EP.27 #หักหลัง

1051 Words
Rrr… เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ช่วยขัดบรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างทั้งสองคน นับฝันผละตัวออกจากความใกล้ชิดเกินพอดีและรีบควานหาโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย สายตาเหลือบมองร่างสูงข้างกายเป็นระยะอย่างระแวดระวัง [เราถึงหน้าห้องฉุกเฉินแล้วนะ ฝันอยู่ไหนเหรอ?] นับฝันเดินมาหยุดหลังบานประตูหนีไฟพลางมองผ่านช่องหน้าต่างกระจกเล็ก ๆ ออกไป บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินปรากฏร่างสูงของใครคนหนึ่งยืนอยู่ เขากำลังมองหาเธอกับลูกด้วยท่าทางกังวล “ฝันมาติดต่อเรื่องแอดมิทให้เจ้าขุนอยู่น่ะ” [อ้าวเหรอ งั้นเดี๋ยวเราเดินไปหา] “มะ ไม่ต้อง” มือบางเผลอกำโทรศัพท์แน่น ขบริมฝีปากเล็กน้อย “ไปหาเจ้าเอยที่ food court เลยดีกว่า ตอนนี้เจ้าเอยคงจะเสียขวัญมาก เดี๋ยวฝันจัดการทางนี้เสร็จแล้วจะรีบตามไป” พายัพนิ่งเงียบ ก่อนถอนหายใจออกมา [โอเค งั้นเดี๋ยวเราดูแลเจ้าเอยให้ ทำเรื่องแอดมิทเสร็จแล้วรีบตามไปนะ] “อื้อ ขอบใจนะ” นับฝันรอจนกระทั่งพายัพเดินเข้าลิฟต์จึงกดตัดสายแล้วเตรียมจะเปิดประตูหนีไฟออกไป ทว่ากลับถูกมือหนารั้งจับแขนเอาไว้อีกครั้ง เธอสะบัดมือเขาออกราวกับโดนของร้อน สายตากรุ่นโกรธตวัดมอง “พอสักทีได้ไหม! อย่ามายุ่งกับฉัน!” “ไม่ได้” น้ำเสียงเย็นชาตอบกลับทันที นับฝันกัดริมฝีปากแน่น เธอจิกเล็บกับฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บไปหมด “ทำไม? ที่ผ่านมามันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันก็ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างใช้ชีวิตอย่างที่เฮียต้องการแล้วไง แล้วเฮียจะมาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรอีก?” เพลิงศูรย์ยืนเงียบไม่ตอบโต้ใด ๆ เขาเพียงจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก นับฝันเกลียดแววตาคู่นี้ที่สุด แววตาที่เหมือนมองเธอแต่กลับไม่เคยมีเธออยู่ในนั้น “เรื่องวันนี้มันก็แค่เรื่องบังเอิญ ฉันไม่ได้อยากเจอเฮีย คิดซะว่าเราไม่เคยเจอกันจะดีกว่า ต่างคนต่างอยู่เหมือนที่เคยเป็นมานั่นแหละดีแล้ว และหวังว่าจากนี้ไปเราจะไม่ได้พบกันอีก” ปึง นับฝันเดินออกมาจากบันไดหนีไฟแล้ว เธอก้าวฉับ ๆ กดลิฟต์และเดินเข้าลิฟต์โดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้านหลังเลยสักนิด ในตอนที่ประตูกำลังจะปิด เธอเห็นร่างสูงเดินออกมาจากประตูหนีไฟ ทั้งสองสบตากันจนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดลง เมื่อความเงียบกลืนกินรอบตัว ความร้อนผ่าวขอบตาแล่นวาบขึ้นมา ดวงตาหวานกลอกขึ้นพลางแสยะยิ้มหยันกลบเกลื่อนความรู้สึกขมขื่นภายในใจ นี่มันบ้าบอเกินกว่าที่เธอเคยคิดเอาไว้ซะอีก… ตลอดเวลาหกปีที่ผ่านมามีหลายครั้งที่นับฝันเคยคิดว่าถ้าหากวันหนึ่งผู้ชายคนนั้นบังเอิญพบเธอกับลูก ๆ มันจะเป็นอย่างไรกันนะ เขาจะมีสีหน้าแบบไหน เขาจะสงสัยเรื่องชาติกำเนิดของลูกหรือเปล่า เธอคิดมาหลายครั้งหลายหน แต่ผลลัพธ์จริงมันกลับเลวร้ายกว่าที่คิด… เพลิงศูรย์ไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปง่าย ๆ แน่… เธอมั่นใจ นับฝันรู้จักเขาดี… แววตาของผู้ชายคนนั้นแม้จะเย็นชาและไร้ความรู้สึกเหมือนเช่นเคย แต่เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์บางอย่าง… ซึ่งมันอธิบายไม่ถูก รู้เพียงว่าความนิ่งสงบนั่นมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ ราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะโหมกระหน่ำอย่างไรอย่างนั้น เธอไม่ควรพาลูกกลับมาที่นี่เลย… ไม่ควรเลยจริง ๆ . . . หลังจากประตูลิฟต์ปิดลง ภาพของนับฝันหายไปจากสายตา แววตาเย็นชาวาววับแฝงความอันตรายพาดผ่าน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาใครบางคน คนที่ขาดการติดต่อกันไปกันเกือบหกปีเต็ม […] ปลายสายกดรับแต่กลับไร้เสียงตอบกลับ แต่เพลิงศูรย์รู้ว่าเธอกำลังฟังอยู่ เขาแสยะยิ้มเย็นชา นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง… “ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ ไม่คิดจะทักทายฉันหน่อยหรือไง” […อืม นายเป็นยังไงบ้าง สบายดีนะเพลิง] ริมฝีปากหนากดลึกกว่าเดิม ร่างสูงเดินเข้าลิฟต์และกดชั้น food court สายตาเย็นชาสะท้อนกระจกเงาภายในลิฟต์ “คิดว่าไงล่ะ ฉันควรสบายดีไหม?” สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเพลิงศูรย์เป็นคนมีเพื่อนน้อย มีเพียงไม่กี่คนที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิท ส่วนมากเป็นเพื่อนผู้ชายซึ่งมักจะรวมกลุ่มกันเวลาแข่งรถ ทว่ามีเพื่อนผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง… เธอเป็นเพื่อนที่เขาไว้ใจและคอยดูแลอยู่เสมอ เพราะสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม และยังเป็นเพื่อนต่างเพศเพียงคนเดียวที่เขาให้ความสนิทสนมด้วย “เธอกับไอ้เวรนั่นยังรักกันดีสินะ” […อะ อืม ก็ยังรักกันดี ตอนนี้เรามีลูกด้วยกันคนหนึ่งแล้ว] “…” เพลิงศูรย์ชะงักงัน นี่ก็เป็นข่าวใหม่ที่เขาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเช่นกัน อย่างที่บอกว่าเขาขาดการติดต่อกับเพื่อนฝูงไปนานมาก เขาไม่เล่นโซเชี่ยลและไม่ได้ติดต่อกับใครมาเกือบหกปีแล้ว ตั้งแต่เขาย้ายไปเรียนต่อที่จีนจนจบปริญญา หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่แอฟริกาจนถึงปัจจุบัน เพลิงศูรย์หายจากการติดต่อไปนาน แม้แต่พ่อของเขายังแทบติดต่อเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่เขาพลาดเรื่องสำคัญในชีวิตไปกี่เรื่องกันแล้วเนี่ย… [แล้วทำไม… จู่ ๆ ถึงโทรหาฉันล่ะ? นายคงไม่ได้บังเอิญคิดถึงฉันขึ้นมาทั้งที่หายหน้าหายตาไปเกือบหกปีแล้วหรอกนะเพลิง] ปลายสายอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ แถมน้ำเสียงของเธอยังแฝงแววประชดประชันเล็กน้อย เพลิงศูรย์ดึงความคิดตัวเองกลับมาพลางเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงยียวนแฝงแววเย็นชา “ทำไม? ฉันคิดถึงเธอไม่ได้หรือไง… หยาดฟ้า”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD