ความห่วงใยจากนายห้าวหาญ

1260 Words
ในคาบเรียนวิชาการงานอาชีพฯตอนบ่ายควบ 2 ชั่วโมง ดูจะเป็นสวรรค์เล็ก ๆ  ของหนุ่ม ๆ  ถึงบทการเกษตรในครัวเรือน ครูให้เด็ก ๆ  แบ่งกลุ่มเพื่อปลูกผักกลุ่มละหนึ่งแปลง แต่ละกลุ่มก็จะมีผู้ชายที่ต้องลงแรงมากเป็นพิเศษเพื่อขุดดินยกแปลง  สาว ๆ ก็จะแบ่งกันไปทำอย่างอื่นผลัดเปลี่ยนช่วยผู้ชายขุดดินบ้างเล็ก ๆ  น้อย ๆ   ในกลุ่มของเดือนเต็มนั้นประกอบด้วยตัวท็อปของห้องเป็นผู้หญิงสามและผู้ชายอีกสอง  แต่ปัญหาก็คือผู้ชายที่ได้มานั้นเป็นผู้ชายทรงสำอางอ้อนแอ้นไปเสียหนึ่ง อีกคนก็เอวบางร่างน้อยเกินกว่าจะมาทำงานหนัก ๆ  แบบนี้ได้ “มึงดูกลุ่มอีเดือนสิมันจะไหวไหม ไอ้นิพนธ์ก็เป็นตุ๊ด ไอ้เกรียงไกรก็เด็กขาดสารอาหาร แค่ยกจอบก็จะหมดแรงตายแล้ว” วิชิตรคู่ขาคนสนิทของห้าวหาญว่าพร้อมกับชี้มือไปที่แปลงผักของเดือนเต็ม   ห้าวหาญมองตามนิ้วของเพื่อนไปก็เห็นเดือนเต็มกำลังออกแรงขุดดินในท่าทางเหยาะ ๆ  แหยะ ๆ  ไม่ทะมัดทะแมง  มันดูขัดหูขัดตาจนเขาต้องตัดสินใจเดินตรงเข้าไปเสนอตัวช่วย “หาไส้เดือนกินหรือไง เขี่ย ๆ เป็นไก่ไม่มีข้าวเปลือกกิน  เอาจอบมานี่” เขาว่าก่อนจะเอื้อมมือไปแย่งจอบจากมือของสาวน้อยที่ยืนหอบอยู่บนแปลงดิน “กลุ่มตัวเองเสร็จแล้วหรือไง  ถึงได้มาเสนอตัวช่วยคนอื่น” ถึงห้าวหาญจะเต็มใจแต่ความเกรงใจมันคือหนึ่งในส่วนประกอบของความเป็นเดือนเต็ม ในเมื่อครูแบ่งกลุ่มแต่ละกลุ่มให้เท่า ๆ กันแล้ว  การที่ห้าวหาญมาช่วยกลุ่มของเธอมันก็เหมือนไปเอาเปรียบสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มของห้าวหาญ “ยังจะมาปากดีขุดเหยาะแหยะแบบนี้ชาติไหนมึงถึงจะได้ปลูกวะอีเดือน ดูนี่!! กูมันแข็งแรงเป็นชายสมชาย ไม่ใช่เป็นตุ๊ดอย่างไอ้นิพนธ์  แล้วก็ไม่ได้ผอมจะขาดใจตายแบบไอ้เกรียงไกรด้วย” ห้าวหาญอวดสรรพคุณตัวเองไปพร้อมกับขุดดินบนแปลง  มีเจ้าของแปลงยืนเอาใจช่วยอยู่ใกล้ ๆ “ไอ้สิงห์  กลุ่มมึงยังไม่เสร็จเลยเสนอหน้าไปช่วยกลุ่มอื่น  มึงกลับมาทำกลุ่มตัวเองเลยนะ” เสียงแววดาวร้องเรียก  มันยิ่งทำให้เดือนเต็มเกรงใจ  เป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ    งานของห้าวหาญยังไม่เสร็จจะมาช่วยเธอแบบนี้ไม่ได้  มือบางเอื้อมไปแย่งจอบจากมือของห้าวหาญมาถือไว้มั่น  ตากลมใสจ้องมองใบหน้าดุดันเชิงขอร้อง  เธอไม่อยากถูกมองว่าเอาเปรียบใคร “กลับไปทำของตัวเองให้เสร็จ แล้วค่อยมาช่วยเรา” “แต่...” “ไม่งั้นเราจะไม่ให้สิงห์ลอกการบ้าน” เมื่อหลังชนฝาเดือนเต็มจำต้องยกไม้ตายเด็ดขึ้นมาขู่  ห้าวหาญได้แต่ถอนหายใจและฮึดฮัดกับตัวเอง  ก่อนจะเดินย้อนกลับไปที่กลุ่มของตัวเอง “เอามา  พวกมึงนี่มันหาแต่เรื่องอู้งาน ใช้แต่กู ๆ” ห้าวหาญโวยลั่นสนั่นแปลงเมื่อมาถึง   มือก็ขุดประชดประชันเพราะเสียอารมณ์ที่ถูกเรียกกลับมา สายตาก็แอบลอบมองอีกคนที่ทำงานแบบนี้ไม่เป็นแน่ “มึงไม่เห็นเหรอว่าอีเดือนมันเลือกแต่คนเก่งเข้ากลุ่ม ไม่ดูสังขาร  ของแบบนี้ฉลาดให้ตายก็ทำไม่ได้หรอก  มันเป็นงานใช้กำลังโว้ย” แววดาวพูดกับคนอื่น ๆ ที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ข้างแปลง    ความจริงแล้วเกณฑ์การเลือกสมาชิกของเดือนเต็มคือความสนิทที่มีต่อกันมากกว่า  ไม่ได้เจาะจงคนเก่งไม่เก่ง  แต่มันดันบังเอิญที่คนเก่งดันอยู่กลุ่มด้วยกัน  และสนิทกันเองก็เท่านั้น  เลยทำให้ถูกมองว่าเลือกแต่คนเก่ง ๆ มาอยู่ด้วยกัน “พูดมากอีแวว มึงลงมาทำบ้างเลย  กูก็เหนื่อยเป็นนะโว้ย” เพราะพูดจาไม่เข้าหู  ทำให้ห้าวหาญหันไปจ้องคนพูดตาเขม็ง แต่ไอ้ครั้นจะ หาเรื่องผู้หญิงมันก็กระไรอยู่  เขาจึงทำได้เพียงโยนงานให้ทำปากจะได้หยุดเห่าเสีย “อะไรล่ะ ทีอีเดือนมึงอยากช่วย ทีกูคนในกลุ่มมึงไม่ช่วย” “ก็อีเดือนมันไม่ได้อ้วนเป็นช้างน้ำเหมือนมึง ขยับตัวบ้างเถอะเดี๋ยวไขมันจะไปอุดตันเส้นเลือดตาย” สุดท้ายห้าวหาญก็บังคับแววดาวให้ลุกขึ้นไปทำงานได้สำเร็จ  ส่วนตัวเองก็นั่งพักที่ข้างแปลงเพราะเหนื่อยล้าเต็มที   “เฮ้ย!!! เดือนโดนจอบสับตีน” “เลือดเต็มเลย!!!” “พาไปห้องพยาบาลเร็ว” เสียงเพื่อน ๆ  โหวกเหวกโวยวายแล้ววิ่งกรูกันเข้าไปมุงดูเดือนเต็มที่ล้มฟุบอยู่กับพื้น  เท้าข้างหนึ่งเป็นแผลจากการถูกจอมสับเข้าอย่างแรงจนเลือดไหลอาบ เด็กชายหญิงทุกคนยังตกใจและพากันมุงดูโดยไม่รู้จะช่วยยังไง “ถอย!! หลบดิ!! มุงอะไรกันวะ หลบ!!” เมื่อได้ยินแบบนั้นห้าวหาญก็ตรงเข้าไปกลางวงทันที  เขาทั้งผลักทั้งดันฝูงเพื่อนที่มุงดูออกเพื่อจะเข้าไปให้ถึงตัวเดือนเต็ม  ทันทีที่เห็นเดือนเต็มนั่งร้องไห้เอามือพยายามจะจับที่แผล ใจนักเลงก็ชาวาบปานจะขาดใจตาม “ไปเอาน้ำมาราดก่อน” เขาเริ่มออกคำสั่งแต่ดูเพื่อน ๆ  จะยังงุนงง ไม่มีใครขยับไปไหน  “กูบอกให้ไปเอาน้ำมาล้างแผลอีเดือนไง ใครก็ได้!  เอาน้ำสะอาดนะ!!”  ห้าวหาญเริ่มเสียงดังขึ้นเมื่อยังไม่มีใครขยับไปไหน  เกียงไกรกวาดสายตามองหาน้ำสะอาด ก่อนที่สายตาจะไปบรรจบที่กระติกน้ำ เด็กชายรีบวิ่งไปหากระติกน้ำอย่างเร็วไวกลัวว่าคนที่ส่งเสียงจะต่อว่ากว่านี้ “ระ ..ราดตรงไหน” เกรียงไกรถือกระติกน้ำเอ่ยถามด้วยความหวาดกลัว เพราะเห็น หน้าที่ดูเคร่งขรึมกับสรรพคุณที่รู้ดีกันในห้องของห้าวหาญ  เกิดทำผิดใจเขาขึ้นมาอาจจะเบ้าตาเขียวเอาง่าย ๆ “เอามานี่!! กูทำเอง” ห้าวหาญรับน้ำจากมือเพื่อนมาค่อย ๆ  ราดลงบนแผลของเดือนเต็มอย่างระมัดระวัง  แต่ด้วยแดดยามบ่ายที่ร้อนระอุทำให้เลือดยังคงไหลนองออกมาไม่หยุด  ห้าวหาญตัดสินใจอุ้มเอาร่าง บางของเพื่อนมาหลบแดดที่ใต้ร่มไม้ใกล้ ๆ    ก่อนจะถอดเอาเสื้อนักเรียนตัวเองไปพันที่แผลเพื่อซับเลือด “ทะ...ทำอะไรน่ะ” เดือนเต็มร้องถาม “พันแผลมึงไง  เดี๋ยวเลือดก็ไหลหมดตัว แดดเปรี้ยง ๆ  แบบนี้” “จะบ้าเหรอ นั่นมันเสื้อนักเรียนนะ” “จะเสื้ออะไรก็ช่างมันเถอะพันไปก่อน  เฮ้ยใครก็ได้พยุงอีเดือนขี่หลังกูที  กูจะพามันไปห้องพยาบาล” หลังจากจัดการพันแผลเรียบร้อยแล้ว  ห้าวหาญก็หันไปสั่งเพื่อนให้ช่วยประคองเดือนเต็มขึ้นขี่ที่หลังของเขา “เดือนตัวหนัก...” เสียงบอกเมื่อร่างกายอยู่บนน้ำหนักหลังของห้าวหาญแล้ว “กูยกไหว เห็นอย่างนี้...กูเคยรับจ้างแบกกระสอบข้าวมาแล้วนะ” เดือนเต็มรู้สึกเกรงใจเหลือเกิน อุตส่าห์จะทำงานด้วยตัวเองแท้ ๆ  กลับกลายเป็นทำคนอื่นวุ่นวายไปหมด  และยังต้องมาเดือดร้อนห้าวหาญอีกแล้ว  ลำพังแค่ซ้อนจักรยานกลับบ้านด้วยทุกวันก็เกรงใจจนไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD