ตอนที่ 5 พาไปส่ง...แต่ไม่ได้พาไปไกลจากใจ

1207 Words
ท้องฟ้ายามเย็นค่อย ๆ กลืนแสงแดดจนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม เสียงวินมอเตอร์ไซค์ดังสลับกับเสียงรถยนต์บนถนนที่เริ่มแน่นขึ้นในเวลาเลิกงาน นิรินยืนอยู่หน้าหอในมือถือกระเป๋าผ้าใบเล็ก เสื้อผ้าและของใช้ที่เธอเตรียมไว้สำหรับ “นัด” คืนนี้ วันนี้เธอมีแขกอีกคนเวลาทุ่มตรงสถานที่...โรงแรมเดิมพี่บอยขี่วินมาจอดตรงหน้าโดยไม่ถาม ไม่ทัก เขาแค่ยื่นหมวกกันน็อกให้เธอเหมือนทุกครั้ง “ไปเลยไหม” น้ำเสียงเขาราบเรียบเหมือนเคยแต่แววตา...กลับดูอ่อนกว่าเมื่อคืนบนรถ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีบทสนทนา มีแค่ลมหายใจของทั้งสองคนที่พัดผ่านกลางอากาศเย็น ๆเธอกอดเอวเขาแน่นกว่าทุกครั้ง แต่เขาไม่พูดสักคำเมื่อถึงหน้าโรงแรมพี่บอยจอดรถตรงจุดเดิม เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา นิรินลงจากรถช้า ๆ แล้วคืนหมวกกันน็อกให้เขา “ขอบคุณนะคะ...”เธอพูดเบา ๆ เหมือนกลัวเขาจะได้ยินแต่พี่บอยแค่พยักหน้า ไม่ยิ้ม ไม่ถาม ไม่มีคำว่า “ใคร”ไม่มีคำว่า “กี่โมงจะกลับ”เขาแค่มองเธอแล้วพูดเพียงคำเดียว... “ฝนจะตก...อย่าลืมพกร่ม” นิรินยืนมองรถวินของเขาขี่ห่างออกไปจากลานหน้าโรงแรมใจเธอกลับหนักกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะงานคืนนี้ แต่เพราะผู้ชายคนนั้นไม่พูดอะไรเลยทั้งที่เธอรู้ว่าเขารู้เขารู้...ว่าเธอกำลังจะไปเป็นของคนอื่นอีกครั้ง แต่ก็ยังเลือกจะไปส่งและไม่ซัก ไม่ถามเพราะกลัวเธอจะลำบากใจ เพราะความเงียบแบบนี้แหละ...มันดังจนเธอไม่กล้าพูดอะไรเลย ห้องพักโรงแรมเดิมกลิ่นแอร์แบบเดิมเตียงผ้าขาวเดิม…ที่นิรินไม่รู้สึกสะอาดอีกต่อไป เธอนั่งแต่งหน้าเบา ๆ หน้ากระจกลูกค้ายังไม่ขึ้นมา แต่ส่งข้อความมาแล้วว่า “ถึงแล้ว อยู่ล็อบบี้ กำลังขึ้น” เธอถอนหายใจ…ไม่ได้เพราะไม่อยากทำแต่เพราะ ใจเธออยู่ที่อื่นแล้ว ร่างกายเธอเหมือนทำงานอัตโนมัติคำพูดแบบเดิมสีหน้าแบบเดิม แม้กระทั่งจังหวะบนเตียง...ก็ยังเป็นจังหวะเดิมที่เธอเคยชิน แต่มันไม่เหมือนเดิมเลยเพราะทุกครั้งที่หลับตา...เธอกลับนึกถึงเสียงลมหายใจของ พี่บอย สองชั่วโมงผ่านไปลูกค้ากลับเธอล้างหน้าแต่งตัวใหม่ เช็ดริมฝีปากเบา ๆ พร้อมเสียงถอนใจอีกครั้ง แล้วก็เดินออกจากห้อง เหมือนคนที่วิญญาณยังไม่กลับเข้าร่าง ประตูโรงแรมเปิดออกอากาศข้างนอกเย็นสลับฝนเธอยืนลังเลว่าจะโบกวินกลับดีไหม แต่ยังไม่ทันยกมือถือขึ้นเสียงเครื่องยนต์ที่คุ้นเคยก็ดังเบา ๆ จากด้านข้าง พี่บอยจอดวินอยู่ข้างฟุตบาทไม่พูดไม่ยิ้มไม่ก้มหน้า ไม่หลบตาเขาแค่ยื่นหมวกกันน็อกมาให้เธอเหมือนเคย “หนู...นึกว่าพี่กลับแล้ว” “ไม่ได้ไปไหน” เสียงเขาสั้นแต่นุ่มกว่าเคยนิรินขึ้นซ้อนท้ายอย่างเงียบ ๆเธอกอดเอวเขาแน่น แน่นกว่าทุกครั้ง เหมือนกำลังร้องขอให้เขาพาเธอออกจากชีวิตนี้เสียที แม้จะยังไม่มีคำพูดไหนพูดออกมาจริง ๆตลอดทางกลับไม่มีคำถามว่า "ลูกค้าเป็นใคร" ไม่มีคำพูดว่า "เหนื่อยมั้ย"ไม่มีแม้แต่คำว่า "อยู่ต่อมั้ย"แต่พี่บอยก็ไม่ขี่เร็วเหมือนเคย เขาขี่ช้าลง ช้าพอให้เธอกอดเขาได้นานที่สุด เมื่อถึงหน้าหอ นิรินลงจากรถช้า ๆ แล้วหันมามองเขาเธอพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง...แต่พูดไม่ออก มือของเขาขยับมาลูบหัวเธอเบา ๆ แล้วปล่อยลงเงียบ ๆ “ถ้าหนูเหนื่อยเมื่อไหร่...ก็มองมา” “พี่จะยังอยู่ตรงนี้” แล้วเขาก็ขี่รถออกไป โดยไม่หันหลังกลับแต่นิรินกลับยืนอยู่หน้าหออีกนาน นานจนฝนเริ่มตกเธอยังไม่ขยับเพราะหัวใจ...มันขยับไปหาเขาเร็วกว่าร่างกายเสียแล้ว ฝนเริ่มโปรยเม็ดเล็ก ๆ ลงมาจากฟ้านิรินยังยืนอยู่ตรงหน้าหอพัก โดยไม่รู้ว่าตัวเองยืนนานแค่ไหน เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่หัวใจกลับแน่นเหมือนคนที่เพิ่งเสียอะไรไปบางอย่าง...ทั้งที่เธอก็กลับมาเหมือนทุกวัน เสียงฝนตกใส่กระจกห้องข้างบนไฟถนนสลัวเธอยืนกอดแขนตัวเอง…ไม่ใช่เพราะหนาว แต่เพราะรู้สึกเหมือนไม่มีใครเหลืออยู่ตรงนี้จนกระทั่งเสียงเครื่องวินก็ดังขึ้นอีกครั้ง รถคันเดิมคนเดิมกลับมาจอดที่เดิมพี่บอยกลับมา… เขาไม่พูดอะไร ไม่ขอเหตุผลเขาแค่ดับเครื่อง แล้วเดินมาหาเธอร่มก็ไม่มี เสื้อก็ยังเปียกฝน แต่เขาก็ยังคงเงียบแบบเดิมนิรินเงยหน้ามองเขา ดวงตาเธอสั่น “หนู...ยืนอยู่ตรงนี้นานมั้ย?” เธอถามเบา ๆ เหมือนเด็กหลงทางพี่บอยไม่ตอบ เขาแค่ยื่นมือมากุมมือเธอไว้ ก่อนจะพาเธอเดินขึ้นบันไดทีละขั้น...กลับสู่ห้องเดิมเมื่อเข้าห้อง เขาไม่ได้เปิดไฟแรง เปิดแค่โคมข้างเตียงสลัว ๆนิรินยืนนิ่งกลางห้อง เธอยังเปียกอยู่เล็กน้อย มือของพี่บอยเอื้อมมาแตะแขนเธอเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ดึงเธอเข้าไปใกล้เขาไม่ได้ถามว่า “งานเป็นไง” ไม่ได้ถามว่า “มีใครแตะตัวเธอมั้ย”ไม่แม้แต่จะบอกให้เธอไปอาบน้ำ เขาแค่ กดจมูกลงบนหน้าผากเธอ...เบา ๆสัมผัสนั้นอุ่น อ่อนโยน และแน่นกว่าคำพูดใด ๆ นิรินหลับตาลงน้ำตาไหลออกมาช้า ๆ ไม่ใช่เพราะเสียใจแต่เพราะเธอไม่คิดว่าจะมีใคร…ไม่ถามอะไรเลย แต่ กลับเข้าใจเธอทั้งหมดเขากอดเธอแน่นขึ้น ไม่พูดปล่อยให้เธอร้องไห้แบบไม่มีเสียงในอ้อมแขนเขา เขาเพียงแค่โอบกอดเธอไว้แน่น ปล่อยให้เธอซบหน้าลงกับอกของเขา นิรินหลับตาลง สูดดมกลิ่นกายของเขาที่ผสมผสานกับกลิ่นฝน มันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยและให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด จากนั้น พี่บอยก็ค่อยๆ กดจมูกลงบนหน้าผากเธอ...เบาๆ สัมผัสนั้นอบอุ่น อ่อนโยน และแน่นกว่าคำพูดใดๆ ราวกับจะผนึกทุกบาดแผลในหัวใจของเธอไว้ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนิรินช้าๆ ไม่ใช่เพราะความเสียใจ แต่เป็นเพราะเธอไม่คิดว่าจะมีใครสักคน...ที่ไม่ถามอะไรเลย แต่กลับเข้าใจเธอทั้งหมดได้มากขนาดนี้ เขากอดเธอแน่นขึ้น ปล่อยให้เธอร้องไห้แบบไม่มีเสียงในอ้อมแขนเขา ความเงียบในคืนนั้นไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัดอีกต่อไป แต่มันเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ความห่วงใย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD