เสน่ห์มารยาบนรถโดยสาร

1236 Words
นางพญาแห่งหมู่บ้านริมผา ตอน เสน่ห์มารยาบนรถโดยสาร รุ่งอรุณวันใหม่มาเยือนพร้อมกับความสดใสของท้องฟ้าสีคราม นกกาบินออกหากินส่งเสียงร้องรับกันเป็นทอดๆ สร้อย นางพญาแห่งผาหมอกตื่นแต่เช้าตรู่ แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดที่สวยที่สุดเท่าที่มี เธอสวมผ้าซิ่นไหมมัดหมี่สีกลีบบัวรัดรูป อวดสะโพกผายที่เด้งงอนงาม เสื้อลูกไม้สีขาวคอวีลึกรัดติ้วจนกระดุมแทบปริ เผยเนินเนื้อขาวผ่องล่อตาล่อใจ ผมยาวสลวยถูกเกล้าเป็นมวยต่ำปักปิ่นเงินพู่งาม สะพายกระเป๋าหนังใบเก๋ เดินนวยนาดนำหน้าขบวนลงจากเรือน ตามหลังมาด้วยขบวนทาสรักวัยดึก ลุงมิ่ง ลุงคง และปู่เสือ ที่วันนี้สภาพดูโรยรากว่าปกติ แต่แววตาเปี่ยมด้วยความหวัง ทั้งสามคนช่วยกันแบกหามตะกร้าไม้ไผ่สานใบเขื่อง ภายในบรรจุเนื้อหมีรมควัน หนังหมีฟอก และกระดูกหมีที่แล่เสร็จเมื่อคืน น้ำหนักของมันไม่ใช่น้อยๆ เล่นเอาชายแก่ทั้งสามหลังแอ่น ขาสั่นพั่บๆ เหงื่อท่วมตัว แต่พอมองไปเห็นก้นงอนๆ ของสร้อยที่บิดส่ายอยู่ข้างหน้า พวกแกก็กัดฟันสู้ หวังลึกๆ ว่าความดีความชอบครั้งนี้จะแลกมาด้วย รางวัลเหมือนที่สองพ่อลูกนายพรานได้รับ "เร็วๆ เข้าจ้ะปู่... เดี๋ยวไม่ทันรถเที่ยวเช้า" สร้อยหันมาเร่งเสียงใส ขบวนของสร้อยเดินลัดเลาะลงจากเทือกเขา ผ่านทางเดินลูกรังสีแดงฝุ่นคลุ้ง มานั่งรอที่ศาลามุงสังกะสีเก่าๆ ตรงตีนเขา ไม่นานนัก รถบรรทุกหกล้อดัดแปลงเป็นรถโดยสารประจำทางหน้าตาโบราณ สีถลอกปอกเปิก ก็วิ่งโขยกเขยกพ่นควันดำเข้ามาจอดเทียบท่า "น้าเชิด" คนขับรถวัยกลางคน รูปร่างสันทัด ผิวเกรียมแดด ไว้หนวดเขี้ยวโง้ง หน้าตาดุดัน ชะโงกหน้าออกมามองผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ สร้อยส่งยิ้มหวานหยดให้คนขับ ก่อนจะสั่งการให้สามผู้เฒ่าขนของขึ้นไปไว้บนหลังคารถ แล้วพาตัวเองขึ้นไปนั่งสง่าผ่าเผยบนเบาะยาวในห้องโดยสาร รถเคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้าน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวเลียบหน้าผาสูงชัน ทิวทัศน์สองข้างทางเปลี่ยนจากป่าทึบเขียวขจีและภูเขาสูงเสียดฟ้า ค่อยๆ กลายเป็นทุ่งนาสีทองและบ้านเรือนที่หนาตาขึ้น ลมแรงพัดตีหน้า ผมเผ้าของสร้อยปลิวไสว แต่เธอกลับดูเจิดจรัสท่ามกลางฝุ่นดิน เมื่อเข้าสู่ตัวเมือง ความเจริญที่ต่างจากบ้านป่าปรากฏแก่สายตา ตึกแถวร้านค้า ตลาดสดที่จอแจไปด้วยผู้คน รถราขวักไขว่ สร้อยสั่งให้จอดที่ตลาดค้าของป่า เธอเจรจาขายชิ้นส่วนหมีควายให้กับพ่อค้าคนไทยเชื้อสายจีนได้ราคางามเป็นกอบเป็นกำ ธนบัตรปึกหนาถูกยัดใส่กระเป๋าสะพายจนตุง "รวยแล้วพวกเรา!" สร้อยหัวเราะร่า อย่างอารมณ์ดี จากนั้นมหกรรมการช้อปปิ้งของนางพญาก็เริ่มขึ้น สร้อยเดินนำลิ่วเข้าตลาดผ้าและร้านทอง ซื้อเสื้อผ้าแพรพรรณเนื้อดี เครื่องประดับวูบวาบ และของใช้ฟุ่มเฟือยมากมาย โดยมีสามผู้เฒ่าเดินลิ้นห้อย หอบหิ้วถุงพะรุงพะรังตามหลังต้อยๆ ราวกับข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ "ปู่จ๋า... สร้อยอยากไปไหว้พระที่ วัดพระธาตุทองคำ จังเลยจ้ะ เขาว่าศักดิ์สิทธิ์นัก ขออะไรก็ได้สมหวัง" สร้อยเปรยขึ้นเมื่อซื้อของจนพอใจ "แต่... มันอยู่อีกอำเภอนะแม่สร้อย รถโดยสารเขาไม่ไปส่งหรอก" ลุงมิ่งแย้งเสียงอ่อย "ไม่ลองไม่รู้นี่จ๊ะ" สร้อยยิ้มมุมปาก เธอเดินตรงไปที่รถหกล้อที่จอดรอผู้โดยสารกลับหมู่บ้าน น้าเชิดคนขับกำลังนั่งสูบบุหรี่รอเวลาออกรถอยู่หน้ารถ "น้าเชิดจ๋า..." สร้อยเรียกเสียงหวาน "พาพวกสร้อยไปวัดพระธาตุหน่อยได้ไหมจ๊ะ สร้อยอยากไปทำบุญ" น้าเชิดพ่นควันบุหรี่ หันมามองหน้าสวยๆ ของสร้อย แล้วส่ายหัวดิก "ไม่ได้หรอกแม่คุณ มันนอกเส้นทาง ไกลด้วย ข้าต้องรีบกลับไปส่งคนอื่น เดี๋ยวค่ำมืดจะขับลำบาก" สร้อยไม่ละความพยายาม เธอกวาดตามองไปด้านหลัง ชาวบ้านคนอื่นๆ และสามผู้เฒ่านั่งสลอนกันอยู่เต็มกระบะหลัง ไม่มีใครเห็นมุมหน้ารถ สร้อยตัดสินใจเปิดประตูฝั่งคนนั่งคู่คนขับ แล้วก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้างน้าเชิดทันที กลิ่นน้ำอบและกลิ่นกายสาวหอมฟุ้งตลบอบอวลในห้องคนขับแคบๆ "น้าเชิด..." สร้อยกระซิบเสียงกระเส่า ขยับตัวเบียดเสียดสีกับต้นแขนของคนขับ "ไปส่งสร้อยหน่อยนะจ๊ะ... สร้อยไม่ให้ไปฟรีๆ หรอกนะ" "จะให้เท่าไหร่ล่ะ ค่าน้ำมันมันแพงนะ" น้าเชิดถามเสียงแข็ง พยายามไม่มองหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมา "ไม่คิดเป็นเงินได้ไหมจ๊ะ... คิดเป็น... อย่างอื่น" มือเรียวนุ่มนิ่มของสร้อยวางแหมะลงบนหน้าขาของน้าเชิด แล้วค่อยๆ ลูบไล้ขึ้นสูง ผ่านเนื้อผ้ากางเกงยีนส์เก่าๆ จนไปหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงที่เริ่มมีการเคลื่อนไหว น้าเชิดสะดุ้งเฮือก หันขวับมามองหน้าสร้อย "เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวคนข้างหลังเห็น" "ไม่เห็นหรอกจ้ะ... กระจกหลังมันมัวจะตาย" สร้อยยิ้มยั่ว เธอปลดซิปกางเกงของน้าเชิดลงอย่างชำนาญ แล้วล้วงมือเข้าไปควักเอาท่อนเนื้อที่แข็งขึงสู้มือออกมา "โอ้โห... ของน้าเชิดนี่... ใหญ่โตมโหฬารสมกับขับรถใหญ่จริงๆ" สร้อยแกล้งชม พลางใช้มือกำรอบแท่งเอ็นที่ร้อนผ่าว เริ่มรูดขึ้นลงช้าๆ "ซี๊ดดด... แม่สร้อย... อย่า... ข้าเสียว..." น้าเชิดครางลอดไรฟัน มือเกร็งกำพวงมาลัยแน่น เหงื่อกาฬแตกพลั่ก สร้อยเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้น นิ้วโป้งบดขยี้ส่วนหัวหยักที่เริ่มมีน้ำใสๆ ซึมออกมา เธอโน้มตัวเข้าไปใกล้จนหน้าอกเบียดกับแขนของเขา ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดต้นคอ "พาไปหน่อยนะจ๊ะ... นะ... เดี๋ยวระหว่างทาง สร้อยจะบริการให้ถึงใจเลย" น้าเชิดทนไม่ไหว ความเสียวซ่านที่สร้อยมอบให้มันรุนแรงเกินต้านทาน ภาพจินตนาการที่จะได้แอ้มแม่ม่ายเนื้อหอมทำให้สติกระเจิดกระเจิง "อูยยย... เร็วอีกสร้อย... เร็วอีก... ข้าจะออกแล้ว!" สร้อยรูดมือรัวเร็ว บีบเน้นๆ ที่โคนลำ น้าเชิดเกร็งกระตุก ร้องคำรามในลำคอ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักขาวขุ่นพุ่งกระฉูดออกมาเต็มมือนุ่มของสร้อย เลอะเทอะเปรอะเปื้อนกางเกงและเบาะรถ สร้อยไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดให้อย่างเบามือ แล้วเงยหน้าสบตาคนขับรถที่กำลังนอนหมดแรงพิงเบาะ "ตกลง... ไปวัดพระธาตุนะจ๊ะน้าเชิด" น้าเชิดหอบหายใจ พยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย เหมือนวัวที่ถูกสนตะพาย "ไป... ไปจ้ะ... ไปไหนข้าก็พาไปทั้นนั้นแหละแม่คุณ" สร้อยยิ้มกว้าง หันไปตะโกนบอกคนข้างหลังผ่านช่องหน้าต่าง "ทุกคนจ๊ะ! น้าเชิดใจดีจะพาเราไปไหว้พระธาตุ เอาฤกษ์เอาชัยก่อนกลับบ้านนะจ๊ะ!" เสียงโห่ร้องดีใจดังมาจากกระบะหลัง โดยไม่มีใครรู้เลยว่า "ค่าโดยสาร" พิเศษที่สร้อยเพิ่งจ่ายไปนั้น มันเร่าร้อนและถึงใจคนขับรถขนาดไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD