคนนี้อย่างรู้สึกไม่พอใจ “คุณกลับมาคราวนี้ ควรระวังตัวเองให้มากนะคะ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณอีก ก็คงไม่มีใครช่วยคุณได้อีกแล้ว..” ป้าแม่บ้านพูดจบก็หันหลังจะเดินไป “เดี๋ยวซิ…” ป้าแม่บ้านหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าฉัน “ที่ป้าพูดหมายความว่าอะไร จะเกิดอะไรขึ้นกับฉันหรอ..?” “คุณก็น่าจะรู้ตัวเองดีว่าเรื่องอะไร..?” ป้าพูดจบก็เดินหันหลังกลับไป ปล่อยให้ฉันสงสัยว่าที่เธอพูดคือเรื่องอะไรกันแน่   …. เวลาบ่ายโมง ฉันเดินสำรวจไปทั่วบ้านว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ห้องที่นี่มีเยอะเหมือนกันแหะ ห้องฝั่งที่ฉันนอนมี 2 ห้องคือห้องหอของยัยมินกับคุณอัสดา และก็ห้องทำงานของเขา แต่อีกฝั่งหนึ่งของบันไดมีห้องนอนอีก 2 ห้อง คงจะเป็นห้องแม่เขาและห้องคุณญาน้องสาวเขาแน่ๆ ฉันเดินไปฝั่งห้องแม่เขาและห้องน้องสาวเขา มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีใคร จึงลองจับลูกบิดประตูเพื่อจะเปิดเข้าไปดู แต่มันดันล็อคซะนี่ “บ้าจริงๆเลย..” ห้องแม่เขาล็อคและห้องคุณญาก็ล็อคเหมือนกัน ฉันจึงรู้สึกเซ็งๆจนต้องเดินถอยหลังกลับไป แต่พอหันไปเห็นแม่บ้านคนหนึ่งกำลังหิ้วไม้ถูพื้นกับไม้กวาดขึ้นมา ฉันก็รีบหลบเพื่อไม่ให้เธอเห็น และแม่บ้านคนนั้นก็ใช้กุญแจไขเข้าไปในห้องแม่ของเขาเพื่อเข้าไปทำความสะอาด ฉันจึงต้องเดินถอยออกมาก่อน “ฉันจะต้องเข้าไปในห้องนั้นให้ได้คอยดู..” ฉันเดินกลับไปในห้องนอนตัวเองก็คิดอะไรขึ้นได้หยิบโทรศัพท์ของยัยมินขึ้นมาดูอีกครั้ง “ทำไมในโทรศัพท์แกถึงไม่มีข้อมูลอะไรเลย..?” ฉันเลื่อนไปดูรูปภาพหลายรูปๆก็เห็นมีแต่รูปถ่ายคู่กับคุณอัสดา ทุกรูปพวกเขาทั้งคู่ต่างดูยิ้มมีความสุขมาก “แกก็ดูมีความสุขดีนะมิน ทำไมแกถึง..”   ... วันนี้ผมกลับบ้านเร็วเพราะอยากมาทานข้าวเย็นกับมิน “มินไปไหนละ..?” “คุณมินอยู่บนห้องค่ะ..” “อื้ม ขอบใจมาก” ผมจึงรีบเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนตัวเองก็แปลกใจที่เธอไม่ได้อยู่ในห้อง “มินหายไปไหนนะ..?” ผมเดินไปดูในห้องน้ำก็ไม่มี แล้วที่แม่บ้านบอกว่าอยู่บนห้องละทำไมถึงไม่เห็นเจอ   ตุ๊บ>> ผมได้ยินเหมือนเสียงห้องข้างๆน่าจะมีอะไรตก เพราะห้องนั้นมันคือห้องหนังสือของผม ปกติจะไม่ค่อยมีใครเข้าไปนอกจากผมจะเป็นคนพาเข้าไปเอง มันเป็นห้องหนังสือส่วนตัวของผมที่ผมหวงมากๆ เพราะมันเป็นหนังสือที่หายากและผมก็รักมันทุกเล่มด้วย “มิน..” ผมเปิดประตูเข้าไปดูเห็นมินกำลังจัดหนังสือที่ตกลงมาบนพื้นที่กำลังจัดวางจัดไว้ที่เดิม “คุณอัสดา..” “มินเข้ามาทำอะไรในห้องนี้..?” “เอ่อ..คือ” เธอก้มมองหนังสือในมือตัวเอง  “คือ..มินแค่เบื่อๆนะคะเลยมาหาอะไรทำ ก็เลยว่าจะหยิบหนังสือในห้องนี้ออกไปอ่านสัก 2-3 เล่ม แต่ถ้าพี่..” “เมื่อก่อนมินไม่เคยชอบอ่านหนังสือพวกนี้เลย พี่เคยเอาไปให้มินอ่านแล้วแต่มินบอกว่ามินไม่ชอบ..” “ก็ตอนนี้มินอยากอ่านแล้นี่คะ..” “ทำไมถึงอยากอ่านละ เมื่อก่อนเคยบอกพี่ว่าเวลาอ่านหนังสือแล้วจะชอบหลับนี่..?” “ถ้าพี่หวงนัก มินไม่เอาก็ได้ค่ะ..” มินพูดจบก็วางหนังสือลงที่เดิมแล้วก็เดินผ่านหน้าผมไป ผมรู้ว่าเธอเริ่มโกรธจึงจับแขนเธอไว้แล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดรัดจนแน่น “ปล่อยนะคะ..” “พี่ไม่ได้หวงหนังสือนะ แต่พี่ก็เคยน้อยใจมินแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้หรอ..?” “น้อยใจ..?” “ใช่..” เธอมองหน้าผมนิ่งๆ นี่เธอจำไม่ได้หรือไงว่าเธอเคยตวาดใส่ผมเสียงดังเรื่องที่ผมยัดเยียดให้เธออ่านหนังสือที่ผมชอบ แต่เพราะเธอเคยบอกว่าเธอไม่ชอบอ่านหนังสือและก็ทำท่าหงุดหงิดใส่ผม ที่ผมไปบังคับให้เธออ่าน หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยบังคับเธอและไม่เคยพาเธอเข้ามาในห้องหนังสือของผมอีกเลย  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD