จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ..
อื้อ…
“เช้าแล้วเหรอเนี่ย..” วงจรชีวิตของเธอนั้นไม่มีอะไรมากหรอกในหนึ่งวัน มันก็แค่ ตื่นนอนตอนเช้า อาบน้ำ ลงไปหาของกิน (อาหารเหลือ) ในครัว ไปทำงาน พักเที่ยง กลับมาที่นี่ อาบน้ำและนอน.. นั่นแหละชีวิตประจำวันของเธอ.. เธออยู่แบบนี้มาจะครบเดือนแล้วนะ แต่ทุกอย่างมันเหมือนในเรือนจำที่เธอเคยใช้ชีวิตอยู่เลย มีผู้คุมที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าใครบ้างเพราะดูเหมือนทุกคนจะเป็นผู้คุมที่คอยสอดส่องดูความประพฤติของเธออยู่ตลอดเวลา
สิบห้านาทีต่อมา..
ตึกตึกตึก…
“สวัสดีค่ะป้า…”
ขวับ..
“อืม..”
“พอจะมีอะไรเหลือบ้างไหมคะ?”
“โอ๊ย.. ทำตัวอย่างกับเป็นคุณนายไปได้ ไร้ประโยชน์ ป้ารู้อะไรไหมคนงานในไร่น่ะต่างพากันพูดว่ามีคนหนึ่งนะทำงานไม่ได้เรื่องเชื่องช้ายิ่งกว่าเต่า ทำงานพลาดอยู่บ่อย อันไหนที่จะต้องตัดก็ไม่ตัด อันไหนที่ควรจะปล่อยไว้ก็ดันไปตัดไม่รู้ว่าจะโง่ไปถึงไหนก่อน คนแบบนี้ไม่รู้ว่าคุณชยุตเธอไปเอาเข้ามาอยู่ได้ยังไงอ๋อลืมไป.. เอามาจากคุก ขี้คุก หนูลืม..”
“นังแตง.. หุบปาก..”
“ฉันพูดเรื่องจริงนี่จ๊ะป้า”
“ไปทำงานของตัวเองซะถ้าคุณชยุตได้ยินแกจะมีปัญหา.. ส่วนเธอน่ะ.. ฉันตักกับข้าวไว้ให้อยู่ตรงนู้น..”
“อ้าว.. ป้า! หนูไม่รู้ว่าป้าตักให้คุณนายตื่นสายคนนั้น.. หนูเอาไปเทให้อีด่างกินแล้ว..”
“นังแตง!!”
“ไม่เป็นไรค่ะป้า.. ขอบคุณนะคะ…”
ขวับ..
ตึกตึกตึก…
จ๊อก.. อึก อึก อึก..
ฮ๊า…
“ไม่เป็นไร.. ตอนเที่ยงก็น่าจะพอมีของกินอยู่ค่อยไปหาของกินที่โรงอาหารก็ได้..” สำหรับเธอมันไม่ได้แปลกใหม่อะไรหรอก เธอเจอทำแบบนี้ทุกวันจนชินแล้ว..
ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวเดินมันทำให้เธอมีเวลาคิดอย่างสงบและจดจ่อ.. ในหัวของเธอก็ไม่มีอะไรมากนอกจาก.. ถ้าเธอหมดลมหายใจไปเธอจะพยายามนึกถึงความดีที่เธอเคยทำมา เธอจะพยายามอยู่กับปัจจุบัน เธอจะไม่เก็บเอาความทุกข์มาใส่ใจ เธอจะมีสติในทุกย่างก้าวของเธอ เธอไม่ติดใจหรือเคียดแค้นใครแล้ว เพราะตอนเธอเกิดเธอก็เกิดมาแค่คนเดียว และเมื่อเธอตายเธอก็ตายแค่คนเดียว โลกนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้..
….
พักเที่ยง..
จ้อกแจ้กจอแจของคนที่มารออาหารเที่ยงเธอเองก็เช่นกัน.. เธอมักจะเลือกรอให้ทุกคนไปเอาอาหารก่อนและเธอก็จะรอเป็นคนสุดท้ายเพราะอย่างน้อยแค่ได้กินข้าวเปล่าก็ยังถือว่าดีอยู่ กับข้าวเธอไม่ได้ยึดติดหรอกว่าจะเหลือให้เธอ
ผลั่ก..
“โง่รึยังไงถึงไม่มีตาดู..”
ฮ่าๆๆ
“คนที่มันเคยติดคุกมันจะไม่ค่อยมีสมองอะไรมากมายหรอกแก.. อีขี้คุก..”
“เมื่อไรจะเลิกจองเวรกันสักทีฉันถามหน่อยเถอะ ฉันไปทำอะไรให้พวกเธอนักหนา..”
“แกก็ตายๆ ไปซะสิคนที่นี่จะได้ไม่ต้องทนมองสิ่งสกปรกแบบแก..”
“ฉันตายไม่ได้”
“หน้าด้านจริงๆ เลยว่ะเหลือเชื่อเลยต้องเกิดมาเป็นคนแบบไหนกัน พ่อแม่คงจะไม่สอนสิ่งดีๆ ให้เลยสินะ.. หรือว่าพ่อแม่ชิ่งตายไปก่อนที่ทนเห็นลูกเลวๆ แบบนี้.. โถ่ๆ สมควรแล้วแหละอย่าอยู่ให้เปลืองพื้นที่ของคนดีเลย..”
เพี้ยะ..
“จะว่าฉันยังไงฉันไม่สนแต่อย่ามาว่าแม่ฉัน..”
เคล้ง…
หมับ.. เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ..
“มึงกล้าตบกูเหรอ อีไหมจับมัน อีปูจับมัน วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงออกเอง..”
เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ…
ตึกตึกตึก..
หยุด.. หยุด!!
“ทำอะไรกัน.. เป็นบ้ากันหมดแล้วเหรอ? นี่มันเป็นครั้งที่สองแล้วนะที่ฉันเห็น และก็เป็นพวกเธออีกแล้ว.. เห็นทีฉันจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณชยุตแล้ว..”
“คุณหมอก็อย่าโง่ให้มันมากเลยค่ะ อีนี่มันเป็นอีขี้คุก อีคนชั้นต่ำ อีไพร่ อีหน้าด้าน การมีตัวตนของมันอยู่บนโลกนี้เป็นสิ่งที่โคตรจะแย่เลย.. กาลกิณีสุดๆ และที่สำคัญ.. พวกเราไม่ได้เริ่มก่อนเป็นมัน เป็นมันที่เริ่มก่อนทุกคนที่นี่เห็นกันหมด..”
“อย่างนั้นเหรอ? ตอบมาสิ” เงียบ… ไม่มีใครตอบเลยสักคน.. แบบนี้ก็น่าจะรู้แล้วสินะ..
หึ…
“ฉันจะต้องเอาเรื่องนี้ไปคุยกับคุณชยุต.. ลุกขึ้น..”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน..”
พรึบ..
ตึกตึกตึก….
~~~~~
ฮึก..
“อย่า.. อย่าร้องไห้.. ลีแกอย่าร้องไห้..”
ฮึก..
ตึกตึกตึก…
ฟุบ…
ฮือ.. ฮือ..
“แม่จ๋า.. แม่มารับลีได้ไหม.. แม่ช่วยมารับลีได้ไหม.. ลีคิดถึงแม่ ลีอยากไปอยู่กับแม่แล้ว.. ลีไม่อยากอยู่แล้วโลกใบนี้มันไม่เหมาะกับลีเลยสักนิด…”
ฮือ…
เธอหลบเลี่ยงผู้คนที่นั่นมาอยู่ที่เรือนกระจก.. มันเป็นสถานที่ที่เธอทำงาน มันเป็นสถานที่เดียวที่ทำให้จิตใจเธอสงบ เธอได้มองเห็นกุหลาบสวยๆ ก้านยาวๆ ดอกของมันช่างโตและสวยงามมาก.. เธอชอบที่จะมาอยู่ที่นี่เธอชอบที่จะได้มองเห็นพวกมันเติบโต เธอมีโอกาสได้ดูแลพวกมันให้ออกดอกสวยงามแบบนี้.. ที่นี่คือสถานที่เดียวที่สามารถฮีลใจเธอได้..
ตึกตึกตึก…
“ลี.. ลีอยู่ไหน..”
พรึบ…
ผู้ชายคนนี้จะตามเธอไปถึงไหน.. เขาจะหาเรื่องให้เธอไปถึงไหนแค่ที่ผ่านมามันยังหนักไม่พอรึยังไงกัน..
ตึกตึกตึก…
“ลี.. ลุกขึ้น..” คิดว่าจะหลบพ้นรึยังไงกัน.. ที่จริงตัวก็เล็กอยู่ทั้งตัวเล็กและน้ำหนักเบาแบบนั้น.. เขาเองก็รู้แหละว่าเจ้าตัวเจออะไรมาบ้างแต่จะให้เขาปิดตาข้างหนึ่งต่อไปไม่ได้แล้ว.. มันไม่ใช่สิ การที่คนพวกนั้นหาเรื่องแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้มันจะเกินไปหน่อย มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาสมควรทำ.. มันไม่ได้สิ มันควรจะมีของเขตกันบ้าง..
“คุณหมอค่ะ… ฉันขอร้องได้โปรดอย่ายุ่งกับฉันอีกเลยนะคะ แค่นี้ชีวิตของฉันก็วุ่นวายมากพอแล้วถ้าคุณหมอยังจะมายุ่งวุ่นวายกับฉันไม่เลิกแบบนี้.. ชีวิตฉันคงจะสั้นเร็วกว่าปกติแน่..”
“จะบ้าเหรอ? คุณชยุตไม่ได้ใจร้ายที่จะฆ่าแกงใครได้หรอก..”
หึ..
ฮ่าๆๆ
หัวเราะทั้งน้ำตาเหรอ? มันจะต้องเจ็บปวดถึงขนาดไหนกันถึงได้หัวเราะออกมาพร้อมน้ำตาแบบนี้.. เธอคนนี้จะต้องเจออะไรมาบ้างกันนะ เขาสามารถถามและปลอบใจได้รึเปล่า.. เขาสามารถทำได้รึเปล่า ถ้าเขาพูดออกไป.. เธอคนนี้จะตอบเขายังไงกัน..
ตึกตึกตึก…
“แก..”
“พวกเธอ.. ยังตามมาหาเรื่องถึงที่นี่อีกเหรอ?”
“คุณหมอ… หลบไป..”
หมับ..
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ..”
หมับ..
ตึกตึกตึก.. เพี้ยะ เพี้ยะ
หมับ..
โป๊ก.. เพี้ยะ เพี้ยะ..
“มึง.. วันนี้กูจะเอาเลือดเลวๆ ของมึงออกมาให้ได้..”
เพี้ยะ..
หมับ..
“โอ๊ย.. ปล่อยนะ.. พวกหมาหมู่เอ๊ย.. โอ๊ย..”
เพี้ยะ เพี้ยะ…
“หยุดนะ บอกให้หยุดไง..” ให้ตายสิวะเนี่ยเขาก็เป็นผู้ชายนะเว้ยแต่การที่ยกพวกมากันหลายๆ คนแบบนี้มันก็ทำให้เขาที่น่าจะได้เปรียบทางร่างกายก็ต้องเสียเปรียบไป..
เพี้ยะ..
ผลั่ก..
ตุบ..
อึก…
หมับ..
“เฮ้ย…”
“เฮ้ย!!”
“ฉัน.. ฉันไม่ได้ตั้งใจ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ..”
“แก.. ไป… ไปกันเถอะ..”
“ลี.. ลี… ใจเย็นๆ .. หายใจเข้าลึกๆ นะ.. ฉันจะพาเธอไปหาหมอ.. ฉันจะพาเธอไปหาหมอเอง..”
เพียงเธอก้มมองลงไปดูที่เอวฝั่งขวาของเธอมันก็ทำให้มือของเธอสั่นไปหมด.. คราดพรวนดินอันเล็กที่เธอมักจะใช้พวกมันเวลาต้องการขุดดินให้มันร่วนซุยจากปกติที่มันมักจะอยู่ในมือเธอแต่ตอนนี้มันกลับมาอยู่ที่บริเวณเอวของเธอ..
“หายใจเข้าลึก.. เจ็บไหม.. เจ็บมากรึเปล่า.. ลี ลีได้ยินฉันไหม..”
หงึก หงึก..
“ตั้งสตินะลี.. ฉันจะรีบพาเธอไปโรงพยาบาล อย่าเอาเจ้านี้ออกเองเข้าใจไหม”
พรึบ…
ตึกตึกตึก…
~~~~~
เส้นทางจากเรือนกระจกมาถึงรถของเขามันก็ใช้เวลานานเสียเหลือเกิน.. ตอนนี้ใบหน้าของลีมันเริ่มซีดแล้ว.. ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะตกใจจนสติแทบจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว..
บรืน…
“นั่นมัน..” ใช่หมอรึเปล่า? แล้วอุ้มใคร?
กึก…
ตึกตึกตึก..
“มีอะไรเกิดขึ้น?”
“คุณยุต.. ป้าไม่ทราบค่ะ เห็นแค่คุณหมอวิ่งไปที่รถและออกไปเลย..”
ทำไมมันวุ่นวายกันนักนะวันนี้.. จะบอกว่าวันนี้ก็ไม่ได้สิ เพราะมันวุ่นวายทุกวันอยู่แล้วปกติก็มีเรื่องมากมายให้ปวดหัวเยอะแยะแต่เมื่อพาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาที่นี่ความวุ่นวายมันกลับเพิ่มขึ้นไปถึงสิบเท่า.. จะบอกว่าเรื่องปวดหัวนี้ทำให้เขามีความสุขไหม? บอกเลยว่ามาก เพราะการที่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นต้องถูกรังแก และถูกดูถูก.. มันเป็นอะไรที่สมควรแล้ว.. หรือว่าไม่จริง?