ตอนที่ 12 ยัยตัวร้ายกับเจ้าตัวเล็ก

2012 Words
เนื่องจากมุกนิลและธาวินต้องไปดูงานที่ต่างประเทศไม่ได้พาน้องเจเดนไปด้วย ทับทิมจำเป็นต้องรับบทพี่เลี้ยงให้กับหลานชายสุดที่รักแถมจอมซนน่าตีอย่างน้องเจเดนไปโดยปริยาย ช่วงบ่ายวันนี้ เมื่อเห็นว่าอากาศไม่ได้ร้อน จึงได้พาเด็กชายเจเดนไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน ซึ่งเวลานี้มีคนมาเดินเล่นกันอย่างคลาคล่ำ สองน้าหลานเดินกินไอศกรีมด้วยกัน เลยไม่เห็นสายตาบางคู่ของใครบางคนส่งมาแต่ไกล วันนี้ดนัยลงสำรวจพื้นที่พร้อมทีมงานเพื่อที่จะได้พัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจสำหรับคนในกรุงอีกแห่งของเมืองหลวง ซึ่งที่นี่เป็นที่ดินของครอบครัวประไพพรรณเอง “ไม่คิดว่ายัยตัวร้ายจะรักเด็กด้วย” เห็นเธอคอยเช็ดปากให้เด็กชายเจเดนแล้ว เขาเผลอหลุดยิ้มออกมาเบาๆ โดยไม่รู้ตัว “คุณนัยคิดว่าถ้าเราปรับโซนนี้เป็นที่สำหรับแม่และเด็ก จะเป็นยังไงครับ?” เสียงทีมงานที่ลงพื้นที่ด้วยกันเอื้อนเอ่ยถาม ฉุดดนัยที่มองสองน้าหลานหันมาจริงจังกับงานตรงหน้า ชายหนุ่มฟังไอเดียของทีมออกแบบแล้วรู้สึกชอบมากจึงพยักหน้าเห็นด้วย และพาคิดไปถึงอนาคตหากได้แต่งงานมีครอบครัว มีลูกน่ารักเหมือนน้องเจเดน ชายหนุ่มจะพาแม่ของลูกและลูกชายตัวน้อยมาเดินเล่นที่นี่ เขาจะรังสรรค์ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับแม่และเด็ก ไม่ใช่เฉพาะโซนนี้เท่านั้น เขายังจัดสรรและเตรียมสถานที่สำหรับผู้สูงวัยด้วย เมื่อสำรวจสถานที่แล้วเสร็จ ดนัยแยกย้ายจากทีมงานแล้วตรงมาหาสองน้าหลานซึ่งตอนนี้นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นประดู่แดง และทันทีที่สาวเจ้าหันมาเห็นเขารีบฉีกยิ้มกว้าง ตั้งแต่รู้จักกันมา ยอมรับว่าคุ้นเคยกับรอยยิ้มสดใส คล้ายว่าโลกใบนี้ไร้ทุกข์โศกนี้ที่สุด ทับทิมเป็นคนร่าเริง เห็นเธอทำหน้าหม่นนับครั้งได้ บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่าชีวิตนี้ยัยตัวร้ายเคยมีเรื่องทุกข์เหมือนคนอื่นเขาไหม “พี่นัย มาได้ไงคะ?” “พี่มาคุยงานน่ะ เห็นเรากับน้องเจเดนที่นี่ เสร็จธุระพี่เลยแวะมาหา” ดนัยขยับแย้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นตรงเข้าไปหาเด็กชายจ้ำม่ำ เห็นแล้วอดที่จะยกมือลูบพวงแก้มกลมดิกของเด็กชายไม่ได้ “เป็นไงบ้างเรา ไม่ได้เจอกันหลายเดือนตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้วนี่” “ยุงนัย” เด็กชายเจเดนหัวเราะเอิ้กอ๊าก เมื่อเจอคุณลุงใจดี เพื่อนคุณแม่ ก่อนจะยกสองมือป้อมๆ ให้ดนัยอุ้ม “ยุงนัยอุ้ม อุ้มคับ” “ได้เลยครับคนเก่ง” ริมฝีปากของดนัยยิ่งขยับกว้างเมื่อเด็กชายเจเดนยกสองมือให้เขาอุ้ม ชายหนุ่มโน้มกายลงมาอุ้มเด็กชายเจเดนขึ้นแนบอก อดไม่ได้ที่จะเล่นงับแขนปล้อง ขาวๆ ของน้องคล้ายมันเขี้ยว นอกจากน้องเจเดนจะไม่ต่อต้านแล้วน้องยังหัวเราะจนตาหยี “จี้คับ” เด็กชายเจเดนบอกคุณลุงว่าจั๊กจี้ ทับทิมมองภาพนั้นแล้วยิ้มตามอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางของดนัยยามอยู่กับเด็กเล็ก มันดูเป็นธรรมชาติมาก สายตาที่มองน้องเจเดนฉายชัดความเอ็นดูจนดูอบอุ่น เขารักเด็กด้วยอย่างนั้นเหรอ “พี่นัยรักเด็กไหมคะ?” “ไม่รู้สิ รักหรือเปล่าพี่ก็ตอบไม่ได้ แต่น้องเจเดนน่ารักดีนะ” “ใช่ค่ะ” ทับทิมฉีกยิ้มสวย เห็นด้วยกับดนัย น้องเจเดนน่ารักที่สุด “ไปหาอะไรกินกันไหม ดูท่าน้องเจเดนหิวแล้ว” ชายหนุ่มว่าพลางซุกไซ้จมูกโด่งดั่งสันเขากับพุงน้อยๆ ของลูกชายตัวน้อยอดีตคนรัก ขณะที่เด็กชายเจเดนยิ่งปล่อยเสียงหัวเราะราวกับชอบอกชอบใจ “ได้ค่ะ” ทับทิมพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นคว้ารถเข็นเด็กตามร่างสูงใหญ่ ซึ่งตอนนี้เธอแอบคิดว่าเขาดูเหมือนคุณพ่อลูกอ่อนไปยังสถานที่จอดรถ ทับทิมเลือกขับรถของเธอแทนรถเขา เพราะรถของเธอธาวินไปใส่คาร์ซีทมาเรียบร้อยแล้ว พวกเธอเลือกไปทานอาหารใกล้แถวนี้ และเลือกร้านที่มีอาหารสำหรับเด็กเล็กด้วย ทานข้าวเสร็จสองหนุ่มสาวขับรถไปเดินห้างกันต่อ เพื่อที่จะพาเด็กชายเจเดนไปเปิดหูเปิดตา “ภรรยาของคุณน่ารักนะคะ ดูสิเวลาเล่นกับลูกยิ้มอารมณ์ดีตลอดเวลา” เสียงทักทายจากหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ดังมาจากข้างๆ เรียกดนัยหันมายิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ “ดูคุณรักภรรยามากเลยนะคะ เห็นมองเธอด้วยแววตาชื่นชมแถมอ่อนโยนสุดๆ เธอโชคดีที่สุดที่ได้คุณเป็นสามี ป้าเข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าทำไมเธอถึงได้ยิ้มแย้มตลอดเวลา เพราะมีคุณคอยอยู่เคียงข้างดีๆ แบบนี้นี่เอง” ดนัยถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทันกับประโยคของหญิงวัยกลางคนแปลกหน้า หนนี้ยอมรับว่าอยากปฏิเสธออกไปว่าเขาและทับทิมไม่ใช่เป็นอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก อีกฝ่ายผละจากไปเสียแล้ว ทว่ามีใครอีกคนเดินมาหยุดอยู่ข้างเขาแทน “พี่นัยมาทำอะไรแถวโซนเด็กเล่นคะ?” ข้างๆ ชายหนุ่มมีรถเข็นเด็ก แถมมีอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กด้วย “พี่พาหลานชายมาเล่นเครื่องเล่นที่นี่น่ะ” “หลาน?” สีหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าฉายชัดความสงสัย “ลูกชายของน้องคนสนิทน่ะครับ” “อ๋อแบบนี้นี่เอง แนะนำให้เอ๋รู้จักบ้างได้ไหมคะ เอ๋รักเด็กค่ะ” “ได้สิครับ” ดนัยพาหล่อนตรงเข้าไปหาน้องเจเดน หากทว่าทันทีที่อัญชลีเห็นทับทิม รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ เลือนหาย ฝ่ามือน้อยๆ กำเข้าหากันแน่น เมื่อกี้หล่อนเห็นดนัยมองไปทางสถานที่เด็กเล่นด้วยแววตาอ่อนโยน ถ้าที่นั่นมีแค่เด็กชายตัวน้อยในชุดเอี๊ยมยีน หล่อนจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่นี่มีสาวสวยอีกคน แต่งตัวเซ็กซี่เข้ากับรูปร่าง ทับทิมทั้งสวยและน่ารัก แถมหุ่นโคตรเซ็กซี่จนผู้หญิงอย่างเธอยังอิจฉาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแต่งตัวแบบนี้ตั้งใจจะยั่วดนัยหรือเปล่า “นั่นคุณทับทิมนี่คะ?” “ครับ” ดนัยพยักหน้าขึ้นลงพร้อมรอยยิ้ม ดวงตายังคงเฉิดฉายยามมองหญิงสาวซึ่งสวมเสื้อยืดสีดำรัดรูป และกางเกงยีนสีขาวขาสั้น เผยให้เห็นเรียวขาสวยไร้ที่ติด แม้ทับทิมจะไม่ได้ผิวขาวเหมือนสาวๆ ในเมืองส่วนใหญ่ หากแต่ผิวสีแทนของหล่อนละเอียดเนียนยิบ ราวกับได้รับการดูแลมาอย่างดี ยามเธอขยับหน้าอกหน้าใจก็ขยับเด้งตามจนดนัยเผลอนึกถึงภาพที่คนตัวเล็กขึ้นขย่มบนตัวเขาแล้วสองเต้าทรวงงามขยันเด้งสอดส่ายตามช่วงจังหวะรัก “พี่นัยเป็นอะไรคะ?” “เปล่าครับ” ดนัยรีบสั่นหน้า เมื่อรู้ตัวว่าคิดลามกในที่สาธารณะ “น้องเจเดนเป็นหลานชายของ… คุณทับทิมเหรอคะ?” แทนคำตอบดนัยพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเรียกคู่นอนไร้สถานะซึ่งตอนนี้เล่นกับหลานเพลิน จนไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ใกล้ๆ เธอสักพักแล้ว “พี่ว่าน้องเจเดนน่าจะเหนื่อยแล้ว เล่นแค่นี้พอก่อนไหม” ชายหนุ่มยื่นขวดน้ำเย็นๆ ส่งให้คุณน้าคนสวย ทับทิมรับมาก่อนจะขอบคุณ และเมื่อเห็นใครอีกคนจึงกล่าวทักทาย แต่ไฮโซสาวรับคำทักทายของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทับทิมไม่ถือสา แต่หันไปสนใจป้อนน้ำให้หลานชายตัวน้อยจากนั้นอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาแล้วพาไปนั่งรถเข็นเด็กเล็ก ขณะที่ดนัยช่วยเธอยกกระเป๋าและข้าวของราวกับพ่อบ้านลูกอ่อนจนใครต่อใครพามองดูแล้วยิ้มคล้ายชื่นชม ส่วนคนถูกเมินใส่อย่างอัญชลีได้แต่ขบกรามแน่นหนักแต่ก็ตามพวกเขาไป ทิ้งเพื่อนสาวอีกสองคนที่มาด้วยกันไว้กลางทางโดยไม่สนใจ “แล้วนี่พี่นัยจะไปที่ไหนกันต่อหรือคะ?” เธอถามก่อนจะคว้าท่อนแขนกำยำไปโอบกอดแสดงเจ้าข้าวเจ้าของ ดนัยไม่ได้ว่าอะไร ชายหนุ่มหันมาพูดจากับเธอด้วยถ้อยคำเป็นมิตร อาจเพราะตอนนี้ตั้งใจที่จะศึกษาดูใจกับหล่อนเลยตามใจทุกอย่าง “เดี๋ยวจะพาน้องเจเดนไปกินขนมครับ” “งั้นเอ๋ไปด้วยนะคะ” “ได้ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า ขณะที่ทับทิมนั้นไม่พูดอะไร แต่ในใจเริ่มอึดอัดขึ้นมานิดๆ บ้างแล้ว ทั้งหมดเลือกมานั่งทานของหวานในร้านขนมที่เด็กๆ สามารถทานได้และชอบทาน ภายในร้านตอนนี้มีแต่เด็กเล็กๆ และคุณพ่อคุณแม่นั่งทานขนมเนืองแน่นร้าน แต่แล้วจู่ๆ น้องเจเดนปล่อยหนักใส่ผ้าอ้อมจนชวนได้กลิ่นตุๆ ไฮโซสาวรีบอุดจมูก พร้อมส่งสายตามาทางเด็กน้อย เผลอหลุดแสดงความรังเกียจออกมาผ่านทางสายตาโดยไม่ปิดบัง ทับทิมเห็นแก่ดนัยจึงไม่ได้ต่อว่าหล่อน หากอยู่ตามลำพังอยากจะซัดหล่อนสักยก เรื่องถ่ายหนักเบา เป็นธรรมชาติของเด็กเล็กและมนุษย์ทุกคน หากหล่อนเข้าใจสักนิด จะไม่แสดงกิริยาแบบนี้ออกมาเลย พานึกเห็นใจดนัย หากได้แม่ของลูกแบบนี้คงหนักใจพอตัว แต่คนนอกอย่างเธอจะไปกล่าวตักเตือนหรือให้คำแนะนำอะไรได้ “ทับทิมขอตัวสักครู่นะคะพี่นัย” “มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?” ชายหนุ่มอาสา เมื่อคิดว่าทับทิมอาจจะต้องการผู้ช่วย แต่เธอสั่นหน้าปฏิเสธจากนั้นอุ้มน้องเจเดนออกไป “เอ๋ว่าบางทีเด็กก็น่าเบื่อนะคะ” หล่อนพูดในสิ่งที่รู้สึกออกไปจริงๆ ดนัยได้แต่พยักหน้ารับคำ และพยายามเข้าใจหล่อน เนื่องจากอัญชลีเป็นหญิงสมัยใหม่ ทำงานเก่ง จบจากเมืองนอก แถมเป็นลูกผู้ดีได้รับความสะดวกสบาย ที่สำคัญคือหญิงสาวไม่เคยมีหลาน อาจจะยังไม่ชิน ****** ปาร์ตี้วันเกิดริมสระน้ำ… ความจริงอยากจะปฏิเสธคำเชิญชวนของอัศราเหมือนกัน หากแต่เพราะถูกอีกฝ่ายรุกหนักจึงจำเป็นต้องมาร่วมปาร์ตี้สระน้ำที่คฤหาสน์ของอีกฝ่าย แต่ที่แปลกใจคือเธอเห็นอัญชลีนี่ด้วยสิ พวกเขาไปรู้จักกันตอนไหน “วันนี้คุณทับทิมดูไม่ค่อยเอ็นจอยเลยนะคะ” “เปล่านี่คะ ทับทิมสนุกมากเลยค่ะ” เธอยกแชมเปญขึ้นจิบ ส่วนไฮโซสาวในชุดเดรสรัดรูป กลับมานั่งเบียดเธอ ทับทิมไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย แต่ก็ขยับที่นั่งให้หล่อน และต่อมามีผู้ชายสองถึงสามคนเดินเข้ามาหาเธอ เมื่อไฮโซสาวผละไป หนุ่มๆ พวกนี้คงเป็นเพื่อนของหล่อน แต่ละคนแพรวพราวน่าดู อัญชลีเหยียดยิ้มมุมปาก ก่อนจะยกมือถือขึ้นถ่ายรูป ขณะที่ทับทิมนั่งคุยกับหนุ่มๆ จากนั้นจัดการส่งให้ใครบางคนดู ดนัยซึ่งตอนนี้กำลังนั่งคุยงานสำคัญกับลูกค้าจึงไม่ได้อ่านข้อความในทันที กระทั่งเมื่อจรดลายเซ็นลงบนแผ่นกระดาษคู่สัญญาเสร็จ ชายหนุ่มจึงหยิบสมาร์ตโฟนรุ่นลิมิเต็ดขึ้นมาเปิดดู แล้วพอเห็นภาพที่ทับทิมนั่งยิ้ม ฉอเลาะกับหนุ่มหล่อบนขอบสระ ซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียว แต่มีถึงสามคนนั่งประกบ เขาถึงกับกำหมัดแน่น ก่อนจะขอตัวทันที โดยปล่อยให้ผู้ช่วยและเลขาดูแลหุ้นส่วนคนสำคัญต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD