เรนเดียร์ เจ้าสาววัยสิบแปดปีนั่งก้มหน้าเงียบกริบอยู่บนเตียงนอนที่มีกลีบกุหลาบสีแดงสดโรยเป็นรูปหัวใจสองดวงคู่กันบริเวณปลายเตียง ในขณะที่พันแสง เจ้าบ่าววัยสามสิบปีกำลังยืนถอดเสื้อสูทและเนกไทน์อยู่ที่หน้ากระจกแบบตั้งพื้นบานสูง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเรียบเฉยจนเจ้าสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าบีบมือตัวเองด้วยความประหม่าไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“เป็นอะไร ไม่พูดกับพี่สักคำตั้งแต่ในงานเลี้ยงแล้ว” เจ้าบ่าวถามพลางเดินมานั่งข้างเจ้าสาวที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงสองสัปดาห์แต่ก็ต้องมาแต่งงานกันด้วยเหตุผลบางประการ
“เดียร์ทำตัวไม่ถูก” เรนเดียร์ตอบเสียงเบาหวิว
“งั้นก็นอนเฉยๆ พี่ทำเอง” พันแสงก้มหน้าเข้าหาเรียวปากที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีหวานหมายจะจูบ ทว่าหญิงสาวเอียงหน้าหลบแล้วเดินหนีไปยืนชิดริมหน้าต่าง เขาเดินตามไปสวมกอดเธอจากทางด้านหลังแล้วพรมจูบไปทั่วลาดไหล่ขาวเนียนที่อยู่เหนือขอบชุดแต่งงานแบบเกาะอกสีขาวบริสุทธิ์พลางกระซิบเตือนเสียงทุ้มน่าฟัง “คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ เราต้องทำตามธรรมเนียมนะ”
“เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไงคะ ในเมื่อเราไม่ได้รักกัน”
“เซ็กซ์กับความรักมันคนละเรื่องกัน ไม่ต้องรักกันก็มีเซ็กซ์กันได้”
เรนเดียร์รู้สึกจุกอยู่ในอกจนพูดอะไรไม่ออก นี่คงเป็นความต่างทางความคิดระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายสามารถมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนไหนก็ได้โดยไม่ต้องรู้สึกรัก ตรงกันข้ามกับผู้หญิงอย่างเธอที่ปรารถนาจะมอบกายและใจให้กับชายผู้เป็นรักแท้เพียงคนเดียวเท่านั้น
“อย่าคิดมากสิ ไหนๆ เราก็แต่งงานกันแล้ว มาหาความสุขกันดีกว่า” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ระบายจูบไปทั่วแผ่นหลังเปลือยของเจ้าสาว ความร้อนผ่าวจากริมฝีปากและความอุ่นชื้นจากปลายลิ้นที่แตะลงบนผิวกายแต่ละครั้งทำให้ร่างบางสั่นสะท้านแทบยืนไม่อยู่
“อย่าค่ะ” เรนเดียร์วิงวอนเสียงแผ่วหวิวเมื่อมือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนจากเอวขึ้นมานวดคลึงที่ทรวงอกของเธอ
“หันหน้ามาให้จูบหน่อย” พันแสงจับร่างเล็กให้หมุนตัวหันหน้าเข้าหากันแล้วแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่ม
เรนเดียร์เม้มปากแน่นทันทีด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะต่อต้านหรือถอยหนี กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ปะปนอยู่ใน ลม-หายใจของเขาทำให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาเมาไม่น้อย แน่ละเขาเล่นชนแก้วกับเพื่อนๆ จนแทบไม่มีเวลาสนใจเธอเลย โชคดีที่พิมพ์ผกา ผู้เป็นมารดาของเขาคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด จึงทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไปนัก
“กลัวพี่เหรอ”
“เปล่าค่ะ” เจ้าสาวตอบเสียงเบาพลางหลุบตามองปลาย-เท้าตัวเอง ไม่กล้าประสานสายตากับผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
“งั้นก็ไม่ต้องเกร็ง แล้วมามีความสุขด้วยกัน” เขาบอกพลางถอดชุดเจ้าสาวออกจากร่างบอบบางจนเหลือเพียงชุดชั้นใน รูปร่างของเรนเดียร์จัดว่าสมบูรณ์แบบมาก เธอสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หน้าอกกลมกลึงขนาดพอดีมือ เอวคอดรับกับสะโพกโค้งมน ขาเรียวสวยปราศจากไขมันส่วนเกิน
เรนเดียร์เงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูงเพื่อจะต่อรองขอเวลาทำใจสักครู่แต่เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้เขากดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มได้อย่างสะดวก หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาแทรกลิ้นเข้ามาไล้วนบนลิ้นนุ่มของเธอ ความร้อนวูบวาบแปลกประหลาดก็วิ่งวนไปทั่วช่องท้อง เธอหลุดเสียงครางแผ่ว-หวิวเมื่อปลายลิ้นถูกดูดดึงอย่างลึกซึ้ง ความประหม่าที่มีในตอนแรกถูกแทนที่ด้วยความวาบหวาม ความต้องการจากส่วนลึกตื่นเพริดไปกับการปลุกเร้าของคนเจนจัด
จูบของพันแสงเร่าร้อนยิ่งขึ้นเมื่อได้รับการตอบสนองอย่างเต็มอกเต็มใจ เขาดันตัวเจ้าสาวให้ก้าวถอยหลังไปที่เตียงทีละก้าวอย่างเชื่องช้าแล้วประคองร่างเล็กให้นอนราบลงบนที่นอนนุ่ม จากนั้นจึงถอดชุดชั้นในของเธอออก ตามด้วยการจัดการตัวเองจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า
“พร้อมมั้ย” เขาถามพลางแนบตัวตนอันแข็งขึงซึ่งสวมเครื่องป้องกันเรียบร้อยแล้วลงบนเนินเนื้อนุ่มของคนใต้ร่าง
“จะเจ็บมั้ยคะ” เรนเดียร์จะขยับตัวหนีแต่มือหนาคว้าหมับเข้าที่สะโพกทั้งสองข้างเพื่อตรึงเธอให้อยู่กับที่
“อาจจะเจ็บนิดหน่อย ถ้าไม่ไหวก็บอก” พันแสงบอกพลางเสียดแทรกตัวตนอันแข็งขึ้งเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่ม โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก่อนที่จะได้ส่งเสียงใดๆ ออกมาก็ถูกจูบปิดปากเสียก่อน
ในขณะที่ปากจูบปลอบ มือก็นวดคลึงทรวงอกอวบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บเบื้องล่างให้เธอไปด้วย เขาอาศัยช่วงที่เรนเดียร์กำลังเพลินอยู่กับการถูกเล้าโลมผลักดันตัวตนเข้าไปจนสุดความยาวในจังหวะเดียว
“อืม...เดียร์แน่นมาก” ชายหนุ่มบอกเสียงสั่นพร่าขณะฝังกายแนบแน่นอยู่ภายในกายเธอ เขาเริ่มขยับสะโพกเข้าและออกเป็นจังหวะเชื่องช้าเพื่อสร้างความคุ้นชินให้เธอก่อน สักพักพอเธอเริ่มปรับตัวได้ เขาจึงค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด
“เจ็บมั้ย”
“ตอนแรก...เจ็บนิดหน่อย...” ลมหายใจของหญิงสาวขาดห้วงตามจังหวะการเข้าออกแต่ละครั้งของคนถาม “แต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว”
เมื่อได้รับคำตอบที่ทำให้สบายใจ พันแสงจึงเร่งจังหวะให้ถี่กระชั้นขึ้น ทุกจังหวะการถอยออกและดันเข้าของเขาหนักหน่วงและเต็มแน่นจนร่างบางที่เป็นฝ่ายรับแรงอัดรู้สึกเจ็บหน่วงอยู่ภายใน หากแต่เป็นความเจ็บที่แสนหวาน เป็นความทรมานที่ซาบซ่าน
“พี่ซัน เดียร์เป็นอะไรก็ไม่รู้” ลมหายใจของหญิงสาวหอบลึกขาดเป็นห้วง ร่างกายแข็งเกร็งแบบที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร
“ทำตัวตามสบายแล้วปลดปล่อยมันออกมา”
คำพูดที่มาพร้อมกับการเร่งจังหวะให้เร็วและแรงมากขึ้นของพันแสง ทำให้เรนเดียร์ปลดปล่อยตัวเองออกมาอย่างอิสระ
“ครั้งแรกใช่มั้ย” พันแสงถอดถอนแล้วทิ้งตัวลงนอนลืมตามองเพดานห้องรอคำตอบ ทว่าสิ่งที่เขาได้ยินมีเพียงเสียงลมหายใจที่หอบสะท้านของคนตัวเล็ก ในเมื่อเธอไม่ตอบ เขาจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย
เรนเดียร์รู้สึกจุกอยู่ในอกกับคำถามจากคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘สามี’ ทั้งทางพฤตินัยและทางนิตินัย แม้จะเต็มใจมอบร่างกายให้เขา แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสีย ‘ครั้งแรก’ ให้กับผู้ชายที่ไม่เห็นคุณค่าของเธอเลย เขาต้องการเพียงแค่เซ็กซ์ โดยไม่สนใจสักนิด ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร
ก่อนแต่งงาน พิมพ์ผกาบอกว่า ‘แต่งงานกันแล้วเดี๋ยวก็รักกันเอง’ แต่เรนเดียร์มองไม่เห็นทางเลยว่า ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากเซ็กซ์จะก่อให้เกิดรักแท้ได้อย่างไร
พันแสงตื่นขึ้นมาในตอนสายของวันใหม่แต่ภรรยาที่นอนหันหลังให้เขาทั้งคืนไม่ได้นอนอยู่ที่เดิมแล้ว ไม่รู้ว่าเธอตื่นตอนไหน ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาดิจิทัลที่หัวเตียงเห็นว่าเก้าโมงกว่าแล้วจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ เสร็จแล้วรีบลงไปชั้นล่าง เขาเดินตามหาภรรยาไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งแม่บ้านบอกว่าเธออยู่ในห้องครัวเขาคิดไม่ออกเลยว่า หญิงสาวอายุ สิบแปดปี ท่าทางไม่ประสีประสาจะเข้าไปทำอะไรในนั้น
ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตา เมื่อพันแสงแอบย่องเข้าไปในห้องครัวก็คือ เรนเดียร์กำลังตั้งใจวางผักตกแต่งลงบนจานอาหารเมนู Eggs Benedict with smoked salmon มีเบคอนทอดกรอบวางเคียงข้างอยู่ในจานด้วย
ชายหนุ่มยิ้มให้กับความน่ารักของภรรยา ตอนที่แม่ของเขาบอกว่าจะรับสาวนิวยอร์กเกอร์ อายุสิบแปดปีมาอยู่ด้วยแล้วจะยกให้เป็นเจ้าสาวของเขา เขาคิดว่า เธอคงเป็นวัยรุ่นที่เปรี้ยวซ่าก๋ากั่นไม่เบาเพราะเกิดและเติบโตในมหานครที่มีอิสระในการใช้ชีวิตมากขนาดนั้น ทว่าเขาคิดผิด เรนเดียร์เป็นหญิงสาวที่เรียบร้อยและน่ารักมาก ที่สำคัญ เธอยังรักษาพรหมจรรย์ไว้ได้จนถึงเมื่อคืน ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขามาก
“มอร์นิ่ง” พันแสงเข้ามากอดภรรยาจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่
“พี่ซัน!” เรนเดียร์ทั้งตกใจ ทั้งอาย รีบมองซ้ายมองขวากลัวแม่บ้านมาเห็น
“ตื่นมาทำอะไรแต่เช้า” ชายหนุ่มจับคนตัวเล็กในชุดผ้า-กันเปื้อนสีชมพูหวานให้หันหน้าเข้าหากัน
“ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้พี่ซันไงคะ”
“ไม่น่าเชื่อ ว่าเด็กอย่างเดียร์จะทำอาหารเป็นด้วย” ถามแล้วก็อยากตบปากตัวเอง เพราะจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเรนเดียร์ไม่ได้แค่ทำอาหารเป็น แต่ฝีมือระดับมืออาชีพเลยทีเดียว
“เมื่อก่อนพ่อกับแม่เดียร์เปิดร้านอาหารไทยนิวยอร์ก เดียร์ก็ต้องช่วยงานในร้านทุกอย่าง ตั้งแต่ทำอาหาร เสิร์ฟอาหาร คิดเงิน ล้างจาน ทิ้งขยะ” เรนเดียร์เล่าด้วยรอยยิ้มพลางถอดผ้า-กันเปื้อนออกแล้วนำไปแขวนเก็บเข้าที่
“เมื่อคืนนี้พี่รุนแรงกับเดียร์มากเกินไปหรือเปล่า” อยู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“เปล่าค่ะ” ผิวหน้าของเรนเดียร์ร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงคืนวาบหวามครั้งแรกในชีวิตสาวที่เพิ่งผ่านพ้นมา
“แล้วโกรธพี่หรือเปล่า”
“โกรธเรื่องอะไรคะ” ดวงตากลมโตสีคาราเมลมองช้อนขึ้นสบตากับคนตัวสูงอย่างใสซื่อ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร
“เรื่องที่พี่เอาแต่ใจตัวเองกับเดียร์เมื่อคืนนี้ไง
“ไม่ค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าซ่อนความอายแล้วกลั้นใจพูดความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมาอย่างเปิดเผย “เดียร์รู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าคงหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้ไม่ได้ แล้วเมื่อคืนนี้เดียร์ก็...เต็มใจค่ะ”
“ถ้าเต็มใจแล้วร้องไห้ทำไม”
“พี่ซันรู้ด้วยเหรอคะ” เรนเดียร์ถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างคาดไม่ถึง เมื่อคืนนี้หลังจากเสพสุขจากร่างกายเธอจนพอใจแล้ว เขาก็เดินหนีเข้าห้องน้ำ พอออกมาก็นอนหันหลังให้ โดยไม่สนใจไยดีคนที่นอนร่วมเตียงเดียวกันอย่างเธอเลย
“พี่รู้ แต่ที่ไม่ถามตั้งแต่เมื่อคืนก็เพราะรู้ว่า ถามไปเดียร์ก็คงไม่ตอบ” พันแสงจับต้นแขนสองข้างของเธอไว้แล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย “ว่าไง เมื่อคืนนี้ร้องไห้ทำไม”
“เดียร์เจ็บ”
“ตรงนี้” ชายหนุ่มถามพลางเลื่อนมือลงไปสัมผัสจุดอ่อนไหวของเธอผ่านผ้าเนื้อนุ่มของกระโปรงสีหวาน
“ตรงนี้ค่ะ” เรนเดียร์จับมือสามีให้เลื่อนขึ้นมาวางแนบที่หน้าอกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจ หวังให้เขารับรู้ถึงความเจ็บที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ฝ่ามือของพันแสงเย็นวาบลามไปถึงหัวใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนร้องไห้เสียใจหลังจากมีอะไรกับเขาเหมือนเธอ
เขาควรรับมือกับภรรยาอายุสิบแปดปีคนนี้อย่างไรดี
พิมพ์ผกาเดินจากตึกใหญ่ซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกับบ้านของ พันแสงเพื่อมาสอดส่องความเป็นไปของคู่ข้าวใหม่ปลามันว่าจะหวานชื่นกันขนาดไหนหลังจากผ่านคืนเข้าหอกันมาแล้ว แต่ก็ต้องหัวเสียเมื่อรู้ว่า ลูกชายตัวดีรีบวิ่งแจ้นออกไปหาจีน่าทันทีที่นางเอกสาวโทร. มาตามตัว
“หนูเดียร์ปล่อยให้ซันออกไปหาแม่นั่นได้ยังไง หนูก็รู้ว่ามันจ้องจะจับซันอยู่”
“เดียร์จะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามพี่ซันคะคุณแม่”
“สิทธิ์ความเป็นเมียยังไงล่ะ” แม่สามีพูดสวนขึ้นมาทันที “ที่แม่ให้หนูแต่งงานกับซันก็เพราะอยากให้ช่วยเขี่ยผู้หญิงที่ทำตัวเป็นปลิงออกจากชีวิตซัน”
“ถ้าจะให้เดียร์ตามไปอาละวาด เดียร์ทำไม่เป็นหรอกนะคะ”
“แม่ก็ไม่ได้จะให้หนูทำอย่างนั้น”
“ถ้างั้นจะให้เดียร์ทำยังไงคะ”
“หนูเดียร์ก็แค่ทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด ทำให้ซันทั้งรักทั้งหลงหนูให้ได้ แค่นี้ซันก็ไม่ไปติดผู้หญิงอื่นแล้ว เข้าใจใช่มั้ยว่า หน้าที่ภรรยาที่แม่พูดถึงคือเรื่องอะไร”
“เข้าใจค่ะ” ลูกสะใภ้ตอบรับเสียงเบา ใบหน้าร้อนผ่าว
“ไม่ต้องเขินหรอก หนูกับซันแต่งงานกันแล้ว มันเป็นเรื่องปกติของคนเป็นสามีภรรยากัน ว่าแต่เมื่อคืนนี้หนูกับซันมีอะไรกันหรือยัง”
“มีแล้วค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าตอบเสียงเบายิ่งกว่าเดิม
“คิดไว้ไม่มีผิด ปากบอกไม่รักไม่ชอบ แต่ก็จัดตั้งแต่คืนแรก”
คำว่า ‘ไม่รักไม่ชอบ’ ที่หลุดออกจากปากของแม่สามี ทำให้สีหน้าของเรนเดียร์สลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“หนูเดียร์อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนี้สิ ที่แม่ขอให้หนูแต่งงานกับซันก็เพราะแม่รักหนูเหมือนลูกสาวนะ ซันเป็นผู้ชายที่ดี เสียที่เจ้าชู้ไปนิดนึง ถ้าหนูทำให้ซันรักแล้วหยุดอยู่ที่หนูได้ หนูก็จะได้สามีที่ดีมากคนนึงเลยนะ”
เรนเดียร์รับฟังเงียบๆ การเปิดใจรักพันแสงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขาเป็นผู้ชายที่น่ารัก อบอุ่น ใส่ใจ แม้กระทั่งเรื่องที่เธอแอบร้องไห้เมื่อคืนนี้ เธอไม่คิดว่าเขาจะสนใจด้วยซ้ำ แต่เขาก็เก็บเอามาถามในตอนเช้า
“ว่าไงจ๊ะหนูเดียร์ หนูจะทำให้ซันรักหนูได้มั้ย”
“เดียร์จะพยายามค่ะ” ไหนๆ ก็เสียความบริสุทธิ์ให้เขาไปแล้ว เธอก็อยากได้ความรักเป็นการตอบแทนบ้างเหมือนกัน
“ขอบใจหนูมากนะ” พิมพ์ผกากอดลูกสะใภ้ด้วยความรักอย่างจริงใจ “แต่หนูเดียร์ไม่ต้องกังวลนะ ถ้าสุดท้ายแล้วหนูกับซันรักกันไม่ได้ หรือว่าซันไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้แล้วทำให้หนูเสียใจ แม่อนุญาตให้หนูเลิกกับซันได้ ส่วนเรื่องเงินที่แม่เคลียร์หนี้ให้พ่อกับแม่ของหนู แม่ไม่เอาคืน แล้วแม่ก็จะให้เงินหนูอีกก้อนนึงไปตั้งต้นชีวิตใหม่”
“ขอบคุณนะคะคุณแม่ ถ้าคุณแม่ไม่ช่วย ป่านนี้เดียร์คงถูกเจ้าหนี้ของคุณพ่อฆ่าตายตามคุณพ่อกับคุณแม่ไปแล้ว”
“หนูเดียร์เป็นลูกสาวเพื่อนรักของแม่ ยังไงแม่ก็ต้องช่วย แต่การช่วยเหลือของแม่ก็มีเงื่อนไขที่เห็นแก่ตัวมากไปหน่อย หนูไม่ว่าอะไรแม่ใช่มั้ย”
“เดียร์เข้าใจค่ะ เดียร์จะพยายามทำหน้าที่ภรรยาของพี่ซันให้ดีที่สุดเพื่อคุณแม่”
“เพื่อตัวหนูเองต่างหาก ถ้าหนูทำให้ซันรักหนูได้ คนที่จะมีความสุขที่สุดก็คือตัวหนูเองนะ”
“ค่ะคุณแม่”
“จีน่าไปทำงานที่มิลานแค่ไม่กี่วัน กลับมาคุณก็แต่งงานกับเด็กอายุสิบแปดแล้ว ทำแบบนี้เหมือนไม่รักจีน่าเลย” นางเอกสาวชื่อดังทำท่ากระเง้ากระงอด
“คุณก็รู้ว่าระหว่างเรามันไม่เคยมีความรักอยู่แล้ว เราแค่สนุกกันเป็นครั้งคราว” พันแสงพูดอย่างไม่แคร์ “แล้วที่ผมออกมาหาคุณวันนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่า เราต้องจบกันแค่นี้แล้วละ”
“จบเหรอ! หมายความว่ายังไง”
“จบก็คือจบ ไม่เห็นจะเข้าใจยากตรงไหนเลย”
“พอได้ของเล่นใหม่ คุณก็จะเขี่ยจีน่าทิ้งเลยเหรอ”
“เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วนะว่า ‘แค่สนุก...ไม่ผูกมัด’ คุณให้ความสุขผม ผมให้เงินคุณ มันก็วินกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ”
“พูดเหมือนจีน่าเป็นผู้หญิงขายตัว” จีน่าแทบอยากจะลุกขึ้นกรี๊ด
“ถ้าคุณจะคิดอย่างนั้น ผมก็ห้ามคุณไม่ได้” พันแสงหยิบธนบัตรสีเทาปึกหนึ่งออกมาวางตรงหน้าจีน่า “ค่าเสียเวลา”
“แค่หมื่นเดียวเนี่ยนะ!” จีน่ากระแทกเสียงอย่างไม่พอใจหลังจากนับเงินเสร็จ
“ปกติผมให้คุณครั้งละห้าหมื่น แต่วันนี้เราแค่นั่งคุยกันไม่กี่นาที เท่านี้ก็มากเกินพอแล้ว”
“คุณดูถูกจีน่ามากไปแล้วนะ” นางเอกสาวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วจะสาดใส่หน้าพันแสง แต่เขารู้ทันจับข้อมือเธอบิดจนต้องปล่อยแก้วให้ตกแตก
“นี่ไม่ใช่ฉากในละครที่คุณเคยแสดง ผมไม่นั่งโง่ให้คุณสาดไวน์ใส่หน้าหรอกนะ”
จีน่าอยากจะร้องกรี๊ด แต่ในผับมีคนเยอะมาก เธอไม่อยากเป็นข่าว เพราะละครเรื่องใหม่กำลังจะเปิดกล้อง ถ้ามีข่าวฉาวตอนนี้เธออาจจะถูกถอดออกจากบทนางเอกได้ “แต่งงานกับเด็กนั่นแค่วันเดียวก็หลงมันขนาดนี้เลยเหรอ”
“ไม่เกี่ยวกับเดียร์ เป็นเพราะคุณทำตัวเองต่างหาก”
“จีน่าทำอะไร”
“ต้องให้ผมพูดมั้ย ว่าใครบินตามไปหาคุณที่มิลาน แล้วไปทำอะไรกันบ้าง”
นางเอกสาวหน้าถอดสี
“คุณเป็นคนทำผิดกติกาก่อน เพราะฉะนั้น เกมโอเวอร์” พูดจบพันแสงก็เดินออกไปอย่างไม่แยแส สำหรับเขา ผู้หญิงแบบนี้ก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราวเท่านั้น
เที่ยงคืนกว่าแล้วแต่พันแสงยังไม่กลับบ้านทำให้คนเป็นภรรยานอนไม่หลับกระสับกระส่าย พลิกคว่ำพลิกหงายอยู่บนเตียง เธอไม่ได้ร้อนใจที่เขายังไม่กลับ แต่เธอ ‘กลัวผี’ เพราะบ้านทั้งหลังเงียบกริบ คนรับใช้เข้าห้องนอนกันหมดแล้ว และทันใดนั้นเสียงลูกบิดประตูห้องก็ดัง ‘กริ๊ก’ เรนเดียร์ตกใจกรีดร้องเสียงดังลั่นห้องแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง
“กรี๊ด!!!”
“เป็นอะไรเดียร์!?” พันแสงที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามารีบวิ่งไปดูภรรยาที่เตียง
เรนเดียร์ดึงผ้าห่มเปิดหน้าออกมาทีละนิด แล้วหรี่ตามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงเป็นใครก็โล่งอก
“พี่ซัน เดียร์ตกใจหมดเลย นึกว่าผี”
“กลัวผีขนาดนี้เลยเหรอ” พันแสงหัวเราะเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่
เด็กสาวพยักหน้ารับอายๆ “วันหลังพี่ซันอย่ากลับบ้านดึกอย่างนี้อีกนะคะ เดียร์กลัวผี”
ชายหนุ่มขำเสียงดังลั่นห้องอีกครั้ง จะมีภรรยาคนไหนสั่งสามีให้กลับบ้านเร็วๆ เพราะกลัวผีอย่างนี้อีกบ้าง
“วันหลังพี่จะกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดินเลยดีมั้ย” คนเป็นสามีกลั้นขำสุดชีวิต
“ดีค่ะ”
“ถ้าพี่เข้าไปอาบน้ำจะนอนคนเดียวก่อนได้มั้ย”
“ได้ค่ะ แค่รู้ว่าพี่ซันอยู่ในห้องน้ำเดียร์ก็ไม่กลัวแล้ว”
“งั้นพี่ไปอาบน้ำแป๊บนึงเดี๋ยวมานอนด้วย” พันแสงขยี้ผมภรรยาเด็กด้วยความเอ็นดูก่อนจะลุกเดินออกไป
พันแสงหายเข้าไปในห้องน้ำพักใหญ่แล้วออกมาในสภาพที่มีผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่พันรอบเอว ท่อนบนเผยให้เห็นซิกซ์-แพคเป็นลอนแน่นซึ่งมีหยดน้ำเกาะดูเซ็กซี่นิดๆ ชายหนุ่มเช็ดผมที่เพิ่งสระเสร็จใหม่พลางหันไปมองเรนเดียร์ที่นอนอยู่บนเตียง พอสบตากันปุ๊บ เธอก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าทันที
“เมื่อคืนก็เห็นหมดแล้ว ยังจะเขินอีกเหรอ” พันแสงเห็นเมียเด็กเขินก็นึกอยากแกล้ง “เดียร์มาเช็ดผมให้พี่หน่อย”
“ไม่เอา เดียร์ง่วงแล้ว เดียร์จะนอน” หญิงสาวตะโกนตอบจากใต้ผ้าห่ม ให้เช็ดผมให้เขา เธอทำได้ แต่ให้ไปยืนต่อหน้าผู้ชายเปลือยอกโชว์ซิกซ์แพคแน่นขนาดนั้นมันก็เขินนะ
“ช่วยพี่หน่อยนะคร้าบ นะๆ” เขาจงใจใช้น้ำเสียงออด-อ้อนอย่างน่าหมั่นไส้
“พี่ซันแก่แล้วก็เช็ดเองสิคะ”
“แค่นี้ถึงกับต้องด่ากันว่าแก่เลยเหรอ” ชายหนุ่มประท้วงเสียงดัง “ถ้าเดียร์ไม่ทำ พี่จะฟ้องคุณแม่ว่าเดียร์ดื้อ”
“ขี้ฟ้อง” เรนเดียร์เปิดผ้าห่มออกมา เผยให้เห็นใบหน้างอนตุ๊บป่องน่าเอ็นดู
“เร็วเข้า มาเช็ดผมให้พี่หน่อย ไม่งั้นพี่จะโทร. ฟ้องคุณแม่ว่าเดียร์ดื้อ”
“ไปแล้วค่ะ” หญิงสาวรีบเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าสามีซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดึงผ้าขนหนูจากมือเขามาเช็ดผมให้อย่างจำใจ
“นี่ชุดนอนเหรอ?” ชายหนุ่มขำพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อเห็นชุดนอนแบบกระโปรงยาวคลุมเข่าลายเจ้าหญิงเอล-ซ่าของภรรยา
“ค่ะ” หญิงสาวก้มมองชุดนอนของตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นถามอย่างเสียความมั่นใจ “ตลกมากเหรอคะ”
“น่ารักดี” ตอบพลางรั้งร่างบางตรงหน้าให้นั่งคร่อมลงบนตักแล้วกอดเธอไว้หลวมๆ
“พี่ซัน ปล่อยเดียร์ค่ะ” ลมหายใจอบอุ่นซึ่งเป่ารดอยู่ที่ซอกคอทำให้ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว
“โนบราเหรอเนี่ย” เขาถามพลางปัดปลายนิ้วผ่านยอดอกที่ชูชันดันผ้าเนื้อบางของชุดนอนออกมาจนเห็นตุ่มไตชัดเจน ทำเอาเรนเดียร์แทบกรีดร้องให้กับความผิดพลาดของตัวเอง ด้วยความเคยชินที่ไม่ใส่ชุดชั้นในนอน ทำให้ลืมไปว่า เดี๋ยวนี้เธอไม่ได้นอนคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
“อย่าค่ะ” เพียงสัมผัสแผ่วเบาจากเขาก็ทำให้หญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว
พันแสงสอดมือเข้าไปใต้ชายกระโปรงชุดนอน แล้วไต่ไปด้านหลังเพื่อลูบคลำบั้นท้ายกลมกลึง
“ข้างล่างก็ไม่ใส่ แอบเซ็กซี่นะเนี่ย” เขาเงยหน้าขึ้นใช้ปลายจมูกปัดผ่านปลายจมูกของคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตักด้วยความเอ็นดูแล้วมองสบตาเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาร้อนแรง
“พี่ซันอยู่นิ่งๆ สิคะ เดียร์เช็ดผมให้ไม่ถนัด” หญิงสาวแกล้งดุเพื่อข่มความวาบหวิว พลางขยับสะโพกยุกยิกหนีมือซุกซนที่ลูบไล้อยู่บริเวณบั้นท้าย โดยหารู้ไม่ว่า การเคลื่อนไหวของเธอได้ปลุกบางสิ่งที่สงบนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูสีขาวให้ตื่นขึ้นมา