ทับทิมพอจะรู้เจตนาของอัญชลีว่าต้องการทำอะไร แต่เธอที่ถูกผู้ชายขายขนมจีบแทบทุกวัน จึงรับมือสบายมาก หญิงสาวหยิบแก้วแชมเปญของตัวเอง ขอชนแก้วกับหนุ่มๆ ก่อนจะหาเรื่องพูดคุยในสิ่งที่คิดว่าอีกฝ่ายไม่เคยได้ยินมาก่อน หนุ่มหล่อทั้งสามพากันหัวเราะชอบใจฟังเรื่องตลกที่เธอเล่า และไม่มีทีท่าว่าจะส่งสายตาเจ้าชู้แพรวพราวใส่เธอสักคน เอาจริงๆ สามหนุ่มนี้สำหรับเธอแล้วไม่มีพิษมีภัยเลย แถมยังเป็นเพื่อนกันได้สบายมาก เธอเพิ่งรู้ว่าหนึ่งในสามคนนี้เป็นญาติผู้น้องของพี่เขยเธอเอง ชายหนุ่มทำฟาร์มมุกอยู่ที่ภูเก็ต
“เห็นสวยๆ แบบนี้ คุณทับทิมก็ตลกเหมือนกันนะครับ” ปราชญ์ ชายหนุ่มที่เธอเพิ่งรู้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับธาวินเย้าเธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก ขณะที่อีกสองหนุ่มก็หยอกเธอเหมือนกัน แต่ทับทิมฉีกยิ้มยั่วสู้ตาย เรื่องรับมือผู้ชายเธอถนัดอยู่แล้ว ไม่งั้นเธอจะเอาดนัยอยู่หมัดตั้งสองปีได้ยังไงกัน
ไฮโซสาวซึ่งยืนมองอยู่อีกมุมถึงขั้นอยากจะกรีดร้องกับความไม่ได้เรื่องของเพื่อนชายทั้งสาม เมื่อกี้หล่อนให้ทั้งสามรุกทับทิม แต่ทำไมบัดนี้สามหนุ่มถูกทับทิมควบคุมแทนราวกับสุนัขเชื่อฟังเจ้าของ เมื่อไม่สามารถจัดการศัตรูคู่ใจสำเร็จ จึงคิดหาวิธีการใหม่…
ด้านหนุ่มหล่อพ่อรวย ซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิดอย่างอัศรา ตอนนี้กำลังเล่นน้ำอยู่กลางสระกับผองเพื่อน ชาย หญิง รวมถึงสาวๆ ที่จ้างมาเอ็นเตอร์เทน พากันหัวเราะระริก ต่อมาว่ายน้ำมาชิดขอบสระใกล้ๆ พวกเธอ
“คุณทับทิมไม่ลงมาสนุกด้วยกันเหรือครับ?” ชายหนุ่มส่งสายตาแพรวพราวขณะเงยหน้าถามกัน
“ไม่ดีกว่าค่ะ ขอนั่งคุยกับหนุ่มๆ บนนี้ดีกว่า ช่วงนี้เป็นหวัดไม่อยากเล่นน้ำค่ะ” ทับทิมย่นดวงหน้า พลางส่งสายตาเย้ายวน กระซิกฉอเลาะ เรียกรอยยิ้มจากอัศราอย่างยอมจำนน ชายหนุ่มโบกมือเรียกแม่บ้านที่คอยบริการพวกเธอให้เอาน้ำอุ่นมาเสิร์ฟเธอ ทับทิมจะปฏิเสธ แต่เขาไม่ฟัง เห็นความเอาใจใส่ของอีกฝ่ายทับทิมยอมรับว่าความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“สักพักแม่บ้านเอาน้ำอุ่นมาให้เธอ พร้อมกับเด็กเสิร์ฟอีกคนนำแก้วแชมเปญขึ้นมาเปลี่ยนให้เธอ ทับทิมตัดสินใจจิบน้ำอุ่นก่อนจะค่อยๆ ยกแชมเปญขึ้นจิบ ส่วนอัศราซึ่งยังอยู่ในสระน้ำทอดมองดวงหน้าอ่อนหวานของเธอด้วยความลึกซึ้ง
“งั้นผมขอไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อนะครับ”
“ตามสบายเลยค่ะ” ทับทิมพยักหน้า ยกเครื่องดื่มขึ้นจิบต่อ ทว่าสักพักทับทิมรับรู้ได้ถึงบางอย่างในร่างกายไม่ปกติ เธอรู้สึกร้อน และตอนนี้ร่างกายกำลังครั่น ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นเฉพาะเวลาอยู่กับดนัย และที่น่าเป็นห่วงคืออาการเธอหนักกว่าตอนอยู่กับเขามาก ทับทิมพยายามบดเบียดเรียวขา ขณะทอดสายตาหวานฉ่ำส่งไปให้สามหนุ่ม เธออยาก…
สุดท้ายเมื่อรู้สึกว่าร่างกายเธอไม่ไหวแล้ว หญิงสาวจึงลุกออกไป โดยมีปราชญ์เดินตามและคอยประคองราวกับเป็นห่วง ระหว่างทางเห็นไฮโซสาวสวนทางมาพอดี เธอเห็นพวกเขาส่งรอยยิ้มทักทายกัน
ทับทิมไม่มีเวลาสนใจคนอื่นอีกแล้ว จึงผละออกจากเพื่อนใหม่แล้วตรงปรี่เข้าไปยังห้องน้ำ เดินมาถึงห้องน้ำแล้ว หญิงสาวรีบวักน้ำมาล้างใบหน้า หวังไล่ความร้อนในร่างกายออก หากแต่นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกเบาบางลงแล้ว เธอยิ่งรู้สึกร้อนทวีคูณ
ต่อมาร่างน้อยๆ สะดุ้งวาบเมื่อฝ่ามือของปราชญ์วางลงบนแผ่นหลังของเธอ ทับทิมกัดปากแน่นพยายามควบคุมความรู้สึกส่วนลึกให้จมหาย หากแต่ช่างยากเหลือเกิน
“คุณปราชญ์คะ ทับทิม…”
เรียวปากอวบอิ่มถูกฟันเรียงสวยขบกัดหนักๆ คล้ายต้องการจะกดความรู้สึกบางอย่างให้จมหาย ตอนนี้เธออยากให้หนุ่มหล่อที่เพิ่งรู้จักกันสัมผัส และเธอเองก็อยากสัมผัสเรียวแขนแกร่งซึ่งมีเส้นเลือดปรากฏบนผิวดั่งบุรุษเพศของเขา
“คุณทับทิม อยากให้ผมช่วยอะไรไหมครับ?”
“มะ… ไม่ค่ะ” ทับทิมพยายามหยุดมือตัวเองซึ่งตอนนี้จะลูบแขนฝ่ายตรงข้าม เธออดทนสุดฤทธิ์ เมื่ออีกฝ่ายเตรียมจะบดเบียดเข้ามา เธอรวบรวมแรงอันน้อยนิด ผลักอีกฝ่ายออก โชคดีที่ปราชญ์ยอมถอยอย่างว่าง่าย ทับทิมเลยรีบพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ล่อแหลม ในหัวคิดถึงผู้ชายปากร้ายอย่างดนัยที่สุด อยากให้เขาช่วยทำให้เธอหายจากอาการ ‘อยาก’ ที่เป็นอยู่
ทับทิมพาตัวเองออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ เมื่อคิดว่าตอนนี้เธอควรจะกลับได้แล้ว ไม่แม้แต่จะร่ำลาเจ้าของบ้าน เดินออกมายังไม่ถึงประตูรั้วอัลลอย คนที่เธอคิดถึงที่สุดโผล่มาพอดิบพอดี
“พี่นัย” ทับทิมฉีกยิ้มกว้างปรี่เข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของดนัย เงยหน้าส่งสายตาเว้าวอน อาจเพราะถูกฤทธิ์ยาครอบงำหนัก จึงมองไม่เห็นแววตาคาดโทษจากคนตัวใหญ่
“พี่นัยมารับทับทิมใช่ไหมคะ?”
ดนัยไม่ตอบ หากแต่ส่งสายตาวาวโรจน์ เลยไปทางผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ก่อนจะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายระดมหมัดหลุนๆ สองถึงสามนัดจนอีกฝ่ายหงายล้มตึง จากนั้นกระชากแขนเล็กๆ ของคนทำหน้าตกใจลากออกไป
ส่วนไฮโซสาวที่ยืนดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น เหยียดยิ้มมุมปาก ยิ่งเห็นสีหน้าเดือดพล่านของดนัย ความสงสัยที่อยู่ในใจเริ่มแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ต้องไม่ธรรมดา…
ดนัยลากคนตัวเล็กกลับมาถึงยานพาหนะคู่ใจแล้วเหวี่ยงเธอเข้าไปในรถไร้การทะนุถนอม ต่อให้หญิงสาวครางร้องราวกับเจ็บปวดแต่เขากลับไม่สนใจ
“เอากับมันกี่ยกแล้วล่ะ?” แค่เห็นไอ้หนุ่มนั่นเดินตามหล่อนต้อยๆ ราวกับสุนัขตัวผู้ตามสุนัขตัวเมียจะให้เขาคิดเป็นอื่นได้อย่างไร ยิ่งตอนนี้คนตัวเล็กทำท่าราวกับอารมณ์ค้าง แถมสายเดรสสั้นหลุดจากไหล่เล็ก คล้ายคนเพิ่งไปทำเรื่องอย่างว่า หากเขาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษหลงเหลือ ร่างเล็กๆ นี้คงแหลกคามือเขาแล้ว
“ทับทิม มะ… ไม่ได้เอานะ!” มือเล็กๆ ยื่นไปสัมผัสคนที่ตอนนี้ทำเหมือนจะฆ่าเธอให้ตาย ทับทิมยอมตายคามือเขาขอเพียงแค่ชายหนุ่มช่วยเธอ
“ใครเชื่อก็โง่แล้วล่ะทับทิม ฉันจะทำอย่างไรกับหญิงมักมากอย่างเธอดีนะ แค่ฉันเอาเธอคนเดียวไม่พอหรือไง!”
“ทับทิมไม่ได้เอากับใครนะ ทับทิมยอมให้พี่นัยเอาคนเดียว และตอนนี้ทับทิมก็อยากให้พี่นัยเอาด้วย” ไม่พูดเปล่า เธอบดเบียดเข้าหาชายหนุ่ม ไร้ยางอายอย่างที่ควรจะเป็น ทับทิมรู้สึกควบคุมความรู้สึกไม่ไหวแล้ว ไม่สนแม้สายตาดูถูกเหยียดหยามจากอีกฝ่าย
“หึ อยากให้ฉันเอาเหรอ แล้วเมื่อกี้ไอ้หนุ่มนั่นมันทำให้เธอไม่พอหรือยังไง”
“ทับทิมไม่ได้เอากับเขานะ ทับทิมพูดจริงๆ ไม่เชื่อพี่นัยจับของทับทิมดูสิ” ทับทิมเตรียมจะคว้ามือหนาซึ่งตอนนี้ กำลังบังคับพวงมาลัย หากแต่ถูกเขาสะบัดมือออกแรงหนัก
“สกปรก ฉันไม่อยากทับรอยใครหรอกทับทิม”
“แต่ทับทิมอยากให้พี่นัยช่วย ทับทิมทนไม่ไหวแล้ว พี่นัยช่วยทับทิมไม่ได้หรือไง เมื่อกี้ทับทิมต้องอดทนขนาดไหนเพื่อไม่ให้ทำผิดข้อตกลงของเรา คือ ‘ไปเอากับคนอื่น’” เธอกัดปากตัวเองด้วยความทรมาน น้ำตาเม็ดเล็กเริ่มร่วงเผาะ ดนัยใจร้ายกับเธอ
เมื่อเห็นน้ำตาเม็ดเล็กๆ หล่นแหมะลงมาบนแก้มใสของทับทิม ดนัยบังคับรถจอดข้างทางทันควัน ตอนนี้อยากจะทำหล่อนให้ตายคามือเลยทีเดียว เวลาใช้ลูกอ้อนไม่ได้ผลก็จะต้องใช้เล่ห์กลบีบน้ำตาเพื่อให้เขาใจอ่อน แต่ครั้งนี้อย่าหวังว่าเขาจะใจอ่อน
“อย่ามาบีบน้ำตา ฉันเกลียดที่สุดก็คือคนประเภทเจ้าเล่ห์มารยา”
“ทับทิมไม่ได้แกล้ง ทับทิมเจ็บ ทับทิมทรมาน ตอนนี้ร่างกายมันจะแตกแล้ว ถ้าพี่นัยไม่ช่วยทับทิม ทับทิมต้องตายแน่ๆ”
“ฉันว่าว่างๆ เธอควรจะไปหาหมอหน่อยนะ อาการของเธอเข้าข่ายติดเซ็กซ์แล้วล่ะ”
“พี่นัย ทับทิมไม่ได้ติดเซ็กซ์ ปกติทับทิมควบคุมตัวเองได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ตอนนี้ทับทิมร้อนและอึดอัด พี่นัยช่วยทับทิมหน่อยได้ไหมคะ นะคะพี่นัย” เธอวิงวอนพร้อมๆ กับกระโจนเข้าใส่ดนัยระดมจูบราวกับบ้าคลั่ง ดนัยพยายามผลักหญิงสาวออก หากแต่ไม่เป็นผล ก่อนจะเอะใจในเวลาต่อมาเมื่อหญิงสาวตรงหน้าอาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นอะไร?”
“ทับทิมไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากให้พี่นัยเอาทับทิม” เธอระดมจูบซอกคอชายหนุ่มและยังคว้ามือเขาเพื่อมาสัมผัสส่วนอ่อนไหว หนนี้ดนัยไม่ได้รุนแรงกับเธอ แต่ประคองจับไหล่บางทั้งสองข้างผลักออก
“อยากมากเลยเหรอทับทิม” เห็นคนตัวเล็กพยักหน้ารัวพร้อมจะกระโจนเข้าหาเขาทุกเมื่อ ชวนให้หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น
“ตอนอยู่ในงาน ดื่มน้ำอะไรเข้าไปบ้าง?”
ทับทิมไม่ตอบหากแต่เธอโน้มเข้าไปหาคนตัวใหญ่ แล้วบดจูบเขาหนักหน่วง ดนัยใจดีจูบตอบและยอมให้เธอตักตวงฉกชิมปากเขาอย่างพอใจ ครู่ต่อมาจึงเค้นหาคำตอบจากเธออีกครั้งและเมื่อได้ฟังที่เธอเล่า ชายหนุ่มเลยฟันธงว่าเธอโดนยาปลุกเซ็กซ์เล่นงานเหมือนที่เขาเคยโดน เห็นท่าทางของคนตัวเล็ก ดนัยนึกสงสารอยู่บ้าง หากที่นี่เป็นทางเปลี่ยวเขาคงช่วยให้เธอทรมานน้อยลงสักรอบ แต่เพราะบริเวณที่จอดรถอยู่ พลุกพล่านไปด้วยรถสัญจรไปมา ชายหนุ่มจึงได้แต่บังคับรถเร็วเท่าที่จะทำได้ เร็วมากก็ไม่ค่อยจะได้เนื่องจากต้องคอยปัดไป่มือน้อยๆ ซึ่งเริ่มซุกซนไม่เป็นสุข จับโน่นคลำนี่บนร่างกายของเขา
“ทับทิมอย่าจับ เดี๋ยวพี่ไม่มีสมาธิ อดทนอีกนิดเดี๋ยวก็จะถึงเพนต์เฮ้าส์แล้ว”
“แต่ทับทิมไม่ไหวแล้ว พี่นัยจอดรถเอาทับทิมตรงนี้ได้ไหม” หล่อนกัดปากพูด เห็นแล้วดนัยยิ่งสงสาร ใครกันกล้าเล่นสกปรกเช่นนี้ อัศราอย่างนั้นหรือ ไอ้บ้านั่นมันกล้าขนาดนี้เลยหรือวะ
“พี่นัยทับทิมไม่ไหวแล้ว” เห็นเธอบดเบียดเรียวขาเข้าหากันราวกับพยายามควบคุมความต้องการเหมือนที่เขาบอก ดนัยจึงเร่งความเร็วอีกนิด แล้วในที่สุดเขาก็มาถึงคอนโด และเมื่อเห็นว่าชั้นจอดรถปลอดผู้คนเขาเลยช่วยคนตัวเล็กด้วยนิ้วของเขารอบหนึ่ง จากนั้นจัดการช้อนอุ้มเธอขึ้นไปยังชั้นบนสุดของคอนโด และทันทีที่ถึงห้องดนัยไม่รีรอ รีบจัดการคนตัวเล็ก โดยไม่มีการเล้าโลมใดๆ เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทรมาน เขาต้องทำให้เธอทรมานน้อยลงโดยไว
ดนัยช่วยคนตัวเล็ก หลายครั้งทั้งบนเตียง โซฟา และห้องน้ำ และกว่าเธอจะสงบลง เล่นเอาเขาแทบหมดแรง ยังคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้ทั้งเขาและเธอไปทำงานไหวไหม
“พี่นัยเมื่อกี้ในงานทับทิมไม่ได้เอากับใครจริงๆ นะคะ ทับทิมอยากเป็นของพี่นัยคนเดียว และไม่เคยคิดที่จะยุ่งกับใครเลย ที่ผ่านมาก็มีแต่พี่นัยคนเดียวที่ทับทิมยอมให้เอา” กล่าวจบดวงตาคู่สวยก็ปิดลงสนิทเพราะความเหนื่อยล้า
ดนัยเอียงหน้าหรี่ตามองดวงหน้าอ่อนหวานแล้วได้แต่ส่ายหน้าไปมา หากบนมุมปากมีรอยยิ้มประดับเล็กๆ จากนั้นโน้มใบหน้าลงต่ำ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฝังริมฝีปากลงบนหน้าผากกลมมนของหญิงสาวในอ้อมอก