EP.16 [จังหวะซิทคอม]

1250 Words
“เออนี่…” พี่สิงห์ละสายตาจากทีวีมามองฉัน ขณะพี่ตุลย์ยังคงจ้องทีวีเหมือนเดิม ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตัดใจถามออกไปในที่สุด “คือ… สวยอยากรู้ว่าพี่ฌอนเขามีแฟนหรือยังน่ะ” “ถามทำไมวะ?” “เอ่อ…” ฉันถึงกับไปต่อไม่ถูกเลย ยิ่งโดนสายตาจับผิดทั้งสองคู่พร้อมใจกันจ้อง ยิ่งอ้ำอึ้งเข้าไปใหญ่ “พะ เพื่อนอ่ะ เพื่อนมันชอบพี่ฌอนไง มันเลยอยากรู้” “เพื่อน?” “แกมีเพื่อนผู้หญิงด้วยเหรอวะ” “แหม เพื่อนร่วมคลาสก็มีไหม แล้วตกลงพี่เขามีแฟนหรือยังล่ะ สวยจะได้ไปบอกเพื่อน” ฉันพยายามทำน้ำเสียงปกติ ไม่ให้มีพิรุธ ขณะที่ในใจเฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดจ่อ “ไม่รู้ดิ ไม่มีมั้ง มึงว่าไง?” พี่สิงห์หันไปถามพี่ตุลย์ เขาหยุดคิดสักพัก “ไอ้ฌอนมันไม่มีแฟนหรอก ไม่เคยเห็นมันคบใครจริงจังสักคน” “เออ ถ้าคบผ่าน ๆ ไม่กี่วันเลิกก็มีนะ แต่ถ้าคบจริงจังอ่ะไม่มีหรอก ไอ้ฌอนมันหวงความโสดจะตาย ซิสค่อนตัวพ่ออย่างมันไม่ยอมมีแฟนง่าย ๆ หรอก มันเคยบอกว่าไม่อยากรักผู้หญิงคนไหนมากกว่าน้องสาวตัวเอง” “โรคจิตสุด ๆ” พี่สิงห์พูดจบพี่ตุลย์ก็เสริมท้ายทันที พี่ฌอนไม่มีแฟนงั้นเหรอ… แล้วที่เขาบอกฉันว่ามีแฟนแล้วมันคืออะไรอ่ะ นี่เขาโกหกฉันเหรอ… . . ครืด ๆ . . Cairo : มึงอยู่ไหนวะ? . . เสียงแจ้งเตือนข้อความดังมาจากโทรศัพท์ ฉันเปิดอ่านก่อนจะปัดทิ้งแล้วหยิบประแจเตรียมจะนอนลงบนกระดานเลื่อน ทว่าคราวนี้ตามมาด้วยเสียงเรียกเข้า ฉันจิ๊ปากกลอกตาขึ้นอย่างติดรำคาญ หันไปคว้ามากดรับสาย “เออ มีไร” [มึงอยู่ไหน กูมารับที่คลาสก็ไม่เจอ หายหัวไปไหนวะ] น้ำเสียงปลายสายดูจะหงุดหงิดมาก ตามสันดานรอใครไม่เป็นของมัน “วันนี้กูโดด พอดีมีงานด่วนเข้ามา พ่อไม่อยู่กูเลยจัดการแทน” [จิ๊! ไม่บอกกูสักคำ เออ เดี๋ยวกูไปหา] “มาทำไมวะ เกะกะ กูอยากอยู่คนเดียวสงบ ๆ” ฉันใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์ไว้กับหูขณะใส่ถุงมือไปด้วย [กูว่างไง ไม่มีไรทำ ไปหาไม่ได้?] “เออ ๆ ตามใจมึงเหอะ ไอ้คนว่างงาน! แค่นี้นะ” ฉันกดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะช่าง เดินกลับมานั่งลงบนกระดานเลื่อนเอนตัวนอนราบก่อนไถลเข้าไปใต้ท้องรถ เครื่องมือในมือทำหน้าที่ซ่อมแซมงัดแงะตามประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก หลายคนอาจจะมองว่าฉันแปลกประหลาด เป็นผู้หญิงแท้ ๆ แต่ทำไมชอบงานอะไรที่เหมือนกับผู้ชายแบบนี้ ทั้งร้อน ทั้งเลอะ ทั้งเหม็นน้ำมันเครื่อง เป็นงานที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต่างส่ายหน้าหนี แต่สำหรับฉัน การคลุกอยู่ในอู่ซ่อมรถคือสิ่งที่ฉันชอบมากที่สุด เวลาที่ฉันมีเรื่องให้เครียดหรือไม่สบายใจ ฉันก็มักจะหมกตัวอยู่ในนี้ ไม่รู้สิ… แต่เวลาได้กลิ่นน้ำมันเครื่องแล้วมันทำให้จิตใจสงบลงได้ ฟังดูเหมือนคนโรคจิตเลยว่ะ ‘ไอ้ฌอนมันไม่มีแฟนหรอก’ เสียงพี่ตุลย์แล่นเข้ามาในหัวอีกแล้ว ฉันเม้มปากอย่างนึกหงุดหงิด พี่ฌอนคิดว่าฉันโง่นักหรือไงนะ ถึงได้โกหกกันแบบนี้ คงอยากจะไล่ฉันไปให้พ้น ๆ สินะ แล้วไอ้ฉันก็บ้าเชื่อเขาง่าย ๆ คอยดูเถอะ! เจอหน้าเมื่อไหร่ แม่จะรุกใส่ให้เสียหลักเลย! . . . [บทบรรยาย ฌอน] รถสปอต์คันหรูจอดเทียบหน้าอู่ซ่อมรถขนาดกลางที่ตั้งอยู่เกือบสุดซอย ผมถอดแว่นออกขณะกดล็อกรถ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ อู่ที่วันนี้เงียบสงัดแปลก ๆ “ไม่มีใครอยู่เหรอวะ” หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาไอ้สองแฝดนรกที่เป็นคนนัดให้ผมมาวันนี้ “เออ กูอยู่หน้าอู่ละ” [เออ ๆ มึงเข้าไปรอในอู่ก่อนเลย เดี๋ยวกูกลับละ] “อ้าวเฮ้ย นี่พวกมึงยังไม่กลับกันเหรอวะ แล้วรีบนัดกูมาเพื่อ?” ผมแยกเขี้ยวใส่ปลายสาย เมื่อเช้าไอ้สิงห์เป็นคนโทรตามให้ผมเข้ามาหาที่บ้านตอนเย็น ผมที่พยายามจะเลี่ยงการมาบ้านมันอุตส่าห์ปฏิเสธไปแล้วแท้ ๆ แต่มันก็ตื๊อไม่เลิกจนผมต้องยอมมา ไม่รู้แม่งมีธุระอะไรนักหนา [ไอ้ตุลย์กลับไปแล้วมั้ง อู่เปิดป่ะล่ะ วันนี้พ่อกูไม่อยู่ด้วย มึงลองเข้าไปดูดิ อีกยี่สิบนาทีกูตามไป] พูดจบมันก็ว่างสายไป ผมถอนใจแรง ๆ ก่อนเดินเข้ามาในอู่ที่ค่อนข้างมืดสลัว วังเวงเหมือนฉากในหนังผีก็ไม่ปาน เวร... กูเดินกลับไปรอที่รถทันไหมวะ ก๊อกแก๊ก… ผมเกือบสะดุ้งตอนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากใต้ท้องรถยนต์คันหนึ่ง พอเพ่งสายตามองก็เห็นรองเท้าผ้าใบกับขายาว ๆ ของใครคนหนึ่งยื่นออกมา ผมจ้องชุดช่างเขรอะ ๆ นั่นพาลนึกถึงคำพูดไอ้สิงห์ มันบอกว่าพ่อมันไม่อยู่ งั้นแสดงว่าคนที่อยู่ใต้ท้องรถนั่นคือไอ้ตุลย์สินะ ริมฝีปากขยับยิ้มชั่วร้าย ก่อนนี้ผมเคยโดนไอ้สองแฝดนรกแกล้งหลอกผีจนหัวใจเกือบวายตาย คราวนี้ถึงเวลาเอาคืนของผมบ้าง ผมย่องเข้าไปใกล้ไอ้ตุลย์เงียบ ๆ พลางย่อตัวลงแล้วใช้มือจับสองเท้ามัน ก่อนดึงแรง ๆ จนกระดานเลื่อนนั่นไถลออกมาจากใต้รถด้วยความรวดเร็ว “แฮ่!!” “เฮ้ย!!” พลั่ก!! หมับ!! จังหวะโคตรซิทคอม… ทันทีที่ผมดึงกระดานเลื่อนออกมา เข่าผมก็โดนถีบเต็มแรง แต่แทนที่จะหงายหลัง ผมกลับเสียหลักล้มมาด้านหน้าแทน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก รู้ตัวอีกทีร่างสูงใหญ่ของผมล้มลงไปทับร่างที่กำลังนอนหงายอยู่บนกระดานเลื่อนอย่างพอดิบพอดี แถมสองมือของผมยังคว้าหมับลงบนความอวบ ๆ นุ่ม ๆ บางอย่างอีกด้วย หือ… อะไรวะ โคตรนุ่ม? ไอ้ตุลย์มีอะไรนุ่ม ๆ แบบนี้ด้วยเหรอวะ… นึกไปก็บีบ ๆ นวด ๆ ไป อืม… “อึก… จะ เจ็บ!” เสียงหวานดังข้างหู ผมเบิกตากว้างรีบผงกหัวขึ้นแล้วก้มมองเจ้าของเสียงนั้นทันที “เฮ้ย!” คราวนี้เป็นเสียงผมอุทานดังลั่นเมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างไม่ใช่ไอ้ตุลย์อย่างที่ผมคิด แต่กลับเป็น… น้องสาวของมัน! “ระ รุ่นพี่?” วินาทีนั้นเราสบตากันอย่างโคตรระยะประชิด สัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ขณะที่สองมือผมยังคงกอบกำความนุ่มนิ่มอวบอิ่มนั่นเอาไว้ พอหลุบตามองก็พบว่ามันคือ… หน้าอกของเธอ! “อ่ะ…” เสียงหวานอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อผมเผลอออกแรงบีบความอวบอิ่มนั้นเบา ๆ ใบหน้าสวยเรื่อแดงขึ้นมาทันที ทำเอาคนมองอย่างผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ ทะ ทำไมอยู่ ๆ ก็มองว่าเธอช่าง… น่ารักน่าฟัดจังวะ?!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD