EP.22 [ลำบากใจ]

1262 Words
“ไมล์… เป็นอะไรหรือเปล่า?” “อืม… ไม่ได้เป็นไร แค่งงนิดหน่อยน่ะ” พันไมล์ละสายตาจากฉันไปตอบคำถามเหมยหลิน สีหน้าเขากลับมาราบเรียบเช่นเดิมก่อนหันมามองฉันอีกครั้ง “ยัยเก้าโทรมาบอกเฮียแล้วว่าเธอจะมา แต่ไม่ได้บอกว่าจะมาเมื่อไหร่ เฮียเลยไม่ได้สั่งคนไว้ให้ต้อนรับ” ร่างสูงเดินมาหยุดยืนด้านหลังเหมยหลินก่อนจะวางมือลงบนไหล่ของเธอ มันเป็นภาพที่กระตุกหัวใจฉันแปลก ๆ ฉันจึงเสสายตามองกระเป๋าบนตักตัวเอง พยายามทำตัวให้เป็นปกติเช่นกัน “อ้อ เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกเฮีย พอดีฉันผ่านมาแถวนี้ก็เลยแวะเข้ามาดูก่อนเฉย ๆ น่ะ เดี๋ยวจะกลับแล้วล่ะ” ฉันยิ้มตอบคนทั้งสอง เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว ทำตัวปกติเหมือนที่เคยเป็น ทิ้งเรื่องอดีตไปให้หมดแล้วเริ่มต้นความรู้สึกใหม่ เพราะทั้งฉันและพันไมล์ต่างก็มีชีวิตของตัวเองแล้ว เราไม่ควรเอาอดีตมาผูกพันกันอีกต่อไป ใช่… แบบนี้แหละดีแล้ว “แล้วไกอาพร้อมจะเข้ามาที่ร้านเมื่อไหร่เหรอ เจ้จะได้สั่งอาหยกผู้จัดการร้านเอาไว้ อ้อ จันจิด้วยอีกคน เจ้ยกยัยจันให้เป็นลูกมือไกอาด้วยเลย จะได้คอยช่วยเธออีกแรง ดีไหมไมล์” เหมยหลินถามฉันก่อนจะเบี่ยงหน้าขึ้นขอความเห็นจากผู้ชายด้านหลัง พันไมล์ยิ้มให้เธอพลางพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “อืม ดีสิ เธอสนิทกับยัยจันอยู่แล้วนิ จะได้มีเพื่อน” พันไมล์มองมาที่ฉัน นั่นยิ่งทำให้ฉันลำบากใจ ฉันไม่อยากทำให้จันจิเสียงานเสียการนะ แค่ทุกคนต้อนรับฉันอย่างดีขนาดนี้ฉันก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้ฉันก็เกรงใจจะแย่แล้ว” “เกรงใจอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น” พันไมล์พูดขัดเสียงขรึม ก่อนหันไปหาจันจิที่ยังยืนอยู่ด้านหลังเขา “ว่าไงยัยตัวแสบ สนใจจะเป็นผู้ช่วยไกอาไหม” “แน่นอนอยู่แล้วสิเฮีย” จันจิตอบอย่างมั่นใจแถมยังวิ่งเข้ามาเกาะแขนฉันอย่างออดอ้อน “ไม่ต้องเกรงใจเลยนะเจ้ ให้จันคอยช่วยเจ้เถอะนะ รับรองว่าจันจะไม่อู้เด็ดขาด” “ไม่จริง ยัยนี่จอมอู้เลยเหอะ” “โหยเฮียอ่า! จันไม่เคยอู้สักหน่อย” จันจิหันไปทำหน้างอใส่พี่ชายตัวเองทันที “ไม่เชื่อถามเจ้เหมยได้เลย จันออกจะขยัน เนอะเจ้เนอะ” “ไมล์ละก็… ชอบแกล้งยัยจันตลอด” เหมยหลินตีแขนพันไมล์เบา ๆ พลางหัวเราะชอบใจก่อนจะหันมาหาฉันอีกครั้ง “เอาตามนี้แหละนะไกอา ให้ยัยจันคอยเป็นผู้ช่วยนั่นแหละ จะได้มีคนคอยแนะนำเมนูต่าง ๆ ในร้านด้วยไง” “…” ฉันนิ่งมองหน้าจันจิที่พยักหน้ากดดันหงึก ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามองร่างสูงด้านหลังเหมยหลิน เขามองฉันด้วยสายตาปกติ แต่มีแววกดดันกลาย ๆ เช่นกัน สุดท้ายฉันก็ต้องถอดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ให้กับความใจอ่อนของตัวเอง “ก็ได้ค่ะ” “เย้! จันได้เป็นผู้ช่วยเจ้ไกอาแล้ว ต่อไปนี้จันก็ไม่เหงาแล้ว ฮิ ๆ” จันจิกอดแขนฉันอย่างดีใจจนออกนอกหน้า ส่งผลให้พี่ชายอย่างพันไมล์อดไม่ได้ที่จะเขกมะเหงก “โอ๊ยเฮีย! จันเจ็บนะ” “ก็ดีใจให้มันน้อย ๆ หน่อย เฮียให้คอยช่วยไกอาทำวิจัยนะ ไม่ใช่ไปชวนกันเล่นซน” “โธ่ จันโตแล้วนะ เล่นซนอะไร ไม่มี๊! เนอะเจ้” แล้วยัยตัวแสบก็หันมายิ้มทะเล้นใส่ฉัน ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม จะผ่านไปกี่ปีเด็กคนนี้ก็ยังน่ารักสดใสไม่เปลี่ยน คิดแล้วก็น่าอิจฉาเธอจัง ฉันละสายตากลับมาสบตากับคนตัวสูงอีกครั้งก่อนจะชะงักรอยยิ้มลง วูบหนึ่งเหมือนฉันเห็นอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้น แต่มันเพียงวูบเดียวเท่านั้นก่อนแววตาของเขาจะแปรเปลี่ยนกลับมาปกติราบเรียบเช่นเดิม “ถ้างั้นเหมยขอตัวก่อนนะไมล์ จะไปสั่งคนจัดห้องใหม่ไว้ให้ไกอาน่ะ” จู่ ๆ เหมยหลินลุกขึ้นยืนส่งผลให้ฉันกับพันไมล์ละสายตาจากกันทันที แต่เดี๋ยวนะ… ห้องใหม่งั้นเหรอ? “เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ฉันคงไม่พักที่นี่” ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก ด้วยเพราะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าจะทำยังไงดี ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ลืมไปสนิทว่าร้านอาหารแห่งนี้มันอยู่คนละย่านกับคอนโดของฉันเลย ถ้าจะให้ไปกลับทุกวันคงต้องลำบากมากแน่ ๆ แต่ถ้าจะให้พักที่นี่ ฉันก็ลำบากใจอยู่ดี… เพราะฉันยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับจินหลงเลยน่ะสิ! “หมายความว่ายังไง ทำไมถึงไม่พักที่นี่” คำถามที่มาพร้อมน้ำเสียงคุกรุ่นแปลก ๆ จนอดไม่ได้ที่จะมองเจ้าของประโยคนั้น พันไมล์มองฉันด้วยแววตาดุดันทั้งที่เมื่อครู่เขายังปกติดีอยู่เลย “…” “เฮียถามทำไมไม่ตอบ” “ใจเย็นก่อนสิไมล์ อย่าดุน้อง” เหมยหลินจับแขนพันไมล์เป็นเชิงปราม ดูเหมือนว่าการเงียบของฉันมันกำลังทำให้เขาไม่พอใจ เหมยหลินหันกลับมามองฉันพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “บอกเหตุผลเจ้ได้ไหมไกอา ทำไมถึงไม่พักที่นี่ล่ะ คอนโดของเธออยู่ไกลจากร้านมากไม่ใช่เหรอ” “คือ…” ฉันเม้มปากอย่างไม่รู้จะตอบยังไงดี ฉันต้องคุยเรื่องนี้กับจินหลงก่อน เพราะตอนนี้เราพักอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้กลับห้องเลยก็เถอะ แต่ฉันก็ต้องบอกกับเขาก่อน หากฉันจะต้องย้ายมาพักที่ร้านจริง ๆ เขาก็ต้องรับรู้ บ้าจริง… ฉันผิดเองที่ไม่รอคุยกับจินหลงให้ชัดเจนก่อนจะมาที่ร้านแบบนี้ ฉันพลาดจริง ๆ เลย ให้ตายสิ! “เอาอย่างนี้นะ ถ้ายังตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจ้จัดห้องไว้ให้ก่อนแล้วกัน ไกอาลองกลับไปคิดทบทวนดูดี ๆ ก่อน ถ้าหากเรามาพักที่นี่ก็ไม่ต้องเดินทางไปกลับไกล ๆ ด้วย ลองกลับไปคิดดูก่อนนะ” เหมยหลินสรุปให้อย่างใจเย็นเมื่อเห็นฉันตอบคำถามเธอไม่ได้ รู้สึกขอบคุณเธอชะมัดที่ช่วยทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดตอนนี้ดีขึ้น “ขอบคุณมากนะคะ ถ้างั้นฉันขอตัวกลับก่อนค่ะ” ฉันเอ่ยขอบคุณจากใจจริงก่อนจะขอตัวกลับ ไม่ได้มองว่าพันไมล์กำลังทำสีหน้าแบบไหน รู้แค่ว่าเวลานี้ฉันอยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด “โอเคจ้ะ กลับบ้านดี ๆ นะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่โทรมาบอกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจนะไกอา ทำใจให้สบาย” เหมยหลินจับไหล่ฉันเบา ๆ เธอใจดีกับฉันมากจริง ๆ เป็นผู้หญิงที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงอยู่เคียงข้างผู้ชายคนนั้นได้…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD