“นั่นเจ้าจะทำอะไร”
“!”
ด้วยความตกใจอยู่ๆ มืออวบอ้วนของนางก็เผลอปล่อยเสื้อตัวเก่าของเขาจนหลุดร่วงลงบนพื้น
เงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นแววตาเยือกเย็นของคนตรงหน้าจ้องมองมาไม่ลดละ แต่เพียงครู่เดียวเขาก็ลดสายตาลงแล้วก้มลงมองที่พื้นแทน
เมื่อครู่นางสัมผัสได้ว่าบุรุษผู้นี้มีความไม่พอใจแผ่ซ่านออกมาแต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นแล้วก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม
มู่อิงเถายังคงยืนนิ่งไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรกับเขา
เพราะนางคิดไม่ถึงว่าซ่งอวี่ถงจะกลับมาเร็วเช่นนี้
เมื่อมองไปที่ถังใส่ปลาด้านหลังก็เห็นว่ามีปลาหลายตัวพยายามกระโดดออกมาจากตัวถังน้ำนั้น
‘ฝีมือหาปลาของเขาล้ำลึกเพียงนี้เลยกระนั้นหรือนี่’
“ข้าขอโทษที่รื้อของๆท่าน ข้าก็เพียงแค่อยากจะจัดเตรียมที่นอนไว้ให้ท่านก็เท่านั้นเอง”
“อย่างนั้นเองหรอกหรือ เจ้าหยุดมือก่อนเถอะแล้วไปล้างเนื้อล้างตัวได้แล้ววันนี้ข้าจะทำอาหารเย็นเอง”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะข้าทำเอง”
“เจ้าถูกท่านแม่ทุบตีมาเช่นนี้ร่างกายของเจ้าคงเจ็บปวดอยู่เป็นแน่ ไปแช่น้ำอุ่นๆ ก่อนเถอะทางนี้ข้าจัดการเอง”
“ถ้าเช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”
มู่อิงเถาช้อนสายตาขึ้นไปมองผู้เป็นสามีของเจ้าของร่างที่กำลังเดินเข้าไปในครัวเก่าๆ นั้นเดินไปไม่กี่ก้าวก็หันหลังกลับมามองนาง
“แล้วหงเอ๋อล่ะ”
“คงจะอยู่หน้าบ้านกระมังเจ้าคะ”
“งั้นหรือ”
“ข้าไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”
“อืม”
'คิดอะไรอยู่กันแน่นะ ดูแปลกคนเสียจริง’
แม้จะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้วแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้เข้าหอกัน ความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ก็ลางเลือนยิ่งนักแต่เท่าที่รู้ว่าเพราะว่ามู่อิงเถาผู้นั้นทั้งขี้เหร่ อวบอ้วนผิวกายก็ดำด้านเนื้อตัวหยาบกระด้างยิ่งกว่าผิวหนังของบุรุษเสียอีก นางจึงไม่กล้าเข้าใกล้ผู้เป็นสามีเลยสักครั้ง
ครั้งที่อยู่บ้านใหญ่แม้นางจะอยู่ร่วมห้องกับเขาแต่ก็เลือกที่จะนอนบนพื้นแข็งๆแทนการนอนบนเตียงเดียวกันกับเขานั่นเอง
‘เฮ้อ…ข้ามมิติมาทั้งทีดันได้มาอยู่ในร่างที่น่าเกลียดเช่นนี้เสียอย่างนั้น แล้วแบบนี้นางจะกล้าร่วมเตียงกับเขาไปได้อย่างไร’
‘แต่เดี๋ยวนะ! ร่วมเตียงกระนั้นหรือ คิดอะไรของข้ากันเนี่ย’
[ฮิๆ]
“หนะ นั่นเสียงใคร”
มู่อิงเถาจับที่ขอบถังน้ำเอาไว้แน่น นางเปลือยกายลงอาบน้ำเช่นนี้หวังว่าจะไม่มีโรคจิตที่ไหนมาเห็นเข้าหรอกนะ
[มู่อิงเถา]
“ขะ ใครนั่นใครออกมาเดี่ยวนี้เลยนะ!”
[ชู่ว์…อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวสามีของเจ้าก็ได้ยินหรอก]
“เจ้าเป็นใคร”
[หลับตาสิ]
‘หลับก็โง่สิ’
[ข้าได้ยินนะอยากรู้ว่าข้าเป็นใครก็หลับตา ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องทำตาม]
และเพราะความอยากรู้แท้ๆ ทำให้นางอดใจไม่ไหวจนต้องหลับตาลงตามคำสั่งของใครที่ไหนก็ไม่รู้
[ลืมตาได้แล้ว]
นางรีบลืมตาขึ้นมาตามคำสั่งนั้นก่อนจะตื่นตกใจกับภาพตรงหน้าที่เห็น
“พับผ่าสิที่นี่ที่ไหนกัน”
[ที่นี่คือมิติวิเศษและข้าก็คือเจ้าของมิติแห่งนี้ เจ้าช่วยย้ายร่างตุ้ยนุ้ยของเจ้าเข้าไปในโรงนานั่นเสียทีสิที่นั่นมีเสื้อผ้าสตรีอยู่สองสามชุดไปเลือกใส่เอาเถิด เจ้าอยู่สภาพนี้ช่างอุจาดตาข้ายิ่งนัก]
“อยากให้มองนักล่ะ”
มู่อิงเถาเดินเข้าไปในโรงนา มองเข้าไปข้างในนั้นก็เห็นว่าเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ละลานตาเต็มไปหมด
‘จะว่าไปข้างนอกโรงนาก็เล็กนิดเดียวเหตุใดพอเข้ามาข้างในแล้วถึงได้กว้างใหญ่เช่นนี้กันเล่า’
[อย่าได้คิดสงสัยอะไรให้มาก รีบเลือกแล้วก็รีบออกมาได้แล้ว]
“รู้แล้วน่า”
นางเลือกเสื้อผ้ามาหนึ่งชุดแต่ก่อนที่จะก้าวขาออกไปจากที่แห่งนี้สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นชุดของบุรุษวางบนชั้นถัดไปนั้น
นางหันซ้ายมองขวาก่อนจะหยิบชุดเหล่านั้นติดมือมาด้วยสองชุด
[ข้าให้เจ้าเลือกเพียงชุดของตนเอง ไหนเลยจึงกล้าหยิบของคนอื่นออกมาอีกเล่า]
“ที่นี่ไม่เห็นมีใครเลยสามีของข้าและหลานชายของเขาไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่ ไหนๆ เจ้าก็เมตตาช่วยเหลือข้าแล้วก็เผื่อแผ่ไปถึงพวกเขาด้วยจะเป็นไรไปเล่า ถือว่าทำบุญเถอะนะ”
[เฮ้อ…ช่างเถอะ ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องทำงานให้ข้าอยู่ดี]
“ทำอะไรนะ”
[เจ้าคิดว่าบนโลกใบนี้จะได้ของมาใช้ฟรีๆ โดยไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนกันเลยอย่างนั้นหรือ]
“เจ้าอย่าบอกนะว่า”
มู่อิงเถาใช้แขนทั้งสองข้างปกปิดเรือนร่างอวบอ้วนของนางเอาไว้
[บัดซบ! เจ้าคิดได้อย่างไรข้าไม่ใช่คนเช่นนั้นนะ]
“แล้วเจ้าต้องการอะไร”
[เจ้าต้องมาทำไร่ทำสวนในมิติแห่งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของที่เจ้าหยิบออกไปอย่างไรเล่า]
“แค่นั้นหรือ”
นางก็นึกว่าจะต้องทำอะไรที่พิลึกพิลั่นมากกว่านี้เสียอีก
[อย่าให้ภาพมันลวงตาเจ้าดูดีๆ สิที่แห่งนี้กว้างใหญ่มากเพียงใด คิดหรือว่าจะได้อยู่สบายๆ หากว่าเจ้าทำตามเงื่อนไขของข้าได้ไม่ว่าต้องการอะไรข้าให้เจ้าได้ทุกสิ่ง]
“จริงหรือ”
[ข้าไม่เคยโป้ปด]
“เช่นนั้นก็ได้ ว่าแต่เจ้าเสกเงินได้หรือไม่”
[ไม่ได้!]
“โธ่น่าเสียดายจัง”
[แต่เจ้าเอาของในมิติของข้าไปขายเพื่อแลกเงินได้]
“จริงๆ นะเจ้าพูดแล้วนะ”
[ทุกสิ่งย่อมมีเงื่อนไข ชื่อของข้าคือหลิงฮุย จำเอาไว้ให้ดีตอนนี้เจ้าออกไปได้แล้วสามีของเจ้ามาตามแล้ว]
“เอ๋?”
สิ้นคำของเจ้ามิติวิเศษนั้นนางก็เหมือนถูกใครบางคนผลักออกมาก่อนจะมายืนโผล่อยู่ที่ห้องอาบน้ำข้างๆ ถังไม้ตัวเดิมนั้น
“อิงเถาเจ้าอยู่ในนั้นหรือไม่”
“อยู่เจ้าค่ะ มีอะไรหรือ”
“เจ้าเข้าไปนานมากแล้วไม่เห็นออกมาข้าจึงมาตาม อาหารเย็นเสร็จแล้วออกมากินข้าวได้แล้ว”
“อ้อ ข้ารู้แล้ว”
นางวางเสื้อผ้าสำหรับบุรุษสองชุดเอาไว้ในห้องอาบน้ำก่อนจะเทน้ำลงไปในถังอาบน้ำเพิ่มให้พวกเขาชำระล้างร่างกายต่อนั่นเอง
มู่อิงเถาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องแอบมองอยู่ตรงขอบประตูชำเลืองไปยังบุรุษต่างวัยทั้งสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สภาพแทบจะผุพังอยู่แล้ว
หนึ่งบุรุษหนุ่มที่อยู่ในวัยกลัดมันนั้นก็คือตัวร้ายที่นางเคยอ่านในนิยายเล่มโปรด ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงได้ลงมือทำร้ายภรรยาที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตั้งแต่ครอบครัวยังไม่มีอะไรเลยได้ลงคอ
ส่วนอีกหนึ่งบุรุษที่อายุน้อยที่สุดนั่นก็กลายเป็นมือปราบที่ฝีมือไม่ได้ยิบย่อยไปกว่าผู้เป็นอาเอาเสียเลย
ทั้งคู่นั่งอยู่ต่อหน้านางแล้วต่างก็เป็นคนอันตรายกับชีวิตของนางอย่างยิ่ง ยิ่งรู้จุดจบของตนเองมาก่อนแล้วๆ แบบนี้นางจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรต่อไปกัน
‘หนีไปเลยดีไหมนะ’
“อิงเอ๋อ อิงเอ๋อ!”
“จะ เจ้าคะ”
“ไปยืนทำอะไรตรงนั้น”