ปวดหัวจังเลย…
นี่เราหลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย…
“โอ๊ย!” ริมฝีปากบวมเจ่อที่เพิ่งผ่านศึกการตะโบมจูบมาอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งคืนร้องออกมาคำหนึ่ง เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อย ความปวดเมื่อยที่ช่วงล่างก็ทำให้หญิงสาวเจ็บจนต้องนิ่วหน้า ดวงตากลมโตลืมขึ้นตื่นเต็มตาเพื่อหาสาเหตุในความปวดจนทนไม่ไหวครั้งนี้
สมองของหม่อนไหมประมวลผลได้ว่า เมื่อคืนเธอแยกกับขวัญชนกและเจอกับผู้ชายแปลกหน้าที่มีท่าทีคุกคามจนต้องเดินหนีขึ้นมาที่ชั้นบน หลังจากนั้นก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัวยิ่งกว่านั่งอยู่ในห้องซาวน่าจนต้องถอดเสื้อผ้าออกเพื่อระบายความร้อน
แล้วหลังจากนั้น… หลังจากนั้นก็…
สองมือของหม่อนไหมยกขึ้นกอดตัวเองก่อนจะพบว่ามันเปลือยเปล่าและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ทั้งที่ทุกตารางเมตรในห้องนี้ถูกปรับให้อุณหภูมิเหมาะสมด้วยแอร์ฝังเพดานตัวเบ้อเริ่ม
“อย่าบอกนะว่า…” เธอพึมพำเสียงแผ่วขณะก้มลงมองเรือนร่างของตนแล้วสำเหนียกขึ้นมาได้ทันทีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวตัวชาหนึบราวกับว่าสัมผัสพิศวาสที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นกำลังย้อนมาบีบเคล้นเรือนร่างของเธออีกรอบ
หม่อนไหมนับหนึ่งถึงสามในใจ ขณะที่ค่อย ๆ หันหน้าไปพบกับความจริงที่ว่า ข้างกายของเธอมีร่างของชายแปลกหน้านอนเปลือยอยู่ด้วย
“กรี๊ด!!!”
คุณหนูคนสวยกรีดร้องดังลั่น มือทั้งสองข้างหยิบเอาหมอนที่นอนหนุนมาทั้งคืนขึ้นฟาดลงบนร่างกายล่ำ ๆ นั่นแรง ๆ พร้อมทั่งก่นด่าไปด้วย
“คนบ้า! คนผีทะเล! โอ๊ย จะด่ายังไงดีเนี่ย… ไอ้… ไอ้… ไอ้คนไม่ดี! ไอ้คนฉวยโอกาส ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงฮะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ไอ้คนเลวเอ๊ย! ตื่นขึ้นมาสำนึกผิดให้ครบพันครั้งเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไอ้คนชั่ว! บอกให้ลุกไงเล่า!!”
เมื่อเห็นว่าคนที่นอนฟุบหน้าอยู่ข้าง ๆ ยังคนแน่นิ่งราวกับหลับลึกไปถึงแก่นของการนอน เส้นเลือดที่ขมับของหม่อนไหมก็ยิ่งเต้นตุบ ๆ ด้วยความโมโหที่ทวีคูณขึ้นไปอีก
“ฉันบอกว่าให้ลุกไงเล่า! อีตาบ้านี่!! ลุก!! มาขอโทษฉันเดี๋ยวนี้! กล้าดียังไงมาแตะต้องร่างกายสวย ๆ ของฉัน! รู้ไหมว่าร่างกายนี้มีมูลค่าเท่าไร ไอ้คนบ้า! แกเป็นใคร!! กล้าดียังไงมาทำมิดีมิร้ายกับร่างกายฉันเนี่ยฮะ!!”
คำด่าของหม่อนไหมเหมือนทะลุหูซ้ายออกหูขวา เพราะเจ้าของร่างหนาที่นอนคว่ำหน้าอยู่ยังคงหายใจสม่ำเสมอ ที่หม่อนไหมเคยอ่านเจอในบล็อกสุขภาพของมหาวิทยาลัย งานวิจัยบอกไว้ว่าการทำกิจกรรมทางเพศก่อนนอนจะช่วยทำให้การนอนหลับดียิ่งขึ้น
แล้วมันยังไงกันล่ะ! หมอนี่จะมานอนเป็นทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หรอกนะ!
ไม่ตื่นใช่ไหม… นอกจากนิสัยจะเสียแล้ว ประสาทการรับรู้ทางการได้ยินก็คงเสียไปด้วยใช่ไหม… ได้ รู้จักคุณหนูหม่อนไหมคนนี้น้อยไปซะแล้ว!
เรือนร่างที่มีรอยสีกุหลาบกระจายอยู่ทั่วร่างรีบก้าวลงจากเตียง คว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ไม่ไกลขึ้นมาพันร่างหนีความอับอาย ก่อนจะเดินไปหยิบเอากระติกน้ำร้อนที่ทางห้องวีวีไอพีจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีมาเปิดฝาออก แม้น้ำภายในจะไม่ร้อน แต่หม่อนไหมก็ตั้งใจจะทำสิ่งนี้เพื่อความสะใจอย่างเดียวอยู่แล้ว
ซ่า!!
“ตื่นมารับผิดชอบฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้คนชั่ว!”
มือบางสาดน้ำในกระติกพร้อมทั้งปล่อยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดพอดีมือนั่นลอยไปกระทบศีรษะของคนที่นอนหลับลึกอยู่ด้วย เรือนกายหนาขยับยุกยิกทันทีที่ถูกน้ำสาดเข้าเต็ม ๆ แผ่นหลัง
บัลลังก์หลับตานิ่ง ๆ ครู่หนึ่ง รู้สึกหนักหัวเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเมื่อคืนนั้นมีปริมาณมาก แถมยังดีกรีสูงใช่เล่น พอลืมตาขึ้นก็ได้พบกับหญิงสาวที่ยืนกอดอกเชิดหน้าอยู่
“อะไรของเธอ…”
หล่อเป็นบ้าเลย!
หม่อนไหมนึกชื่นชมในใจกับเครื่องหน้าที่เป๊ะยิ่งกว่าถูกพระเจ้าจัดวาง เฮ้ย! มันใช่เวลามาชมหน้าตาหมอนั่นที่ไหนกันเล่า!
“อีตาบ้า! ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ นี่โดนกระติกน้ำร้อนกระแทกหัวจนความจำเสื่อมไปแล้วหรือไง ก็เมื่อคืนคุณน่ะ…คุ ณน่ะ…” หม่อนไหมได้แต่ชี้นิ้ว เต้นเร่า ๆ อยากจะด่าก็ด่าไม่ออก เพราะกิจกรรมทำร่วมกันเมื่อคืน เธอรู้ดีว่าปรบมือข้างเดียวไม่มีทางดัง
ชายหนุ่มถอนหายใจ สีหน้ายังคงแน่นิ่งไร้ความรู้สึก “เป็นอะไรของเธอ มาชี้หน้าด่าฉันปาว ๆ เนี่ย… แล้วน้ำนี่สาดมาทำไม อยากเล่นบทตบจูบรึไง ทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อคืนล่ะ…”
“บทตบจูบบ้าบอคอแตกอะไรกันล่ะ! อย่ามาทำหน้านิ่งเป็นปลิงตายเพื่อเปลี่ยนเรื่องนะ! คุณต้องรับผิดชอบ! ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!! ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ เหอะ คุณคงไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แหงสิ ก็เป็นแค่พวกนักดื่มเกรดต่ำในบาร์ที่ดันโชคดีมาเจอฉันตอนเมาล่ะสิ ชิ คุณโดนจับเข้าคุกหัวโตแน่ คอยดู!” หม่อนไหมชี้หน้า ริมฝีปากคว่ำเบะลงตามนิสัยของคุณหนูแสนเอาแต่ใจ
“…” คำว่านักดื่มเกรดต่ำจี้เส้นความโกรธของบัลลังก์ได้เป็นอย่างดี ตลอดสามสิบสองปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าชี้หน้าด่าเขาได้ถึงขนาดนี้
เมื่อไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในสายเลือดแล้ว บัลลังก์จึงตระหนักได้ว่าใบหน้าของผู้หญิงที่ยืนชี้นิ้วด่าเขาไฟแลบอยู่ตอนนี้ช่างละม้ายคล้ายกับใครบางคนในความทรงจำของเขาเหลือเกิน
ดวงตาสีดำสนิทลุ่มลึกรับแพขนตายาวงอนสวย จมูกโด่งเชิดรั้น ไหนจะริมฝีปากสีชมพูพีชที่ตอนนี้บวมเจ่อเพราะโดนจูบมาทั้งคืนนั่นอีก…
คุณนางฟ้า…?
“เงียบไปเลย กลัวล่ะสิท่า ฉันจะบอกอะไรให้นะ คุณน่ะขึ้นสวรรค์ได้แค่เมื่อคืนครั้งเดียวเท่านั้นแหละ เพราะหลังจากนี้ก็คงไปลงนรกในคุก เหอะ แต่ถ้ายังไม่อยากโดนจับเข้าคุกก็คุกเข่าขอโทษ สำนึกผิดต่อฉันพันครั้งได้แล้ว!”
บัลลังก์ไม่อยากเชื่อว่านางฟ้าแสนสวยที่เขย่าหัวใจของเขาได้ที่อังกฤษเมื่อหนึ่งปีก่อน จะเป็นคนเดียวกับหญิงสาวที่กำลังยืนชี้หน้าด่าเขาปาว ๆ อยู่ในตอนนี้ ท่าทีอ่อนน้อมและคำพูดคำจาอ่อนหวานในคาเฟ่ที่เขาเคยได้ยินมาครั้งนั้น รวมถึงภาพในฝันที่เขาเคยวาดเอาไว้ว่าจะตามหาเธอและแต่งงานด้วย มันพังทลายลงหมดเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
นี่มันยิ่งกว่าสั่งของในอินเทอร์เน็ตแล้วได้มาไม่ตรงปกอีกนะเนี่ย!
“นี่หูหนวกหรือหูตึงกันแน่ยะ!! บอกว่าให้คุกเข่าขอโทษฉันไง หรือจะกราบเลยก็ได้ จะได้สาสมกับที่ย่ำยีฉันน่ะ!!”
ยิ่งฟังบัลลังก์ก็ยิ่งอยากจะบีบคอเจ้าของเรือนกายอ้อนแอ้นที่เขาเพิ่งฝากฝังรอยรักไว้ทั้งคืนให้ตายคามือจริง ๆ คำพูดคำจาแบบนั้น ชายหนุ่มเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวแล้วเดาไปต่าง ๆ นานาว่าเธอคงไม่ใช่คนธรรมดา ดูจากปีก่อนที่ได้พบกันในอังกฤษ แถมบทสนทนากับกลุ่มเพื่อนยังมีคำว่ามหาวิทยาลัยอีก คงจะเป็นคุณหนูเรียนจบนอกที่ตกอับจนต้องรับค่าจ้างของปริณณ์มานอนกับเขาก็เป็นได้
แล้วอยู่ ๆ จะรักศักดิ์ศรีของตัวเองขึ้นมาเพื่อ… หมดกัน นางฟ้าที่ตามหา
“เท่าไร” บัลลังก์ถามเสียงเรียบ ขยี้เส้นผมสีดำขลับของตนเองอย่างหัวเสีย นึกโกรธตัวเองที่ดันสะเพร่า ค้างอยู่ที่นี่ยาวยันเช้าทั้งที่ควรกลับตั้งแต่เสร็จสมเมื่อคืนแล้ว “ไม่ต้องอาย บอกมาเท่าไร”
หม่อนไหมได้ยินเสียงเส้นประสาทของตนเองดังเปรี๊ยะ ๆ หญิงสาวกำมือแน่นแล้วเค้นเสียงลอดไรฟันถาม “คุณหมายความว่ายังไง… เท่าไรคืออะไร”