Chapter 2 ชายหญิงกอดกันเป็นเช่นนี้เอง

1193 Words
Chapter 2 ชายหญิงกอดกันเป็นเช่นนี้เอง “ซี๊ด! เสียวที่สุดเลยเจ้าค่ะใต้เท้า” เมื่อถูกอัดกระแทกเข้าไปเต็มแรง หญิงนางนั้นกลับหลับตาพริ้มราวกับสุขสม เม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงแล้วหอบหายใจแรงจนหน้าอกทรงโตกระเพื่อมไหว ยิ่งมองหัวใจยิ่งเต้นแรง เฟยเซียงรู้สึกว่าใบหน้าของนางร้อนผ่าวอย่างไม่อาจควบคุม “หรือว่านี่จะเรียกว่าการเสพสม” กระเรียนสาวผินหน้าหนีด้วยความเขินอายที่ตนกลายเป็นนักถ้ำมองแอบดูชายหญิงร่วมประเวณีกัน แต่เสียงครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อช่างดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของนางเสียเหลือเกิน นางค่อยๆ ผินหน้ากลับมา ดวงตาจ้องจด กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เฟยเซียงห่างไกลจากคำว่าชายหนุ่มหญิงสาว แม้จะเคยได้ยินลูกผู้พี่พูดถึงชายหญิงเสพสมกันอย่างคะนองปากตามประสาวัยเจริญพันธุ์ที่สนอกสนใจเรื่องเพศ นางก็ได้แต่ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่เคยนึกฝันว่าจะได้เห็นการเสพสมร่วมสังวาสอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ การกอดรัดพัลวันทำให้ชายหญิงมีความสุขกระนั้นหรือ นางไม่เข้าใจเอาเสียเลย... “อาห์...” นางคณิกาสาวหุ่นเย้ายวนทอดกายระทวยเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกว้าง ดวงตาคู่สวยจ้องจับไปยังจวินซื่อ[1]สูงวัยก่อนจะยกขาทั้งสองข้างอ้าออก เผยให้เห็นกลีบบุปผาสีชมพูระเรื่องดงาม “สมแล้วที่เจ้าเป็นสาวงามอันดับต้นๆ ของหอนางโลมเหม่ยซิงที่เลื่องชื่อ คุ้มค่าตำลึงที่ค่าจ่ายไปยิ่งนัก” กระเรียนสาวหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ที่นี่เป็นหอนางโลมหรอกหรือ ข้าคิดว่าเป็นโรงเตี๊ยมเสียอีก ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่าห้องอื่นๆ ก็อาจจะมีชายหญิงกำลังกอดกันเหมือนห้องนี้สินะ” แค่คิดหูก็ร้อนจนคล้ายมีลมพ่นออกหู หัวใจเต้นแรงสั่นสะท้านไปหมดทั้งสรรพางค์กาย จวินซื่อแลบลิ้นเลียริมฝีปาก จ้องมองกลีบผกาที่บัดนี้มีน้ำเกสรฉ่ำหวานหล่อระรื่นหยาดเยิ้มน่าลิ้มชิมรส เขาซุกหน้าลงไปกลางหว่างขาแล้วแลบลิ้นยาวเลียร่องแฉะชื้น ตวัดปลายลิ้นเร็วช้าสลับไปมา ส่งผลให้คณิกาสาวถึงกับบิดกายร้องครวญคราง “โอ้วใต้เท้าเจ้าขา ข้าเสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ” นางวางขาพาดลงบนไหล่จวินซื่อ เกร็งจิกปลายเท้าลงบนแผ่นหลัง แล้วยกสะโพกผายแอ่นร่อนขึ้นสูง แบะโหนกนูนอล่างฉ่างเพื่อให้หนุ่มใหญ่ดื่มกินบุปผาสีระเรื่อของนางได้อย่างถนัดถนี่ “ซี๊ด...อาห์...ใต้เท้าแบบนั้นล่ะเจ้าค่ะ อูวส์” นางหลับตาพริ้มครางกระเส่า แลบลิ้นเล็กเลียริมฝีปากไปมา แล้วเม้มริมฝีปากที่แต่งแต้มสีแดงชาดเป็นเส้นตรง เมื่อจวินซื่อละเลงปลายลิ้นรัวเร็วจนนางถึงกับกระตุกร่างกระถดถอย ห่อไหล่เข้าหากันน้อยๆ แล้วหอบหายใจระรัวจากความซ่านหฤหรรษ์ที่แล่นปราดไปทั่วทั้งเรือนร่าง “หวานเหลือเกินแม่นางคนงาม” จวินซื่อสูงวัยดูดเม้มเมล็ดสวรรค์จนเกิดเสียง ‘จ๊วบจ๊าบ’ ยิ่งนางเสียวจนน้ำใสไหลออกจากช่องแคบเขาก็ยิ่งละเลงลิ้นดื่มกินราวกับหิวกระหาย “อือ...” กระเรียนสาวถึงกับลอบครางเสียงสั่น หัวใจเต้นกระตุกมองภาพร่วมสังวาสด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เหตุใดกันร่างกายนางจึงเห่อร้อน