📗 เขตต้องห้ามบนชั้น 45 𖠋 ꕀ .* ♥︎

2450 Words
📗 𖠋 ꕀ .* ♥︎ 🔆 เช้าวันนั้น อากาศชื้น เมฆสีเทาคลุมครึ่งฟ้า ลินามาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย เธอวางกระเป๋า เปิดจอ เช็กลิสต์งานตามเดิม ตาไว มือไว ยังไม่ทันจิบน้ำ หัวหน้าทีมก็เดินมาหยุดข้างโต๊ะ “บอสเรียก ลงลิฟต์ไปตอนนี้ เอาสมุดกับปากกาไปพอ” ลินาหยิบสมุดเล่มเล็กกับปากกา ใจเต้นแรง เธอเดินตามหัวหน้าทีมไปยังลิฟต์ฝั่งที่คนไม่ค่อยใช้ ประตูเปิด เธอก้าวเข้าไป เห็นคิมหันยืนอยู่ก่อน เขามองเลขชั้น ไม่ได้มองเธอ แต่พูดชัดเจน “ชั้นสี่สิบห้า” “ค่ะ” เธอพยักหน้า ไม่ถามต่อ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวก็รู้เอง ลิฟต์เลื่อนลงเงียบ ๆ เธอแอบมองปลายรองเท้าเขา ไม่เกร็ง ไม่ห่าง เหมือนคนคุ้นกับพื้นทุกชนิด ประตูเลื่อนเปิด ทางเดินไฟนุ่มกว่าชั้นอื่น ผนังไม้สีเข้ม ประตูบานใหญ่สุดทางติดแถบสีแดงเล็ก ๆ ไม่มีป้ายชื่อ แต่มีคนเฝ้าสองคน คิมหันแตะบัตร เสียงดังติ๊ด ประตูเปิด เขาก้าวเข้าไป ลินาเดินตามไปติด ๆ ห้องด้านในกว้าง ผนังทั้งสี่เต็มไปด้วยบอร์ดขนาดใหญ่ บางบอร์ดเป็นเส้นโยงจากกรุงเทพฯ ไปเมืองอื่น มีชื่อโครงการ ตัวเลขสั้น ๆ ลูกศร วงกลม แถบสี บอร์ดบางแผ่นเป็นตารางนัด รายชื่อคู่เจรจา รูปสถานที่ก่อสร้างและท่าเรือ บางแผ่นเป็นแผนที่ประเทศไกล ๆ ที่เธอไม่เคยไปแต่เดาได้ โต๊ะกลางเป็นไม้เรียบยาว มีแฟ้มหนาตั้งเรียงกับแก้วน้ำ ไฟบนเพดานพอดี มองหน้ากันชัด คิมหันยืนหัวโต๊ะ เขาหันมามองเธอแวบเดียว “นี่ห้องสงครามของบริษัท” ไม่ต้องอธิบายว่าทำไม เพราะยืนอยู่ก็รู้สึกได้ ว่าที่นี่ตัดสินว่าจะรุกหรือถอย จะจับมือกับใคร จะวางหมากตรงไหน หัวหน้าทีมต่าง ๆ นั่งพร้อม เงียบ ไม่มีคุยข้างทาง ไม่มีหัวเราะ ลินานั่งปลายโต๊ะฝั่งขวา เลือกมุมที่เห็นภาพรวม เธอวางสมุด ปากกา วางมือบนหน้าตัก ไม่แตะของกลาง คิมหันพูดชัด “ตรงนี้ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว สิ่งที่พลาดในห้องนี้จะกลายเป็นหลุมบนสนามจริง ไม่ใช่รอยขีดบนกระดาษ” ทุกคนพยักหน้า เสียงเก้าอี้ขยับเบา ๆ แล้วสงบ เขาเปิดแฟ้มแรก “ดีลไฟฉุกเฉินของอาคารแกนเหนือ ฝ่ายจัดซื้อเสนอผู้ขายรายใหม่ ราคาสัญญาสามปี” เขาเลื่อนเอกสารให้ไหลตามโต๊ะ ลินาได้รับสำเนา เธออ่านรวบยอด ตัวเลขเรียงสวย บอก “พิเศษ” “ปรับลด” “ของแถม” แต่รวมแล้วกลับสูงกว่าที่ควร เธอขีดในสมุด “รวมจริงแพงกว่าที่เขียน” แล้วอ่านต่อ เจอ “ค่าบริการนอกเวลา” สูงผิดปกติ และมีเงื่อนไขท้าย “กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินคิดเรทพิเศษ” เรทนั้นสูงจนยอดรวมพุ่ง หากอ่านข้าม หัวหน้าทีมจัดซื้อรายงาน “บริษัทนี้เครื่องรับโหลดดีขึ้น ลดค่าบำรุงปีแรก มีทีมประจำในเมือง ปล่อยเครดิตยาว เหมาะกับช่วงงานแน่น” คิมหันพยักหน้า “ข้อเสีย” หัวหน้าทีมจัดซื้อชะงัก “ค่าบริการนอกเวลากับฉุกเฉินสูง แต่โดยรวมยังแข่งได้เมื่อเทียบเจ้าเดิมที่ไม่ปล่อยเครดิตเท่านี้” คิมหันมองรอบโต๊ะ “ใครเห็นต่าง” ห้องเงียบ ลินามองเงื่อนไขตัวเล็กท้ายสัญญา เธอรู้ว่า “ฉุกเฉิน” ในตึกใหญ่ไม่ได้เกิดปีละครั้ง แต่เกิดได้ทุกเดือนและเป็นเงินเป็นทอง เธอชั่งใจว่าจะพูดไหม ในหัวมีสองเสียง สุดท้ายเลือกพูด เพื่อให้ของจริงปลอดภัย เธอยกมือ “ขออนุญาตค่ะ” สายตาหลายคู่หันมา คิมหันพยักหน้า “พูด” “เรทพิเศษตรงท้ายค่ะ ถ้าเหตุเกิดตอนกลางคืน ซึ่งมีโอกาสสูงสำหรับระบบนี้ เราจะถูกคิดเรทนั้นทุกครั้ง ยอดสามปีจะสูงกว่าที่หน้าแรกมาก” หัวหน้าจัดซื้อขยับ “เราประเมินว่าปีหนึ่งไม่น่าเกินจำนวนครั้งที่จะทำให้เกินงบ” ลินาพูดช้า “แต่เราเพิ่งปรับระบบให้เร็วขึ้น การทดสอบและการซ้อมเพิ่มขึ้น เราจะเรียกทีมเขาบ่อย ทั้งในเวลาและนอกเวลา ถ้าคิดเรทนี้ทุกครั้ง เราจะจ่ายมากกว่าที่ควร และมากกว่าเจ้าเดิมภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน” หัวหน้าภาคสนามพยักหน้า “ฝั่งผมเห็นด้วย คืนไหนฝนแรง ไฟกระพริบ ต้องให้ทีมมาดูทันที บางคืนสองรอบ ถ้าคิดเรทนั้นทุกครั้ง ตัวเลขไม่น้อย” คิมหันหันไปทางกฎหมาย “สัญญานี้เสี่ยงอะไรอีก” ฝ่ายกฎหมายเปิดแฟ้ม “มีข้อหนึ่งว่า หากยกเลิกก่อนกำหนด ต้องจ่ายค่าชดเชยเท่าค่าบริการนอกเวลาเฉลี่ย คูณเดือนที่เหลือ คือผูกเราไว้กับเรทที่เขากำหนดเอง” คิมหันนิ่งสั้น ๆ แล้วหันกลับมาหาลินา “เสนอทางเลือก” “กลับไปโต๊ะเจ้าเดิมค่ะ ต่อรองเครดิต และให้ลดเรทฉุกเฉิน ถ้าไม่ลด ให้เชิญเจ้าใหม่อีกหนึ่งมาเปรียบเทียบ ไม่ใช่เจ้านี้” หัวหน้าจัดซื้อทำท่าจะพูด แต่คิมหันยกมือ “ฝ่ายกฎหมาย” “รับครับ” “คว่ำดีลนี้ภายในหกชั่วโมง แจ้งเหตุผลตามตัวเลขที่ลินาชี้ เพิ่มประเด็นภาคสนาม และเรื่องยกเลิกตามที่กฎหมายเห็น ออกหนังสือภายในบ่ายนี้ จบให้เรียบร้อย อย่าให้มีเงื่อนไขย้อนมาทำร้ายเรา” เสียง “ครับ” ดังพร้อมจากฝั่งกฎหมาย ห้องเงียบอีกรอบ เหมือนคนสูดลมหายใจแล้วค้างไว้ คิมหันหันไปทางจัดซื้อ “อย่าเอาความหวานของเครดิตมาบังกลิ่นแพงของเรทพิเศษ เราไม่ซื้อคำหวาน เราซื้อของจริง” หัวหน้าจัดซื้อก้มหน้า “รับทราบครับ” สายตาหลายคู่มาที่ลินาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่สงสัย แต่เป็นการประเมินใหม่ เหมือนเห็นคมแท้ เธอไม่ยิ้ม ไม่หลบ เธอก้มจดสองบรรทัด “เรทพิเศษ ขุดให้เห็น” กับ “อย่าซื้อคำหวาน” ประชุมเดินต่อ บอร์ดถัดไปเป็นเส้นโยงไปเมืองท่าทางใต้ มีท่าเรือ การขนของ ตารางเดินเรือ รูปท่อน้ำและเหล็กวางเรียง อ**บอร์ดโยงไปเมืองไกล รูปเครื่องจักรใหญ่ ชื่อคนจากอีกฟากโลก ตัวเลขเงินตราแปลกหู แต่ทุกอย่างย่อยเป็นคำสั้น ๆ ให้เข้าใจตรงกัน กลางรายงานที่สาม คิมหันถามลินากะทันหัน “คิดอะไรอยู่” เธอตอบทันที “คิดถึงเส้นที่โยงออกนอกเมืองค่ะ ถ้าเส้นหนึ่งสะดุด เส้นอื่นจะชะงักกี่ชั่วโมง และตรงไหนที่เราไม่มีทางสำรอง” “ตรงไหน” เขาจี้ “ตรงจุดผ่านเอกสารท่าเรือค่ะ ถ้าคนรับเอกสารลาป่วยพร้อมกันสองคน ไม่มีคนสำรอง เราจะชะงักทั้งแผน” เธอชี้มุมบอร์ดที่มีคำเล็ก ๆ ว่า “แจกจ่ายเอกสาร” “คน” “สำรอง: ไม่มี” หัวหน้าท่าทางใต้หันมอง “จริง เราไม่ได้ลงชื่อสำรองไว้” คิมหันสั่ง “แก้ภายในวันนี้ ใส่คนสำรองสองระดับ ส่งรายชื่อให้กฎหมายตรวจซ้อน” “ครับ” ประชุมเดิน คำสั่งสั้น ตัดสินทันที ไม่มีผลัดพรุ่งนี้ ห้องนี้เหมือนห้องเครื่อง เรือแล่นในทะเลลึก ต้องเร็วและแม่น พักห้านาที ลินาออกมายืนใกล้หน้าต่างแคบ ลมสูงพัดกระจกเกิดเสียงเบา ๆ เธอหลับตาให้หัวใจลงจังหวะ แล้วกลับไปนั่ง ☀️ ช่วงท้ายรอบเช้า คิมหันเปิดบอร์ดเส้นโยงออกนอกประเทศ “ต่อไปเราต้องเลือกเมืองที่จะปล่อยทีมไปเปิดงาน เลือกผิด เสียเวลา เสียเงิน เลือกถูก เปิดทางหลายเส้น คนที่ไปไม่ต้องพูดเก่ง ต้องดูเป็น แล้วพูดเท่าที่จำเป็น” สายตาบางคู่เหลือบมาทางลินา เธอก้มจด “ดูเป็นก่อนพูด” ขีดเส้นใต้ จบเที่ยง ประตูหนัก ๆ เปิดออก โถงชั้นสี่สิบห้าเงียบเหมือนเดิม ลินาก้าวออกพร้อมทีม คนที่เคยมองเธอเป็นเด็กฝึก มองต่างไป บ้างยกคิ้ว บ้างพยักหน้า เธอไม่รับไม่ปฏิเสธ หัวหน้าทีมระบบเดินเคียง “เมื่อกี้ดี จุดเรทฉุกเฉิน ถ้าเงียบ เราเจ็บยาว” “หนูแค่ชอบดูตัวหนังสือตัวเล็กค่ะ” เธอยิ้มบาง “ชอบก็ทำต่อ บ่ายนี้พักสายตาหน่อย ค่อยกลับชั้นห้าสิบสี่” ลินากินข้าวเร็ว ๆ มุมเงียบ ไม่อยากลงล่าง ไม่อยากเจอคนเยอะ อยากให้สมองยังฟังเสียงตัวเองได้ เธอเปิดสมุด ดูบันทึก ขีดดาว “อย่าซื้อคำหวาน” แล้วปิด เก็บในกระเป๋าเสื้อคลุม ☀️ ช่วงบ่าย เธอกลับชั้นเดิม ทีมเตรียมงานทดสอบ ก้องเดินมา “ได้ข่าวขึ้นชั้นสี่สิบห้า น่าสนใจนะ” “งานเยอะกว่าที่คิดค่ะ” “ยินดีที่ยังหายใจออก” ก้องพูดเล่น ทำมือทุบอกเบา ๆ “ห้องนั้นถ้าพูดพลาด เสียงสะท้อนกลับมาหนัก” “เลยต้องพูดเท่าที่จำเป็น” ลินาทวน ก้องยิ้ม “ใช่ และยินดีอีกอย่าง…คนเริ่มมองเธอเป็นมีดลับ ระวัง มีดลับถูกขอยืมบ่อย” ลินาหัวเราะน้อย “ถ้ามีดถูกยืมแล้วเจาะผิดที่ก็แย่” “ก็เลยต้องรู้ว่ามือไหนถือ จำไว้” เธอรับคำในใจ ☀️ บ่ายแก่ ๆ เสียงแจ้งเตือนดัง ฝ่ายกฎหมายส่งข้อความ “ยกเลิกสัญญาเดิมตามสั่ง ส่งเหตุผลครบ จบตามเวลา” ตามด้วยฝ่ายจัดซื้อว่าเริ่มคุยเจ้าเดิมและอีกเจ้าที่เตรียมไว้ ลินาอ่านแล้ววางโทรศัพท์ หัวหน้าทีมโผล่มา “เห็นไหม คำสั่งสั้น แต่ฟันลงจริง” “ค่ะ ดีที่ลงก่อนถูกผูก” “เธอเริ่มรู้จังหวะที่นี่แล้ว อะไรต้องพูดวันนี้ อะไรเก็บพรุ่งนี้ อะไรเก็บในหัว อะไรต้องส่งเป็นลายลักษณ์” “พยายามอยู่ค่ะ” หัวหน้าทีมเหลือบตามองสมุด “หวงเล่มนั้นดี ๆ ถ้าหาย โลกหายครึ่งนึง” “เก็บแน่นค่ะ” เธอยิ้ม 🌒 ช่วงเย็น ห้องรีวิวสั้นเปิดอีกครั้ง ตรวจงานประจำ เธอนั่งปลายโต๊ะเหมือนเดิม บรรยากาศต่างจากวันก่อน คนที่เคยซุบซิบตอนเธอเดินผ่าน วันนี้เงียบ สายตาที่มาหาเธอเหมือนเช็กว่ามีคำอะไรควรจด เธอไม่ยืดอก ไม่แสดงว่ารู้ แค่ตั้งใจ จบ เธอกลับโต๊ะ เตรียมเก็บของ ข้อความเด้งขึ้นบนจอ “คิมหัน: ลงมา ชั้นสี่สิบห้าอีกครั้ง” เธอหยิบสมุด ปากกา ขวดน้ำ เดินไปลิฟต์ เงาในกระจกทำให้เห็นตัวเองในแบบใหม่ สายตาคมขึ้น ไหล่ตั้งขึ้น แต่ข้างในยังมีเส้นตึงคำว่า “บ้าน” ผูกอยู่ ประตูเปิด ห้องเดิม บอร์ดเดิม แต่บรรยากาศเปลี่ยนเล็กน้อย คิมหันยืนคนเดียว เขาไม่ได้ยิ้ม ไม่แข็ง เป็นเหมือนเสาเหล็กกลางลม “มาดูเส้นนี้” เขาชี้บอร์ดที่โยงออกทะเล “เราจะต้องเลือกคนไปคุยเปิดทาง ถ้าไปด้วยคำสวย เราจะโดนลากเข้าค่ายเขา ถ้าไปด้วยของจริง เราจะยืนค่ายเราได้” ลินาเข้าไปใกล้ เธอมองรายชื่อเมือง ตารางเวลา เส้นที่ต่อเป็นใย เธอเห็นวงกลมเล็กที่มุม “จุดนี้คืออะไรคะ” “จุดผ่านของเงินย้ายมือ ที่นี่หลายคนเผลอลื่น” ลินาจด “พื้นลื่น เดินช้า” แล้วเงยหน้า “ต้องการให้หนูทำอะไรคะ” “ตอนนี้ยังไม่ให้ทำ แค่อยากให้เห็นภาพรวม แล้วจำไว้ว่า เราไม่ได้พูดเรื่องท่อ ลิฟต์ หรือเสียงเตือนอย่างเดียว เราพูดเรื่องคน เมือง เส้นทาง และเชือกที่ผูกระหว่างเขากับเรา” “ค่ะ” คิมหันนิ่งครู่หนึ่ง “เธอเห็นเรทฉุกเฉินได้เร็ว แปลว่าเริ่มดมกลิ่นได้ ฉันต้องการคนที่ดมกลิ่นเป็นในห้องนี้ แต่จำไว้ กลิ่นบางอย่างแรง ถ้ายังไม่ชิน อย่าเข้าใกล้เกิน” “เข้าใจค่ะ” “ดี กลับได้ พรุ่งนี้เช้าพักห้องนี้ไว้ก่อน ทำงานชั้นห้าสิบสี่ให้แน่น ไม่ให้ใครมีช่องพูด” “รับทราบค่ะ” เธอถอยหนึ่งก้าว มองบอร์ดอีกครั้ง เส้นโยงจากกรุงเทพฯ ไปไกล ทำให้เธอนึกถึงใยบางอย่างในหัว ใยที่ตอนแรกยังไม่มีชื่อ วันนี้หนาขึ้น และเริ่มมีชื่อในใจว่า “หัวใจบริษัท” 💛 เธอกลับชั้นเดิม คนเริ่มเก็บของ แสงโถงอ่อน เธอเดินผ่านโต๊ะรุ่นพี่ผู้หญิงสองคนที่เคยแซะ เช้าวันนี้ทั้งคู่เงียบ คนหนึ่งช้อนตามองเหมือนจะพูด แต่ก็ไม่พูด ลินายิ้มบาง พอให้รู้ว่าเห็นกัน แล้วเดินต่อ ก้องโบกมือ “พรุ่งนี้เจอกัน” “ค่ะ” หน้าลิฟต์ กระจกสะท้อนรอยยิ้มมุมปาก เธอยกมือแตะบัตรที่ห้อยคอเป็นนิสัย ตุ้งติ้งใสสะท้อนแสงไฟเป็นจุดเล็ก ๆ 🙂 ลิฟต์ลงถึงชั้นล่าง ลมเย็นพัดเหมือนกวาดฝุ่นวันยาว ๆ ออก เธอเดินไปสถานี ไม่แวะซื้ออะไรตามที่เขาเคยเตือน มองคนที่เดินสวน บางคนหน้าเครียด บางคนหัวเราะกับโทรศัพท์ บางคนลากกระเป๋า เธอนึกถึงเส้นทางบนบอร์ดในห้องสงคราม แล้วเทียบกับเส้นทางของคนธรรมดาตรงหน้า ทุกคนต่างมีบอร์ดของตัวเองในหัว เพียงแต่ไม่ได้ติดบนผนัง ภาพห้องสงครามผุดขึ้นชัด บอร์ดเต็มผนัง ตัวเลขสั้น ๆ คำสั่งสั้น ๆ แต่เปลี่ยนโลกบริษัทได้ในวันเดียว เธอยังไม่รู้ว่าพร้อมอยู่ในห้องนั้นทุกวันหรือไม่ แต่เริ่มเข้าใจว่า “ของจริง” ที่นี่ไม่ใช่แค่ท่อหรือสายไฟ มันคือคนและเส้นที่ผูกกันแบบไม่เห็น เธอลุกไปเปิดหน้าต่างให้อากาศแตะแก้ม กลิ่นเมืองกลางคืนลอยบาง เสียงรถไกล ๆ ทำให้ใจนิ่ง เธอคิดถึงพ่อ คิดถึงคืนไฟดับ คิดถึงชื่อบนหน้าแนบ คิดถึงคำของเขา “อย่าให้ใครเห็นว่าเธอสนใจแฟ้มนั้น นอกจากฉัน” แล้วคิดต่อว่า ถ้าเข้าไปถึงหัวใจบริษัทจริง ๆ เธอจะเห็นเส้นที่ลากจากอดีตมาปัจจุบันชัดขึ้นไหม 🛌 ก่อนนอน 💤 เธอปิดไฟใหญ่ เหลือไฟหัวเตียงสีอุ่น นอนตะแคง ห่มผ้า สูดลมหายใจช้า ๆ ภาพสุดท้ายในหัวคือบอร์ดบนผนัง เส้นโยงหนาเป็นใย สลับกับหน้าสมุดที่มีคำจด “อย่าซื้อคำหวาน” “ดูเป็นก่อนพูด” “ห้ามพลาดแม้แต่จุดเดียว” เธอกระซิบเบา ๆ ในความมืด “อยู่ให้ได้ และดูให้ขาด” แล้วปล่อยให้คืนค่อย ๆ ปิดตา ที่ไหนสักแห่งในตึกสูง ห้องสงครามปิดไฟมืด มีเพียงแสงจากป้ายเล็กหน้าประตู วาบขึ้นดับลงเป็นจังหวะเหมือนลมหายใจ เบาบางแต่มีอยู่จริง เหมือนหัวใจของบริษัทที่เต้นอยู่ในเงา รอคนที่จะเดินเข้าไปโดยไม่พลาดแม้แต่จุดเดียว และตอนนี้ มีคนตัวเล็กคนหนึ่งกำลังก้าวเข้าไปทีละก้าว อย่างมั่นคง โดยไม่ถอย 🚶‍♀️💼 ☪︎*。꙳ ᨳ ﹅♥︎₊˚✧ ₊ ⟢⊹
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD