ทำไมจู่ ๆ บรรยากาศรอบตัวมันกดดันขึ้นมากะทันหันแบบนี้ล่ะ ฉันมองผู้ชายสามคนสลับกันไปมา งุนงงกับสายตาของพวกเขา พี่สิงห์มองไคโรด้วยสายตาเหยียบเย็น ขณะที่สายตาไคโรกลับมองไปทางพี่ฌอน ทำไมมันมองพี่ฌอนด้วยสายตาแปลก ๆ แบบนั้นวะ? คิดอย่างนั้นฉันจึงเลื่อนสายตาไปมองพี่ฌอนบ้างและก็ต้องชะงักเมื่อปะทะเข้ากับสายตาเรียบนิ่งที่กำลังจ้องมาที่ตัวเอง
อะ… อะไรกัน… นี่พวกเขาเล่นสงครามจ้องตากันอยู่หรือไง!
“สวย เข้าบ้าน”
“หะ” ฉันมองพี่สิงห์ที่อยู่ ๆ ก็ทำลายความเงียบด้วยการสั่งให้ฉันเข้าบ้าน
“ฉันบอกให้เข้าบ้านไง” เขาย้ำอีกครั้ง แถมยังเข้ามาดึงแขนฉันให้เดินตามเขาไป ฉันยื้อตัวเองไม่ยอมเดินตามง่าย ๆ
“เฮ้ย.. อะไรของพี่เนี่ย สวยซ่อมรถอยู่ จะเข้าบ้านได้ไง”
“ไม่ต้องซ่อมแล้ว ให้พ่อกลับมาซ่อมเอง”
“เดี๋ยวพี่สิงห์ เป็นบ้าอะไรของพี่เนี่ย”
สุดท้ายฉันก็ถูกร่างเพรียวที่สูงกว่าฉันไม่กี่เซนต์ลากเข้าบ้านจนได้ ไม่อยากจะบอกว่าเห็นพี่สิงห์หุ่นบาง ๆ แบบนี้แต่จริง ๆ แรงเยอะมากเลยนะ เขาเคยทุ่มคนตัวใหญ่ยักษ์ด้วยแรงเฮือกเดียวมาแล้ว
“มีไรกัน โวยวายแต่วันเลย” พี่ตุลย์เดินลงจากบันไดมาถาม ฉันรีบวิ่งไปเกาะแขนเขาอย่างต้องการความช่วยเหลือ
“พี่ตุลย์ช่วยสวยด้วย พี่สิงห์เป็นบ้าไรไม่รู้ อยู่ ๆ ก็บังคับให้สวยเข้าบ้านอ่ะ สวยซ่อมรถให้พ่ออยู่แท้ ๆ พี่สิงห์ยัง…”
“เงียบ!”
เฮือก…
ฉันสะดุ้งเฮือกรีบหลบหลังพี่ตุลย์ทันที พี่สิงห์เป็นบ้าไปแล้ว!
“มีไร?”
ฉันชะเง้อหน้าออกมาเล็กน้อยเพื่อมองพี่ตุลย์กับพี่สิงห์ ทั้งคู่มองตากันเหมือนกำลังโทรจิตคุยกันงั้นแหละ
ฝาแฝดเขามีระบบโทรจิตกันด้วยเหรอ…
“ต่อไปนี้ห้ามไปไหนมาไหนกับไอ้เวรนั่นอีกนะ!”
“หะ… ไอ้เวรไหนอ่ะ” ฉันกะพริบตาปริบ ๆ
“ไอ้ไคโรไง! ถามอะไรโง่ ๆ วะสวย” พี่สิงห์ดูจะหงุดหงิดกว่าเดิม ซึ่งนาน ๆ จะเห็นที ไอ้หงุดหงิดจริงจังแบบนี้อะนะ
“ทำไมอ่ะ ก็สวยต้องไปเรียนกับมันประจำอยู่แล้ว พี่จะห้ามได้ไง” ฉันค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากด้านหลังพี่ตุลย์ พี่สิงห์กลอกตาใส่ก่อนจะลากแขนฉันให้ไปนั่งลงบนโซฟากลางบ้าน
“มีมือมีตีนก็ไปเองสิวะ ไม่ต้องไปกับมันแล้ว”
“อะไรเนี่ย งี่เง่าอ่ะ อยู่ ๆ มาห้ามได้ไง ไม่มีเหตุผลเลยว่ะ”
“เหตุผลเหรอ? แกไม่ได้ยินมันพูดหรือไงวะสวย มันบอกว่ามันมองแกแบบผู้ชายมองผู้หญิงนะเว้ย!”
ก็เออ… ถึงจะทะแม่ง ๆ กับคำนั้นอยู่บ้าง แต่แล้วมันยังไงอ่ะ ความหมายก็คือไคโรไม่ได้เห็นฉันเป็นทอมเหมือนคนอื่นไหมล่ะ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเรื่องแค่นี้พี่สิงห์ต้องโมโหด้วย
“มันพูดแบบนั้นเหรอ” จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกขนลุกกับน้ำเสียงเย็น ๆ ของพี่ตุลย์ขึ้นมา ประกายตาเขาเหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ก็ไม่ปาน ผิดกับอีกคนที่หัวร้อนตาร้อนจนไฟลุกหมดแล้ว ช่างเป็นแฝดที่ต่างกันสุดขั้วจริง ๆ
“เออสิ! แล้วสีหน้าแม่งตอนพูดนะ กูนี่อยากจะขยี้หน้าแม่งเลย”
“แล้วไมไม่ทำ?”
อ้าวเฮ้ย… ทำไมยุเล่าพี่ตุลย์! พี่ต้องห้ามเซ่! ช่วยดึงสติกันสักนิดเหอะ!
“พอเลยทั้งคู่! พวกพี่เป็นอะไรกันนักหนาห๊ะ ไอ้ไคมันก็แค่จะบอกว่าไม่ได้เห็นสวยเป็นทอมก็แค่นั้นอ่ะ”
“แต่พวกฉันอยากให้มันมองแกเป็นทอมไง”
“ทุกคนเลยยิ่งดี”
ฉันอ้าปากค้าง อึ้งกับความคิดของพี่ชายฝาแฝดทั้งสอง พวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่เนี่ย
“แกเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมตั้งแต่เล็กจนโตพวกฉันถึงปฏิบัติต่อแกเหมือนน้องชายมากกว่าน้องสาว”
ก็พวกพี่มันห่ามไงล่ะ!... ฉันได้แต่ตอบแบบนั้นในใจ
“คิดไหมว่าทำไมพ่อถึงส่งไปเรียนเทควันโด”
“ก็พ่ออยากให้ฉันป้องกันตัวได้ไง” คราวนี้ฉันตอบออกเสียง
“ใช่ นั่นแค่ส่วนเดียว แต่หัวใจหลักจริง ๆ ก็คืออยากให้แกแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การที่ไม่เคยซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ให้ ไม่เคยซื้อชุดกระโปรงให้ใส่ นั่นเพราะไม่อยากให้แกเป็นผู้หญิงไงล่ะ!”
ว่าไงนะ…
“หมายความว่ายังไง สวยงงไปหมดแล้วเนี่ย” น้องตามไม่ทันแล้วพี่จ๋าาา
“สรุปง่าย ๆ คือพวกเราไม่อยากให้แกเป็นผู้หญิงในสายตาใคร” พี่ตุลย์สรุปให้ แต่ฉันงงมากกว่าเดิมอีก
“แต่สวยเป็นผู้หญิงนะ!”
“ก็เพราะเป็นผู้หญิงไง พวกฉันกับพ่อถึงได้พยายามเลี้ยงแกแบบผู้ชายเพื่อไม่ให้ไอ้ลูกหมาตัวไหนมาพรากแกไปจากพวกเราไงล่ะ!”
หะ… WTF!!!
ฉันจ้องพี่สิงห์ที่ตอนนี้หันหน้าหนีไปอีกทาง แต่หูกลับแดงแปร๊ดจนเห็นได้ชัด พอหันมองพี่ตุลย์ก็เห็นเขาทำหน้านิ่งไร้อารมณ์เหมือนเคย ฉันเม้มปากอย่างใช้ความคิดพยายามจัดสรรความเข้าใจในหัว
“สรุปก็คือ... พวกพี่กับพ่อไม่อยากให้สวยเป็นผู้หญิงเพราะกลัวสวยจะมีแฟนงั้นเหรอ?”
“เออ!” พี่สิงห์กระแทกเสียงตอบ
“เพราะงั้นก็เลยเลี้ยงสวยแบบผู้ชาย ๆ เพื่อให้สวยเลิกใส่ใจในความเป็นผู้หญิงของตัวเองจะได้ไม่แต่งตัวแต่งหน้าเหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วไป?”
พี่ตุลย์พยักหน้ารับ
“แล้วพอไอ้ไคมันบอกว่ามองสวยเป็นผู้หญิงพวกพี่ก็เลยไม่อยากให้คบกับมันต่อเนี่ยนะ?”
“ใช่! เลิกคบแม่งไปเลย!”
“ตลกแล้วพี่สิงห์! ไคมันเป็นเพื่อนสวยนะ ถึงมันจะมองสวยเป็นผู้หญิงแล้วไง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่ดี” ฉันถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่ายกับความคิดที่พ่อและพี่ชายมีมาตลอดเวลาเกือบยี่สิบปี ปิดกั้นความเป็นผู้หญิงของฉันเพียงเพราะกลัวฉันจะมีแฟนเนี่ยนะ ตลกสิ้นดีอ่ะ!
นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าทุกคนรู้เรื่องฉันกับพี่ฌอนมันจะเป็นยังไง มีหวังฟ้าถล่มดินทลายแน่ ๆ
“แกมันซื่อบื้อไอ้สวย นี่คือความผิดพลาดของพวกฉันที่เลี้ยงแกให้โตมาซื่อบื้อขนาดนี้”
“ซื่อจนโง่”
เอ้า… มารุมด่าฉันทำไมล่ะเนี่ย!
“ไม่รู้ล่ะ! ยังไงก็ห้ามไปไหนมาไหนกับไอ้เวรนั่นอีก ถ้าพูดไม่ฟัง ฉันจะตามไปกระทืบหน้าแม่งให้ยับเลย” พี่สิงห์สั่งเสียงเด็ดขาดก่อนจะเดินปึงปังขึ้นบ้านไป
“พี่สิงห์! อะไรของพี่เนี่ย!” ฉันตะโกนไล่หลังเขาก่อนจะหันกลับมามองพี่ตุลย์อีกคน “ทำไมพวกพี่ต้องงี่เง่าแบบนี้ด้วย”
“เพราะแกเป็นน้องพวกเราไง เตือนก็หัดฟังบ้างนะสวย อย่าต้องให้ใช้กำลัง” แล้วพี่ตุลย์ก็เดินออกจากบ้านไป ทิ้งให้ฉันยืนอ้าปากค้างมองพี่แฝดทั้งสองคนสลับกันไปมา
โอ๊ย… นี่มันตรรกะบ้าบออะไรกันเนี่ย!!