อิมเมจชุดนางเอกจ้า..
ปีรมานั่งรอผู้จัดการส่วนตัวไปเคลียร์เรื่องชุดที่ใส่เดินแบบ หล่อนรู้สึกว่ามันไม่คุ้มกับค่าตัวเท่าไรนัก ทางเจ้าภาพให้หล่อนใส่ฟินาเร่ก็จริงอยู่ แต่ทว่าชุดนั้นเป็นจีสตริงเลยก็ว่าได้ หล่อนนั่งมองมันอย่างชั่งใจ หากจะตัดบทก็จะทำให้งานนั้นเสียหาย
“เฮ้อ!!” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกยาวๆ
“ปริมมี่!! มาแล้วๆ” เสียงชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงหวานเดินชะม้อยลอยตามายังหล่อน
“ว่ายังไงค่ะพี่แคนดี้”
“ทางเจ้าของงานขอร้องให้เธอใส่หน่อย โดยได้ค่าตัวเพิ่มเป็น 3 เท่า” แคนดี้เอ่ยด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ เอาไงดี” แคนดี้อมยิ้มพร้อมกับทำสายตาอ้อนวอนใส่เจ้าหล่อน
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ แต่พรุ่งนี้ของดรับงานนะคะ”
“จะไปไหนอีกยะ”
“แหม ขอปริมพักบ้างนะคะ ปริมเหนื่อย” หล่อนทำหน้าตาเหน็ดเหนื่อยอย่างที่เจ้าหล่อนบอก
“ยะ พอดีพรุ่งนี้พี่ก็ไม่ได้แทรกคิวอะไร”
“อื้อ ...” หล่อนทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย เพราะปกติพี่แคนดี้ชอบแทรกคิวงานให้เป็นประจำ
“บอกไว้ก่อนนะ ห้ามเกิดเรื่องแบบครั้งก่อนนะยายปริมมี่” ปริมมี่ก้มมากระซิบ พรางจิกตาแบบดุๆ ระคนเอ็นดู
“ได้ค่ะ ไม่มีแน่นอนค่ะ”
“ฉันนี่เสียดายจิ้นแกมากเลย กะว่าจะบิ้วให้กับไฮโซสักหน่อย แต่ก็ช่างเถอะสมัยนี้ไม่มีใครเขาสนใจเรื่องแบบนี้กันแล้ว” แคนดี้รู้สึกผิดที่ทำให้ปริมหน้าสลดขึ้นมาอีก
“พี่แคนดี้!!” เสียงหวานเหมือนจะสั่นเครือเล็กน้อย
“เอาๆ แต่งหน้าได้แล้ว” แคนดี้ตัดบทพรางเรียกช่างแต่งหน้ามาจัดการให้กับนางแบบชุกฟินนาเร่อย่างปีรมา สายตาหวานมองเหม่อไปยังกระจก สมองของหล่อนนึกถึงใบหน้าคมเข้มนั้น สายตาคมดุกร้าวคล้ายกับเสือร้าย นึกแล้วก็เสียวสันหลังวาบ
ทางด้านชีตาร์ วันนี้เขาขอเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่ร้านดังนี้ด้วย เขาอยากรู้นักว่าเวลาทำงานจะเป็นเช่นไร และก็อยากจะถามนัก เวลาโชว์เนื้อหนังให้คนอื่นเห็นนั้นมันรู้สึกยังไง นึกแล้วก็หงุดหงิดเมื่อนึกภาพที่มีแต่คนรุมมองร่างเจ้าหล่อน ชีตาร์รีบแต่งตัวแล้วลงมารอคนสนิทที่รอบบี้ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ารูปร่างหน้าตาของเขานั้นเป็นที่สนใจไม่น้อยจากสาวน้อยใหญ่ที่เดินผ่านไปมา ไม่เว้นแม้กระทั่งแคนดี้ หนุ่มที่มีใจรักเพศเดียวกันนั้น
“ฮัลโหลปริมมี่ ฉันอยากบอกว่า..ฉันเจอผู้ชายคนหนึ่ง โคตรหล่ออะ”
“อะไรพี่แคนดี้ เวอร์วังขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ปีรมาส่ายหัวไปมาอย่างเอือมๆ
“จริงยะ ดาราชายนี่ชิดซ้ายไปเลยอะแก” แคนดี้จีบปากจีบคอพร้อมกับมองร่างสูงนั้นไม่วางตา
“ค่ะๆ เชิญตามสบายนะคะ ได้เวลาเตรียมตัวแล้วค่ะ อีก 10 นาทีจะขึ้นเวทีแล้ว”
“เชิญยะ ฉันดูนะ...อ้าว หายไปไหนแล้วเนี่ย”
แคนดี้มองหาร่างของชายหนุ่มในฟันแล้วต้องเสียอารมณ์กับตัวเอง ห่วงคุยกับยายปริมเพลินดูสิ อดอ่อยเลย เขาคิดพรางเดินสะบัดก้นแบนๆ นั้นเข้างานไปหน้าเวที
“หูย พี่ปริมคะ หน้าหน้าเวทีมีหนุ่มหล่อด้วยค่ะ อย่างเท่ห์อ่ะ” เสียงบรรดาเพื่อนนางแบบมาเล่าให้ฟัง พรางตาเป็นประกาย
“แหมๆ เอากันใหญ่เชียวนะ” ปีรมายิ้มให้บรรดานางแบบรุ่นน้องที่ดูจะกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย วันนี้นี่อะไรนะมีแต่คนบอกว่าเจอคนหล่อ หญิงสาวคิดในใจพรางอมยิ้มอย่างขบขัน
“น้องปริมคะ ถึงคิวแล้วค่ะ” เสียงทีมงานทำให้ร่างบางสะดุ้ง จากนั้นก็รีบเดินตามไป หล่อนยืนถอนหายใจเพื่อทำสมาธิ ทันทีที่ทีมงานถอดเสื้อคลุมออก หล่อนก็เชิดหน้าชูคอทันที
ร่างบางก้าวเท้าอวดโฉมหน้าและเรือนร่าง ทันทีที่ร่างบางปรากฏเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั่วทั้งงาน ทุกคนปรบมืออย่างถูกใจ สายตามองรวมกันยังร่างหญิงสาวในชุดว่ายน้ำทูพีชที่เปิดแก้มก้นไปเกือบครึ่ง ร่างสวยสง่าทำให้ทุกคนอ้าปากค้างแล้วมองอย่างไม่วางตา รวมถึงร่างโปร่งที่จ้องเจ้าหล่อนเหมือนกับมนต์สะกด เขาจำได้ไม่มีผิดเพี้ยน เรือนร่างขาวโพลน ชวนหลงไหลนั้นเป็นใคร คนที่ครางอยู่ใต้ร่างเขาเมื่อเดือนก่อนนั้นแน่นอน ชีตาร์กำมือแน่นเมื่อหันไปมองรอบๆ เขาเห็นหนุ่มน้อยใหญ่มองเจ้าหล่อนตาเป็นมันส์ ปากนี่แมลงวันบินเข้าไปวางไข่ได้สบาย
“นะ นาย คะ ครับ ใช่คุณปริมหริอปล่าวครับ” เคนโด้ถึงกับกระซิบถาม ปกติดูแต่ในรูปที่คนของนายส่งให้ วันนี้เจอตัวจริง ถึงว่าทำไมนายของเขาดูคลั่งไคล้นัก เคนโด้ถึงกลับกลืนน้ำลาย
“ไอ้เคนโด้ มึงหลับตาเดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงเข้ม ก็คนอื่นเขาสั่งไม่ได้ มีไอ้นี่แหละลูกน้องเขา หรือเอ๊ะ เขาจะลื้องานดี ชีตาร์คิดพรางนึกถึงชื่อเสียงของมัม เขาจึงจำต้องนั่งมองเรือนร่างเจ้าหล่อนที่เดินโยกย้ายบั้นท้ายไปตามทางนั้น
ปรีมายิ้มเล็กน้อยเมื่อไปถึงหน้าเวที สายตาหวานกวาดมองด้านล่าง รอยยิ้มหวานนั้นต้องหุบเกือบจะทันใด เมื่อเห็นใบหน้าคมที่คุ้นตา หล่อนละสายตาแล้วเดินไปอีกทางอย่างใช้ความคิด ไม่ใช่หรอกมั๊ง ฝรั่งหื่นนั่นจะมาทำอะไรที่นี่ หล่อนเดินกลับมาแล้วมองลงไปอีกครั้ง ก็ไม่เห็นร่างของเขาแล้ว ร่างบางจึงไม่ได้สนใจเขาอีก หล่อนคงตาฝาดไปเอง ปีรมาคิดในใจ
“ค่ะปรบมือให้กับดีไซน์เนอร์ชื่อดัง และบรรดานางแบบของเราด้วยค่ะ” เสียงพิธีกรประกาศพร้อมกับผายมือต้องรับคนที่ออกแบบชุดนั้น เจ้าของร้ายขึ้นมาพร้อมกับช่อดอกไม้ แล้วยื่นให้กับปีรมา
“เอ่อๆ พี่ค่ะ ดอกไม้ต้องของพี่ค่ะ ไม่ใช่ของปริม” หล่อนกระซิบบอกเจ้าของร้าน เพื่อเขาจะไม่เข้าใจ
“อันนั้นของพี่ ส่วนอันนี้ของน้องปริมค่ะ” น้ำเสียงใจดีเอ่ยพร้อมกับชี้ไปที่ช่อดอกไม้ซึ่งแฟนเจ้าของร้านส่งให้ ปีรมามองช่อดอกลิลลี่สีขาวอมชมพูอย่างไม่เข้าใจ
“มีคนฝ่ากมาให้ค่ะ”
“เอ่อๆ ใครเหรอค่ะ ไม่เห็นมีการ์ด” ปีรมาก้มลงมองช่อดอกไม้ในมือ พร้อมกับต้องหันไปยืนยิ้มกับแขกที่มาชมงานด้วยนั้น
“เอ่อไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เขาฝากมา”
“ปริมลงได้แล้วนะคะ” ปรีมากระซิบถาม เพื่อเห็นว่าชัตเตอร์กดรัวที่หล่อนนั้น อีกอย่างมันรู้สึกเขินเล็กน้อยที่มีแต่คนมองหล่อนแล้วไม่ได้สนใจเจ้าของแบรนด์นั้น
“โอ่โห มีหนุ่มให้ดอกไม้ช่อโตด้วย พี่ปริมแอบมีแฟนแน่ๆ เลยพวกเรา” เสียงบรรดาเพื่อนนางแบบเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามารุมนั้น
“อื้อ ยังจ๊ะ พี่ยังไม่มีแฟน” ปีรมาเดินเอาช่อดอกไม้ไปวาง ก่อนที่จะหันไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม
ปึ๊ก!! “อุ๊ย!!” ร่างเล็กหลับตาปี๋เมื่อชนเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง หล่อนรู้สึกว่ามันหนาเหมือนกำแพงนั้น
“อุ๊ย!! สุดหล่อ เข้ามาทำไมค่ะ ปกติห้ามเข้านะคะ” เสียงบรรดานางแบบเอ่ยขึ้น แต่ท่าทางนั้นต่างจากเสียงห้ามเหลือเกิน ปีรมาหันไปมองน้องๆ แล้วต้องเงนหน้ามองแผงอกแกร่งที่หล่อนชนนั้น
“อุ๊ย!! คุณ ไอ้ฝรั่งบะ..อึบ” ปากเล็กต้องหยุดชะงั้กเมื่อนิ้วสยาวของเขาแตะตรงกลางริมฝีปากเหมือนห้ามไม่ให้หล่อนเอ่ยคำใด
“เซอร์ไพร์ มายเลดี้” เสียงทุ่มนุ่มลึกเอ่ยขึ้น พร้อมกับแขนแกร่งที่รั้งเอวเล็กของหล่อนแน่นขึ้น ปีรมาดีดดิ้นทันทีเมื่อรู้สึกตัว
“อุ๊ย!! แฟนพี่ปริมก็ไม่บอก ว๊า เสียดายจัง” เพื่อนนางแบบเอ่ยพร้อมกับมองเขาตาปริบๆ ชีตาร์หันไปยิ้มมีเสน่ห์
“เขาไม่ใช่แฟนพี่นะคะ” ปีรมาหันไปบอกน้องๆ ที่ตอนนี้กระจัดกระจายไปเก็บของแล้วนั้น
“หึ ผมไม่ใช่แฟนหรอก แต่ผมเป็น.....อุ๊บ!!” ชีตาร์ยิ้มทะเล้นเมื่อเจ้าหล่อนยกมือขึ้นปิดปาก
“ถ้านายปากเสีย ฉันจะเรียกตำรวจมาจับนาย”
“แต่หากว่าคุณไม่ดีกับผม ทุกคนต้องรู้แน่ว่าเราเคย....” เขาลากเสียงต่ำเหมือนล้อเลียน ดวงตาเข้มมองใบหน้าสวยเซ็กซี่นั้นไม่วางตา เขาไล่มองเนื้อตัวขาวในชุดทูพีซนี่แล้วก็คลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่าก้อนเนื้อสองก้อนมันเบียดอยู่กับอกแกร่งนั้น
“อ๊ะ อื้อ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ปีรมาสั่งเสียงเข้ม แต่ประโยคนั้นมันดังพอให้คนสองคนได้ยินเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นรีบเปลี่ยนผ้าแล้วไปกับผม”
“นี่!! ไอ้ฝะ...” ใบหน้าสวยปากเล็กเม้มเข้าหากันเมื่อเขาชี้หน้าหล่อนห้ามปราม หล่อนจำต้องสะบัดกายออกมาจากการกอดกุมของเขา ภาพที่เห็นทำเอาบรรดาเพื่อนนางแบบอิจฉา มันเหมือนคู่รักที่งอนกันมากกว่าสิ่งอื่นใด ชีตาร์ยิ้มอย่างพอใจแล้วออกไปยืนรอหล่อนหน้าห้องแต่งตัว ต่างจากคนที่ถูกรอ หัวใจหล่อนเต้นรัวจะทะลุออกมาข้างนอกอยู่แล้ว ไอ้ฝรั่งบ้านี่จะเอาอะไรอีกนะ ปรีมาคิดอย่างกังวลใจ...>>>>>