Rrr…
“ว่า”
[เออ มึงอยู่ไหน จะกลับมาบ้านยัง?] ทันทีที่กดรับสาย ปลายสายไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ ยิงคำถามใส่เขาทันที แล้วดูมันถามสิ ทำตัวอย่างกับเป็นเมียเขาเลย
“กำลังกลับ ติดไฟแดงอยู่หน้าปากซอย”
วันนี้พายุเข้าทำให้ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า กรุงเทพบางพื้นที่เริ่มมีน้ำท่วมขังแล้ว โชคดีที่แถวบ้านเขาไม่ใช่พื้นที่ต่ำจึงไม่ประสบภัยน้ำท่วมเหมือนกับเขตอื่น ๆ
[ที่บ้านไฟดับมึงยังไม่ต้องเข้ามา กูโทรถามการไฟฟ้าเขาบอกหม้อแปลงระเบิดแล้วฝนก็ตกหนักกว่าจะซ่อมหม้อแปลงได้คงต้องรอให้ฝนหยุดก่อน เพราะงั้นมึงไปหาที่สิงสถิตก่อนเลย กูก็กำลังจะออกจากบ้านเหมือนกัน]
ลมเหนือโทรมาบอกแค่นั้นแล้ววางสายไป เพลิงศูรย์ถอนหายใจมองซอยบ้านที่กำลังจะเลี้ยวด้านหน้า สายตาเลื่อนมองซอยถัดไป ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา รถ SUV สีดำจึงเลี้ยวเข้าอีกซอยแทน ก่อนจอดลงภายในลานจอดของร้าน Le Rêve Café
พนักงานชายวิ่งกางร่มคันใหญ่มารอรับเพลิงศูรย์ลงจากรถ ร่างสูงเดินฝ่าพายุฝนเข้ามาในร้าน ปัดหยาดละอองน้ำฝนออกจากไหล่ลวก ๆ แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะมุมหนึ่ง เขาผ่านโต๊ะของเด็กน้อยสองคนอย่างไม่ได้ใส่ใจจะมอง เมื่อสั่งกาแฟร้อนกับเค้กซินนามอนเสร็จจึงหยิบแลปท็อปขึ้นมาเปิดและเริ่มลงมือทำงานต่อ
โชคดีที่ร้านนี้อยู่คนละซอยกับบ้านของเขา ไฟฟ้าละแวกนี้จึงไม่ได้ดับไปด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้ว่าจะไปสิงสถิตอยู่ที่ไหน
Rrr…
หลังจากนั่งทำงานได้สักพักจนกาแฟร้อนกับเค้กมาเสิร์ฟ เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ปลายสายไม่ใช่ลมเหนือแต่เป็นพุธ
“มีอะไร”
[เฮียทำไรอยู่อ่ะ? ผมมาหาเฮียที่บ้าน ยืนตากฝนกดรหัสเข้าบ้านไม่ได้ กดออดตั้งนานก็ไม่มีคนเปิดประตูให้เลย เฮียไม่ได้อยู่บ้านเหรอ? แล้วรหัสประตูเป็นไรอีกอ่ะหรือว่าเฮียลมเปลี่ยนรหัสเข้าบ้านเฮียอีกแล้ว?] เสียงฝนตกดังลอดออกมาจากปลายสาย ดูเหมือนพุธจะยังยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา ฟังจากการยิงคำถามแบบรัว ๆ แล้วหมอนั่นคงตัวเปียกเกินกว่าครึ่งแล้วแน่ ๆ
“บ้านกูไฟดับ ไม่มีคนอยู่ ไอ้ลมมันออกมาแล้วมั้ง”
[อ้าว แล้วเฮียอยู่ที่ไหนอ่ะ เดี๋ยวผมไปหา]
“ไม่ต้องมา รำคาญ” เขาตอบอย่างไร้เยื่อใย
[โห! ใจร้าย! นี่ผมอุตส่าห์เอาเอกสารจากเตี่ยเฮียมาส่งให้นะ! รีบบอกมาเร็ว ๆ หนาวจะตายอยู่แล้วววว]
เพลิงศูรย์กลอกตารำคาญ สุดท้ายก็ยอมบอกพิกัดในที่สุด จากนั้นไม่ถึงสิบนาทีพุธก็เดินเข้ามาในร้านด้วยสภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ ถึงจะไม่ได้เปียกทั้งตัว แต่ก็เปียกเกินครึ่งตัวอยู่ดี
“อ่า! โคตรหนาว!” มาถึงก็บ่นหนาวไม่หยุด แถมยังแย่งแก้วกาแฟของเพลิงศูรย์ไปถือเพื่ออุ่นมือ ดวงตาเย็นชาเหลือบมอง แววตาเย็นเหยียบจนพุธต้องรีบวางแก้วคืน “โด่ แค่ยืมอุ่นมือเฉย ๆ เอง ขี้งกอ่า”
“สั่งเอาใหม่ อย่ามักง่าย” เขาด่าเข้าให้
หลังจากพุธสั่งกาแฟร้อนพร้อมกับเค้กและเบเกอรี่อีกสองสามอย่าง ความสงบก็เริ่มกลับคืนสู่โต๊ะอีกครั้ง ทว่านั่งเงียบได้ไม่นานสายตาไม่อยู่นิ่งของพุธเหลือบไปเห็นโต๊ะด้านข้างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะของพวกเขา ตรงนั้นมีเด็กน้อยสองคนกำลังนั่งอยู่ เด็กผู้หญิงนั่งหันข้างกำลังอ่านหนังสืออย่างเรียบร้อย ส่วนเด็กผู้ชายนั่งหันหลังกำลังงัดแงะของเล่นหน้าตาแปลก ๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ
“โอ๊ะ…” พุธหลุดอุทานออกมาคำหนึ่ง เขาจำเด็กสองคนนั้นได้ดี เป็นเด็กที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งก่อนตอนมาร้านนี้กับลมเหนือครั้งแรก ตอนนั้นเขากับลมเหนือลงความเห็นตรงกันว่าเด็กทั้งสองหน้าตาคุ้นมาก แต่นึกกันเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าหน้าเหมือนใคร พอมาลองมองดี ๆ แล้ว…
พุธจดจ้องใบหน้าด้านข้างของเด็กหญิงก่อนละสายตากลับมาจ้องใบหน้าด้านข้างของผู้ชายข้างกายบ้าง ริมฝีปากค่อย ๆ อ้าเหวอทีละนิด
เหมือนโคตร!
