“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นเหรอ?” อันนาถามขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นานาเสะพักการเล่าอันแสนยาวนาน เพื่อดื่มน้ำชาเพื่อดับกระหาย “………” นานาเสะนั่งซึมไปครู่หนึ่ง “ไหวไหมนานาเสะ? ถ้าไม่ไหวไม่ต้องฝืนก็ได้นะ” อันนาเอื้อมมือมาจับแขนของนานาเสะเอาไว้ “ฉันยังไหว…” นานาเสะตอบ ก่อนที่จะเริ่มเล่าต่อ . . ด้วยความที่สมัยมัธยมต้นนั้น นานาเสะยุ่งมาก ทั้งการเป็นนักกีฬากรีฑาของโรงเรียน ทั้งการปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ มันยากเหลือเกินในความคิดของเขา เพราะไม่มีใครอยากจะสุงสิงกับเขา ที่ดูจะมีความคิดที่โตกว่าวัยที่ควรจะเป็น มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว นานาเสะยุ่งจนไม่ได้กลับไปที่อาโอโมริตอนปิดเทอมภาคฤดูร้อน ตามสัญญาที่ให้ไว้กับวากายามะ แต่ถึงกระนั้นเขาก็พยายามโทรไปหาพวกท่านทั้งสองอยู่บ่อยๆ พร้อมกับเล่าเรื่องต่างๆ ให้พวกท่านได้ฟัง มีบางครั้งที่พวกท่านถามถึงเพื่อนที่คบบ้าง

