“เลือกมาสิไกอา ตอบมาว่าเธอเลือกฉัน เธอจะอยู่ที่นี่กับฉัน เธอจะไม่ทิ้งฉันไปไหน เธอจะไม่ปล่อยให้ฉันต้องอยู่คนเดียว”
“ฉัน…” ฉันเม้มปากแน่น จินหลงไม่เหลือทางเลือกให้ฉันเลย เขากดดันฉันทุกทาง เขาต้อนฉันด้วยคำพูดและแววตาที่ฉันยากจะปฏิเสธ ฉันไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ที่สุด ฉันเกลียดความกดดันแบบนี้ “เอาไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังแล้วกัน”
สุดท้าย… ฉันตัดสินใจเดินหนีเขาออกมา ฉันไม่อยากทะเลาะกับเขา ไม่อยากโกหกเขา และไม่อยากทำให้เขาเสียใจด้วย การเลือกเดินออกมาเพื่อให้ต่างคนต่างสงบสติอารมณ์ย่อมเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลาแบบนี้ แต่เหมือนจินหลงไม่เข้าใจ…
“ถ้าเธอไปได้ก็ลองดู”
ปึง!
ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจตอนได้ยินเสียงหนัก ๆ ดังสนั่นมาจากด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็พบว่าจินหลงกำลังต่อยผนังห้องอยู่ รอยเลือดสีแดงสดเปรอะเปื้อนฝาผนังทำหัวใจฉันหล่นวูบทันที
“ยะ หยุดนะจิน! นายจะทำอะไร!” ฉันวิ่งกลับมารั้งแขนแกร่งไม่ยอมให้เขาทำร้ายตัวเองอีก แต่แรงจินหลงเยอะมาก เขาพยายามสะบัดฉันแล้วต่อยผนังซ้ำ ๆ แววตาดุดันแดงก่ำอย่างน่ากลัว เขาเหมือนปีศาจร้ายที่พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งอย่างบนโลก เขาขาดสติไปแล้ว…
เพี๊ยะ!
ในจังหวะนั้นเลย… ร่างบอบบางของฉันเซล้มลงบนพื้นพร้อมกับอาการชาข้างแก้ม มือบางยกขึ้นเกาะกุมบริเวณนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูงด้วยน้ำตาเอ่อคลอ
อีกแล้วสินะ…
กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งอยู่ในโพรงปาก ฉันแตะปลายนิ้วตรงมุมปากเพื่อซับเลือดเบา ๆ พลางแค่นยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง
“…” ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของร่างสูงสักนิด เขายืนมองฉันนิ่งงันเหมือนกับทุกครั้ง มองการกระทำอันไร้สติของตัวเองที่พลาดพลั้งทำร้ายฉันอีกแล้ว
ฉันรู้ว่าจินหลงไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉันรั้งแขนเขาไว้ เขาจึงพยายามสะบัดแขนออก แต่ด้วยแรงผู้ชายที่เหนือกว่าทำให้หลังมือของเขาสะบัดโดนใบหน้าของฉันพอดี จึงกลายเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ
ปัง!
จินหลงผลุนผลันออกไปพร้อมเสียงปิดประตู ทิ้งฉันไว้ภายในห้องอันแสนเงียบงันเพียงคนเดียว หยดน้ำตามากมายไหลออกมาอย่างสุดกลั้น เสียงสะอื้นที่ทนกักเก็บเอาไว้มันระเบิดออกมาราวกับคนเสียสติ
ฉันเหนื่อยจังเลย… เหนื่อยหัวใจเหลือเกิน
.
.
.
[บทบรรยาย พันไมล์]
ปัง!
เสียงประตูห้องปิดดังสนั่นไปทั่วโถงทางเดินชั้นเจ็ดเรียกสายตาจากผมให้หันมอง ร่างสูงเดินออกมาจากห้องของไกอาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดทำผมชะงักไปชั่วขณะ แม้จุดที่ผมกำลังหลบอยู่จะไกลจากบริเวณนั้นพอสมควร แต่ก็ทำให้ผมมองเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน หัวใจผมกระตุกวูบทันทีที่รู้ว่ามันเป็นใคร
ไอ้เวรนั่น… ไม่จริงใช่ไหม มันไม่ใช่แฟนของไกอาหรอกใช่ไหมวะ!
ผมมองร่างสูงคุ้นตาเดินไปกดลิฟต์ด้วยมือที่เปื้อนเลือด ช่วงจังหวะที่มันเข้าลิฟต์แล้วหันกลับมากดปิดประตู ผมจึงได้เห็นหน้ามันชัด ๆ อีกครั้ง มันยิ่งตอกย้ำให้ผมแน่ใจว่าผมจำคนไม่ผิดแน่นอน
เวรเอ๊ย…
ผมรู้จักไอ้เวรนั่น ผมรู้ว่ามันเป็นใคร ตอนแรกที่ได้ยินชื่อแฟนของไกอาผมก็แอบสงสัยว่าจะใช่คนเดียวกันไหม คิดว่าอาจจะบังเอิญชื่อซ้ำกัน คิดว่าโลกแม่งคงไม่กลมจนน่าบัดซบขนาดนั้นหรอก จนกระทั่งตอนนี้ที่มาเห็นด้วยตาตัวเองถึงได้รู้ว่า… เรื่องบังเอิญแม่งไม่มีอยู่จริง และโลกใบนี้แม่งก็ช่างบัดซบเหี้ย ๆ ด้วย!
ทำไมวะ… ทำไมต้องเหวี่ยงคนสารเลวอย่างมันมาเจอกับผู้หญิงดี ๆ อย่างไกอาด้วยวะ!
“…” ผมเดินออกมาจากมุมทางเดินที่กำลังหลบอยู่แล้วตรงไปที่ประตูห้องของไกอาแล้วเปิดเข้าไปทันที
กริ๊ก…
ผมเม้มปากเล็กน้อยตอนเปิดประตูห้องแล้วพบว่ามันไม่ได้ล็อก ผมรู้ว่าตัวเองไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ ว่ะ สภาพไอ้เวรนั่นเดินออกมาพร้อมมือเปื้อนเลือดทำจิตใจผมว้าวุ่นไปหมด
ผมเป็นห่วงเธอ…
“ฮึก…” เสียงสะอื้นลอยมาพร้อมกับความเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศ ผมแทรกตัวเข้ามาภายในห้องก่อนจะปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา สายตาจับจ้องไปทางร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นแล้วฟุบหน้าลงกับเบาะโซฟา
เธอกำลังร้องไห้…
หัวใจแกร่งวูบไหวโดยไม่รู้ตัว ผมยืนมองร่างบางสะอื้นไห้จนตัวสั่นเทาอย่างนิ่งงัน สองเท้าก้าวเข้าหาเธอช้า ๆ จนกระทั่งหยุดยืนด้านหลังของเธอ เสียงสะอื้นเงียบลงราวกับเพิ่งรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่เธออยู่ภายในห้อง
“…” เสี้ยวหน้าหวานเบี่ยงมองปลายเท้าผมช้า ๆ ก่อนจะลากสายตาขึ้นจนหยุดสบตากับผม ดวงตากลมโตแดงก่ำฉ่ำน้ำตาเบิกกว้าง แววตาสั่นไหวรุนแรง
“…” ผมหลุบตามองริมฝีปากบางจิ้มลิ้มที่มีรอยเลือดเปื้อนอยู่ตรงมุมปาก สองมือกำหมัดแน่น ภายในอกร้อนรุ่มจนอยากจะวิ่งออกไปตามกระชากตัวไอ้สารเลวนั่นกลับมากระทืบให้สาสมกับความเลวระยำที่มันทำกับเธอ มันกล้าดียังไงถึงมาทำร้ายเธอแบบนี้!
เวรเอ๊ย… หัวใจผมมันร้อนอย่างกับเพลิงไฟแผดเผาเลยว่ะ
“เฮียไมล์… เฮียมาที่นี่ได้ยังไง”
“ทำไม…”
“…”
“ทำไมถึงยอมให้มันทำร้ายเธอแบบนี้!!”
ผมไม่เคยคลั่งขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟเผาไปทั้งตัวและหัวใจขนาดนี้ ไม่เคยรู้สึกอยากจะฆ่าใครได้มากเท่านี้เลย!
เมื่อครั้งก่อนตอนพบกันในงานวันเกิดของพันเก้า ผมเคยเห็นร่องรอยฟอกช้ำจากข้อมือและท่อนแขนของไกอา ในตอนนั้นยอมรับว่าผมเลือดขึ้นหน้ามาก อยากจะบีบคั้นเอาความจากปากของเธอเพื่อหาตัวคนทำ แต่เพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ ผมจึงเก็บความรู้สึกนั้นมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันนี้… วันที่ผมได้เห็นเองกับตา ได้สัมผัสเองกับตัว ผมถึงได้รู้ว่า… ผมไม่สามารถทนเห็นผู้หญิงคนนี้เจ็บปวดได้อีกต่อไปแล้ว!