นานจวบจนชั่วโมงกว่ารถจะแล่นมาถึง เอมิเลียนั่งตัวเกร็งตั้งแต่ตอนนั้น ต่างกับครูซัสที่เอาแต่นั่งเงียบขรึม บ้างชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่าง เสมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ซึ่งค่อนข้างจะเครียด และยากต่อการคาดเดา
ในขณะหญิงสาว ภายในจิตใจของเธอเต็มไปด้วยความมืดดำ มึนงง และล้มเหลว หลังได้ยินข่าวการเสียชีวิตของผู้มีพระคุณผู้นั้น
" เอกสารเธอล่ะ "
" เตรียมมาครบแล้วค่ะ "
ขาคู่เล็กเรียววิ่งตามขาแกร่งอย่างกับเด็กติดแจ ทว่าเปล่าเลย เธอกลัวจะทำอะไรผิดพลาดให้เขาขุ่นมัวใจอีกต่างหาก เพราะไม่อยากให้ประวัติซ้ำรอยแล้วกับเหตุการณ์อย่างเมื่อคืน
ชายหนุ่มรุดหน้าดุ่มๆ เข้าสู่ใจกลางตึกห้องอธิบดีไม่รีรอหญิงสาว ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ต่างกับเธอที่ดูเหนื่อยหอบน่าดู แทบหายใจไม่ทัน
ใช่ เธอรู้ เธอทำภารกิจวันนี้สาย และนี่คือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ถึงใกล้จะเป็นลมล้มทั้งวิ่งยังไงก็ห้ามเหนื่อย และน่าแปลกนอกจากเขาไม่เอ็ดตะโรแล้ว กับการเสียเวลาที่มาจากเธอ บวกคำตำหนิสภาพการแต่งตัวของเธอก่อนหน้า ก็เหมือนจะถูกเมินไปด้วย
ครูซัสไม่มีทีท่าว่าจะอาย ในขณะคนมองและพากันขำครึ่งค่อนมหาวิทยาลัยยามเธอวิ่งผ่าน จนกระทั่งภารกิจผ่านไปด้วยดี เขาพาเธอเข้ามาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนี้ได้สำเร็จ ด้วยอิทธิพลเงินเป็นปึกหนาของเขา เอมิเลียเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทว่า ทำได้แค่รู้สึกแย่เท่านั้น เข้าใจแล้ว กับท่าทีแสดงกิริยาไม่ชอบขี้หน้ากับการเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอจากเขา
ใช่... มันคือคำขอของมาดามเรกาโดก่อนท่านจะสิ้นใจ ซึ่งถ้าไม่ใช่เหตุผลนั้นเขาคงไม่ทำ
เสียงสมาร์ทโฟนชายหนุ่มดังคั่นจังหวะหลุดออกจากตึกกำลังเดินไปที่รถ ชายหนุ่มหยุดฝีเท้ากดรับสาย พลางหันมาชำเลืองมองเธอซึ่งเดินตาม เอมิเลียก้มหน้านิ่ง เท้าชะงักไปด้วย
"....."
มือหนึ่งที่ไม่ได้จับโทรศัพท์ล้วงกระเป๋ากางเกง ในขณะปากเม้มสนิท สีหน้าขรึม กำลังตั้งใจฟังปลายสาย
" จำเป็นมากขนาดนั้นเชียวหรือวะ "
ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาในที่สุด
" เออ ฉันไปก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ..."
"....."
" อย่ามาว่ากันทีหลังก็แล้วกัน หากฉันจะพาคนแปลกหน้าเข้าไปด้วย "
"....."
ที่ทำให้คนฟังอย่างเอมิเลีย ขนลุกซู่...
ตึกสูงกึ่งผับกึ่งร้านอาหาร ทว่าร้างราผู้คนเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเปิด ข้างบนคือโซนโรงแรม สูงจนนับชั้นไม่ถูก เอมิเลียถูกพาเดินมาที่นี่ ด้วยชุดเชยเฉิ่มชุดเดิม ท่าทางเธอประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ทอดน่องตามผู้ปกครองเสมือนลูกแมวเชื่องๆ สายตาสาดส่องไปทั่ว นอกจากฝาผนังที่ดำมืดสไตล์ดาร์กตลอดแนวทางเดินแล้ว ก็มีเหล่าบอดี้การ์ด ผู้รักษาความปลอดภัย ร่างกายทะมัดทะแมงในชุดสูทสีเดียวกันซึ่งยืนกลมกลืนกันอยู่นี่แหละ ที่ทำให้เธอหลบตาและลอบกลืนน้ำลายทุกครั้งที่เผลอมองตา
ปึก!
" อ๊ะ... ขะ ขอโทษค่ะ"
เพราะความประหม่าไม่หยุด เท้าคู่สวยเกิดสะดุดกันเอง ถลาไปชนแผ่นหลังครูซัสเข้า เขาใช้สายตาตำหนิเธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินต่อ
ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส เย็นยะเยือกไปด้วยอุณหภูมิแอร์ บรรยากาศต่างจากข้างนอกมาก เอมิเลียกำลังสงสัยอยู่กันตั้งหลายคน ทำไมพวกเขาถึงไม่เปิดไฟ
" นั่งสิ "
ครูซัสพยักหน้าให้เธอนั่ง ส่วนเขานั้น เดินตรงไปนั่งกับเพื่อนของเขาที่โซฟายาว ซึ่งหากจะให้นับเดาเอาจากการเคลื่อนไหว น่าจะมีอยู่ราวๆ ห้าหกคน
" สวัสดี สาวน้อย"
เสียงทะเล้นของใครคนหนึ่งในกลุ่มนั้น หันมาทักทายเธอ เขานั้นยิ้มอยู่ แต่น่าเสียดาย... เธอกลับมองไม่เห็น
" อะ.. เอ่อ สวัสดีค่ะ"
เธอทักทายกลับไป พยายามเพ่งมองให้เห็นภาพตรงหน้าให้ชัดเจน ทว่า...
" แฮ่ม! "
เสียงกระแอมของครูซัสทำเธอก้มหน้างุดลงทันที
" เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า อย่ามัวเสียเวลา"
" ใจร้อนจัง ไอ้บิ๊กครูซ"
" ไม่คิดจะแนะนำ สาวน้อยคนนั้นให้พวกเรารู้จักหน่อยหรือวะ "
" ได้ข่าวว่า พามาไกลจากรั้วความซิง "
" ฮ่าๆๆๆ"
หนึ่งประโยคหนึ่งน้ำเสียง ดังผสานกันก่อนจะถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะร่วน ถูกอกถูกใจ
" หุบปากไปเลยไอ้ซัน "
ก่อนหญิงสาว ซึ่งได้ยินชัดเต็มสองหู จะบีบมือเข้าหากันแน่น ในใจอึดอัด เริ่มเกรงกลัวกับบุคคลปริศนาเหล่านี้ และไม่ชอบเอาเสียเลย กับความมืดมิด ชนิดทำเธอหายใจไม่ออก
พรึ่บ
" ขอดูหน้าหน่อย "
แสงขาวจากสปอตไลต์ส่องมาที่เอมิเลียเพียงจุดเดียว เธอสะดุ้งโหยงเผลอเงยหน้าขึ้น ภาพที่เห็น คือผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ประมาณห้าคน เท่าที่เธอเดาไว้ตั้งแต่แรก ดวงตาหวานหลับปี๋ ยกแขนคู่กันแสงนั้น จะยังไงเธอก็เห็นพวกเขาไม่ชัดอยู่ดี
" ว้าว หน้าสวยใช่เล่น ขาว หุ่นดี เสียดาย หน้าอกเล็กไปหน่อย "
" เงียบน่าไอ้คูดัส "
" มึงน่าจะหาเสื้อผ้าดีๆ ให้เธอใส่สักหน่อย "
รู้สึกแค่บทสนทนาของพวกเขา ที่พากันรุมวิจารณ์เธอ น้ำเสียงคนละเสียง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีครูซัสด้วย ที่พยายามห้ามปรามพรรคพวกของตัวเอง ก่อนหญิงสาวจะลดแขนเรียวลง หลังไฟนั้นดับสนิท
" เอาล่ะสาวน้อย พวกเรารู้จักกันแล้ว รบกวนเธอนั่งเฉยๆ ให้พี่ชายได้ทำงาน โอเค๊? "
" ไม่ต้องฟังเลยยิ่งดี "
และนาทีนี้ล่ะมั้ง ที่ทำเธอรู้สึกถึงความกดดันสุดขีด จะห้ามไม่ให้ฟังได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาคุยกันแบบเปิดเผย อีกอย่าง... มันยุติธรรมแล้วหรือ พวกเขารู้จักและเห็นหน้าเธอแค่ฝ่ายเดียว
" สรุป เรียกกูมา มีเรื่องอะไร "
ครูซัสเป็นคนเปิดวาระการประชุม
" เรื่องไอ้เวย์ มันย้ายแก๊ง "
" ทำไม? ไม่ศรัทธา ในแก๊งเดิมของมันแล้วรึไง? "
" คงงั้น ใครมันจะอยากรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนที่ฆ่าเมียมันวะ"
โดยมีเอมิเลียนั่งห่อไหล่ พยายามอย่างมากที่จะนิ่งสงบอย่างที่พวกเขาสั่ง ทว่า ในแต่ละประโยคมันกวนใจให้เธอเสี่ยงตบะแตกเหลือเกิน
" แล้วไง เกี่ยวอะไรกับพวกเรา อย่าบอกนะ มันจะมาเข้าแก๊งด้วย "
" ถูกเผงเลยไอ้เสือ "
ครูซัสถึงกับขมวดคิ้ว เริ่มกดดัน ในขณะหันชำเลืองมองเอมิเลียเป็นระยะๆ และรับรู้ว่าเธอนั้นกำลังตกใจกลัว สายตาคมกริบเลื่อนมองไปยังมือเธอ ซึ่งบีบเข้าหากันแน่นจนขึ้นเส้นปูด ส่วนริมฝีปากขยับไปด้วย
" มันจะมาอยู่อย่างเต็มใจมาก หากมึงไปเจรจาให้ "
" ทำไมต้องเป็นกู "
" เพราะมึงคือคนที่นิ่งสุขุมที่สุด "
" กูอาจจะทำปืนลั่นใส่หัวมันก็ได้ "
" ถ้าเป็นแบบนั้น พวกกูจะถือว่าไอ้เวย์มันสมควรตาย "
" ฟู่ว.."
" เอาน่า คนอย่างมึงไม่ใจร้อนพอจะฆ่าใครพร่ำเพรื่อหรอก เพราะกูเชื่อในคติ ทำงานใหญ่ใจต้องนิ่งของมึง "
" กูขอเหตุผล ที่จะให้มันมาอยู่ที่นี่หน่อย"
" เพราะมันกุมความลับของแก็งเก่ามันอยู่ เราจะได้ประโยชน์จากมันมากมาย แค่เรารู้จุดอ่อนของพวกมัน"
" แล้วอะไรทำให้พวกมึงมั่นใจว่า กูต้องทำได้"
"ความขี้ขลาดไง ไอ้เวย์มันรู้ การจะออกจากแก๊งมันไม่ง่าย"
" เฮอะ นี่กลายเป็นว่าพวกเราต้องไปอารักขามัน "
" เอาน่า บิ๊กครูซ กูบอกแล้วไง ว่ามันมีค่า.."
"....."
" แต่เฉพาะช่วงนี้ เท่านั้น"
เวเดโน่เน้นย้ำประโยคสุดท้าย ครูซัสพยักหน้าเป็นอันว่าตกลง ก่อนจะลุกพรวดเดินออกมาจากห้องนั้น ไม่คิดจะบอกลาใครสักคน
"ลุก"
โดยฉวยต้นแขนเอมิเลียบังคับให้เดินตามไปด้วย ในจังหวะที่เธอไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน
ความงงปนความตกใจทำให้เธอปิดปากเงียบสนิท เลือกที่จะสับขาวิ่งตามแรงดึงของเขาให้ทันมากกว่าการเจ็บปวด
ท่ามกลางความเคยชินของเพื่อนๆ ที่ทำได้แค่ส่ายศีรษะปนขำ กับการชอบใช้ความรุนแรงและข่มเหงของเขาเท่านั้น
" ฟัค ไอ้นี่.."
" แขนหลุดแล้วมั้งนั่น"