8 ปีต่อมา
คฤหาสน์ ส.ส อาชา
“เซรินไปโรงเรียนได้แล้ว”
“ค่าาา~ สวัสดีค่ะคุณหญิงหนูไปโรงเรียนก่อนนะคะแล้วจะรีบกลับมา^^” เซรินยกมือไหว้แล้วพูดด้วยท่าทางนอบน้อมซึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือคุณหญิงพรทิพย์ ภรรยาคนที่ 1 ของสส. อาชานั่นเอง
“ตั้งใจเรียนล่ะอยู่ม. 6 แล้ว”
“หนูก็ต้องมีใจเรียนมาโดยตลอดนิคะ ที่ 1 ของโรงเรียน ที่ 1 ของระดับชั้น ที่ 1 ของประเทศนั่นก็คือเซรินคนนี้ยังไงล่ะคะคุณผู้หญิง”เซรินพูดนะยิ้มอย่างภูมิใจ
“จ้าๆ รู้แล้วว่าเก่งรีบไปเรียนเถอะ”
“งั้นไปก่อนนะคะสวัสดีอีกครั้งค่ะ” เซรินยิ้มก่อนจะเดินไปขึ้นรถเพื่อไปโรงเรียนเหมือนกับทุกวันส่วนคุณหญิงพรทิพย์ก็แอบถอนหายใจและมองรถที่เซรินนั่งออกไป
“เฮ้อ! 18 แล้วสินะ...”
“ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปีค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันคิดว่าเด็กนั่นน่าจะพอมีลู่ทางอยู่บ้าง” สาวใช้ข้างกายของคุณหญิงพรทิพย์พูดขึ้น ทั้งสองมองตาก็รู้ใจ
“ขอให้มันเป็นอย่างนั้น...ฉันอุตส่าห์เอ็นดูเลี้ยงดูมาหวังว่าจะไม่กลายมาเป็นเมียของท่านอาชาอีกคน”
คุณหญิงพรทิพย์ภรรยาคนแรก และภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของอาชา พูดเสียงสั่นเพราะกลัวว่าเด็กผู้หญิงที่เธอดูแลมาจะกลายเป็นเมียอีกคนของสามีเธอ
“เซรินฉลาดค่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่จนถึงอายุป่านนี้”
บนรถ
รถตู้คันสีดำกำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆตามเส้นทางเหมือนกับทุกวันโดยเบาะหลังมีเซริน เด็กผู้หญิงที่อาชาเก็บมาเลี้ยงตอนอายุ 8 ขวบนั่งอยู่ตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว จากเด็กน้อยคนนั้นปัจจุบันกลายเป็นสาวสวย รูปร่างหน้าตางดงาม ดวงตาที่กลมสวย ไหนจะผิวพรรณ หุ่นทรง เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยงามเหลือเกิน...
หลังจากวันนั้นที่พ่อเลี้ยงของเธอได้ยกเธอให้กับอาชา เธอก็ได้เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังโตหลังนี้ ได้มีที่ซุกหัวนอน ได้มีอาหารประทังชีวิต ได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือ แต่กว่าจะมีวันนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้น เธอเองก็ผ่านอะไรมาเยอะมากมายซะเหลือเกิน...
“เฮ้ออออ!” เซรินที่นั่งเบาะเดิมเป็นประจำเท้าคางแล้วมองออกไปหน้ากระจกรถก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ
“เป็นอะไรถอนหายใจซะยาวเชียว?” คนขับรถได้ยินก็ถามขึ้นพร้อมกับมองกระจกหลัง
“ไม่มีอะไรหรอกลุงยอดแค่จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็เลยเครียดเรื่องที่เรียนนิดหน่อย”
“คนเก่งๆอย่างหนูเซรินไม่มีอะไรต้องคิดมากนิ ระดับนี้แล้วที่ 1 ของประเทศเลยนะไม่ว่ามหาวิทยาลัยไหนก็ต้องการตัวทั้งนั้นแหละ”
“เพราะแบบนั้นก็เลยเครียดไง ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดี...”
“ฮ่าา ๆ ๆ อย่างนั้นเองสินะลุงนี่มันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” ยอดหัวเราะและหันไปสนใจการขับรถต่อไปแต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดเรื่องมหาวิทยาลัยเลยสักนิดเดียว เธอกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับชีวิตของเธอต่างหาก ตอนนี้เธออายุ 18 ปีแล้ว เหลือเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นอาชาก็จะจับเธอเป็นเมียอีกคน ซึ่งเธอจะไม่มีทางยอมโดยเด็ดขาด
แม้ว่าในความโชคร้ายแต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง...อาชานั้นจะชอบผู้หญิงที่อายุบรรลุนิติภาวะแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็เลยยังรอดมาถึงทุกวันนี้ แต่เมื่อเธออายุ 20 ปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ สส.บ้ากามนั่นจะจับเธอเป็นเมียทันที
เธอไม่ยอมหรอก...
เธอต้องหนีออกไปให้ได้...
โรงเรียนเอกชน
ห้องเรียนมัธยมการศึกษาปีที่ 6/1
“วันนี้อาจารย์ก็มีเรื่องที่จะสอนทั้งหมดเพียงเท่านี้ อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาสอบปลายภาคแล้ว ใครที่ยังไม่ได้ส่งงานก็รีบส่งให้เรียบร้อย ใครที่ยังไม่ได้เตรียมตัวอ่านหนังสือก็รีบอ่านซะ ถ้าใครที่ยังไม่มีมหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อก็รีบๆหน่อยละ อนาคตเป็นสิ่งสำคัญนะ..." เสียงของอาจารย์ผู้สอนบอกก่อนที่จะเดินออกไป
“ขอบคุณครับอาจารย์/ขอบคุณค่ะอาจารย์” เสียงของนักเรียนกล่าวขอบคุณตามหลังไป มันเป็นเรื่องปกติของโรงเรียนเอกชนอยู่แล้ว อาจารย์บางท่านไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพิธีการกล่าวขอบคุณอะไรเท่าไหร่นัก
“สรุปแล้วจะเข้าเรียนที่ไหนหรอเซริน?” และเมื่ออาจารย์ผู้สอนเดินออกไปแล้วเพื่อนของเซรินก็เดินเข้ามาถามเธอ
“ยังไม่ได้เลือกเลยน่าจะอีก 2-3 วันแหละถึงจะตัดสินใจได้”
“ก็นะเป็นญาติของระดับท่านสส. จะเลือกเรียนที่ไหนก็คงจิ้มได้เลยน่าอิจฉาเนาะ” แองจี้เพื่อนร่วมห้องและเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของเซรินเดินเข้ามาแขวะ
“ระดับฉันไม่ต้องใช้อำนาจของท่านสส. หรอกนะแองจี้เธอเองก็น่าจะรู้อยู่นะว่าฉันมันระดับไหน ถ้าหากว่าอิจฉาเนี่ยก็เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองดีกว่าไหม จะได้ไม่ต้องเอาอำนาจของพ่อยัดตัวเองเข้าไปเรียนเนาะ??” แต่มีเหรอที่เซรินจะยอมให้แองจี้แขวะกลับอยู่ฝ่ายเดียวเธอเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ใช่แล้วแองจี้..นี่เซรินระดับหัวหน้าห้องที่เรียนได้ที่ 1 ของระดับชั้นและระดับห้องแถมยังเป็นอันดับ 1 ของระดับประเทศอีก คิดว่าคนอย่างเซรินเนี่ยจะใช้อำนาจของท่านส. สอาชาเพื่อให้ตัวเองได้เข้ามหาวิทยาลัยหรือไง อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองสิ” เพื่อนของเซรินรีบเข้ามาปกป้อง
“ยัยลาเบล!!” แองจี้โมโหมากเมื่อเถียงสู้ไม่ได้เพราะนั่นก็มีเรื่องจริงอยู่เหมือนกัน แองจี้ผลการเรียนอันดับสุดท้ายของห้อง เพราะว่าพ่อของเธอเป็นถึงระดับเจ้าของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนเอกชนเกือบทั่วประเทศเพราะฉะนั้นเธอเลยไม่คิดที่จะตั้งใจเรียนเพราะรู้อยู่แล้วว่าพ่อของเธอคงสามารถยัดให้เธอเข้าไปเรียนที่ไหนก็ได้ตามใจ
“ไม่โมโหสิเป็นฝ่ายมากัดคนอื่นก่อนแท้ๆ ขอโดนเอาคืนบ้างก็ทำเป็นรับไม่ได้ ถามจริงเถอะจนจะเรียนจบม. 6 อยู่แล้วทำไมเธอยังกัดฉันไม่เลิก?” เซรินมองหน้าแล้วถามแองจี้กลับไป
“เพราะว่าฉันเกลียดขี้หน้าแก เหตุผลแค่นี้ก็น่าจะพอแล้วล่ะ ฉันได้ยินมาว่าแกเป็นพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่ท่านส. สเก็บมาเลี้ยง ฉันก็แค่รู้สึกขยะแขยงที่โรงเรียนดีๆแบบนี้กล้ารับพวกไม่มีพ่อไม่มีแม่มาเรียนได้ยังไง”
“ใช่ฉันมันไม่มีพ่อไม่มีแม่...แต่มันก็ไม่ได้แย่เท่าคนไม่มีมารยาทอย่างเธอ!!”
“เซริน! อย่าปากกล้าให้มากนักนะ!! ใครๆเขาก็รู้กันให้ควักนั่นแหละว่าส.สอาชาเลี้ยงแกไว้ทำไม คิดว่าคนในโรงเรียนไม่มีใครรู้เลยหรือไงว่าคนอย่างส.ส.อาชาน่ะเลี้ยงผู้หญิงไว้ก็เพื่อจับทำเมีย!!!!” ความเสียงดังขึ้นเรื่อยๆของแองจี้ทำให้คนภายในห้องเริ่มสนใจและคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เริ่มเข้ามาฟัง
“แล้วอยากให้ฉันไปเป็นเมียพ่อเธออีกคนไหมล่ะก็ได้ข่าวว่าเมียน้อยเยอะเหมือนกันนิ เธอเองก็ลูกเมียน้อยแม่เธอเป็นคนที่เท่าไหร่ของพ่อเธออ่ะ...” เพี๊ยะ!!! แองจี้ยกมือตบหน้าของเซรินอย่างแรง
“หุบปาก!” เพี๊ยะ!! แต่เพียงไม่นานเซรินก็จัดการตบหน้าของแองจี้กลับไป
“ก่อนที่จะคนอื่นหุบปากน่ะ...หุบปากของตัวเองก่อนเถอะแองจี้!!!” เซริน...กว่าเธอจะเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้เธอผ่านอะไรมามากมาย เพราะฉะนั้นแค่กับแองจี้คนเดียวเธอสามารถรับมือได้อยู่แล้ว