EP.09 [ขอโทษ]

1192 Words
H CONDO ฉันกลับมาถึงห้องด้วยสภาพเหนื่อยล้าที่สุด กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยังคงวางอยู่ตรงโซฟาห้องรับแขก พาสปอร์ตและเอกสารต่าง ๆ ยังวางอยู่บนโต๊ะ ฉันไม่มีเวลาจะเก็บพวกมัน เพราะเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี่เอง พอมาถึงก็แวะเอาของเข้ามาเก็บที่ห้องก่อนจะไปหาพันเก้าที่บ้านนั่นแหละ คอนโดนี้เดิมทีเป็นของเฮียนำทัพ เมื่อก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเฮียเคยอาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนจะแต่งงานกับพันเก้าแล้วย้ายเข้าไปอยู่เรือนหอหรือก็คือบ้านหลังนั้นที่จัดงานวันเกิด ต่อมาพอฉันเรียนจบปริญญาตรี ฉันก็แยกตัวออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เฮียเป็นห่วงจึงยกคอนโดนี้ให้กับฉัน ฉันอยู่ที่นี่ได้สามปีจนเรียนจบปริญญาโท ก่อนย้ายไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ฮ่องกง ฉันเรียนอยู่ที่นั่นได้ปีกว่าแล้ว ก็ไป ๆ มา ๆ ระหว่างฮ่องกงกับเมืองไทยพอสมควร โดยปกติจะกลับมาเดือนละหนึ่งครั้งตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่ แต่พักหลังมานี้ฉันไม่ค่อยได้กลับมาสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่ว่าง… แต่มันมีสาเหตุที่ทำให้กลับไม่ได้ต่างหากล่ะ ติ๊ด ๆ ๆ ๆ เสียงกดรหัสปลดล็อกประตูห้องดังขึ้นสี่ครั้งบ่งบอกว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามา และไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร เพราะนอกจากฉันกับเขาแล้วก็ไม่มีใครรู้รหัสห้องนี้เลย “เพิ่งกลับมาเหรอ” ภาษาจีนคุ้นหูทักเบา ๆ เมื่อร่างสูงเปิดประตูเข้ามาเจอฉัน เขาชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคมกริบเรียบนิ่งจับจ้องมา “อื้อ เพิ่งมาถึงน่ะ แล้วนายล่ะ ทำไมต้องรีบมา…” พรึ่บ! คำพูดทั้งหมดของฉันเงียบหายไปเพราะอ้อมกอดอบอุ่นพุ่งเข้ามาหา วงแขนแกร่งกระชับกอดฉันแนบแน่น ระหว่างเรามีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงหัวใจของกันและกันดังสะท้าน ท่ามกลางความเงียบสงบ ฉันสัมผัสทุกความรู้สึกที่จินหลงส่งมาหาได้ ฉันรับรู้ได้ถึงความคิดถึงและความเสียใจของเขา “ขอโทษ…” มันอาจจะฟังดูบ้า แต่ว่ามันเกิดขึ้นจริง เพียงคำขอโทษสั้น ๆ กับอ้อมกอดแสนอบอุ่นของเขา มันทำลายความเจ็บปวดทั้งหมดของฉันลงได้จริง ๆ หลายครั้งหลายหนที่เรื่องระหว่างเราเป็นแบบนี้ และมันก็จบลงด้วยความรู้สึกนี้เสมอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันรู้… ฉันรู้ว่าสิ่งที่จินหลงทำ เขาทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เขากำลังขาดสติ และฉันก็รู้ว่าคนที่เจ็บปวดเสียใจไม่ใช่แค่ฉันเพียงคนเดียว จินหลงเองก็เจ็บปวดไม่ต่างจากฉัน ฉันผละตัวออกจากร่างสูงก่อนจะคว้าแขนแกร่งขึ้นมาเปิดแขนเสื้อขึ้น ตอนแรกเขาขัดขืนเล็กน้อย พอเห็นสายตาของฉันเขาจึงยอมโดยดี ฉันหลุบตามองผิวขาวที่มีรอยสักมังกรสวยงามพาดผ่านทั้งท่อนแขน ร่องรอยสีม่วงช้ำปรากฏให้เห็นชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดรอยได้ไม่นาน “ทำแบบนี้อีกแล้วนะจิน ทำไมถึงโง่อย่างนี้” ฉันต่อว่าเขาด้วยหัวใจเจ็บปวด ปลายนิ้วแตะลงบนรอยช้ำพวกนั้นแผ่วเบาก่อนช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูง “อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลยนะ” “ไม่ได้” จินหลงตอบจริงจัง น้ำเสียงเขาเจ็บปวดมาก “แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งเลวทรามที่ฉันทำกับเธอ” คราวนี้จินหลงเป็นฝ่ายชักแขนกลับไป เขาแตะคอเสื้อโค้ชของฉันเบา ๆ แล้วแหวกมันออกช้า ๆ จนเสื้อหลุดออกจากร่างกายลงไปกองบนพื้น มือหนาไล้ฝ่ามือจากหัวไหล่มนของฉันลงเรื่อยผ่านรอยช้ำบนท่อนแขนจนกระทั่งหยุดลงตรงข้อมือ สัมผัสอ่อนโยนของเขาสร้างความร้อนวูบวาบให้กับฉันอย่างมาก “ฉันมันสารเลว… ดีแต่ทำร้ายเธอ” “จิน…” ฉันสบตากับจินหลงนิ่ง ความเสียใจฉายชัดอยู่ในแววตาคู่นั้น ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คนที่เจ็บปวดและเสียใจมากที่สุดก็คือตัวเขา เจ็บปวดที่พลั้งมือทำร้ายฉันโดยขาดสติ เสียใจที่เห็นฉันต้องเจ็บเพราะการกระทำของเขา ถามว่าฉันโกรธไหม… ไม่เลย ฉันไม่เคยโกรธเขา เพราะฉันเข้าใจในสิ่งที่จินหลงเป็น เข้าใจดีและยินดีจะยอมรับมาโดยตลอด การที่ฉันร้องไห้มันเป็นเพราะว่าฉันเสียใจ ฉันเสียใจที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ในทุก ๆ ครั้งที่เขามีอาการแบบนั้น ฉันทำได้แค่เพียงกอดเขา แม้จะถูกเขาทำร้ายเสมอก็ตาม แต่ฉันก็ยังฝืนกอดเขาแน่นจนตัวเองต้องบาดเจ็บ มันฟังดูโง่… แต่ที่ฉันทำ ฉันก็แค่อยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของผู้ชายที่ฉันรักบ้างเท่านั้น “หิวไหม กินอะไรมาหรือยัง” ฉันถามเปลี่ยนเรื่องแล้วพาร่างสูงมานั่งที่โซฟา จินหลงเคยมาที่นี่สองสามครั้ง ปกติเขาเป็นคนไม่ชอบการเดินทาง โดยเฉพาะต่างประเทศอย่างประเทศไทย เพราะเขาพูดภาษาไทยไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง ถ้าไม่ติดว่าที่นี่มีฉันอยู่ เขาคงไม่มีความคิดจะมาเหยียบเด็ดขาด “กลับกันเลยไหม” ฉันชะงักเล็กน้อยตอนจินหลงชวนกลับฮ่องกง สีหน้าของเขาจริงจังมาก จุดประสงค์เดียวที่เขามาก็เพราะต้องการพาฉันกลับไปสินะ “ยังกลับไม่ได้” “ทำไม” ฉันถอนใจก่อนจะอธิบาย “ฉันเพิ่งมาถึงเมื่อตอนเย็นเองนะจิน พอมาถึงก็ไปหาพันเก้าเลย บ้านตัวเองยังไม่ได้กลับด้วย ถ้าจู่ ๆ ฉันกลับฮ่องกงตอนนี้ พ่อกับแม่ต้องน้อยใจแน่ ๆ” มันเป็นความจริงทุกอย่าง เมื่อครู่ก่อนฉันจะออกจากบ้านพันเก้า เฮียนำทัพยังย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าลืมแวะเข้าไปหาพ่อกับแม่ด้วย พวกท่านคิดถึงและเป็นห่วงฉันมาก เพราะฉันไม่ได้กลับเมืองไทยมาร่วมสองเดือนแล้ว ถ้าครั้งนี้ฉันกลับมาแล้วไม่แวะเข้าไปหาพวกท่านละก็ มีหวังพวกท่านเป็นฝ่ายบินไปหาฉันที่ฮ่องกงแทนแน่ ๆ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีสำหรับฉันกับจินหลงแน่นอน “แล้วจะกลับเมื่อไหร่” น้ำเสียงเขามีแววคุกรุ่นเล็กน้อย “วันมะรืนแล้วกันนะ นายมีธุระอะไรไหม” คราวนี้จินหลงเงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด ฉันรู้ว่าจินหลงไม่ค่อยว่างนักหรอก เขามีภาระหน้าที่ต้องจัดการเยอะ การละทิ้งหน้าที่ตรงนั้นมาอยู่เมืองไทยกับฉันสองสามวันแบบนี้ เขาอาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังก็เป็นได้ “ไม่มี” “พูดจริงเหรอ” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างไม่เชื่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD