EP.29 [ไม่สบอารมณ์]

1204 Words
เอ๊ะ… เขาว่ายังไงนะ? ฉันหยุดเดินและหันกลับมามองพี่ฌอนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ดวงตาคมกริบกำลังจับจ้องมาที่ฉันก่อนหลุบมองมือไคโรที่ยังโอบอยู่บนหัวไหล่ฉัน ประกายไม่พอใจแฝงอยู่ในตาคู่นั้น แม้มันจะแค่แวบเดียวก่อนจางหายไป “ไม่จำเป็น พวกเรากลับกันเองได้ ไม่ต้องรบกวน ‘รุ่นพี่’ หรอก” ฉันละสายตาออกจากพี่ฌอนเพื่อมองไคโร น้ำเสียงเน้นย้ำคำว่ารุ่นพี่นั้นทำฉันรู้สึกแปลกใจ “ไม่ได้รบกวนอะไร เพราะฉันกำลังจะไปหาไอ้สิงห์อยู่แล้ว ยังไงก็ทางเดียวกัน” พี่ฌอนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าเขาก็เรียบเช่นกัน “รุ่นพี่จะไปหาพี่สิงห์เหรอ ไปทำไม… คงไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ใช่ไหม?” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างว้าวุ่นใจ ฉันยังไม่อยากให้พวกพี่ ๆ รู้เรื่องนี้นะ ไม่งั้นฉันโดนยึดอิสรภาพแน่ ๆ “ก็ไม่รู้สินะ ฉันโกหกไม่เก่งซะด้วยสิ” อ้อเหรอ… ได้ข่าวว่าพี่น่ะกะล่อนตัวพ่อเลยไม่ใช่? ฉันได้แต่คิดแบบนั้นในใจไม่ได้พูดออกไป ขืนพูดตามใจคิดมีหวังพี่ฌอนได้กดต่อสายตรงโทรไปฟ้องพี่สิงห์จริง ๆ แน่ ทางเดียวที่จะปลอดภัยจากเรื่องนี้นั่นก็คือฉันต้องกลับไปพร้อมกับเขา เผื่อเขาหลุดพูดเรื่องคืนนี้ขึ้นมาฉันจะได้หาทางแก้ตัวได้ทัน “ถ้างั้นฉันกลับกับรุ่นพี่ด้วยก็ได้” “เฮ้ยสวย…” ไคโรหันมาตวัดสายตาเคือง ๆ ใส่ฉันทันที ฉันพนมมือขอโทษขอโพยมันยกใหญ่ “โทษทีนะมึง แต่จะให้พวกพี่สิงห์รู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด มึงก็รู้ว่าอิสรภาพกูกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายแค่ไหน ขนาดจะคบกับพวกมึงชีวิตกูยังลำบากเลย” นึกแล้วก็เวทนาตัวเองจริง ๆ ใช้ชีวิตแบบอิสระมาสิบกว่าปี กลับต้องมาโดนควบคุมความประพฤติอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ ยุ่งยากชะมัด… “มึงจะกลัวอะไรวะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” “แต่ฉันไม่คิดงั้นนะ” พี่ฌอนกอดอกแล้วพูดแทรกไคโรขึ้นมา เขาขยับยิ้มจาง ๆ สายตาเหมือนผู้ใหญ่กำลังมองเด็ก ๆ คุยกัน เขาปรายตามองฉันแล้วพูดต่อ “ขอพูดในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวคนหนึ่งละกัน ถ้าจู่ ๆ ได้รู้ว่าน้องสาวตัวเองแอบหนีออกจากบ้านเพื่อมาทำเรื่องเสี่ยงตายแบบนี้ ฉันคงจะคลั่งมาก ๆ” “หึ! คิดจะเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อรู้ ๆ กันอยู่ว่ารสนิยมรุ่นพี่มัน ‘ไม่ปกติ’ เหมือนพี่ชายทั่วไป” “หมายความว่ายังไงวะ?!” คำพูดพร้อมรอยยิ้มหยันของไคโรเรียกความไม่พอใจจากพี่ฌอนทันที ทั้งคู่จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ราวกับมีประกายสายฟ้าแล่นผ่านดวงตาทั้งสองคู่อย่างไรอย่างนั้น ฉันทุบหน้าผากตัวเองเบา ๆ อย่างนึกปวดหัวตงิด ๆ ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน ทำไมถึงได้แรงใส่กันขนาดนี้นะ “พอเถอะ ทั้งคู่เลย” ฉันผลักไคโรให้ออกห่างจากพี่ฌอน มันละสายตาจากเขามองมาที่ฉัน วูบหนึ่งที่เห็นประกายเจ็บปวดและผิดหวังจากแววตาคู่นั้น ฉันกะพริบตาเพราะคิดว่าตัวเองคงตาฝาด ซึ่งมันก็จริง เพราะแววตาของไคโรกลับมาขุ่นมัวไม่สบอารมณ์เหมือนปกติแล้ว “มึงกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวกูกลับกับพี่ฌอนเอง ไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกันที่มอ” “แต่ว่า…” “เออน่า” ฉันทำหน้าเหนื่อยใจ ไคโรเม้มปากเล็กน้อยแล้วตวัดสายตาไปทางพี่ฌอน ถ้ามีเปลวไฟออกมาจากตามันได้ ป่านนี้มันคงเผาไหม้ที่ฌอนเป็นจุณไปแล้วแน่ ๆ “พรุ่งนี้เจอกัน โอเคนะ” “เออ! กูเลือกอะไรได้ไหมล่ะ!” มันถอนหายใจแรง ๆ แล้วมองหน้าฉัน “พรุ่งนี้กูไปรับที่บ้านละกัน รอด้วยล่ะ” “จะบ้าเหรอ พวกพี่กูคงยอมหรอก เขาแบ่งเวรกันรับส่งกูขนาดนั้น มึงก็รู้” “ไม่รู้โว้ย! พรุ่งนี้กูจะไปหาที่บ้าน! มึงรอกูด้วยแล้วกัน กูไปล่ะ!” พูดจบมันก็เดินฟึดฟัดออกไป ทิ้งให้ฉันยืนจนใจกับความงี่เง่าของมันจริง ๆ คบกันมาหลายปีก็ยังไม่รู้สึกชินกับนิสัยนี้ของมันสักทีวุ้ย “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกพี่เธอถึงหวงขนาดนั้น เหอะ!” อะไรอีกเล่า… นี่ก็เป็นอะไรไปอีกคนเนี่ย! ฉันละงงกับนิสัยคิดเองเออเองเข้าใจไปเองของพวกผู้ชายจริง ๆ ช่างเป็นเพศที่เผด็จการเสียเหลือเกิน! “แล้วจะกลับบ้านได้หรือยัง ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว หิวด้วย” ฉันยกมือลูบท้อง ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินมื้อเย็น พี่ฌอนหลุบตามองฉันเล็กน้อยก่อนจะเดินไปทางลานจอดรถ ฉันจึงวิ่งตามหลังเขาไปติด ๆ โอ้โห… นี่รถเขางั้นเหรอ? ฉันยืนอึ้งมองรถซูเปอร์คาร์คันหรูตรงหน้า พี่ฌอนกดปลดล็อกแล้วเปิดประตูรถ เขาหันมาขมวดคิ้วใส่ฉันเป็นเชิงถามว่าไม่ขึ้นเหรอ ฉันรีบหุบปากที่อ้าค้างแล้ววิ่งมาลูบประตูรถฝั่งข้างคนขับด้วยความทะนุถนอมสุด ๆ “นี่มัน... McLaren 720s งืออ ฉันอยากสัมผัสมันมานานแล้วว ไม่อยากจะเชื่อเลย!” ตอนนี้ฉันจิตหลุดไปแล้ว ฉันบอกไปหรือยังว่านอกจากฉันจะชอบการซ่อมรถแล้ว ฉันยังชอบรถซูเปอร์คาร์สุด ๆ เลยด้วย! ไม่อยากจะบอกว่าในห้องฉันมีแต่โมเดลรถทั้งนั้น บาร์บ้งบาร์บี้อะไรไม่เคยได้ย่างกรายเข้าห้องฉันหรอก เพราะโมเดลรถจองเต็มชั้นไปหมดแล้ว “สมกับเป็นเธอจริง ๆ รู้เรื่องรถดีเลยนี่ มองแค่นี้ก็รู้เลยเหรอว่ารุ่นอะไร” พี่ฌอนเดินอ้อมมาหาฉัน ฉันถึงเพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องน่าอายลงไป รีบดีดตัวออกจากการลูบ ๆ คลำ ๆ แถมยังซบหน้ากับบานประตูรถเขาเหมือนพวกโรคจิต “มะ แหม… รู้สิ! ฉันชอบสะสมโมเดลรถมาก มีเกือบทุกรุ่นเลยด้วย แต่โมเดลที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือแมคลาเรนนี่แหละ ทั้งหล่อ ทั้งเร็ว ทั้งแรง เห็นแล้วตกหลุมรักอ่ะ!” พอได้พูดถึงเรื่องโมเดลรถ ฉันก็เผลอตัวพูดซะน้ำไหลไฟดับ ก่อนจะชะงักกับสายตาคม ๆ ที่กำลังยกยิ้มมุมปาก “งั้นฉันก็คงเหมือนกับรถคันนี้สินะ” “เอ๊ะ… เหมือนยังไง?” ฉันขมวดคิ้วงุนงง อยู่ ๆ พี่ฌอนก็เอาตัวเองไปเปรียบกับรถซะงั้น “ก็เธอเคยบอกว่าชอบฉัน แสดงว่าฉันก็ทั้งหล่อ ทั้งเร็ว ทั้งแรงเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD