ณ มุมหนึ่งของร้านถัดจากหน้าประตูทางเข้าไปไม่กี่โต๊ะปรากฏภาพของผู้ชายสองคนนั่งอยู่ นับฝันจะไม่สนใจเลยหากหนึ่งในนั้นไม่ใช่คนคุ้นหน้าคุ้นตาของเธอ
พุธ… หมอนั่นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
นับฝันรู้จักกับพุธเพราะเคยเรียนห้องเดียวกันสมัยมัธยมปลาย ทั้งสองเคยสนิทกันอยู่ช่วงหนึ่ง พูดให้ถูกก็คือเธอเคยพยายามตีสนิทพุธเพราะต้องการเข้าหาญาติผู้พี่ของเขาหรือก็คือเพลิงศูรย์นั่นเอง
สมัยนั้นเพลิงศูรย์เป็นรุ่นพี่เธอสองปี ตอนนับฝันอยู่ ม.4 เพลิงศูรย์ก็อยู่ ม.6 แล้ว
นับฝันยังจำได้ไม่ลืม ตอนพบกับเพลิงศูรย์ครั้งแรกก็มีพุธเป็นตัวเชื่อมนี่แหละ เพราะเธอต้องทำงานกลุ่มกับพุธจึงต้องอยู่หลังเลิกเรียน และสถานที่ที่ทำงานกลุ่มก็คือข้างสนามบาสของโรงเรียนซึ่งมีรุ่นพี่ ม.6 ซ้อมบาสหลังเลิกเรียนทุกวัน หนึ่งในนั้นมีเพลิงศูรย์รวมอยู่ด้วย
สมัยเรียนเพลิงศูรย์เป็นคนที่โดดเด่นมาก เขาหล่อ นิ่ง เย็นชา พูดน้อย และค่อนข้างลึกลับ เป็นรุ่นพี่ที่รุ่นน้องเข้าถึงยากสุด ๆ โดยเฉพาะรุ่นน้องผู้หญิง ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง…
นับฝันสลัดความคิดเรื่องในอดีตเมื่อเห็นเด็กสองคนวิ่งถลาเข้าหาดารากาซึ่งยืนอยู่ตรงโต๊ะของพุธ หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้น มือไม้เย็นเฉียบไปหมด เธอเผลอกัดริมฝีปากแน่น สองตาจ้องมองลูก ๆ สลับกับใบหน้าของพุธที่กำลังจ้องมองเด็กทั้งสองตาไม่กะพริบ
ไม่หรอก… เขาคงไม่สงสัยอะไรหรอก…
หลังจากดารากาพาเด็ก ๆ เดินกลับมาที่โต๊ะ นับฝันลอบถอนหายใจได้ไม่นาน หัวใจก็หล่นตุบลงพื้นอีกครั้งเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาของใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในร้าน ใบหน้าสวยซีดเผือด เธอรีบหลบฉากเข้ามาหลังเคาน์เตอร์ เป็นจังหวะเดียวกับพายัพกำลังเดินมาหาจากอีกฝั่งหนึ่งของร้านพอดี
นับฝันมองพายัพที่เดินส่งยิ้มเข้ามาหาสลับกับผู้ชายอีกคนที่ตอนนี้นั่งลงตรงโต๊ะเดียวกับพุธแล้ว หัวใจเต้นระรัวราวกับรัวกลอง เธอรีบพุ่งตัวจากหลังเคาน์เตอร์แล้วคว้าแขนพายัพก่อนจะลากออกมาจากร้านโดยไม่ลืมหันไปฝากเด็ก ๆ ไว้กับดารากาด้วยสีหน้าที่ยังซีดเผือดไม่หาย
“เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรเหรอฝัน?” พายัพปล่อยให้นับฝันลากเดินโดยง่าย แต่ก็ไม่วายขมวดคิ้วถาม เขาไม่เห็นนับฝันมีอาการตื่นตระหนกแบบนี้มานานแล้ว ใบหน้าสวยซีดขาวไร้สีเลือดราวกับกระดาษ ดวงตาหวานที่เคยสดใสเวลานี้กลอกไปมาเต็มไปด้วยความกังวล เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วเขาไม่สบายใจเลย
นับฝันลากพายัพมาจนถึงรั้วต้นไม้สูงข้างประตูทางออก บริเวณนี้เป็นด้านนอกของร้าน มีรั้วต้นไม้สูงรอบล้อมและมีพุ่มต้นไม้ ดอกไม้ปลูกอยู่ประปราย เธอดึงร่างสูงเข้ามาหลบหลังพุ่มไม้พุ่มหนึ่งขณะมองกลับเข้าไปในร้าน เมื่อมองจากตรงนี้แล้วไม่เห็นโต๊ะของพุธ เธอจึงถอนหายใจออกมา
ยังไงก็ตามแต่… จะให้คนคนนั้นเห็นเธอกับพายัพอยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด
“หลบใครอยู่เหรอ?” เสียงทุ้มเบาบางดังจากเหนือศีรษะ นับฝันเงยหน้าขึ้นสบตากับพายัพ ก่อนถอนหายใจหนัก ๆ หนึ่งที
“คนรู้จักน่ะ”
“ใคร? คนรู้จักพวกเราเหรอ?”
“อืม ไม่อยากเจอ พวกเราหลบอยู่ตรงนี้สักพักก่อนแล้วกันนะ”
พายัพไม่พูดอะไรต่อ เขาพอจะเดาออกแล้วว่าคนที่อยู่ในร้านเป็นใคร คนที่ทำให้นับฝันมีปฏิกิริยารุนแรงได้ขนาดนี้ คนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเธอเสมอและตลอดมาไม่เคยเปลี่ยน มีแค่คนเดียวเท่านั้น…
หมอนั่น…
มือหนาเผลอกำหมัดแน่น เลื่อนสายตามองเข้าไปในร้าน แววตาอ่อนโยนแฝงความแข็งกระด้าง แต่เพียงแวบเดียวก่อนจะกลับมาเป็นปกติในตอนสบตากับคนตัวเล็กตรงหน้า พายัพฝืนยิ้มอย่างเข้าใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้อง ‘หลบซ่อน’ จากผู้ชายคนนั้น
ไม่สิ… นับฝันต่างหากที่เป็นฝ่าย ‘หลบซ่อน’ มาโดยตลอด
“แดดมันร้อน ขยับมายืนตรงนี้หน่อย” มือหนาดึงร่างบางเข้ามาหลบใต้พุ่มไม้พลางเช็ดเม็ดเหงื่อใสข้างขมับเนียนขาว อากาศเมืองไทยร้อนมาก ไม่ใช่แค่นับฝันที่ยังไม่คุ้นชิน เขาเองก็ยังไม่ชินเหมือนกัน
“พาก็เข้ามาหลบด้วยสิ แดดมันแรงมาก เดี๋ยวก็เป็นลมแดดกันพอดี” นับฝันดึงแขนพายัพเข้ามายืนชิดกัน เธอเงยหน้าหยีตามองท้องฟ้ายามเที่ยง เมื่อก่อนนับฝันเคยชอบฤดูร้อนมาก เพราะฤดูร้อนมักจะมาพร้อมกับวันหยุดยาวและเทศกาลแห่งการท่องเที่ยว แต่ตอนนี้เธอกลับเกลียดมัน ทั้งแดด ทั้งอากาศร้อน หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับไฟ เธอเกลียดทุกอย่างที่มันอาจจะแผดเผาเธอได้
พอเห็นนับฝันยืนเหม่อ พายัพจึงชวนคุยเปลี่ยนบรรยากาศ “จริงสิ เด็ก ๆ บอกว่าคืนนี้อยากดูการ์ตูนในเน็ตฟลิก ชวนให้เราอยู่ดูเป็นเพื่อนด้วย”
“งั้นเหรอ แต่นี่มันคืนวันเสาร์ พาต้องเข้าร้านไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่หรอก ไม่ต้องแวะเข้าไปก็ได้ เดี๋ยวเราช่วยฝันปิดร้านแล้วกลับพร้อมกันได้เลย”
นับฝันพยักหน้ารับ สายตาเลื่อนไปทางตัวร้านก่อนชะงักนิ่ง พายัพหันมองตาม แววตาเคร่งเครียดขึ้นมาเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาเดินออกมาจากร้าน
พรึ่บ
มือเล็กคว้าเสื้อพายัพพลางขยับตัวเข้าหา ร่างสูงเบี่ยงตัวบดบังร่างบางเอาไว้อย่างรู้งาน แผ่นหลังนับฝันชิดกับรั้วต้นไม้โดยมีร่างของพายัพกักกันอยู่ด้านหน้า เธอกำเสื้อในมือแน่น หัวใจเต้นระรัวฟังเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ
ขอร้องล่ะ… อย่าให้เขาหันมาสนใจทางนี้เลย… รีบเดินผ่านไปเร็ว ๆ ทีเถอะ!