ภาพอดีต 1.1

1094 Words
20.30 น. ปราณปวิชนั่งดูภาพถ่ายของเด็กชายวัยระหว่างห้าถึงแปดปีจำนวนสิบคนที่ถูกส่งเข้ามาในมือถือ เด็กทั้งสิบคนนี้เขาต้องเลือกให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์อาหารเช้าซีเรียลตัวใหม่ล่าสุดของบริษัท หลังจากส่งตัวล่าสุดเข้าตีตลาดและสามารถครองตลาดเป็นอันดับต้นได้ในระยะเวลาเพียงสองเดือน ทางบริษัทจึงคิดค้นอาหารเช้าซีเรียลตัวใหม่ที่ผลิตจากโฮลเกรนหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ โฮลเกรนเป็นธัญพืชชั้นดีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำให้อิ่มท้องได้นานจนถึงมื้อเที่ยง ในการถ่ายทำโฆษณาในแต่ละครั้ง ปราณปวิชมีส่วนร่วมด้วยคือ คัดเลือกพรีเซนเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ หากยังไม่ถูกใจหรือคิดว่าไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ ปราณปวิชก็จะให้ฝ่ายโฆษณาคัดเลือกมาใหม่ จนกว่าเขาจะพอใจ             ขณะที่ดูภาพถ่ายอยู่นั้น สมองปราณปวิชกลับนึกถึงแต่เด็กชายเพชรกล้าที่บังเอิญเจอกันในวันนั้น ผ่านมาแล้วสี่วัน ทว่าภาพใบหน้าของเพชรกล้าไม่เลือนหายไปเลย ส่งผลให้เขาไม่มีสมาธิในการพิจารณารูปร่างหน้าตาของเด็กทั้งสิบคน เมื่อจิตใจนึกถึงแต่เพชรกล้า ปราณปวิชเปลี่ยนมาดูคลิปการแสดงของเพชรกล้าแทน ดูไปยิ้มไป นึกแปลกใจว่า เพชรกล้าไม่ใช่ลูกหลานแต่เหตุใดรู้สึกเอ็นดูได้มากขนาดนี้ ก่อนจะมาดูภาพถ่ายของเพชรกล้าที่เขาถ่ายไว้ มองนิ่งนาน ชั่ววินาทีหนึ่งปราณปวิชนึกถึงใครอีกคนขึ้นมา ขณะนึกถึงก็เพิ่งสังเกตเห็นว่า นัยน์ตาใสซื่อบริสุทธิ์ของเพชรกล้า ช่างเหมือนกับคนที่เขากำลังนึกถึงเหลือเกิน             คนนั้นคือพวงชมพู...ผู้หญิงที่เขาทำร้ายเธอทั้งกายและใจ แล้วตอนนี้ปราณปวิชกำลังทุกข์ทรมานกับการกระทำของตัวเอง เขาควรมีความสุขกับการจากไปของสองแม่ลูกคู่นั้น แต่เปล่าเลย ทุกวินาทีนับแต่นั้นมีเพียงความทุกข์ทรมานใจกับความรู้สึกบางอย่างที่พยายามกลบมันไว้ให้มิดที่สุด             แต่สุดท้ายมันก็เบ่งบานราวกับดอกไม้อวดแสงตะวัน ความร้อนของดวงอาทิตย์ทำให้ปราณปวิชร้อนรุ่ม ใจเหมือนถูกไฟเผาปวดแสบไปทั้งใจ เจียนตายเสียให้ได้ กว่าเขาจะก้าวผ่านความเจ็บปวดอันเงียบเชียบโดยไม่มีใครรู้ก็ใช้เวลาหลายเดือน ทว่ามันไม่เคยหมดไปจากจิตใจ ตราบใดที่ปราณปวิชรักลูกสาวเมียน้อยของบิดา ตราบนั้นความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่...จนถึงทุกวันนี้             เมื่อใจนึกถึง...ปราณปวิชเปลี่ยนรูปที่ดูเป็นรูปพวงชมพูที่ถ่ายเก็บไว้หลายภาพ เขาจ้องมองแต่ละภาพด้วยใจสิเน่หา ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ ทว่าเส้นบางๆ ที่กั้นความรู้สึก ทำให้ปราณปวิชปฏิบัติกับพวงชมพูในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ เขาเปิดเผยความรู้สึกให้ใครรู้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับมารดาที่ต้องเสียใจกับการกะทำของบิดาที่พาภรรยาน้อยเข้ามาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน                “เธออยู่ไหนนะชม...ฉันคิดถึงเธอจัง” ช่างเป็นความคิดถึงอันแสนปวดร้าว เขาทรมานใจกับความรู้สึกนี้ คล้ายกับว่าตนเป็นนกในกรงไม่อาจออกไปจากทีกักขัง โบกโบยบินไปหาความคิดถึงอาบแน่นใจหัวใจ เพราะหากเขาทำ คนที่ต้องเสียใจมากที่สุดคือ นารถลดา มารดาบังเกิดเกล้า เขาจึงไม่ออกตามหาพวงชมพูกับเอมอร ปล่อยให้สองแม่ลูกจากไปอย่างคนไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก             ในความเป็นจริง...ปราณปวิชเจ็บหัวใจจะเป็นจะตายเสียให้ได้ในวันที่พวงชมพูก้าวเดินผ่านประตูรั้วไป เป็นภาพอดีตที่เขาจำไม่ลบเลือน             ฉับพลันนั้นน้ำตาก็รินไหลไม่รู้ตัว น้ำตาที่มาจากความคิดถึง โหยหา ปรารถนาเจอหน้าพวงชมพูมากที่สุด แต่ก็รู้ดีว่า ไม่มีวันนั้น ความเสียใจก็ก่อเกิดในความรู้สึก เมื่อใจเศร้า น้ำตาจึงไหลตามอารมณ์             “ชม...ฉันขอโทษ...ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน” พูดไปน้ำตาก็ไหลไป ยิ่งมองภาพเธอในมือถือ ความรู้สึกทั้งหลายก็พุ่งใส่ใจ เกิดความเจ็บปวดรวดร้าว เป็นความทุกข์ระทมที่ไม่ชินเสียที หลายค่ำคืนในความเงียบเหงา ปราณปวิชมักรำพึงรำพันคิดถึงพวงชมพู ก่อนที่น้ำตาจะอาบสองแก้ม เสียงสะอื้นไห้ดังออกมาโดยไม่คิดปิดกั้น ประหนึ่งว่า เขากำลังระบายความรู้สึกทั้งหลายในจิตใจให้ออกไปบ้าง ไม่เช่นนั้นอกเขาคงระเบิดด้วยความร้าวรานใจ ปราณปวิชทำพวงชมพูเจ็บเท่าไหร่ เขาเจ็บยิ่งกว่าเธอร้อยเท่าพันทวี... กรรมกำลังตามสนองปราณปวิชอย่างเข้มข้น               เวลาเดียวกันต่างกันที่สถานที่             พวงชมพูนั่งมองเพชรกล้าที่นอนหลับบนเตียงนอนด้วยรอยยิ้ม เพชรกล้าถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญให้เธอต่อสู้ชีวิต ผลักดันให้ความเข้มแข็งในตัวให้ออกมา จากผู้หญิงอ่อนแอกลายเป็นหญิงแกร่งที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อคนอันเป็นที่รัก แม้เหน็ดเหนื่อยและลำบากมากแค่ไหนเธอพร้อมสู้ ไม่มีวันท้อถอย             การที่พวงชมพูมีลูกและเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำให้เธอเข้าใจและรักมารดามากขึ้น เอมอรเหนื่อยหนักมากกับการเลี้ยงดูเธอมาเพียงลำพัง ตรากตรำทำงานเก็บเงินส่งเสียตนเรียนจน มาสบายก็ตอนได้พบรักกับปริญญา บุรุษที่บอกว่าไม่มีภรรยา             ขณะพวงชมพูมองหน้าเพชรกล้าก็เหมือนกำลังมองเห็นหน้าอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่เธอไม่เคยลืมราวกับว่าฝังอยู่ในกล่องความทรงจำ แม้ว่าความทรงจำนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทว่าหัวใจของเธอก็ไม่เคยลืมเลือนปราณปวิช             แม้นรักหมดหัวใจ ลำบากยากเข็ญแค่ไหน พวงชมพูก็ไม่คิดกลับไปหาเขา...             และนั่นทำให้พวงชมพูนึกย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน ในวันที่มารดาพาพวงชมพูเข้าไปอยู่ในบ้านปริญญา บ้านหลังใหญ่ที่พวงชมพูไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสเดินเข้าเดินออกบ้านหลังนี้ เอม-อรหวังว่า การเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้จะเปลี่ยนชีวิตสองแม่ลูกให้ดีขึ้น นางไม่ต้องลำบากหาเงินส่งเสียลูกสาวเพียงคนเดียวที่กำลังเรียนระดับชั้นปริญญาตรีปีที่สอง เพราะปริญญาจะรับหน้าที่ต่อจากนางเอง            
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD