เอ๊ะ… เขาว่ายังไงนะ?
ฉันหยุดเดินและหันกลับมามองพี่ฌอนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตาคมกริบกำลังจับจ้องมาที่ฉันก่อนหลุบมองมือไคโรที่ยังโอบอยู่บนหัวไหล่ฉัน ประกายไม่พอใจแฝงอยู่ในตาคู่นั้น แม้มันจะแค่แวบเดียวก่อนจางหายไป
“ไม่จำเป็น พวกเรากลับกันเองได้ ไม่ต้องรบกวน ‘รุ่นพี่’ หรอก” ฉันละสายตาออกจากพี่ฌอนเพื่อมองไคโร น้ำเสียงเน้นย้ำคำว่ารุ่นพี่นั้นทำฉันรู้สึกแปลกใจ
“ไม่ได้รบกวนอะไร เพราะฉันกำลังจะไปหาไอ้สิงห์อยู่แล้ว ยังไงก็ทางเดียวกัน” พี่ฌอนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าเขาก็เรียบเช่นกัน
“รุ่นพี่จะไปหาพี่สิงห์เหรอ ไปทำไม… คงไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ใช่ไหม?” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างว้าวุ่นใจ ฉันยังไม่อยากให้พวกพี่ ๆ รู้เรื่องนี้นะ ไม่งั้นฉันโดนยึดอิสรภาพแน่ ๆ
“ก็ไม่รู้สินะ ฉันโกหกไม่เก่งซะด้วยสิ”
อ้อเหรอ… ได้ข่าวว่าพี่น่ะกะล่อนตัวพ่อเลยไม่ใช่?
ฉันได้แต่คิดแบบนั้นในใจไม่ได้พูดออกไป ขืนพูดตามใจคิดมีหวังพี่ฌอนได้กดต่อสายตรงโทรไปฟ้องพี่สิงห์จริง ๆ แน่ ทางเดียวที่จะปลอดภัยจากเรื่องนี้นั่นก็คือฉันต้องกลับไปพร้อมกับเขา เผื่อเขาหลุดพูดเรื่องคืนนี้ขึ้นมาฉันจะได้หาทางแก้ตัวได้ทัน
“ถ้างั้นฉันกลับกับรุ่นพี่ด้วยก็ได้”
“เฮ้ยสวย…” ไคโรหันมาตวัดสายตาเคือง ๆ ใส่ฉันทันที ฉันพนมมือขอโทษขอโพยมันยกใหญ่
“โทษทีนะมึง แต่จะให้พวกพี่สิงห์รู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด มึงก็รู้ว่าอิสรภาพกูกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายแค่ไหน ขนาดจะคบกับพวกมึงชีวิตกูยังลำบากเลย”
นึกแล้วก็เวทนาตัวเองจริง ๆ ใช้ชีวิตแบบอิสระมาสิบกว่าปี กลับต้องมาโดนควบคุมความประพฤติอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ ยุ่งยากชะมัด…
“มึงจะกลัวอะไรวะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“แต่ฉันไม่คิดงั้นนะ” พี่ฌอนกอดอกแล้วพูดแทรกไคโรขึ้นมา เขาขยับยิ้มจาง ๆ สายตาเหมือนผู้ใหญ่กำลังมองเด็ก ๆ คุยกัน เขาปรายตามองฉันแล้วพูดต่อ “ขอพูดในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวคนหนึ่งละกัน ถ้าจู่ ๆ ได้รู้ว่าน้องสาวตัวเองแอบหนีออกจากบ้านเพื่อมาทำเรื่องเสี่ยงตายแบบนี้ ฉันคงจะคลั่งมาก ๆ”
“หึ! คิดจะเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อรู้ ๆ กันอยู่ว่ารสนิยมรุ่นพี่มัน ‘ไม่ปกติ’ เหมือนพี่ชายทั่วไป”
“หมายความว่ายังไงวะ?!”
คำพูดพร้อมรอยยิ้มหยันของไคโรเรียกความไม่พอใจจากพี่ฌอนทันที ทั้งคู่จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ราวกับมีประกายสายฟ้าแล่นผ่านดวงตาทั้งสองคู่อย่างไรอย่างนั้น ฉันทุบหน้าผากตัวเองเบา ๆ อย่างนึกปวดหัวตงิด ๆ ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน ทำไมถึงได้แรงใส่กันขนาดนี้นะ
“พอเถอะ ทั้งคู่เลย” ฉันผลักไคโรให้ออกห่างจากพี่ฌอน มันละสายตาจากเขามองมาที่ฉัน วูบหนึ่งที่เห็นประกายเจ็บปวดและผิดหวังจากแววตาคู่นั้น ฉันกะพริบตาเพราะคิดว่าตัวเองคงตาฝาด ซึ่งมันก็จริง เพราะแววตาของไคโรกลับมาขุ่นมัวไม่สบอารมณ์เหมือนปกติแล้ว “มึงกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวกูกลับกับพี่ฌอนเอง ไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกันที่มอ”
“แต่ว่า…”
“เออน่า” ฉันทำหน้าเหนื่อยใจ ไคโรเม้มปากเล็กน้อยแล้วตวัดสายตาไปทางพี่ฌอน ถ้ามีเปลวไฟออกมาจากตามันได้ ป่านนี้มันคงเผาไหม้ที่ฌอนเป็นจุณไปแล้วแน่ ๆ “พรุ่งนี้เจอกัน โอเคนะ”
“เออ! กูเลือกอะไรได้ไหมล่ะ!” มันถอนหายใจแรง ๆ แล้วมองหน้าฉัน “พรุ่งนี้กูไปรับที่บ้านละกัน รอด้วยล่ะ”
“จะบ้าเหรอ พวกพี่กูคงยอมหรอก เขาแบ่งเวรกันรับส่งกูขนาดนั้น มึงก็รู้”
“ไม่รู้โว้ย! พรุ่งนี้กูจะไปหาที่บ้าน! มึงรอกูด้วยแล้วกัน กูไปล่ะ!” พูดจบมันก็เดินฟึดฟัดออกไป ทิ้งให้ฉันยืนจนใจกับความงี่เง่าของมันจริง ๆ คบกันมาหลายปีก็ยังไม่รู้สึกชินกับนิสัยนี้ของมันสักทีวุ้ย
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกพี่เธอถึงหวงขนาดนั้น เหอะ!”
อะไรอีกเล่า… นี่ก็เป็นอะไรไปอีกคนเนี่ย! ฉันละงงกับนิสัยคิดเองเออเองเข้าใจไปเองของพวกผู้ชายจริง ๆ ช่างเป็นเพศที่เผด็จการเสียเหลือเกิน!
“แล้วจะกลับบ้านได้หรือยัง ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว หิวด้วย” ฉันยกมือลูบท้อง ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินมื้อเย็น พี่ฌอนหลุบตามองฉันเล็กน้อยก่อนจะเดินไปทางลานจอดรถ ฉันจึงวิ่งตามหลังเขาไปติด ๆ
โอ้โห… นี่รถเขางั้นเหรอ?
ฉันยืนอึ้งมองรถซูเปอร์คาร์คันหรูตรงหน้า พี่ฌอนกดปลดล็อกแล้วเปิดประตูรถ เขาหันมาขมวดคิ้วใส่ฉันเป็นเชิงถามว่าไม่ขึ้นเหรอ ฉันรีบหุบปากที่อ้าค้างแล้ววิ่งมาลูบประตูรถฝั่งข้างคนขับด้วยความทะนุถนอมสุด ๆ
“นี่มัน... McLaren 720s งืออ ฉันอยากสัมผัสมันมานานแล้วว ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
ตอนนี้ฉันจิตหลุดไปแล้ว ฉันบอกไปหรือยังว่านอกจากฉันจะชอบการซ่อมรถแล้ว ฉันยังชอบรถซูเปอร์คาร์สุด ๆ เลยด้วย! ไม่อยากจะบอกว่าในห้องฉันมีแต่โมเดลรถทั้งนั้น บาร์บ้งบาร์บี้อะไรไม่เคยได้ย่างกรายเข้าห้องฉันหรอก เพราะโมเดลรถจองเต็มชั้นไปหมดแล้ว
“สมกับเป็นเธอจริง ๆ รู้เรื่องรถดีเลยนี่ มองแค่นี้ก็รู้เลยเหรอว่ารุ่นอะไร” พี่ฌอนเดินอ้อมมาหาฉัน ฉันถึงเพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องน่าอายลงไป รีบดีดตัวออกจากการลูบ ๆ คลำ ๆ แถมยังซบหน้ากับบานประตูรถเขาเหมือนพวกโรคจิต
“มะ แหม… รู้สิ! ฉันชอบสะสมโมเดลรถมาก มีเกือบทุกรุ่นเลยด้วย แต่โมเดลที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือแมคลาเรนนี่แหละ ทั้งหล่อ ทั้งเร็ว ทั้งแรง เห็นแล้วตกหลุมรักอ่ะ!” พอได้พูดถึงเรื่องโมเดลรถ ฉันก็เผลอตัวพูดซะน้ำไหลไฟดับ ก่อนจะชะงักกับสายตาคม ๆ ที่กำลังยกยิ้มมุมปาก
“งั้นฉันก็คงเหมือนกับรถคันนี้สินะ”
“เอ๊ะ… เหมือนยังไง?” ฉันขมวดคิ้วงุนงง อยู่ ๆ พี่ฌอนก็เอาตัวเองไปเปรียบกับรถซะงั้น
“ก็เธอเคยบอกว่าชอบฉัน แสดงว่าฉันก็ทั้งหล่อ ทั้งเร็ว ทั้งแรงเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”