ประหนึ่งว่ามีไฟวูบวาบแผดเผาลามเลียไปทั่วทั้งเนื้อตัว “ใต้เท้าขา ใต้เท้าขา ข้าจะเสร็จแล้ว ข้าจะเสร็จแล้ว...” คณิกาสาวหวีดร้องเสียงหลง กลิ้งเกลือกบิดเร่าไปมา ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเหยเกสะบัดแรงๆ ก่อนจะเกร็งกระตุกทั้งร่างจนตัวงอ ความเสียวซ่านทำให้นางถึงกับหมดแรงทิ้งสะโพกที่ยกสูงลงบนที่นอน แต่เพียงชั่วจิบชานางก็หยัดกายขึ้นคุกเข่า ขณะที่จวินซื่อยืนจังก้าปล่อยให้แท่งเอ็นอันเขื่องของเขาชี้เด่ไปยังใบหน้าของคณิกาสาว นางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แลบลิ้นเลียปลายหัวหยักช้าๆ “อะ...อาห์” จวินซื่อถึงกับหลับตาพริ้มส่งเสียงทุ้มต่ำออกมาจากลำคอ กระเรียนสาวขยับเข้าไปใกล้ๆ มองหญิงสาวดูดอมแก่นกายของบุรุษเพศด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย “บุรุษเพศชอบให้สตรีกระทำการเยี่ยงนี้งั้นหรือ” นางรำพันออกมาแผ่วเบา เผ่ากระเรียนฟ้าที่นางเกิดและเติบใหญ่ล้วนแล้วมีแต่สตรีหาได้มีบุรุษเพศไม่ นั่นก็เพราะท่านยายเฟยหลิงเกลียดชังเพศชายจับจิตจับใจ เฝ้าสอนเฝ้าพร่ำบอกลูกหลานทุกคนไม่ให้ข้องเกี่ยว กระนั้นมารดาของนางและเหล่าป้าน้าล้วนแหกกฎแอบคบหากับชายหนุ่ม บ้างก็เป็นเทพ บ้างก็เป็นมนุษย์ บ้างก็เป็นสัตว์กึ่งเทพเฉกเช่นเดียวกัน นานวันเข้าก็ถูกทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี หอบเลือดเนื้อเชื้อไขกลับมายังเทือกเขาคุนเหม่ย ราวกับถูกสาปให้อาภัพ เพราะล้วนแล้วแต่ได้บุตรเป็นสตรีเพศด้วยกันทั้งสิ้น เหตุนี้เผ่ากระเรียนฟ้าของนางจึงมีแต่สตรี และเป็นสตรีที่เกลียดบุรุษจับขั้วหัวใจ “อาห์...แม่นางเก่งเหลือเกิน” “ชอบหรือไม่เจ้าคะใต้เท้า” “ข้าชอบ ชอบมาก” เสียงของจวินซื่อและคณิกาสาวช่วยดึงเฟยเซียงให้ตื่นจากห้วงความทรงจำในอดีต หนุ่มใหญ่ปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นพุ่งกระฉูดใส่ใบหน้าและเรือนกายของคณิกาสาว ก่อนที่เขาจะจับนางนอนหงายแล้วกระโดดขึ้นคร่อมทาบทับ สองมือบีบเคล้นหน้าอกทรงโต ริมฝีปากหนาขบเม้มและดูดกลืนยอดอกอิ่ม เขากอดรัดซุกไซ้คณิกาสาวเพื่อปลุกอารมณ์กำหนัดของตนให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง “อ๊ะ อะ..อืม...” นางแอ่นหน้าอกแล้วเบียดมันเข้าหาใบหน้าของจวินซื่อ ขณะที่เขาล้วงมือเลื่อนลงต่ำกอบกุมโหนกนูนที่อวบอูมราวกับผลท้อไว้เต็มมือ แทรกปลายนิ้วเข้าไประหว่างกลีบ แล้วบดขยี้เมล็ดสวรรค์ช้าๆ “ตะ...ใต้เท้าขา ข้าเสียวเหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าอยากถูกท่านแทงเหลือเกิน เอาทวนใหญ่ยักษ์ของท่านแทงเข้ามาในตัวข้าเสียทีสิเจ้าคะ” กระเรียนสาวตกใจเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น เหตุใดหญิงผู้นี้จึงอยากถูกแทงด้วยทวนแหลมคม ไม่เกรงกลัวความตายหรือ จึงร้องขอสิ่งที่น่าสยดสยองเช่นนั้น ความคิดของนางยังไม่ทันได้โผบินไปไกล เสียงสวบแทงก็ดังจนนางต้องเบิกตากว้าง เมื่อทวนใหญ่ที่นางคณิกาหมายถึงคือแก่นกายของจวินซื่อ เขาเสียบปลายหัวหยักเข้าไปในร่องแคบชื้นอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะมิดหายเข้าไปทั้งด้าม “อาห์...” นางอ้าขากางออกกว้างรองรับทวนใหญ่ของจวินซื่อ ขณะที่หนุ่มใหญ่เร่งซอยเอวสอบเข้าออกรัวเร็วจนเกิดเสียงดัง [1] นายทหารชั้นประทวน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD