EP.08 #เรื่องไร้สาระ

1145 Words
“เป็นไร เหม่อเชียวนะ” นับฝันหลุดจากภวังค์ความคิด เลื่อนสายตามองร่างสูงที่เดินเข้ามาในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอเก็บสีหน้าเป็นเรียบนิ่ง จัดการเช็ดจานชามในมือต่อเงียบ ๆ “คิดมากเรื่องเมื่อเย็นอยู่ล่ะสิ” “…” เธอไม่ตอบ แต่เหลือบมองทางหางตาแทน “ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่เด็ก ๆ ถามถึงพ่อ ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ ที่ผ่านมาแกทำได้ดีแล้วฝัน” คำพูดลอย ๆ น้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่แฝงแววห่วงใย หยุดชะงักสองมือของนับฝัน “มันดีแล้วจริง ๆ เหรอเฮีย” เธอได้ยินเสียงตนเองพึมพำออกมาแผ่วเบา น้ำเสียงไม่มั่นคงเฉกเช่นยามปกติ “ฝันทำถูกแล้วจริง ๆ เหรอ…” นับกาลขยับมายืนตรงหน้าน้องสาว แย่งจานในมือเธอมาเช็ดแทน ก่อนคว่ำใบสุดท้ายลงบนลิ้นชัก เขาทำทุกอย่างอย่างเงียบเชียบและเรียบเรื่อย น้ำเสียงเอื่อย ๆ แฝงความเย้ยหยันเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนา “อะไรคือถูก อะไรคือผิด ใครเป็นคนตัดสินล่ะ?” นับฝัน “…” “คนบางคนก็ไม่เหมาะจะเป็นพ่อคนหรอกนะ โดยเฉพาะคนสารเลวอย่างไอ้เวรนั่น” ความเกลียดชังบางเบาปรากฏในแววตาคมกริบ ก่อนมันสลายไปเมื่อสบตากับนับฝัน รอยยิ้มจาง ๆ ยกขึ้นมุมปาก “ตอนนี้ชีวิตแกกับลูกก็สุขสงบดีแล้วนี่ฝัน พวกเราได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งแล้ว เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องคิด ‘เรื่องไร้สาระ’ ให้รกสมองหรอก” ความรู้สึกสับสนก่อนหน้ามลายหายจนสิ้น ใบหน้าสวยกลับมาราบเรียบ นิ่งสงบเหมือนที่ผ่านมา เฮียกาลพูดถูก… ตอนนี้ชีวิตเธอกับลูกสุขสงบดีแล้ว ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี เธอไม่ควรสับสนเพราะ ‘เรื่องไร้สาระ’ นั่นอีก “ว่าแต่แกเถอะ กับไอ้พายัพนี่มันยังไงกันแน่?” จู่ ๆ นับกาลเปลี่ยนเรื่องถาม ทำเอานับฝันตามไม่ทัน “อะไร?” “อย่ามาแกล้งโง่นะฝัน แกรู้ว่าเฮียหมายถึงอะไร” นับฝันเดินมานั่งโซฟา ตามด้วยร่างสูงของผู้เป็นพี่ เขาตามติดเธอราวเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ปาน “ไม่กลับบ้านหรือไงเฮีย ป่านนี้เจ้หยาดกับทันทันรอแย่แล้วมั้ง” คิดว่าตัวเองเปลี่ยนเรื่องได้คนเดียวหรือไง “ไม่ต้องไล่ ยังไม่กลับตอนนี้เว้ย รถโคตรติด รอกลับดึก ๆ นู้น ปล่อยทันทันเล่นกับเจ้าแฝดไปก่อน” นับกาลทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างน้องสาว พาดแขนบนพนักโซฟาด้านหลังเธอ นับฝันทำท่าจะขยับลุกหนีแต่ถูกท่อนขาใหญ่ ๆ อัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อยกขึ้นมาพาดทับบนตักเอาไว้ “อย่าคิดจะหนีนะฝัน แกสู้แรงเฮียไม่ได้หรอก” “อย่ามาใช้กำลังกับฝันนะ ฝันจะฟ้องป๊า!” มือบางพยายามผลักท่อนขาหนัก ๆ ของนับกาลออกจากตัก แต่มันทำยากเย็นเหลือเกิน นี่ขาคนหรือเสาไฟฟ้าเนี่ย! “เออ ฟ้องเลยดิ ป๊าก็คงอยากรู้เรื่องไอ้พายัพเหมือนกัน” นับกาลลอยหน้าลอยตาตอบได้น่าตบมาก “เอางี้ เดี๋ยวเฮียโทรหาป๊าให้เลยเอาป่ะ ป่านนี้น่าจะใกล้ถึงบ้านแล้ว” ไม่พูดเปล่าแต่ดันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดต่อสายจริง ๆ นับฝันรีบตะครุบโทรศัพท์เขาไว้ ชักสีหน้าไม่พอใจใส่ “อย่าหาเรื่องน่ะเฮีย ฝันไม่อยากโดนป๊าซักไซ้อีกคนนะ!” เห็นเฮียนับกาลชอบทำตัวจุ้นจ้านน่าโมโหแบบนี้แล้ว บอกเลยว่าป๊านับพันของเธอน่ะคูณสิบเข้าไปอีก รายนั้นนะเวลาซักไซ้แล้วน่าปวดหัวเสียยิ่งกว่าอะไร! ขนาดม้ายังเหนื่อยใจเลยอ่ะ! “งั้นตอบมา สรุปแกกับไอ้พายัพไปถึงไหนกันแล้ว?” “ไปถึงไหนอะไรเล่า เราเป็นเพื่อนกัน แค่เพื่อนน่ะเข้าใจยัง?” “ไม่เข้าใจเว้ย! ความสัมพันธ์ของแกกับมันข้ามเส้นคำว่าเพื่อนไปนานแล้วป่ะฝัน และการที่แกยังยอมให้มันอยู่ข้าง ๆ ก็หมายความว่าแกยอมรับในความสัมพันธ์แบบนั้นแล้วด้วย” น้ำเสียงนับกาลจริงจังขึ้นมา “ข้ามเส้นบ้าอะไรล่ะเฮีย ฝันกับมันไม่เคยมีอะไรกันนะ!” เธอจ้องตาเขา ยืนยันในความสัมพันธ์ของตน คนอื่นไม่รู้ ไม่เข้าใจก็ช่าง แต่เฮียกาลต้องรู้ ต้องเข้าใจเธอสิ เฮียคือคนที่รับรู้เรื่องนั้นดีกว่าใครเลยนะ “ฝันเบื่อจะพูดเรื่องนี้แล้ว ฝันพูดมาหกปีแล้วนะ ในอดีตไม่เคยมี ตอนนี้ก็ไม่มีเหมือนกัน” ความเงียบปกคลุมรอบห้องนั่งเล่น ต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิด นับกาลจ้องมองใบหน้าสวยติดเย็นชาของน้องสาว เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพายัพ แต่หมอนั่นไม่ใช่ไง มันแสดงออกชัดเจนตั้งแต่เมื่อหกปีก่อนแล้ว แถมที่ผ่านมามันก็อยู่เคียงข้างนับฝันมาตลอด น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วหัวใจนับฝันที่โคตรจะเปราะบางขนาดนั้นมีหรือจะไม่สะทกสะท้าน แต่ก็นะ… น้องสาวของเขาคนนี้ใจแข็งดั่งเหล็กกล้า ทะนงตนเสียยิ่งกว่าอะไร รักแรงเกลียดแรง แบ่งแยกรักเกลียดชัดเจน ยามรักก็ลุ่มหลงไม่ลืมหูลืมตา ยามตัดใจจากก็ไร้เยื่อใยและเด็ดขาดเป็นที่สุด คนประเภทนี้… คงไม่หวั่นไหวง่าย ๆ แน่ “เฮียถามอย่างหนึ่งได้ป่ะ” หลังจากนั่งเงียบกันมาพักใหญ่ นับกาลเป็นฝ่ายเอ่ยถาม นับฝันเหลือบตามอง สีหน้าเย็นชาปานน้ำแข็งขั้วโลก “ฮึ วันนี้เฮียขี้สงสัยจังนะ ชอบกินเผือกไม่เคยเปลี่ยน” มุมปากนับกาลกระตุก ไอ้ความปากคอเราะร้ายของยัยนี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกัน ยิ่งโตยิ่งปากแจ๋วขึ้นทุกวัน “ถ้าแกได้เจอมันอีกครั้งจะทำยังไง?” นับฝันนิ่งเงียบ ก่อนขยับริมฝีปากตอบ น้ำเสียงเย็นชา “ไม่เจอหรอก” “เอาอะไรมามั่นใจก่อน ได้ข่าวว่าบ้านมันก็อยู่แถวนี้หนิ เหอะ! ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจงใจกันแน่ที่แกเลือกมาอยู่แถวนี้อ่ะ” “ก็แค่บังเอิญ อีกอย่างที่ดินตรงนี้มันเป็นของฝันมาตั้งแต่เกิดแล้วป่ะ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย” “เออ เอาเถอะ ยังไงก็ตาม แกหัดคิดเผื่อไว้บ้างก็ดีนะ โชคชะตาแม่งยิ่งชอบเล่นตลกอยู่ด้วย” ดวงตาคมกริบจ้องมองน้องสาวนิ่ง ๆ แล้วพูดต่อ “ไม่มีใครหนีโชคชะตาพ้นหรอกนะฝัน เรื่องนี้แกน่าจะรู้ดีที่สุด” นับฝัน “…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD