บทที่ 2

3017 Words
“เดียร์...” ชายหนุ่มหลับตากัดกรามแน่นขณะเรียกชื่อภรรยาด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ “คะ” เรนเดียร์ขานรับด้วยน้ำเสียงใสซื่อ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าได้สร้างความปั่นป่วนทรมานใจให้เขาเพียงใด “เจ้าชายน้อยของพี่อยากทักทายเจ้าหญิงเอลซ่า” พันแสงพูดพร้อมกับยกสะโพกของหญิงสาวขึ้นด้วยวงแขนเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ปลดปมผ้าขนหนูแล้วกระชากออก จากนั้นจึงตลบชายกระโปรงชุดนอนขึ้นไปอยู่เหนือสะโพกกลมกลึง ก่อนจะวางเธอลงบนหน้าตักตามเดิม ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเรนเดียร์ตั้งตัวไม่ติด รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเนินเนื้ออ่อนนุ่มใจกลางร่างกายสัมผัสกับความอบอุ่นแข็งขึง “พี่ซัน” หญิงสาวครางชื่อสามีแผ่วเบาด้วยความตกใจระคนวาบหวาม มือที่กำลังเช็ดผมให้เขาชะงักค้าง ผ้าขนหนูผืนเล็กร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น “จะทำอะไรคะ” พันแสงสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปที่หลังท้ายทอยของเธอแล้วโน้มลงมาประกบริมฝีปากจูบนุ่มนวล เขากดย้ำ ขบเม้มไปตามกลีบปากนุ่มอย่างอ่อนโยนก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปไล้วนในโพรงปากเล็กจิ้มลิ้มซึ่งมีรสหวานเย็นซ่าของยาสีฟันที่เพิ่งแปรงเสร็จใหม่ๆ คืนนี้จูบของเขาอ่อนหวานกว่าคืนเข้าหอหลายเท่า คงเพราะต้องการแก้ตัวที่คืนเข้าหอเขาไม่ได้ทะนุถนอมเธอเท่าที่ควร “อื้อ” หญิงสาวยินยอมปล่อยอารมณ์ให้คล้อยตามแบบไม่ขัดเขิน เธอจูบตอบเขาแล้วลองดูดปลายลิ้นของเขาอย่างลึกซึ้งเหมือนที่เขาเคยทำกับเธอ ชายหนุ่มส่งเสียงครางทุ้มต่ำด้วยความซ่านสยิว ความร้อนวูบวาบแล่นดิ่งจากปลายลิ้นไปสุดส่วนปลายอันแข็งขึง พันแสงถอดกระโปรงชุดนอนของเรนเดียร์ออกทางศีรษะ เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มขาวละเอียดตัดกับยอดดอกสีหวาน “หน้าอกเดียร์สวยมาก” เขางับยอดดอกเข้าปากแล้วดูดเบาๆ ส่วนอีกข้างก็ใช้ปลายนิ้วบดคลึงอย่างเพลิดเพลิน หญิงสาวส่งเสียงครางสั่นสะท้านพลางแอ่นหน้าอกเข้าหาปากและมือของเขา ปลายเล็บตัดมนเคลือบสีหวานจิกลึกลงบนไหล่หนาเพื่อระบายความหวามไหว สะโพกกลมกลึงร่อนส่าย บดเบียดความเป็นชายแข็งขึงที่แนบชิดกันอยู่อย่างไร้เดียงสา จนชายหนุ่มแทบแดดิ้น “พี่ทนไม่ไหวแล้วนะเดียร์” พันแสงกัดฟันบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ขณะจับส่วนปลายโค้งมนจรดเข้ากับปากทางชุ่ม-ชื้น แล้วกดสะโพกเธอลงมาให้กลืนกินตัวตนอันแข็งแกร่งของเขาอย่างเชื่องช้า เขาหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อถูกความคับแน่นบีบรัดจนแทบแหลกสลาย หญิงสาวส่งเสียงครางสั่นระริก เมื่อความร้อนระอุเสียดลึกเข้ามาจนสุดความยาว และเมื่อเขาจับสะโพกของเธอหมุนวนเป็นวงกลมก่อให้เกิดการเสียดสีของเนื้อแท้ที่เปิดเปลือยอยู่ภายในความเสียวซ่านก็แล่นวาบไปทั่วร่างกาย “พี่ซัน...อย่าแกล้งเดียร์...” พันแสงแอบยิ้มแล้วขบยอดดอกสีหวานของเธออย่างยั่วเย้า จากนั้นเริ่มดันสะโพกเข้าหาความอ่อนนุ่มที่คร่อมทับอยู่บนหน้าตักเป็นจังหวะเชื่องช้าทว่าหนักแน่น เรนเดียร์ขยับสะโพกขึ้นลงสอดประสานกับสามีเป็นจังหวะเดียวกัน ทำให้การเติมเต็มแต่ละครั้งล้ำลึกมากยิ่งขึ้น “ดีมากเดียร์ อย่างนั้นแหละ” พันแสงครางงึมงำอยู่กับซอกคอหอมละมุนพลางรั้งร่างเล็กเข้าหาตัวอย่างแนบแน่นแล้วเร่งจังหวะการขับควบให้เร็วและแรงขึ้น “ถึงพร้อมกันนะ” “พี่ซัน...อร้าย!” เรนเดียร์กรีดร้องเสียงหวานล้ำพร้อมด้วยการแตกกระจายออกมาเป็นเศษเสี้ยวนับร้อยพัน “เดียร์!” พันแสงเรียกชื่อของคนที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดออกมาแล้วกอดร่างที่อ่อนระทวยอยู่ในวงแขนเอาไว้อย่างแนบแน่น “พี่ซัน” หญิงสาวเรียกชื่อสามีด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับลมหายใจจะปลิดปลิว “เดียร์ใจสั่นเหมือนจะขาดใจเลย” “เดียร์ไม่เป็นไรหรอก แต่พี่กำลังจะตายคาอกเดียร์” เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ‘เมียเด็ก’ จะเร้าใจขนาดนี้ ความจริงเธอก็ไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็เด็กกว่าเขาตั้งสิบสองปี พอคิดมาถึงตรงนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็น ‘โคแก่’ ขึ้นมาทันใด หลายเดือนที่ผ่านมา พันแสงเคยชินกับการที่ตื่นขึ้นมาแล้วมีเรนเดียร์อยู่ในอ้อมกอด ทว่าเช้านี้ตื่นมาแล้วไม่พบร่างนุ่มนิ่มจึงคว้าหมอนที่เธอหนุนนอนมากอดแล้วสูดกลิ่นกายสาวที่ติดอยู่บนปลอกหมอน แต่แล้วก็คิดว่ามีตัวจริงให้กอดอยู่ทั้งคนจะมัวนอนกอดหมอนทำไมจึงรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่าง ชายหนุ่มเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร เห็นภรรยากำลังจัดโต๊ะอยู่ก็เข้าไปกอดเธอจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ “ชื่นใจ” “พี่ซัน! ทำไมชอบทำแบบนี้ เดี๋ยวพี่นิดหน่อยก็มาเห็นหรอก” “เห็นแล้วไง” “เดียร์อาย” “ไม่เห็นต้องอายเลย นิดหน่อยเห็นก็ดี จะได้ไปบอกคุณแม่ว่าเราสองคนเข้ากันได้ดี คุณแม่จะได้สบายใจ” ว่าแล้วก็หอมแก้มนุ่มไปอีกหนึ่งฟอด เขายอมรับแต่โดยดีเลยว่า ตั้งแต่แต่งงานกับเรนเดียร์เขาไม่เคยออกไป ‘หากิน’ นอกบ้านอีกเลย เพราะได้กินภรรยาคนนี้จนอิ่มแปล้ทุกคืน “พอแล้วค่ะพี่ซัน” เรนเดียร์แกะแขนเขาออกจากตัว “รีบทานอาหารเช้าเถอะค่ะ วันนี้มีประชุมสิบโมงนะคะ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก” “มานั่งทานด้วยกันสิ” ชายหนุ่มจับคนตัวเล็กที่สูงเลยไหล่เขาไปนิดเดียวให้นั่งลงบนเก้าอี้ข้างกัน “วันนี้จะออกไปไหนหรือเปล่า” “ไปซื้อของเข้าบ้านกับพี่นิดหน่อยแล้วก็ไปหาคุณแม่ที่บ้าน” “วันๆ ทำแต่งานบ้านกับไปหาคุณแม่ เบื่อมั้ย” เรนเดียร์ชะงักไปนิดหนึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าที่เขาถามนั้นเป็นการตำหนิทางอ้อม ว่าเธอเอาแต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ช่วยทำงานหรือเปล่า “ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่กลัวเหงา เพราะพี่เองก็งานยุ่ง ตั้งแต่แต่งงานกันพี่ยังไม่เคยพาเดียร์ไปเที่ยวที่ไหนเลย” “เบื่อมากค่ะ” เรนเดียร์ตอบไปตามตรง “เอาไว้พี่จะเคลียร์งานแล้วพาไปเที่ยวบ้างก็แล้วกัน” “ขอบคุณค่ะ” ตอบแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง “พี่ซันคะเดียร์มีเรื่องอยากขอ...” หญิงสาววางมือโอบแก้วนมรสช็อกโกแลตท่าทางลังเลใจว่าจะพูดดีหรือไม่ “จะขออะไร เสื้อผ้า กระเป๋าหรือรองเท้า แต่จะว่าไปตั้งแต่อยู่ด้วยกันพี่ยังไม่เคยเห็นเดียร์ซื้อของพวกนี้เลย ใส่แต่เสื้อผ้าชุดเดิมๆ โดยเฉพพาะชุดนอนเจ้าหญิงเอลซ่าใส่บ่อยจนจะเปื่อยอยู่แล้ว” เขาพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เดียร์ไม่ได้อยากได้ของพวกนั้นสักหน่อย” “ถ้างั้นอยากได้อะไร” “ปีหน้าเดียร์ขอกลับไปเรียนต่อได้มั้ยคะ” รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาหายวับไปในพริบตา หลายเดือนที่อยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยา เธอกลายเป็นความเคย-ชินในชีวิตของเขาไปแล้ว พอคิดว่าเธอจะไม่อยู่ เขาก็ยิ่งรู้สึกวูบโหวงในอกอย่างบอกไม่ถูก “ที่นิวยอร์กเหรอ” “ค่ะ” “จะไปกี่ปี” พันแสงถามหน้านิ่ง เสียงเรียบจนทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขากำลังไม่พอใจอยู่ “ถ้าเรียนแค่ปริญญาตรีก็สี่ปี ถ้าต่อโทด้วยก็ประมาณห้าปีครึ่ง ไม่เกินหกปีค่ะ” เรนเดียร์ยกแก้วนมรสช็อกโกแลตในมือขึ้นดื่มเพื่อหลบตาสามี “เรียนที่เมืองไทยก็ได้นี่” “เดียร์สอบเข้ายูที่โน่นได้แล้ว เรียนไปเทอมนึงแล้วด้วย แต่เกิดเรื่องกับคุณพ่อคุณแม่ก็เลยต้องดร็อปแล้วหนีเจ้าหนี้มาเมืองไทย” หญิงสาวตอบสีหน้าเศร้าสร้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับครอบครัว “กลับไปอยู่ที่โน่นจะปลอดภัยจากพวกมันเหรอ” “คุณแม่เคลียร์หนี้ให้เดียร์หมดแล้ว พวกมันไม่มายุ่งกับเดียร์แล้วละค่ะ” “แล้วอยู่คนเดียวจะดูแลตัวเองได้มั้ย” “ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับเสียงสดใสอย่างมีความหวังว่าเขาจะอนุญาตให้ไป “พี่ว่าไม่ได้” “เดียร์ดูแลตัวเองได้จริงๆ นะคะ” “พี่ว่าไม่ได้” คนเป็นสามีพูดพลางมองขอบปากด้านบนของภรรยาที่มีคราบนมติดอยู่ “แค่ดื่มนมแค่นี้ยังเลอะปากเลย แล้วจะดูแลตัวเองได้ยังไง” “อ้าว...เหรอคะ เลอะตรงไหนคะ” เรนเดียร์ยกผ้าเช็ดปากขึ้นมาแต่ถูกพันแสงคว้ามือเอาไว้ “พี่เช็ดให้เอง” พันแสงไม่ได้ใช้ผ้าเช็ด แต่ใช้ปลายลิ้นไล้-เลียไปตามขอบโค้งของริมฝีปากด้านบนที่มีคราบนมติดอยู่ เรนเดียร์นั่งตัวแข็ง ลมหายใจติดขัด พลังงานความร้อนบางอย่างแล่นวาบอยู่ภายในช่องท้อง “นมรสช็อกโกแลตก็อร่อยดีเหมือนกันนะ” เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหญิง-สาว เรนเดียร์เขินหนักมาก หน้าแดงไปถึงใบหู แม้จะเคยมีอะไรกันอย่างลึกซึ้งมากกว่าจูบมาหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ยังเขินทุกครั้งที่เขาทำอะไรแบบนี้ “ตกลงพี่ซันจะให้เดียร์ไปเรียนต่อหรือเปล่าคะ” “เรื่องเรียนพี่ไม่ขัด แต่จะเรียนที่เมืองไทยหรือกลับไปเรียนที่นิวยอร์กพี่ขอคิดดูอีกทีก็แล้วกัน” เขาบอกด้วยเสียงราบเรียบแล้วหอมแก้มนุ่มของภรรยา “พี่ต้องไปทำงานแล้ว” พันแสงเดินออกไปได้สามก้าวแล้วเดินย้อนกลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง “ลืมอะไรหรือเปล่าคะ” “พี่ลืมให้เช็คเดียร์” เขาวางเช็คลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอ “พี่เซ็นไว้เช็คให้สองล้าน” “ค่าอะไรคะ?” “แค่อยากให้” “เดียร์ไม่เอาค่ะ คุณแม่ให้เดียร์มาเยอะแล้ว” หญิงสาวเลื่อนเช็คคืน “อันนี้พี่ให้ ไม่เกี่ยวกับคุณแม่” พันแสงหยิบเช็คยัดใส่มือภรรยา “เดียร์ให้ความสุขพี่ พี่ก็อยากให้เงินเดียร์เป็นการตอบแทนบ้างเท่านั้นเอง” “พี่ซันทำเหมือนเดียร์เป็นผู้หญิงขายตัวเลยนะคะ” “คิดมาก” “แล้วที่พี่ซันบอกว่าเดียร์ให้ความสุขพี่ซัน หมายถึงเรื่องอะไรเหรอคะ” แม้จะพอเดาได้แต่ก็อยากให้เขาพูดออกมาให้ชัดเจน “ต้องให้พูดด้วยเหรอ” “เดียร์แค่อยากรู้ว่าเรื่องที่เดียร์คิดใช่เรื่องเดียวกับที่พี่ซันหมายถึงหรือเปล่า” “เดียร์คิดว่าเรื่องอะไรล่ะ” เขาย้อนถาม “เรื่องบนเตียง” เขากล้าถาม เธอก็กล้าตอบ “ใช่” พันแสงพยักหน้ารับ “เดียร์ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว พี่ซันไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินหลังจากที่เรานอนด้วยกัน” “ผู้หญิงทุกคนก็อยากได้เงินจากพี่กันทั้งนั้น” “แต่ไม่ใช่เดียร์” “อย่าลืมสิ ว่าที่เดียร์ยอมแต่งงานกับพี่ก็เพราะเงินที่คุณแม่ใช้หนี้ให้ แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าคุณแม่จะให้เงินเดียร์อีกก้อนนึง ถ้าสุดท้ายแล้วเราต้องเลิกกัน เห็นมั้ยว่าเดียร์มีแต่ได้กับได้ ยังไงพี่ก็ไม่เชื่อว่าเดียร์ไม่อยากได้เงิน” “ก็ได้ค่ะ ถ้าพี่ซันอยากให้ เดียร์ก็จะรับ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เดียร์จะนอนกับพี่ซันเฉพาะเวลาที่เดียร์อยากได้เงินเท่านั้น” “หมายความว่ายังไง” “ในเมื่อพี่ซันมองว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นการ ‘ซื้อ-ขาย’ เดียร์ก็จะขายเฉพาะเวลาที่เดียร์อยากได้เงิน” “เดียร์คิดไปเอง พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” “ถึงยังไงพี่ซันก็มองว่าเดียร์แต่งงานกับพี่ซันเพราะเงินอยู่ดี” “เมื่อกี้พี่พูดแรงไป พี่ขอโทษ” “ไม่เป็นไรค่ะ เดียร์เข้าใจ พี่ซันรีบไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย” พูดจบก็หยิบเช็คที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินหนีเข้าไปในห้องครัว เพราะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาที่รื้นขึ้นมาแตะขอบตา ความสัมพันธ์ทางกายที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้หญิงอย่างเธอผูกพันกับเขามากขึ้นทุกวัน แต่สำหรับผู้ชายอย่างเขา มันคงเป็นเพียงการระบายความใคร่เท่านั้น พันแสงทำงานอย่างไม่มีสมาธิเพราะมีเรื่องที่เรนเดียร์เข้าใจเขาผิดรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา เขาอยากรีบกลับบ้านไปเคลียร์กับเธอแต่ก็ติดประชุมจนถึงค่ำ กว่าจะฝ่าการจราจรที่แสนติดขัดมาถึงบ้านก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน พันแสงก็ได้กลิ่นช็อกโกแลตหอมอบอวลไปทั่วบ้าน ชายหนุ่มรู้ทันทีว่ากลิ่นแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีในบ้านหลังนี้มาก่อนต้องเป็นฝีมือภรรยาของเขาแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็รีบเดินเข้าไปในห้องครัวทันที “ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก” เขาถามภรรยาเสียงนุ่มหลังจากบอกสาวใช้ให้ออกไป เรนเดียร์ทำหูทวนลม ก้มหน้าบีบช็อกโกแลตลงในแม่พิมพ์ซิลิโคนรูปทรงตัวการ์ตูน พันแสงรู้ว่าเธอยังโกรธเรื่องเมื่อเช้านี้อยู่ จึงเดินเข้าไปแนบร่างซ้อนด้านหลังของคนที่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา ความอบอุ่นวาบหวามจากคนข้างหลังทำให้มือที่กำลังบีบช็อกโกแลตลงแม่พิมพ์หยุดชะงัก แต่เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็บีบต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ทำช็อกโกแลตอยู่เหรอ น่ากินจัง” เขาเท้าแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะคร่อมร่างบางในชุดผ้ากันเปื้อนสีหวานแล้วไล้ปลายจมูกไปตามแก้มหอมละมุน เรนเดียร์เอียงหน้าหลบโดยไม่พูดอะไรสักคำ “ยังโกรธพี่อยู่เหรอ” เขากระชับอ้อมกอดแล้วแนบแก้มเข้ากับแก้มนุ่มของภรรยา เธอผลักเขาออกห่างแล้วเอาช็อกโกแลตที่บีบใส่แม่พิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้วไปใส่ตู้เย็น จากนั้นหยิบถาดที่ช็อกโกแลตเซ็ตตัวได้ที่ออกมาแกะใส่กล่อง โดยไม่สนใจสามีที่มองตามการเคลื่อนไหวของเธออย่างหัวเสีย “มีอะไรก็พูดกันดีๆ สิ อย่าทำตัวงอแงเป็นเด็กแบบนี้” เรนเดียร์ยังคงแกล้งทำเป็นหูทวนลมเหมือนเดิม เธอแกะช็อกโกแลตออกจากแม่พิมพ์แล้วลองกัดชิม “ไม่พอใจอะไรก็พูดออกมา แต่อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนแบบนี้ พี่ไม่ชอบ” พันแสงโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เรนเดียร์รู้ว่าเขากำลังโกรธมาก ทว่าเธอก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจ กัดกินช็อกโกแลตต่อไปเงียบๆ “ได้! ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด” พันแสงดึงตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างดุดัน เธอเม้มปากแน่นต่อต้าน สองมือเล็กๆ ดันไหล่เขาออก ทั้งทุบ ทั้งตี แต่ก็ไม่เป็นผล เขาบีบปากเธอให้เปิดออกแล้วสอดปลายลิ้นเข้าไปโลมเลียลิ้นเล็กที่เคลือบด้วยช็อกโกแลตหอมหวานอย่างเอาแต่ใจ จูบของเขาเร่าร้อนและรุนแรงจนหญิงสาวเจ็บแปลบ เธอรวบรวมกำลังผลักเขาออกได้ในที่สุด “พี่ซันใจร้าย!” เรนเดียร์ต่อว่าทั้งน้ำตา “เมื่อเช้าก็ทำเหมือนเดียร์เป็นผู้หญิงขายตัว แล้วตอนนี้ยังจะมาทำแบบนี้กับเดียร์อีก พี่ซันเห็นเดียร์เป็นตัวอะไรกันแน่” “เป็นเมียพี่ไง พี่จะกอด จะจูบเมียตัวเองไม่ได้เหรอ” “พี่ซันบอกว่าเดียร์เป็นเมีย แต่คำพูดและการกระทำของพี่ซันมันทำให้เดียร์รู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่อีตัว!” “พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น” “พี่ซันคิด!” เธอเถียงทันที “ถ้าพี่ซันไม่ได้คิด เมื่อเช้าพี่ซันจะไม่พูดแบบนั้นกับเดียร์” “พี่ยอมรับว่าเมื่อเช้าพี่พูดแรงไป แต่เดียร์ก็แต่งงานกับพี่เพราะเงินของคุณแม่จริงๆ แล้วจะให้พี่พูดว่ายังไง” “เห็นมั้ย พี่ซันก็มองเดียร์เป็นผู้หญิงแบบนั้นอยู่ดี ใช่สิ เดียร์ก็เป็นแค่เมียเด็กที่เอาไว้แก้ขัดในบ้านอย่างที่พี่ซันพูดกับเพื่อนนั่นแหละ” “ไปกันใหญ่แล้ว พี่ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นเลย” พันแสงพยายามจะอธิบาย แต่เรนเดียร์ไม่ฟัง “เดียร์จะไม่ยอมให้พี่ซันดูถูกเดียร์อีกแล้ว” “เดียร์จะทำอะไร” “เดียร์จะไม่ยอมมีอะไรกับพี่ซันอีกเด็ดขาด แล้วตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปเราจะแยกห้องนอนกัน” “พี่ไม่ยอม” แค่คิดว่าคืนนี้จะไม่ได้นอนกอดคนตัวนิ่มที่มีกลิ่นกายหอมกรุ่นเขาก็รู้สึกวูบโหวงในใจอย่างบอกไม่ถูก “พี่จะฟ้องคุณแม่” ชายหนุ่มงัดไม้ตายขึ้นมาขู่ “คุณแม่เคยบอกว่า ถ้าพี่ซันทำให้เดียร์เสียใจ คุณแม่อนุญาตให้เดียร์เลิกกับพี่ซันได้” พันแสงชะงัก ใช่...เรื่องนี้เขาก็รู้ “แล้วตอนนี้เดียร์ก็กำลังเสียใจ เดียร์จะเลิกกับพี่ซัน” “คิดจะเลิกกับพี่เพื่อที่จะได้เงินก้อนใหญ่จากคุณแม่ใช่มั้ย!” คนปากเสียประชด “พี่ซันก็พูดแต่เรื่องเงิน ใครจะอยากอยู่ด้วย” ว่าแล้วก็วิ่งหนีออกไปทั้งน้ำตา ทุกอย่างที่เธอทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เขามองไม่ออกเลยหรือไง ว่าเธอทำไปเพราะอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD