ปึง!
ปี๊ด!
“กรี๊ดดดด”
เสียงเชียร์ดังสนั่นมาจากขอบสนามบาสหน้าคณะที่ปกติฉันไม่ค่อยใส่ใจ แต่วันนี้กลับหยุดมอง ภาพของชายหนุ่มผมสีแดงโกเมนกำลังวิ่งอยู่ในสนามตรึงสองขาฉันเอาไว้ ฉันจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาแสนขี้เล่นที่แม้จะชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อก็ยังคงความน่ามอง ไม่สิ มันน่ามองมากกว่าเดิมเสียอีก ดูมีเสน่ห์และเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก
ตึกตัก…
อ่า… หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงอีกแล้ว ตอกย้ำให้ฉันแน่ใจว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วจริง ๆ
ภาพของวงแขนแกร่งที่โอบกอดฉันในคืนนั้นแล่นวาบเข้ามา ฝ่ามืออบอุ่นที่สัมผัสไปทั่วเรือนร่าง ริมฝีปากกรุ่นร้อนที่พรมจูบฉันอย่างอ่อนโยน ฉันยังจำทุกความรู้สึกนั้นได้ดี...
“เป็นไรวะ อยู่ ๆ หน้าแดง?”
“เออ อากาศร้อนเหรอ แล้วนั่นมึงมองอะไร?”
ไคโรกับไปป์ที่ยืนขนาบสองข้างพากันหันมองตามสายตาฉันไปทางสนามบาส ฉันรีบดึงสายตากลับมามองพวกมัน พยายามทำสีหน้าปกติไม่ให้มีพิรุธ
“นั่นพวกรุ่นพี่ปีสามนี่หว่า กลุ่มจตุรเทพแห่งวิศวะ”
“หะ...” จตุรเทพ... นิยายเหรอฟะ?
“อ้าว อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้จัก สาว ๆ คณะนี้ ไม่ดิ มหาลัยนี้เขาหวีดกลุ่มนี้กันทั้งนั้นอ่ะ” ไปป์เลิกคิ้วใส่ “เออ กูลืมไปว่ามึงไม่ใช่ผู้หญิงอะเนอะ”
“กวนตีนอีกละ แล้วตกลงมันคืออะไรวะ?”
เราสามคนเดินมานั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนห่างจากสนามบาสเกือบห้าสิบเมตร สายตาฉันลอบมองคนตัวสูงในสนามเป็นระยะแบบไม่ให้มีพิรุธจนเกินไป
“ก็... จากที่กูฟัง ๆ มา เห็นว่ากลุ่มจตุรเทพไรนี่มีกันสี่คนมั้ง เป็นรุ่นพี่ปีสามเอกวิศวะคอม มีชื่อไรบ้างนะ อืม...” ไปป์นั่งลงพลางทำท่านึกชื่อ “โลกิ ไรม์ พลูโต แล้วก็... ใครอีกคนวะ กูก็ไม่ได้ใส่ใจฟังตอนสาว ๆ เล่าซะด้วย”
“ฌอน” ฉันเผลอพูดชื่อพี่ฌอนออกมาด้วยความลืมตัว
“เออ ๆ อีกคนชื่อฌอน คนที่ผมแดง ๆ นั่นแหละ” ไปป์มันชี้ไปทางพี่ฌอนที่กำลังดั้งค์ลูกลงห่วงอย่างสวยงาม ฉันมองภาพนั้นด้วยหัวใจเต้นตึกตัก “ว่าแต่มึงรู้ได้ไงวะ ไหนบอกไม่รู้จักพวกนั้นไง?”
ฉันสัมผัสได้ถึงสายตาจับผิดรุนแรงจากเพื่อนรักทั้งสองแทบจะทันที พวกมันหรี่ตามองจนฉันอึกอักตอบไม่ถูก รีบงัดสกิลแถของพี่สิงห์ออกมาใช้แทบไม่ทัน
“กะ ก็พวกพี่แฝดไงมึง เขาเป็นเพื่อนกับพวกพี่แฝด ไอ้ไคก็เคยเห็นไง” ฉันพยายามหาพวก ซึ่งไคโรมันก็นิ่งซะจนฉันใจคอไม่ดี แล้วทำไมมันต้องใช้สายตาจับผิดมองฉันขนาดนั้นด้วยวะ
“อ้าวไอ้สวย แกอยู่นี่เองเหรอ” เสียงทักของใครอีกคนดังขึ้นจากด้านหลังเปรียบเหมือนระฆังช่วยชีวิตฉันไว้ หันมองก็พบกับพี่สิงห์ยืนอวดออร่าความสวยเกินชายอยู่ แสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องพาดผ่านตัวเขาราวกับนางฟ้ามาโปรดสัตว์อย่างไรอย่างนั้น
“พี่สิงห์? มาทำไรแถวนี้อ่ะ” ฉันลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาพี่ชายตัวเอง ปกติพี่สิงห์ไม่ค่อยมาแถวคณะฉันหรอก เขาอยู่นิเทศภาพยนตร์ ซึ่งคณะนิเทศอยู่ห่างจากคณะวิศวะคนละฟากฝั่งเลยก็ว่าได้
“มาหาไอ้ฌอน พาไปหามันหน่อยดิ”
ฉันชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเสสายตามองไปทางพวกเพื่อน ๆ ซึ่งพวกมันกำลังมองมาพอดี
“อ้อ มะ มาหาพี่ฌอนสินะ เอ่อ พี่เขาอยู่ในสนามบาสอ่ะ นู่นเลย” ฉันพูดตะกุกตะกักพลางชี้นิ้วไปทางสนาม
“พาไปหน่อย”
“หะ? ทำไมอ่ะ พี่ก็เดินไปเองสิ แค่นี้เอง” ฉันทำหน้าเหวอใส่ ทำไมพี่สิงห์ถึงเซ้าซี้ให้ฉันพาไปหาพี่ฌอนจัง ฉันอุตส่าห์เลี่ยงแล้วนะ
“เออ พาไปหน่อยได้ไหมล่ะ! ขี้เกียจเดินไปคนเดียว ไม่อยากเด่นเว้ย”
“โอ้โห คนมั่นหน้ามั่นโหนกแบบพี่เนี่ยนะไม่อยากเด่น โอ๊ย มันเจ็บนะพี่สิงห์!” ฉันลูบหัวตัวเองปรอย ๆ เมื่อถูกมือหนัก ๆ ของผู้ชายตรงหน้าตบกะโหลกเข้าให้ ทำไมชอบใช้กำลังกับน้องนุ่งตลอดเลยวะ ฉันเป็นผู้หญิงนะเนี่ย!
“จะไปไม่ไป หรือต้องให้เอาตีนถีบ?” พี่สิงห์มองแรงใส่ฉัน แถมยังเผื่อแผ่ไปให้ไอ้สองคนด้านหลังฉันด้วย ฉันหันมองพวกมันเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำยอม
“เออ ๆ ไปก็ได้ ลำไย!” ฉันมุ่ยหน้าใส่แล้วหันมาหยิบกระเป๋าบนโต๊ะหินอ่อนขึ้นสะพายหลัง “พวกมึงกลับกันก่อนเลยนะ ฝากบอกพวกไอ้ยูด้วยว่าเย็นนี้ไม่ต้องมาบ้านกู”
“อ้าว ไมวะ?” ไปป์เลิกคิ้วถามด้วยความงุนงงที่อยู่ ๆ ฉันก็ยกเลิกนัดทำโปรเจคกะทันหัน ฉันเหลือบมองพี่ชายตัวเองก่อนจะถอนหายใจ
“กูขี้เกียจ จบไหม!”
.
.
.
“ถามจริง แกไม่คิดจะคบเพื่อนผู้หญิงมั่งเหรอวะสวย เห็นคบแต่ไอ้พวกนี้” พี่สิงห์ถามขณะเราสองเดินมาทางสนามบาส ฉันหยุดยืนริมสนามดึงสายตาจากพี่ฌอนกลับมาที่พี่ชายตัวเอง
“ไม่อ่ะ พี่ก็รู้ว่าสวยคุยกะพวกผู้หญิงไม่รู้เรื่อง ไม่เหมือนไอ้พวกนั้นที่แค่มองตาก็รู้ใจ รู้ยันตับไตไส้พุงด้วยซ้ำ” ฉันตอบตามตรง ฉันคบกับพวกมันสบายใจกว่าเป็นไหน ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงนะ ก็มีแหละแต่ไม่ได้สนิทเท่านั้น
“ก็สมควรจะคุยไม่รู้เรื่องไหม วัน ๆ แกสนใจไรบ้างนอกจากเรื่องรถกับเกมอ่ะ พ่อแม่ให้แค่เพศแกมาอย่างเดียวจริง ๆ สินะ”
ไอ้สายตาเหยียด ๆ นั่นมันอะไร? ฉันชอบรถกับเกมมันผิดตรงไหนมิทราบ!?! พี่ดีกว่าฉันตายแหละ พ่อแม่ก็ให้แค่หน้าสวย ๆ กับพวกพี่มาเหมือนกันนั่นแหละ ไอ้นิสัยปีศาจซาตานนี่มาจากตัวเองล้วน ๆ เลยสินะ!
ฉันได้แต่เถียงพี่สิงห์ในใจ เพราะขืนพูดออกไปมีหวังโดนตบกะโหลกยุบตรงนี้แน่ ๆ เขาเคยมองฉันเป็นผู้หญิงซะที่ไหนกันล่ะ เอะอะก็ใช้กำลังตลอด เหอะ!
“เลิกสนใจเรื่องสวยแล้วไปสนใจเพื่อนรักพี่ดีกว่าป่ะ นู่นอ่ะ ยืนหล่ออยู่ตรงนู้นไง!” ฉันเพยิดหน้าไปทางสนามที่พี่ฌอนยืนอวดความหล่ออยู่ ดูเหมือนเขาเองก็เพิ่งสังเกตเห็นฉันกับพี่สิงห์เช่นกัน ดวงตาคมชะงักเล็กน้อยยามเราสบตากันก่อนเขาจะเลื่อนไปมองพี่สิงห์โดยไม่มองมาที่ฉันอีก
อะไรวะ… ท่าทางหมางเมินเหมือนฉันไร้ตัวตนนั่นมันอะไร?