EPISODE 01 ใครส่งคุณมา

4243 Words
EPISODE 01 ใครส่งคุณมา ณ ห้องเสื้อหรูหรากว้างขวางในย่านนักธุรกิจอยู่อาศัย ภายในร้านเปิดดนตรีบรรเลงโอเปร่าอย่างสุนทรีย์ เจ้าของห้องเสื้ออย่าง ‘รัญกร’ กำลังเย็บลูกปัดเม็ดเล็กลงบนชุดราตรีของลูกค้าที่สั่งตัดอย่างประณีต เขามักจะมีส่วนร่วมในทุกชุดที่เนรมิตขึ้นมา โดยมีลูกน้องที่ช่วยกันอีกสามคน ห้องเสื้อแห่งนี้เปิดมาได้สองปีแล้ว เป็นธุรกิจที่รัญกรใฝ่ฝันอยากจะทำมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาเพิ่งมีโอกาสได้ทำหลังจากออกจากงานเก่า เดิมทีเคยเลิกหวังไปแล้วเพราะคิดว่างานเก่าที่เขาทำคงจะถอนตัวยาก แต่พอออกจากตรงนั้นมาได้จึงคิดที่จะเริ่มใช้ชีวิตใหม่ในเส้นทางที่ตนเองรัก เมื่อพอมีเงินทุนก้อนใหญ่ก็รีบเปิดห้องเสื้อตามความฝันทันที และโชคดีที่เป็นห้องเสื้อแห่งแรกในย่านที่อยู่อาศัยของคนมีฐานะ ทำให้เรื่องการแต่งตัวเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาพร้อมจะจ่าย เพราะนักธุรกิจมักห่วงภาพลักษณ์ของตนเองเสมอ รัญกรผลัดเปลี่ยนให้ลูกน้องมาเย็บลูกปัดต่อ ส่วนเขาเดินควงกรรไกรกับนิ้วมือแล้วเหวี่ยงเป็นวงกลมอย่างคล่องแคล่ว เพื่อที่จะไปตัดผ้าผืนใหญ่มาตัดชุดใหม่ตามออเดอร์ของลูกค้า เมื่อก่อนใครเห็นเขาถือของมีคมก็นึกกลัว ลูกน้องทุกคนเดินเลี่ยงหนีทันทีที่รัญกรถือกรรไกร หรือกระทั่งถือมีดปอกผลไม้ก็ยังน่ากลัว เขามักจะควงของมีคมเล่นอย่างคล่องมือ แล้วมันก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยสักครั้ง เขาควบคุมอาวุธในมือด้วยความชำนาญ อดีตของรัญกรเคยจับอาวุธมาไม่รู้เท่าไร ก่อนจะได้อิสระมาเปิดห้องเสื้อของตัวเองนั้นเขาเคยเป็นนักฆ่ามาก่อน บอกไปคงไม่มีใครเชื่อแน่ว่าคนจิตใจดีอย่างเขาจะเคยทำอาชีพที่โหดร้ายแบบนั้น แต่เขาเป็นนักฆ่าจริง ๆ นักฆ่ารับจ้างในองค์กรเอกชนลับ ๆ แห่งหนึ่งของตลาดมืด ก่อนจะสบายอย่างวันนี้ชีวิตเขาลำบากตั้งแต่เด็ก งานที่ถูกยัดเยียดให้ทำงานแรกในชีวิตคือฆ่าคน ถูกฝึกซ้อมให้ใช้มีดเป็นอาวุธตั้งแต่อยู่วัยประถมปลาย ทุกอย่างที่เขาทำไปก็เพื่อใช้หนี้ให้ครอบครัวหลายสิบล้านบาท การถูกจ้างให้ฆ่าคนจะได้เงินก้อนใหญ่มาใช้หนี้ แต่ได้เงินมาก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะหักกับหนี้สินไปเกือบหมด และเขาอดทนทำงานแบบนี้มาหลายปีกว่าจะปลดหนี้ให้ครอบครัวได้ มาวันนี้ขออำลาจากอาชีพเก่าอย่างถาวร ตั้งใจไว้ว่าชาตินี้จะไม่ง้างมีดกรีดหัวใจใครอีกแล้ว ขอมีชีวิตใหม่ที่สงบสุขแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็พอ Rrrrr เสียงโทรศัพท์ของร้านดังขึ้น พนักงานหญิงคนเดียวของร้านที่กำลังเก็บแบบงานเข้าชั้นก็รีบเดินไปรับสายด้วยความร่าเริง “สวัสดีค่ะ ห้องเสื้อคุณรัญยินดีให้บริการค่า” ‘ห้องเสื้อคุณรัญ’ เป็นชื่อง่าย ๆ ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของเจ้าของชื่อ ได้ฟังกี่ทีก็ภูมิใจ เสียงดนตรีโอเปร่ายังคงดังคลอไปพร้อมกับทุกคนที่ทำงานอย่างกระฉับกระเฉง รัญกรตัดผ้าผืนใหญ่มาวัดขนาดตามความยาวของรูปร่างลูกค้าตามที่จดรายละเอียดมา เผื่อขอบผ้าไปนิดหน่อยจะได้สะดวกต่อการตัดเย็บ เขากางสายวัดตามแนวตรง ใช้สีชอล์กขีดทำเครื่องหมายเป็นจุดไว้ ก่อนจะใช้กรรไกรตัดกระดาษแก้วให้เป็นทรงที่ต้องการแล้วใช้แป้งเปียกแต้มไว้เล็กน้อยเพื่อให้กระดาษติดกับตัวผ้า ครู่หนึ่งที่เขากำลังเทียบแบบงานที่ลูกค้าสั่ง พนักงานหญิงของร้านก็เดินเข้ามาหาเสียก่อน “พี่รัญคะ มีลูกค้าโทรเข้ามาขอให้เข้าไปวัดตัวที่บ้านค่ะ ตัดสูทผู้ชายสามคน” “ได้ เดี๋ยวพี่ไปเอง เขาแจ้งที่อยู่ไว้ไหม?” “แจ้งมาเรียบร้อย เหมือนจะเป็นบ้านหลังใหญ่ตรงหัวมุมซอยโน้น ที่เราเคยขับรถผ่านแล้วชี้ว่าบ้านหลังนี้สร้างเสร็จตั้งนานแล้วไม่มีคนเข้ามาอยู่ นี่ไงพี่รัญ เจ้าของบ้านคงเข้ามาอยู่แล้ว” “อ๋อ บ้านหลังนั้น เขาให้เข้าไปกี่โมง?” “ตอนนี้เลยค่ะพี่ เดี๋ยวหนูไปกับพี่รัญเอง” “ไม่เป็นไร บีอยู่ช่วยซันกับแซนเถอะ พี่ไปคนเดียวได้ สบายมาก” ลูกน้องสามคนหันมาสบตากันเหมือนรู้อยู่แล้วว่ารัญกรต้องออกไปคนเดียว เขาเป็นแบบนี้เสมอ จะมีเจ้านายที่ไหนที่กลัวลูกน้องเหนื่อยกว่าตนเอง ทั้งที่เขาก็ทำงานไม่ได้น้อยไปกว่าลูกน้องเลยสักนิด แถมออกไปวัดตัวข้างนอกแต่ละครั้ง กลับเข้ามาก็จะซื้อขนมมาฝากลูกน้องทั้งสามคนอยู่เสมอ เจ้าของห้องเสื้อฮัมเพลงในลำคอไปตามการบรรเลงโอเปร่าที่ฟังบ่อยจนจำได้ มือเรียวสวยสองข้างก็หยิบข้าวของอย่างคล่องแคล่ว ทั้งเตรียมสายวัดและสมุดจดสัดส่วน หนังสือแบบชุดสูทผู้ชายที่ทางร้านเคยตัด และหนังสือตัวอย่างผ้า ที่ด้านในจะมีเนื้อผ้าหลากหลายแบบ หลายสี ไว้ประกอบการตัดสินใจของลูกค้า รถยนต์ประหยัดพลังงานคันกะทัดรัดขับออกจากร้านในเวลาต่อมา ระหว่างทางได้แวะซื้อขนมเจ้าโปรดของลูกน้องไว้ก่อนด้วย ขากลับจะได้ไม่ต้องวนรถไปซื้อ จากนั้นจึงตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหัวมุม ซึ่งห่างจากห้องเสื้อของรัญกรไปหลายซอย เขาจำได้แม่นเพราะเมื่อไรที่ผ่านมาทางนี้ก็จะมองเข้าไปในบ้านหลังนี้อยู่เสมอ แอบชมอยู่ในใจทุกครั้งว่าบ้านสวยมาก ใหญ่มาก เรียกว่าคฤหาสน์หรูยังได้ เจ้าของคงรวยมากแน่เลย วันนี้ได้มาเยือนอย่างไม่คาดคิด เมื่อมาถึงหน้าประตูรั้ว มีบอดี้การ์ดเข้ามาสอบถามและเปิดประตูให้ รัญกรขับรถเข้าไปด้วยความตื่นเต้น ในใจลุ้นแทบแย่ว่าเจ้าของบ้านเป็นผู้มีอิทธิพลคนไหนกัน การมีบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยแบบนี้ต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่นอน รถคันเล็กจอดเหงาอยู่ในลานจอดรถของแขก ซึ่งตอนนี้มีรถเขาคันเดียว ฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถของเจ้าของบ้าน กวาดตามองรอบเดียวยังจำรถหรูเหล่านั้นไม่หมดเลย โอ้โฮ รถสวยมาก แต่ละคันแพง ๆ ทั้งนั้น “เชิญด้านในครับ เจ้านายผมรอคุณอยู่” รัญกรเดินตามบอดี้การ์ดคนหนึ่งเข้าไปในตัวบ้าน เขาหอบหนังสือแบบงานและสมุดจดไว้ในอ้อมอก ตั้งใจไว้ว่าจะบริการเจ้าของบ้านอย่างดี เผื่อจะได้ทิปในการทำงานหลายบาท เหมือนอย่างที่พวกคนรวยให้ทิปเขาแทนคำชื่นชมในผลงานอยู่เรื่อยมา ตึก ตึก ตึก ทันทีที่เข้ามาถึง เสียงคุยกันที่ดังแว่วมาเงียบลง เขาเหลือบมองชายสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยแววตาเป็นมิตร ก่อนที่บอดี้การ์ดจะเอี้ยวตัวหลบให้พบใครอีกคน ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนกอดอกและพิงโซฟาอยู่ สายตาคมกริบมองมาที่เขา ก่อนริมฝีปากหยักเอ่ยทักทาย “สวัสดี คุณรัญกร” “!!!” เจ้าของชื่อยืนตัวแข็งทื่อตั้งแต่เห็นใบหน้านี้เต็ม ๆ แล้ว เขาคือคนที่รัญกรถูกจ้างให้ไปฆ่าเมื่อสามปีก่อน! โจทย์ของงานนั้นคือต้องตายด้วยมีดสั้น ห้ามใช้อาวุธอื่น ภารกิจครั้งนั้นแน่นอนว่าล้มเหลว เขาถึงยังมายืนยกยิ้มอยู่ตรงนี้ได้ ยังจำเหตุการณ์ครั้งที่ปะทะกันได้ไม่ลืม กว่ารัญกรจะหาจังหวะเข้าไปทำร้ายได้ถึงตัวก็ยากแสนยาก เขามีบอดี้การ์ดรายล้อมตลอดเวลา เสี้ยววินาทีที่เขามีโอกาสได้เข้าประชิดตัว มีดสั้นเล่มหนึ่งแทงเข้าที่ด้านหลังฝั่งซ้าย และเมื่อเขาหันกลับมาก็ถูกแทงอีกครั้งที่อกซ้ายอย่างไม่ลังเล แต่ดันพลาด! ตำแหน่งที่คมมีดฝังลึกลงไปไม่ใช่จุดตายเพราะเป้าหมายดิ้นรนต่อสู้ทำให้ตำแหน่งคลาดเคลื่อน เขาไม่รู้ว่าเหยื่อจะมีทักษะการต่อสู้ที่สูสีกันขนาดนี้ นอกจากจะแทงไม่ตายแล้วรัญกรยังได้รับบาดเจ็บที่มือขวากลับมาอีก เหตุเพราะอีกฝ่ายคว้าเศษกระจกมาเป็นอาวุธ อีกทั้งวันนั้นโชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลย เขาเกือบได้เปิดเผยใบหน้าแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นคือรอยแผลจากเหตุการณ์นั้น ยังเป็นแผลเป็นให้เห็นเด่นชัดอยู่เลยจนถึงปัจจุบัน แย่แล้ว ไม่ใช่เวลามารื้อฟื้นความหลัง รัญกรดึงชายแขนเสื้อสูทแฟชั่นที่เขาสวมใส่ลงมาบดบังมือขวาเอาไว้เพื่อปกปิดตัวตน “ตกใจผมขนาดนั้นเลยหรือไง คุณรัญกร...” “เปล่านี่ครับ ผมแค่กำลังคิดว่าสูททรงไหนเหมาะกับคุณ” เขารู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายตรงหน้าร้ายกาจแค่ไหน แต่ไม่อยากยกเรื่องในอดีตมาทำลายงานที่เขารักในปัจจุบัน รัญกรแกล้งทำเป็นไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต่อไป พลางเดินเข้าไปหาชายสามคนพร้อมเปิดแบบชุดสูทที่ทางร้านเคยตัดมาให้ลูกค้าดู ตอนนี้เองที่เขาเพิ่งมีสติสังเกตได้ว่าชายทั้งสามคนมีผมสีขาวสว่างเหมือนกันหมด “ผมต้องการชุดใส่ในงานศพ อยากได้สีดำ แบบตัดเย็บทันสมัยไม่ล้าหลัง เอาแบบที่ใส่แล้วดูดีทั้งคนตายและคนเป็น” “พี่จิ อย่าทำขรึมนักสิ คุณเขาเกร็งไปหมดแล้ว” ชายที่รูปร่างกำยำเอ่ยขึ้น คงจะพยายามทำลายบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้า แต่ไม่ว่าทำอย่างไรคนที่เขาเรียกว่า ‘พี่จิ’ ก็ไม่เลิกจ้องหน้ารัญกรอย่างมีเลศนัยสักที “พวกคุณเลือกแบบสูทได้เลยครับ หรือมีแบบอื่นนอกเหนือจากนี้ก็เอามาให้ผมดูได้ แต่ตอนนี้ผมขอวัดสัดส่วนก่อนนะครับ ใครจะว่างให้ผมวัดเป็นคนแรกเอ่ย?” “ผม” อดีตเป้าหมายที่เขาถูกจ้างให้ไปฆ่าเสนอตัวคนแรก รัญกรรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมีลับลมคมในอะไรสักอย่าง ท่าทางดูไม่น่าไว้วางใจอย่างมาก กลัวอย่างเดียวคือเรื่องในอดีตจะถูกเปิดเผย แต่ปกติแล้วองค์กรจะไม่เปิดข้อมูลใครออกมา ต่อให้ชายคนนี้จะสงสัย เขาก็คงไม่รู้หรอกมั้งว่ารัญกรคือใคร “รบกวนยืนตรงหน่อยครับ” “...” “เก็บแขนหน่อยครับ ผมจะวัดช่วงเอว” “...” การวัดตัววันนี้เก้กังเป็นพิเศษ รัญกรต้องใช้มือซ้ายเสียส่วนใหญ่ เขาไม่อยากให้เห็นรอยแผลเป็นบนหลังมือขวา ไม่สบายใจที่จะให้เห็น แต่ก็เลี่ยงไม่ค่อยได้อยู่ดี มันปกปิดไม่ได้ตลอด หลังจากวัดไหล่ บ่าหน้า บ่าหลัง รอบอก ความยาวแขน รอบเอว รอบสะโพกบน รอบสะโพกล่าง ความยาวขา และเป้ากางเกง ทุกอย่างถูกจดลงในสมุดอย่างละเอียด รัญกรอดชื่นชมในรูปร่างไม่ได้ว่าหุ่นของเขาดีมาก เป็นหุ่นที่สวมชุดสูทได้สง่ามากเลยทีเดียว “คุณชื่ออะไรครับ ผมสามารถติดต่อคุณโดยตรงได้เลยหรือติดต่อแยกทีละคนดีครับ?” “จิรากร ผมชื่อจิรากร ติดต่อผมโดยตรงได้” อ่า ชื่อนี้เอง รัญกรครุ่นคิดอยู่นานว่าอดีตเป้าหมายชื่ออะไร ตัวเขาก็จำไม่ได้ แต่ดีหน่อยที่การติดต่อเรื่องงานครั้งนี้ไม่ยากเท่าไร ติดต่อคนเดียวแต่รับงานแทนทุกคนได้ก็สะดวกดี อีกอย่างบ้านเขาไม่ได้ไกลจากร้านมากนัก “ใช้เมื่อไรครับ งานศพมีวันไหน ผมจะรีบตัดให้ครับ ถ้างานด่วนภายในสามวันจะมีค่าบริการเพิ่มเติมนะครับ ผมต้องจ้างลูกน้องเพิ่ม” “ไม่รีบ ผมน่าจะตายปีหน้า” “ว่าไงนะครับ?” “ผมบอกว่าผมจะตายปีหน้า แต่ผมอยากได้ชุดที่จะใส่ตอนตายเอาไว้เลย เผื่อกะทันหันน่ะ” ประหลาดคนแท้ เขาพูดอะไรของเขา... รัญกรไม่ถามต่อ แต่เดินเลี่ยงไปคุยกับชายหนุ่มอีกสองคนแทน ได้แนะนำตัวกันจึงรู้ว่าเขาชื่อ ‘จุลเกียรติ’ กับ ‘เจตพิพัฒน์’ สองคนนี้ดูน่าเข้าหากว่ามาก ให้ความร่วมมือในการวัดสัดส่วนได้ดีกว่าด้วย ขณะนั้นเองที่มีบอดี้การ์ดด้านนอกเร่งรุดเข้ามาหาจิรากร เจ้านายกับลูกน้องยืนกระซิบกระซาบกันอยู่ฝั่งตรงข้ามโซฟา รัญกรไม่ได้สนใจจุดนั้น เขาแค่เหลือบตามองไปครั้งหนึ่งแล้วหันมาแนะนำแบบผ้าต่อ ทว่าเพียงชั่วอึดใจจิรากรก็เข้ามาคว้าแขนของเขาแล้วกระชากตัวให้ลุกขึ้นยืน ไม่ทันได้ถามอะไรออกไปแม้แต่ครึ่งคำ รัญกรก็ถูกลากออกไปนอกบ้าน “คุณทำอะไร ปล่อยผม!!” “ใครส่งคุณมา?” “ก็พวกคุณโทรมาให้ผมเข้ามาวัดตัวตัดชุดไม่ใช่หรือไง ใครจะส่งมาอีกล่ะ พูดอะไรของคุณ” ความหงุดหงิดเริ่มปะทุเมื่อจิรากรไม่หยุดที่จะใช้กำลังฉุดลากเขา หากรัญกรคิดจะขืนแรงและต่อสู้กันตอนนี้ แน่นอนว่าเขาทำได้ ศิลปะการต่อสู้ของเขาไม่เป็นรองใครเหมือนกัน แต่เขาไม่อยากแสดงมันออกมาให้เป็นที่น่าสงสัย เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าอดีตเขาเป็นอย่างไร “งั้นอธิบายมา นี่อะไร?” ท้ายรถยนต์ของรัญกรพบบอดี้การ์ดนอนจมกองเลือดอยู่ ไม่ต้องเช็กชีพจรก็รู้ว่าเขาเสียชีวิตแล้ว “ผมจะไปรู้เหรอ ผมก็เพิ่งเห็นเขาครั้งแรกเนี่ย” “ภารกิจคุณจบแล้วไม่ใช่หรือไง หรือใครจ้างคุณมาฆ่าผมอีก?” พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร จิรากรรู้หรือว่ารัญกรคือคนที่หมายเอาชีวิตเขาเมื่อสามปีก่อน หัวใจของรัญกรเต้นเร็วด้วยความตื่นกลัว เขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาสองปีจนหลงลืมไปแล้วว่าแต่ก่อนเขาคุ้นชินกับความตายมากแค่ไหน ไม่คิดว่าวันนี้จะมีใครพูดเรื่องอดีตขึ้นมาอีก คนที่รู้ว่าเขาเคยทำอะไรมา มันควรจะมีแค่ตัวเขากับองค์กรไม่ใช่หรือไง “คุณรู้เรื่องจ้างฆ่าได้ยังไง?” “ก็ผมเป็นคนจ้างผ่านองค์กรคุณให้มาฆ่าผมเอง ผมอ่านประวัติและผลงานคุณทุกบรรทัด ผมต้องการตายในเงื้อมมือเซียนมีดสั้นอย่างคุณไง แต่ผมคงกลัวตายเหมือนกันเลยระวังตัวตลอดเวลา เรื่องในอดีตไว้ค่อยคุยกัน เอาเป็นว่าศพนี้คืออะไร คุณตั้งใจจะฆ่าผมใช่ไหม หรือจะปั่นหัวผมเล่น ใครจ้างมา ใช่พวกแม่มดหรือเปล่า?” “แม่มดอะไรของคุณ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ฆ่าเขา” มีคำถามหลายอย่างเกิดขึ้นภายในใจ รัญกรตกใจมากที่จิรากรบอกเรื่องการจ้างฆ่าออกมาทั้งที่มันไม่ควรพูด ภารกิจในอดีตสำหรับเขาจะไม่ถามหาเหตุผลอะไร ไม่ต้องรู้ว่าใครมีเหตุผลอะไรในการจ้าง รู้แค่ได้รับงานมาก็ทำตามคำสั่ง การที่เขาได้มารู้ข้อมูลเขาก็รู้สึกแปลก ที่แปลกยิ่งกว่าคือคนบ้าอะไรจ้างคนอื่นมาฆ่าตัวเอง แบบนี้มันโรคจิตชัด ๆ รัญกรเลือกที่จะเงียบไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดเรื่องอดีต ตอนนี้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าเขาไม่ได้ฆ่าบอดี้การ์ดคนนี้ “ต้องเป็นพวกแม่มดแน่ ๆ ...” จิรากรเริ่มวิตก เขาดูสติแตกจนอยู่ไม่สุข ดีที่น้องชายอีกสองคนเข้ามาปลอบขวัญได้ทันเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็พากันพูดถึงคำสาปกับแม่มดอยู่หลายครั้ง “เป็นการจัดฉากครับ ศพนี้ไม่ได้เพิ่งตายนะคุณ เลือดในตัวเขาเริ่มแข็งตัวแล้ว น่าจะตายไม่ต่ำกว่าสามถึงหกชั่วโมง เขาคงนอนท่านี้มานานแล้วเลือดตกลงไปที่แผ่นหลังหมด เลือดที่เห็นตรงปากแผลเริ่มแห้ง เนื้อเยื่อสีเปลี่ยน เป็นเพราะเส้นเลือดใหญ่หยุดทำงานไปนานแล้ว แต่รอยแทงที่คอกับอกนี่รอยใหม่นะ แผลเพิ่งเปิดเลย ไม่รู้ว่าจะมาแทงซ้ำเพื่ออะไร แต่เป็นคนนี่แหละแทงไม่ใช่แม่มดอะไรหรอก” “ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ใช่ฝีมือคุณ ถนัดมีดสั้นไม่ใช่หรือไง” คนถูกถามหลบสายตา เขาไม่อยากให้จิรากรพูดเรื่องนี้ต่อหน้าคนอื่นเลย เขาไม่สะดวกใจจะเปิดเผยอดีต แต่ถ้ารัญกรไม่พิสูจน์ความจริงเพื่อปกป้องตัวเอง เขาก็จะตกเป็นแพะในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ “ผมมีโอกาสแทงคุณได้ตั้งหลายครั้งตอนวัดตัว ถ้าผมจะทำ คุณไม่ได้มายืนสงสัยผมอยู่แบบนี้หรอก” “ค้นหาให้ทั่ว เผื่อเจอร่องรอยอื่น” เจ้าของบ้านหันไปสั่งบอดี้การ์ด เมื่อได้รับคำสั่งก็เดินเลี่ยงออกไปอีกทางทันที รัญกรจ้องมองศพที่ขดตัวอยู่ท้ายรถก็มีข้อสงสัยหลายอย่าง แต่ขบคิดไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่ดี ไม่อยากสอดมือเข้ามายุ่งเลย ถ้าไม่มีใครตั้งใจเอาศพมายัดท้ายรถเขาแบบนี้ละก็นะ ตอนนี้ในใจคงเกิดคำถามเดียวกันกับเจ้าของบ้าน นั่นคือคนทำคือใคร? ต้องการอะไร? “คุณจะแจ้งตำรวจไหมเนี่ย ถ้าแจ้งผมจะได้ไม่แตะต้องศพ” “ไม่ ตำรวจไม่เชื่อเรื่องคำสาปหรอก” “พวกคุณพูดเรื่องอะไรกัน คำสาป แม่มด ไร้สาระน่ะคุณ เห็นชัด ๆ ว่ามีรอยมีดแทงก็ฝีมือคนนี่แหละ” สี่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ รัญกรคงเป็นคนเดียวที่ไม่รู้สึกเกรงกลัวศพตรงหน้า เขาชินกับการตายของผู้คนมาหลายปีจนไม่ตกใจแล้ว การโดนจิรากรเปิดเผยเรื่องในอดีตยังทำให้เขารู้สึกกลัวมากกว่าอีก แล้วก็รู้สึกรำคาญด้วยที่สามพี่น้องพูดแต่เรื่องไม่เข้าท่าและจับต้องไม่ได้อย่างเรื่องคำสาป “อย่าว่าพี่จิไร้สาระเลยครับ ผมบอกตามตรงว่าครอบครัวพวกเราถูกคำสาปมาตั้งแต่สมัยคุณปู่ ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมันต้องเกี่ยวกับคำสาปอยู่แล้ว แม่มดพวกนั้นเล่นงานพวกเราอยู่แน่” “เหรอครับ แล้วคำสาปว่ายังไงเหรอ?” รัญกรหันไปถามจุลเกียรติ น้องชายคนกลาง “พวกเราโดนสาปว่าจะมีอายุถึงสามสิบห้าปีเท่านั้น ตอนนี้พี่จิอายุสามสิบสี่แล้ว หลังจากนี้คงเจอเรื่องแย่ ๆ ไม่หยุดแน่เลย” “คุณเชื่อสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้เหรอครับ?” “ก็ดูสีผมพวกเราสิครับ เกิดมาก็ผมสีขาวแบบนี้แล้ว อย่างกับผมหงอก เหมือนโดนคำสาปเร่งให้แก่แล้วตายไปตั้งแต่เกิด” รัญกรเปิดประตูรถด้านหลัง เอื้อมหยิบถุงพลาสติกมาสวมมือทั้งสองข้าง ของฝากลูกน้องที่ร้านคงไม่มีถุงใส่แล้ว เมื่อสวมเสร็จเขาก็เดินอ้อมมาจัดการลากศพจากหลังรถมากองอยู่บนพื้น ทุกอย่างเขาจัดการคนเดียวหมดเลย อดีตนักฆ่าอย่างเขาย่อมรู้ว่าอุ้มศพท่าไหนถึงจะเคลื่อนย้ายได้ง่ายที่สุด เขาไม่ใส่ใจที่จะถามเรื่องคำสาปกับสามพี่น้องต่อเพราะรู้สึกว่าไร้สาระมาก อยากรีบจัดการงานให้เสร็จแล้วรีบกลับไปที่ร้านโดยเร็ว “เข้าไปเลือกแบบผ้ากันต่อไหมครับ คุณจุลเกียรติ คุณเจตพิพัฒน์” “จุล เจต เข้าไปในบ้านก่อน พี่ขอคุยกับคุณรัญหน่อย” จิรากรอยู่ในอาการสงบแล้ว ใบหน้าหล่อแสดงออกชัดเจนว่าเขากำลังจริงจัง คล้อยหลังน้องชายสองคนที่เดินเข้าบ้านไปเขาจึงเดินเข้ามาประชิดตัวกับรัญกร พร้อมกับถามย้ำคำเดิมอีกครั้ง “ใครส่งคุณมา?” “คุณจิครับ ผมไม่ได้มาทำอะไรคุณ ไม่ได้ทำงานแบบนั้นมานานแล้ว ไม่มีใครส่งผมมาทั้งนั้น อย่างที่ผมบอกว่าถ้าผมถูกส่งมาฆ่าคุณจริงผมมีโอกาสตั้งหลายครั้ง แล้วผมต้องรอให้คุณโทรเรียกให้มาตัดสูทก่อนหรือไงถึงจะฆ่าได้ คุณช่วยตั้งสติหน่อยเถอะ” “เรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นตั้งแต่คุณเข้ามาในบ้านผม มันก็อดคิดไม่ได้” “ผมบอกเลยนะ เรื่องที่เกิดขึ้นมีคนจงใจจัดฉาก เตรียมการไว้แล้วด้วย เขาเสียชีวิตมาเกินสามชั่วโมงแต่เพิ่งถูกนำมาใช้ ทั้งที่ผมเพิ่งจะเข้ามาในบ้านคุณไม่ถึงชั่วโมง แบบนี้จงใจก่อความวุ่นวายชัด ๆ” “แล้วทำไมต้องเป็นคุณ ทำไมต้องยัดศพใส่ท้ายรถคุณ” “ผมคงดูโง่มั้ง คนทำคงไม่คิดว่าผมจะดูเรื่องพวกนี้ออก” ตึก ตึก ตึก บอดี้การ์ดวิ่งกลับมาพร้อมกับบางอย่างในมือ รัญกรยืนกอดอกมองอย่างไม่ยี่หระ อยากรู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์มันจะไปในรูปแบบไหนต่อ “เจอใบเสร็จร้านขนมถูกขยำทิ้งที่หน้าบ้านครับ” จิรากรคว้าใบเสร็จมาอ่านรายการที่ซื้อ พลางเอียงคอมองขนมที่วางอยู่เบาะหลังในรถของรัญกร พบว่ามันตรงกันทุกอย่าง “ทำไม รายการขนมตรงกับของผมอีกหรือไง?” “ใช่น่ะสิ คุณจะแก้ตัวยังไงคุณรัญกร” “แบบนี้มันจงใจขยำทิ้งไว้หน้าบ้านเพื่อใส่ร้ายผมชัด ๆ แล้วใบเสร็จบอกเวลาว่าผมซื้อตอนกี่โมงครับ?” “บ่ายสองโมงยี่สิบสี่นาที” “ผมไม่ได้รับใบเสร็จเพราะผมใช้ส่วนลด พนักงานเลยเก็บใบเสร็จไว้ แต่ผมมีอีเมลยืนยันการหักแต้มส่วนลดนะครับ” เขาคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูอีเมลเพื่อจะยืนยันเวลา รัญกรมั่นใจมากว่าเขาไม่ได้ซื้อของตามนาทีในใบเสร็จแน่ เพราะตอนบ่ายสองโมงยี่สิบห้านาที เขาออกมาจากซอยร้านขนมแล้ว มันเป็นเวลาที่เขาเหลือบมองตอนกดเปลี่ยนเพลงฟังในรถพอดี “บ่ายสองโมงสิบเก้านาที” จิรากรอ่านเวลาบนอีเมลที่รัญกรหันจอมาเพื่อให้เขาดู ตอนนี้สถานการณ์ชักจะวุ่นวายเข้าไปใหญ่แล้ว “คุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าครับคุณจิ ผมว่าเขาจงใจปั่นประสาทคุณมาก ๆ ดูเหมือนพยายามใช้ผมเป็นเครื่องมือเพื่อปั่นหัวคุณด้วย” “ศัตรูผมคงเป็นคำสาปละมั้ง แบบนี้ผมไม่รู้ว่าผมจะตายเพราะคำสาปก่อน หรือตายเพราะถูกฆ่าก่อน ขนาดมีบอดี้การ์ดรอบบ้านแบบนี้ยังมีคนตายได้แบบไม่มีใครเห็น วันหนึ่งผมตายคงไม่มีใครเห็นเหมือนกัน” “เฮ้อ ถ้าจัดการไม่ได้ก็แจ้งตำรวจนะครับ เขาจะได้หาตัวคนร้าย” “ถ้าตำรวจอยู่ตรงนี้ ผมคงชี้ว่าคุณคือคนร้ายโดยไม่ต้องคิดเลย คุณไม่ได้ทำจริงเหรอรัญกร ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเป็นคุณ” “ผมไม่ได้ทำจริง ๆ” “ช่วยพิสูจน์ได้ไหม ว่าเรื่องวุ่นวายพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณ ไม่ได้มีใครจ้างคุณมา” “จะให้ผมทำยังไง?” “อยู่ใกล้ ๆ ผม ถ้าคุณอยู่ในสายตาผม ผมต้องจับพิรุธคุณได้แน่” “ยินดีครับ ผมจะอยู่ในสายตาคุณจนกว่าจะตัดสูทให้เสร็จนะครับ งานเสร็จก็ตัวใครตัวมัน ไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก” “ตกลง” ไม่ได้อยากเข้ามาข้องเกี่ยวกับความวุ่นวายนี้เลยสักนิด แต่วิธีการโบ้ยความผิดมาให้รัญกรมันทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดใจจนอยากกระชากตัวคนทำออกมารับผิดให้ได้ ดูจากวิธีการแต่ละอย่างเหมือนดูถูกสติปัญญาของเขามากเกินไป แค่มีศพอยู่ท้ายรถ แค่มีใบเสร็จร้านขนม คิดว่าเขาจะหาข้อพิสูจน์ตัวเองไม่ได้หรือ ต่อให้เจอมีดเล่มที่ใช้ก่อเหตุแล้วมีลายมือเขา เขาก็พิสูจน์ตัวเองได้อยู่ดีว่าเขาไม่ได้ทำ แต่จะว่าไป คนที่น่ากลัวอีกคนคือจิรากร ชายคนนี้รู้เรื่องในอดีตของเขา บอกว่าเป็นคนจ้างฆ่าเมื่อสามปีก่อน และรู้ละเอียดถึงเรื่องที่รัญกรชำนาญมีดสั้นด้วย ตอนทำเรื่องจ้างวานให้มาฆ่าตนเองตอนนั้นดันไม่กลัวตาย มาตอนนี้กลัวตายเพราะคำสาป เพราะแม่มด น่าขำสิ้นดี เผลอ ๆ คนแปลกอย่างจิรากรนี่แหละเป็นคนจัดฉากเรื่องทั้งหมดขึ้นมา ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ท้าทายให้รัญกรเข้าไปพิสูจน์ด้วยตนเอง อย่าทำให้สัญชาตญาณนักฆ่ามันตื่นเลย เพราะรัญกรเองคงไม่รับประกันความปลอดภัยของคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ กลัวจะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับตนเองว่าชีวิตนี้จะไม่ฆ่าใครอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD