ตอนที่ 11 ข้อแลกเปลี่ยน

1900 Words
ทับทิมเดินตามร่างสูงใหญ่ต้อยๆ ด้วยความงุนงงสงสัย และยิ่งแปลกใจมากกว่าที่อีกฝ่ายพาเธอมาหยุดอยู่หน้าบ้านน้องชิชาชิสุห์ ที่นี่เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์น้องหมาพันธุ์ชิสุห์แห่งแรกของไทย แล้วดนัยพาเธอมาที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่าเขาจะซื้อมาให้เธอน่ะ นี่เขาไม่รู้ใช่ไหมว่าเธอแพ้ขนสัตว์ “พี่นัยพาทับทิมมาที่นี่ทำไมคะ?” “ตามมา อย่าถามมาก” ทับทิมอดที่จะยิงเขี้ยวใส่เจ้าของแผ่นหลังกว้างไม่ได้ แต่ก็เลือกเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปข้างในด้วยกัน พอเดินเข้ามาถึงเคาน์เตอร์ด้านหน้าของฟาร์ม มีเจ้าหน้าที่เข้ามาต้อนรับทักทายพวกเธอด้วยรอยยิ้ม ต่อมาพนักงานสาวคนดังกล่าวให้คำแนะนำและพรีเซนต์น้องหมาอย่างชำนิชำนาญสมกับมืออาชีพ เธอเห็นดนัยตั้งอกตั้งใจฟังและพยักหน้าเป็นครั้งคราว และถามไถ่ฝ่ายตรงข้ามอย่างกระตือรือร้น ราวกับงานนี้สำคัญมาก จนทับทิมอดไม่ได้ที่จะคิดว่าอีกฝ่ายจะกลับไปเปิดฟาร์มเพาะพันธุ์น้องหมา พอเจ้าหน้าที่แนะนำเกี่ยวกับน้องหมาให้พวกเธอฟังเสร็จ จากนั้นก็พาพวกเธอเดินเข้าไปด้านในโซนที่พักของน้องๆ ที่นี่ค่อนข้างกว้างขวาง และแบ่งสัดส่วนน้องเล็ก น้องใหญ่แต่รุ่นและขนาดชัดเจน ทุกอย่างครบครัน มากกว่านั้นคือสะอาดสุดๆ พวกเธอเดินชมสถานที่เสร็จ ดนัยก็พาเธอกลับออกไป แต่ที่แปลกใจคือชายหนุ่มได้สั่งจองน้องหมาชิสุห์ไว้ตัวหนึ่งด้วย “พี่นัยจะเปิดฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขชิสุห์เหรอคะ?” “โอ๊ย!” ทับทิมรีบยกมือลูบหัวป้อยๆ เมื่อถูกมือหนาของเขามอบมะเหงกให้กันเบาๆ “นอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว อย่างอื่นทำเป็นบ้างไหม” “พี่นัย!” “หรือว่าไม่จริง” “ไม่จริงสักหน่อย ทับทิมทำงานเก่ง ส่วนเรื่องบนเตียงเป็นงานรองย่ะ” เธอเถียงคอเอนพร้อมกับปั้นหน้ามุ่ย ชวนให้คนมองอย่างดนัยนึกเอ็นดูปนขำ “ที่พี่พาเรามาที่นี่ ก็เพราะอยากให้มาดูว่าแบบที่เรานำไปให้มาดามแดงยังขาดตรงไหนบ้าง อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้เราไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรเลย” “ก็เก็บบ้างนิดหน่อยแต่พี่นัยไม่บอกทับทิมนี่คะ ทับทิมจะไปรู้ได้ยังไง?” ใครจะไปรู้ล่ะว่าชายหนุ่มพาเธอมาที่นี่เพื่อนำไอเดียไปปรับใช้กับงาน “แล้วที่พี่สั่งจองน้องไว้ จะซื้อให้ใครล่ะคะ?” ก่อนออกมาดนัยสั่งจองน้องหมาชิสุห์สีน้ำตาลทองน่ารัก น่าชังกับเจ้าหน้าที่ตัวหนึ่งด้วย “แล้วคิดว่าพี่จะซื้อให้ใครล่ะ มาดามแดงโปรดปรานน้องหมาพันธุ์ชิสุห์ยิ่งกว่าชีวิตจิตใจ” “พี่นัยน่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ” เมื่อรู้เจตนาของดนัย ทับทิมฉีกยิ้มกว้าง “ทุกอย่างมีราคาจ่ายนะ ไม่ได้ทำให้ฟรีๆ หรอก” เห็นสายตาหื่นๆ จากคนขับรถแล้วทับทิมยิ่งฉีกยิ้มหน้าบาน “แล้วพี่นัยอยากได้อะไรล่ะคะ?” เธอบดเบียดความอวบอัดภายใต้เนื้อผ้ากับท่อนแขนกำยำ ก่อนจะได้ยินเสียงคำรามต่ำจากเขา ทับทิมยิ่งหัวเราะระริกได้ใจ หากเธอและดนัยเป็นคู่รักกันจริงๆ คิดว่าจะดีขนาดไหน ตอนนี้มันทำให้เธอนึกถึงคำพูดของมารดา ผู้ชายที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตา อุปนิสัย และชาติตระกูล หาไม่ได้ง่ายๆ แม้ดนัยจะไม่อ่อนโยนและแสนดีกับเธอเหมือนดีกับมุกนิล หากแต่เขาก็ดีกับเธอในแบบฉบับของเขา เรื่องงานเธอไม่เคยเอ่ยปากบอกเขาเลย แต่เขากลับรู้ และใส่ใจ ยังสรรหาพาเธอไปศึกษาดูงาน เพื่อที่เธอสามารถเอาชนะใจลูกค้า แบบนี้จะไม่ให้เธอรักและหลงเขาได้ยังไง ทับทิมรักพี่นัยไม่ไหวแล้ว “ทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง?” เห็นสายตาหยาดเยิ้มขณะมองกัน ดนัยพอจะรู้ว่าเธอคิดอะไร “ทับทิมก็แค่คิดว่า หากเราเป็นแฟนกันจริงๆ คงจะดีไม่น้อย” “หึ!” เห็นสายตาของดนัยที่มองมาแล้วไม่ชอบเลย “คิดว่าพี่จะเอาคนอย่างเธอมาเป็นแม่ของลูกเหรอ อย่างเธอมีหน้าที่แค่รองรับอสุจิไร้ค่าของพี่ไปวันๆ เท่านั้นแหละ แค่พี่สนองเธอนับเป็นบุญเธอเท่าไหร่แล้ว” ทับทิมแทบจะร่ำไห้ออกมาชำระล้างความร้าวรานในอก ดนัยคิดแบบนี้จริงๆ เหรอ เธอและเขาไม่สามารถลงเอยเป็นแฟนกันได้เลยใช่ไหมนอกจากคู่นอนไร้สถานะ “อย่ามาทำหน้าเศร้า พลาดจากพี่คงมีผู้ชายมาต่อแถวอีกเยอะ ในเมื่อเธอเก่งเรื่องบนเตียงขนาดนั้น อย่างน้อยก็ไอ้อัศราคนหนึ่ง” “พี่นัยคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ?” เธอยังฝืนส่งรอยยิ้มหวานขณะเอ่ยถาม ดนัยช่างเป็นผู้ชายที่ไร้หัวใจจริงๆ เมื่อเห็นดวงหน้าหล่อเหลาพยักหน้า ทับทิมแทบอยากจะปล่อยน้ำตาร่วงเผาะเป็นครั้งที่สอง หากแต่เมื่อนึกถึงความจริงคือ เขาและเธอเป็นได้แค่นี้ จึงฉีกยิ้มสู้ตายทั้งที่ในอกตรม แห้งเฉาฟิบแฟบ ****** วันต่อมาเลิกงานแล้ว ทับทิมไม่ได้ไปหาดนัย เนื่องจากช่วงนี้ชายหนุ่มยุ่งกับโปรเจ็กต์มากมายแทบจะไม่มีเวลาพักแล้ว อีกอย่างเมื่อเช้าบิดาบอกว่าเย็นนี้มุกนิลจะมาทานมื้อเย็นด้วยกันที่นี่ เธอเลยเลือกที่จะกลับมาทานมื้อเย็นพร้อมครอบครัว ทับทิมนำรถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถแล้ว ก็พาร่างเพรียวบางเดินเข้ามาให้ห้องโถง มุมปากสวยฉีกยิ้มหวาน นัยน์ตาเป็นประกาย เมื่อเห็นหลานชายตัวน้อยกำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องโถง หญิงสาวรีบปรี่เข้าไปเล่นกับน้องเจเดนทันที เด็กชายตัวน้อย น่ารัก ต้วมเตี้ยมก็เข้ามากอดเธอแล้วล้มกลิ้งลงข้างบนตัก เรียกเสียงหัวเราะราวกับเอ็นดูจากทุกคนในห้องโถง “จะอ้อนอะไรน้าทับทิมครับเด็กดี” ทับทิมลูบหัวทุยกลมดิกของหลานชายด้วยสายตาอ่อนโยน “คิดฉึงคับ น้าชิม” น้องเจเดนซุกไซ้แก้มป่องๆ กับเรียวแขนเนียนกริบของน้าสาวคนสวย ขณะที่แขนป้อมๆ ทั้งสองข้างกอดรัดเอวของน้าสาวสุดสวยไว้แน่น “คิดถึงเหมือนกันครับสุดหล่อ” ไม่เจอกันแค่สองเดือนหนุ่มน้อยเจเดนพูดเก่งขึ้นเยอะ แถมยังออดอ้อนเก่งเสียด้วย ด้านมุกนิลซึ่งนั่งอยู่ข้างสามมีนักธุรกิจ ตรงมาลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู เผื่อแผ่ไปถึงน้องสาวต่างมารดาซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ ส่วนเรื่องที่เคยผิดใจกันพวกเธอได้คุยกันและปรับความเข้าใจกันแล้วทุกเรื่อง วันนี้แม้น้องสาวอาจจะดูร่าเริง หากแต่ดวงตาคู่สวยเจือแววด้วยรอยเศร้าบางอย่าง เมื่อมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังประสาพี่น้อง จึงได้เอ่ยถามเจ้าของดวงตากลมใส “ช่วงนี้เราเป็นอย่างไรบ้าง?” “ทับทิมสบายดีค่ะ สบายดีมากด้วย ยกเว้นเรื่องงาน มีปัญหานิดเดียวจริงๆ” ดวงหน้าเรียวเล็กขยับย่นเข้าหา มุกนิลเห็นแล้วอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ จะว่าไปแล้วแม้ทับทิมจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากแต่ในบางเวลาน้องก็ยังมีความเป็นเด็กเหมือนกัน “พี่เชื่อว่าทับทิมทำได้อยู่แล้ว” “ก็ทับทิมเป็นน้องพี่มุกนี่คะ” “จ้ะ” มุกนิลส่ายหน้าเอ็นดูคนขี้ยอ ก่อนจะจัดการเตรียมผักทำมื้อเย็นช่วยกัน และเมื่อเด็กรับใช้ออกไปแล้ว จึงวางงานในมือแล้วหันมาทางเจ้าของดวงหน้าอ่อนหวานซึ่งตอนนี้หั่นผักไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร “แล้วเรากับพี่นัยล่ะ?” สิ้นคำถามพี่สาว มือที่กำลังจะหยิบตะกร้าหวายถึงกับหยุดชะงักค้างกลางอากาศ เมื่อนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เคยทำกับพี่สาว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจุกขึ้นกลางอก “ทับทิมขอโทษพี่มุกกับเรื่องเมื่อสองปีก่อนด้วยนะคะ” เธอกะพริบตาถี่เพื่อไล่หยดน้ำตาที่กำลังเอ่อรื้นขอบตาไม่ให้รินไหล “ขอโทษอีกแล้ว ทับทิมไม่ได้ทำอะไรนี่ ไม่ต้องขอโทษอีกแล้วนะ และไม่ต้องรู้สึกผิดด้วย พี่ไม่โกรธทับทิมแล้ว” “พี่มุก…” มุกนิลยกมือลูบศีรษะทุยที่ตอนนี้กำลังอิงซบบ่าเธอเบาๆ “ที่พี่ถามถึงพี่นัย พี่ก็แค่อยากรู้ว่าเรากับพี่นัยเป็นยังไงกันบ้าง?” เรื่องที่ทับทิมแอบชอบดนัยไม่ใช่เธอไม่รู้ และเชื่อว่าถึงตอนนี้น้องก็ยังคงรู้สึกเช่นนั้น ผู้หญิงเราถ้าได้ลองมอบตัวและหัวใจให้กับชายคนหนึ่งยากพอสมควรที่จะถอนตัวออกมาได้ “ทับทิมกับพี่นัย เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วค่ะ” เรื่องที่เธอและดนัยทำข้อตกลงร่วมกันไม่มีใครรู้นอกจากพวกเธอสองคน แม้แต่มุกนิล พี่สาวซึ่งหวังดีและไว้ใจที่สุดก็ไม่กล้าปริปากบอก “ทำไมเราไม่ลองรุกพี่นัยบ้างล่ะ” “พี่นัยเกลียดทับทิมอย่างกับอะไรดี คงรุกยากค่ะ” บางทีก็รู้สึกผิดกับพี่สาวเหมือนกันที่โกหกหน้าด้านๆ หากแต่เธอก็ยังไม่อยากบอกเรื่องระหว่างเธอและดนัยให้พี่สาวรู้นี่นา “ทับทิมรู้ได้อย่างไรว่าพี่นัยเกลียด?” มุกนิลไม่คิดแบบนั้น พื้นฐานของดนัยเป็นคนจิตใจดี และดีมากด้วย เธอคิดว่ารุ่นพี่หนุ่มไม่เกลียดทับทิมหรอก น้องทั้งน่ารักและช่างออดอ้อน ดนัยจะเกลียดได้ลงคอหรือ “ทับทิมรู้ก็แล้วกันค่ะ” ทับทิมฉีกยิ้ม ก่อนจะส่งผักที่ตัวเองหั่นส่งให้พี่สาว เห็นพี่สาวยิ้มส่ายหน้าเธอจึงระเบิดเสียงหัวเราะดังๆ “ทับทิมบอกแล้วไงคะว่าไม่เก่งเรื่องอาหาร ไม่เหมือนพี่มุกที่เก่งทุกอย่าง” คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย “คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่างหรอก และความชอบของคนเราก็ไม่เหมือนกัน ไม่ต้องน้อยใจจ้ะ” “คะ” ทับทิมย่นจมูกเข้าหาพี่สาว แล้วเมื่อเห็นพี่เขยเดินเข้ามาในครัวรีบชิ่งออกไปทันควัน “พี่วินมาแล้วทับทิมไปดีกว่า ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอค่ะ” เธอโน้มใบหน้าแอบกระซิบพี่สาวต่างมารดาจากนั้นรีบผละออกไป มุกนิลได้แต่หัวเราะ ส่วนธาวินที่เพิ่งเดินเข้ามายิ้มกว้าง ก่อนจะเดินมาโอบแม่ของลูก แม้เขาและมุกนิลมีลูกอายุสองขวบแล้วแต่เขาก็ยังอยากอ้อนและหยอกเมียรักทุกวัน “จะทำอะไรคะ มุกยุ่งค่ะ” “ไม่ได้จะกวนครับ แค่อยากมาให้กำลังใจเมียเท่านั้นเอง” มุกนิลได้แต่ยิ้มพลางส่ายหน้ากับอาการซุกซนยิ่งกว่าลูกชายของสามี เวลาอยู่ใกล้ มือไม้ก็ไม่ว่างเว้น ไม่จับก้นก็บีบนมเธอเล่น สรรหากิจกรรมสารพัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD