ตึกตึกตึก…
“คุณยุตครับ.. ผมมีเรื่องจะบอก..”
“สำคัญขนาดจนไม่เคาะประตู?”
“ครับ สำคัญมาก และสำคัญที่สุดครับ..”
ครืด..
“ว่ามา..”
“ผู้หญิงคนนั้นพ้นโทษแล้วครับ..”
พรึบ..
“อะไรนะ? ไหนว่าติดคุกสิบปีไงแล้วทำไมถึงได้ออกก่อนกำหนด..”
“คือเท่าที่ผมลองๆ ให้คนภายในสืบมา ผู้หญิงคนนั้นเป็นนักโทษชั้นดีเลยได้ปล่อยตัวเร็วกว่ากำหนดครับ และอาจจะเป็นช่วงที่ได้รับอภัยโทษด้วยเลยได้ออกเร็วกว่ากำหนดครับ..”
ปัง!!!
“แล้วตอนนี้อยู๋ไหน?”
“ยังไม่ทราบครับเพราะยังไม่เจอตัวครับ..”
“ไม่ได้เรื่อง.. ไม่ได้เรื่องสักคน!! ต้องหาให้เจอ อย่าให้ฉันต้องทำเอง…”
“ครับ…”
เพล้ง..
“แม่งเอ๊ย.. ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอได้สุขสบายนานแน่นอน.. ต่อให้เธอจะตกน้ำตาย โดนรถชนตายก่อนฉันก็จะเอาเถ้าธุลีอันโสโครกของเธอมาลงโทษจนกว่าฉันจะพอใจ.. ฉันสัญญาได้เลย…”
……
“ลีมากินข้าวลูก…”
พรึบ.. แปะ แปะ…
“มาแล้วจ้ะอ้าว… นั่น… พี่บอย… ใช่พี่บอยไหมจ๊ะ..”
^_^
“ใช่.. เป็นไงบ้าง..”
¥_¥
ฮึก…
“สบายดีค่ะ.. ลีสบายดี..”
ตึกตึกตึก…
หมับ..
“ยังขี้งอแงเหมือนเดิมเลยนะเรา..”
ฮึก… ฮึก…
“พี่บอยเป็นยังไงบ้างคะ? สบายดีรึเปล่า.. แล้วพี่บอยเรียนจบรึยังคะ?”
“จบแล้วจ้า.. ทำงานแล้ว ไกลหน่อยแต่ก็ได้เงินดี.. แต่พี่กำลังทำเรื่องย้ายมาที่นี่อยู่.. ไปกินข้าวเถอะพี่พึ่งถึงเลยนะ พึ่งมาจากสถานีขนส่งเลย… ไปกัน…”
เธออยากรักษาและเก็บความสุขแบบนี้ไปตลอดชีวิตจัง.. เธอจะสามารถทำได้รึเปล่านะ เธอจะขอเกินไปรึเปล่า.. พี่บอยพี่ชายที่แสนดี ป้าศรีป้าที่แสนดี.. ทุกคนจะอยู่กับเธอตลอดไปใช่ไหม ทำไมความรู้สึกของเธอมันบอกว่าเธอจะเป็นคนทำให้ทุกคนเดือดร้อนล่ะ ความรู้สึกแบบนี้เธอไม่ชอบเลย… ถ้าเธอทำให้ป้าศรีและพี่บอยเดือดร้อนขึ้นมา.. ป้าศรีและพี่บอยจะยังรักและเอ็นดูเธออยู่รึเปล่า..
…..
“ลี.. นอนรึยัง?”
“ยังค่ะพี่บอย..”
ตึกตึกตึก…
แกร๊ก…
“ไปนั่งดูดาวกันไหม”
“ไปค่ะ..”
ตึกตึกตึก…
“เงียบดีนะลีว่าไหม..”
“ค่ะ.. เมื่อก่อนพวกเราชอบมานั่งดูท้องฟ้าและดาวที่นี่กัน.. ถึงแม้ว่าตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแต่ท้องฟ้าและดวงดาวก็ยังคงอยู่ที่เดิม..”
หมับ…
“ลีมีชีวิตใหม่แล้ว.. เรื่องไหนที่มันทำให้เศร้าใจก็จงทิ้งมันไปกับอดีตซะ.. พี่และแม่ก็ยังคงอยู่ตรงนี้เสมอไม่ว่าลีจะหันมากี่ครั้งลีก็จะเจอพี่และแม่นะ.. ไม่ว่าใครจะว่ายังไงขอให้ลีรู้เอาไว้ว่า ลีเป็นคนดี ดีจนลีถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่พี่เชื่อว่าความดีของลีมันจะเป็นเกราะป้องกันเรื่องเลวร้ายทั้งหมด.. ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง.. ดังนั้นลีก็จงเชื่อมันในกฎแห่งกรรม ถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลานานหน่อยแต่ทุกคนก็ต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน.. เชื่อพี่.. ลีอยากเรียนต่อไหม? หรือว่าลีอยากทำอะไรรึเปล่า?”
“ลี.. ลีไม่กล้าไปเรียนค่ะเพราะลีกลัวว่าเขาจะไม่ยินดีคนคุกแบบลี..”
“เดี๋ยวนี้คนเขาเปิดกว้างแล้วนะลี.. พี่ไม่คิดแบบนั้นนะ ลีเป็นเด็กเรียนเก่ง ลีเคยสอบติดแพทย์ พี่ว่าการเรียนของลีจะเป็นการยืนยันตัวตนของลีมากกว่าคำว่าคนเคยติดคุก.. และการที่ลีติดคุกมันไม่ใช่ความผิดของลีร้อยเปอร์เซ็นต์ ลีแค่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ลีคิดว่ามันถูกและควรเพื่อคนที่ลีรัก.. พี่คิดว่ามันไม่แฟร์เลยสักนิดถ้าลีจะเอาตรงนั้นมาบั่นทอนตัวเอง.. พี่เชื่อมั่นในตัวลี พี่เชื่อว่าลีไม่ได้ทำ พี่เชื่อว่าลีต้องเรียนได้ดี.. พี่จะสนับสนุนลีเอง.. ใครมันว่าร้ายลีขอให้ลีบอกพี่ พี่จะไปจัดการมันเอง..”
^_^
“เป็นนักเลงเหรอคะ?”
หมับ..
“ใช่เพื่อลีพี่ยอมเป็นทุกอย่างนั่นแหละ.. เอาเป็นว่าพี่ให้เวลาลีไปคิดนะ คิดให้ดีว่าลีอยากทำอะไร อยากเรียนต่อไหมถ้าอยากเรียนต่อเดี๋ยวพี่จะช่วยหาโรงเรียนให้ ถ้าอยากทำงานพี่ก็จะลองๆ ไปช่วยถามให้อีกแรง..”
“ค่ะ… ขอบคุณนะคะพี่บอย”
อย่างน้อยเธอก็โชคดีที่มีคนดีๆ คอยอยู่ข้างๆ เธอและคอยให้กำลังใจเธอ.. แต่เธอเองก็ยังกลัวอยู่ดี ลึกๆ ในใจของเธอ.. เธอเองไม่มั่นใจเลยว่าจะทำยังไง เรียนเหรอ? เธออยากเรียนนะ แต่เธอจะทำได้ไหมเธอจะกล้าสู้หน้าคนอื่นรึเปล่า… ขอเวลาหน่อยก็แล้วกัน..
~~~~~~
“ยังไม่เจออีกเหรอ?”
“ยังครับ ยังไม่เจอ ยังไม่เห็นเลย แถวบ้านที่อยู่ก็ไม่เจอไม่มีวี่แววเลยครับ..”
“แล้วแม่ล่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดจะไปหาแม่เลยเหรอ?”
“ตายแล้วครับ..”
หึ..
“คงจะอับอายที่มีลูกเลวแบบนี้สินะเลยชิ่งตายไปก่อน.. แต่ก็ดีถ้ายิ่งอยู่ยิ่งน่าสงสารที่ต้องมามองดูหน้าลูกสาวตัวเองที่สุดแสนจะน่าสมเพช.. ดีแล้วที่ตายไปก่อนเพราะถ้าขืนอยู่ต่อถ้าฉันแก้แค้นขึ้นมาคนที่เที่ยวมาตะโกนบอกลูกฉันเป็นคนดีจะกระอักเลือดตายเอาได้..”
“คุณยุตจะเอาจริงใช่ไหมครับ?”
“ฐา.. แกคิดว่าฉันพูดเล่นเหรอ? เรื่องแบบนี้ฉันเคยพูดเล่นสักครั้งรึปล่า? เรื่องของผู้หญิงคนนั้น.. มันทำให้ฉันเคยพูดเล่นสักครั้งเหรอ?”
“ครับ.. ถ้าคุณยุตคิดดีแล้ว.. ผมก็จะตามหา และจะช่วยคุณยุตครับ..”
“ขอบใจ…”
…..
“เป็นไงบ้างลีไปเรียนวันแรก…”
“ก็ยังเกร็งๆ อยู่ค่ะพี่บอย..” เธอขอเรียนและพี่บอยก็เห็นด้วย พี่บอยเลยลองช่วยดูข้อมูลให้กับเธอว่าเธอสามารถไปเรียนที่ไหนได้และเธอก็ได้เรียนที่การศึกษานอกโรงเรียนเพราะวันอื่นๆ เธอก็สามารถอยู่ช่วยป้าศรีล้างจานขายของที่ร้านได้..
“เอาน่า.. เดี๋ยวก็ดีขึ้น วันแรกๆ ก็แบบนี้แหละแล้วมีเพื่อนใหม่รึยัง..”
“ยังเลยค่ะพี่บอย ทุกคนดูเกร็งๆ กันทั้งนั้นคงจะต้องรอเวลาเหมือนที่พี่บอยพูดนั่นแหละลีว่า.. แล้วพี่บอยมายังไงคะเนี่ย…”
“นี่.. พี่แว๊นมา พี่พึ่งซื้อมอไซต์ใหม่แล้วก็มารับเราด้วยปะ เจิมรถใหม่ให้พี่เลยนะ..”
“โอ้.. สวยมาก คงจะแพงน่าดู งั้นลีขอให้รถคันนี้พาพี่บอยไปสู้ความสำเร็จนะคะ ขอให้ปลอดภัยทั้งคนและรถนะคะ สาธุๆ ..”
ฮ่าๆ
“อะๆ ตามนั้นๆ ขอบคุณครับ.. ไปกัน พี่พาแว๊นสวมหมวกกันน็อกด้วยนะเพื่อความปลอดภัย..”
“ค่ะ.. ไปกัน..”
“นั่งดีๆ กอดเอวด้วยเดี๋ยวตก ตกแล้วไม่เก็บนะวิ่งตามเอาเอง..”
“ใจร้ายจัง..”
หึ….
~~~~~
กึก กึก กึก…
“แน่ใจแล้วใช่ไหมฐา แกแน่ใจใช่ไหมว่าในรูปนี้คือผู้หญิงคนนั้น…”
“ครับ.. คนนี้แหละครับ เท่าที่ผมลองไปสืบมาแล้ว.. โตขึ้นมากและสวยเลยทีเดียว..”
“หน้าสวยแต่ใจไม่สวย.. แบบนั้นก็ใช้ไม่ได้นะ..”
เฮ้อ.. เขาไม่คิดแบบนั้นสิ ทำไมเขารู้สึกเหมือนเด็กคนนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกให้รับผิดแทนใครสักคนยังไงก็ไม่รู้.. ไม่รู้สิ แต่จะให้เขาตัดสินใจว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์เลยเขาก็ทำไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่ได้รู้จักกับเด็กคนนั้นหรือเขาไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักกับเด็กคนนั้นเลยสักนิดเขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นคนดีหรือคนเลว..
“ยังไงฉันก็ต้องได้ตัวคนผิดมาลงโทษ.. ในเมื่อกฎหมายบ้านเรามันอ่อนเกินไปฉันก็จะเป็นคนร่างกฎหมายใหม่ในแบบฉบับของฉันเอง..” เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนชั่วลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมอย่างสบายสวยหรูหรอก.. ไม่มีทาง…