“อะไร?” เพลิงศูรย์ตวัดสายตาเย็นชามองพุธ เขากำลังตั้งใจอ่านเอกสารในมือแต่ถูกขัดสมาธิด้วยสายตาโง่ ๆ ของคนข้างกาย
พุธกลืนน้ำลายดังอึก เก็บสายตากลับ สองคิ้วขมวดมุ่นพลางยกกาแฟขึ้นจิบ ในหัวครุ่นคิดไม่ตก เขาเติบโตมากับเพลิงศูรย์ตั้งแต่เล็กแต่น้อย แน่นอนว่าจดจำช่วงเวลาวัยเด็กที่เคยมีร่วมกับเพลิงศูรย์ได้อย่างดี รวมถึงหน้าตาในวัยเด็กของเพลิงศูรย์ด้วย ซึ่ง… เด็กสองคนนั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเพลิงศูรย์ตอนเด็กราวแปดถึงเก้าส่วนเลยทีเดียว โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่หน้าตาเหมือนเพลิงศูรย์มากราวกับเป็นเพลิงศูรย์เวอร์ชั่นย่อส่วนเลยด้วยซ้ำ!
“เอ่อ… เฮีย ผมถามไรหน่อยดิ” พุธรวบรวมความกล้าหันมาถามคนข้างกาย แม้จะได้รับสายตาเย็นชาแสนเย็นเหยียบตอบกลับมาแต่เขาก็สู้! ความอยากรู้มันอยู่เหนือทุกสิ่งแล้ว!
“ว่า?”
“คือแบบว่า… คือ…” พุธจิ้มนิ้วชี้เข้าหากันท่าทางลังเล แต่พอเห็นคิ้วเข้มขมวดจึงโผล่งถามออกมาด้วยความกลัวว่าเพลิงศูรย์จะด่า “เฮียเคยไปแอบมีลูกทิ้งไว้ที่ไหนบ้างป่ะ!”
หะ…
ไม่ใช่แค่เพลิงศูรย์ที่สตั้นไปกับคำถามของพุธ พุธเองก็ตกใจกับความใจกล้าท้าตายของตนเองเช่นกัน เขานึกอยากจะตบปากตัวเองแรง ๆ เมื่อเห็นแววตาเย็นเหยียบราวกับน้ำแข็งขั้วโลกของเพลิงศูรย์
“มึงถามเหี้ยอะไรเนี่ยไอ้พุธ” น้ำเสียงเพลิงศูรย์เย็นชาจับจิตมาก ทำเอาคนฟังอย่างพุธรู้สึกขนหัวลุกไปหมด แต่ก็ยังไม่วายถามย้ำอีกรอบ
“กะ ก็เฮียอ่ะ เคยไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนบ้างไหมอ่ะ แบบว่า… แบบว่าทำสาวท้องโดยไม่รู้ตัวไรงี้?”
“เหลวไหลไอ้พุธ! มึงนี่มันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ตากฝนมากจนไข้แดกแล้วหรือไง อย่าพูดเหี้ยไรไร้สาระให้กูได้ยินอีก ถ้าไม่อยากแดกส้นตีนกูแทนเค้ก!”
ความเย็นชาบนใบหน้าเพลิงศูรย์พลันหายไปกลายเป็นความเดือดดาลแทน วันก่อนลมเหนือก็ถามอะไรไร้สาระแบบนี้กับเขา วันนี้ยังจะเป็นไอ้เวรนี่อีกคนเหรอ ประสาทแดกกันไปหมดแล้วหรือไง
พุธถึงกับกลืนน้ำลายถอยตัวหนีเพื่อตั้งหลักด้วยความกลัวจะถูกซัดหน้าเข้าให้ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเพลิงศูรย์หลุดอารมณ์เสียออกมาแบบนี้
มีความเชื่อที่ว่าใต้คอมังกรมีเกล็ดย้อนกลับ หากใครไปสัมผัสกับเกล็ดนี้ มังกรจะโกรธจัดและฆ่าคนผู้นั้น
เขาดันเผลอไปแตะเกล็ดย้อนของเฮียเพลิงเข้าซะแล้วสิ…