นางพญาแห่งหมู่บ้านริมผา
ตอน พรานไพรและว่านราคะ
แดดสายทอแสงลอดแมกไม้เขียวขจีในป่าใหญ่ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วสลับกับเสียงธารน้ำไหลเอื่อยๆ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าดิบชื้นท้ายหมู่บ้านผาหมอก อากาศที่นี่สดชื่นเย็นสบาย กลิ่นดินกลิ่นหญ้าหอมฟุ้งไปทั่ว หมอกจางๆ ยังคงลอยอ้อยอิ่งเหนือยอดไม้สูงใหญ่ เฟิร์นยักษ์เขียวขจีขึ้นแซมตามโขดหินมอสสีเขียวเข้ม ดอกไม้ป่าสีสันสดใสแข่งกันชูช่อล้อลม
สร้อย ในชุดเดินป่าแบบฉบับนางพญาบ้านนอก สวมกางเกงขายาวสีเข้มรัดรูปเน้นสะโพกผาย กับเสื้อแขนยาวลายพรางที่ปลดกระดุมลงมาลึกจนเกือบเห็นเนินอกอวบอิ่ม ผ้าโพกหัวสีแดงสดขับผิวขาวผ่องให้ดูโดดเด่นท่ามกลางสีเขียวของป่า เธอไม่ได้มาหาของป่าธรรมดา แต่เธอกำลังตามหา "ว่านวิเศษ"
ตำนานหมู่บ้านเล่าขานถึง "ว่านกันลูก" ที่กินแล้วจะช่วยคุมกำเนิดได้ชะงัดนัก และ "ว่านสาวหลง" หรือ "ว่านนางพญา" ที่สรรพคุณลือเลื่องว่ากินแล้วผิวพรรณจะเปล่งปลั่ง เต้านมคัดตึง อวบอิ่มมีน้ำมีนวลราวกับสาวแรกรุ่น สร้อยต้องการทั้งสองอย่าง เพื่อความสนุกและความงามที่เป็นอาวุธร้ายกาจของเธอ
เธอรู้ดีว่าการเดินป่าลึกคนเดียวอันตราย จึงมาดักรออยู่ที่ทางเข้าป่า รอคอย "ม้าอารี" ที่จะพาเธอไปสู่จุดหมาย
ไม่นานนัก ร่างสูงโปร่งของ "พรานโชติ" ชายวัยกลางคนผู้ช่ำชองป่า และ "ไอ้ชิด" ลูกชายวัยรุ่นหนุ่มแน่นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ก็เดินสะพายปืนยาวออกมาจากแนวป่า ทั้งคู่กำลังจะเข้าป่าลึกเพื่อล่าเก้งล่ากวาง
"อุ๊ย... พรานโชติ ชิด..." สร้อยแสร้งทำเสียงตกใจเล็กน้อย ก่อนจะส่งยิ้มหวานหยดไปให้ "จะเข้าป่ากันเหรอจ๊ะ"
"อ้าว น้าสร้อย" ไอ้ชิดทักทาย สายตาหนุ่มกลัดมันกวาดมองเรือนร่างอวบอัดของสร้อยอย่างไม่ปิดบัง "มาทำอะไรแถวนี้คนเดียวครับ เดี๋ยวเสือคาบไปกินนะ"
"ปากหวานจริงพ่อคุณ" สร้อยหัวเราะคิกคัก เดินเข้าไปใกล้สองพ่อลูกจนกลิ่นกายหอมกรุ่นแตะจมูกพวกเขา "สร้อยอยากได้ว่านยาน่ะจ้ะ ได้ยินว่าแถวหุบเขาพญาไฟมีเยอะ แต่สร้อยไม่กล้าไปคนเดียว... กลัวผี กลัวสาง"
เธอพูดพลางขยับตัวเบียดเข้าหาพรานโชติ มือเรียวขาววางแหมะลงบนท่อนแขนกร้านแดดของเขา ลูบไล้เบาๆ "พี่โชติจ๋า... พา สร้อย ไปหน่อยได้ไหมจ๊ะ สร้อยสัญญาว่า... จะตอบแทนให้อย่างงาม"
พรานโชติกลืนน้ำลายดังเอือก สายตาจ้องลึกเข้าไปในร่องอกขาวๆ ที่โผล่พ้นเสื้อลายพราง "เอ่อ... แต่ข้าจะไปล่าสัตว์นะสร้อย มันคนละทางกัน"
"โถ่... สัตว์มันไม่หนีไปไหนหรอกจ้ะ แต่ความสวยของสร้อยสิ... ถ้าไม่ได้ว่านยา เดี๋ยวเหี่ยวแห้งหมดนะ" สร้อยบิดตัวไปมา หน้าอกหน้าใจกระเพื่อมไหว "นะจ๊ะ... นะ... ถือว่าช่วยสงเคราะห์แม่ม่ายผัวตาย... ให้มีแรงสู้ชีวิตหน่อยเถอะ"
ไอ้ชิดมองพ่อตาปริบๆ เขาเองก็อยาก "ช่วย" น้าสร้อยใจจะขาด "พ่อ... ไปส่งน้าสร้อยก่อนก็ได้มั้ง สัตว์ค่อยล่าวันหลังก็ได้"
พรานโชติมองลูกชายแล้วหันกลับมามองสร้อยที่ส่งสายตาเว้าวอน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ พ่ายแพ้ต่อมารยาหญิง "เออๆ ก็ได้วะ ไปก็ไป แต่ต้องรีบนะ เดี๋ยวค่ำมืดจะอันตราย"
สร้อยยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ "ขอบคุณจ้ะพี่โชติ ชิดด้วยนะจ๊ะ... รับรองว่าสร้อยไม่ให้เสียเที่ยวเปล่าแน่นอน"
ทั้งสามออกเดินลัดเลาะไปตามทางเดินป่าที่คดเคี้ยว สร้อยจงใจเดินนำหน้า บิดสะโพกผายโยกย้ายไปมา ยั่วยวนสองพ่อลูกที่เดินตามหลังอย่างไม่ลดละ บางจังหวะที่ต้องข้ามขอนไม้หรือปีนโขดหิน เธอก็แกล้งทำท่าจะล้ม เพื่อให้สองหนุ่มต้องเข้ามาประคอง สัมผัสเนื้อตัวนุ่มนิ่มให้ไฟราคะในใจลุกโชน
เมื่อถึงลำธารใสสะอาดกลางป่า ที่ซึ่งมีกอว่านขึ้นหนาแน่น สร้อยหยุดเดิน หันกลับมาหาพรานโชติและชิด
"ถึงแล้วจ้ะ... ร้อนจังเลย ขอสร้อยล้างหน้าล้างตาหน่อยนะ"
สร้อยเดินลงไปในลำธาร น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา เธอวักน้ำลูบหน้า แล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อลายพรางออกทีละเม็ด... ทีละเม็ด...
"พี่โชติ... ชิด... มาช่วยสร้อยหาว่านหน่อยสิจ๊ะ... แล้วเดี๋ยวสร้อยจะให้รางวัล..."
เธอหันมาส่งสายตาเชื้อเชิญ เสื้อเชิ้ตหลุดร่วงลงน้ำ เผยให้เห็นเนินเนื้อขาวผ่องและยอดถันสีชมพูที่ชูชันท้าทายสายตาพรานป่าทั้งสอง ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม กลิ่นอายของตัณหากำลังจะเข้าครอบงำป่าใหญ่แห่งนี้